หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวการเมือง
เว็บบอร์ด » ข่าวการเมือง
รายละเอียดของห้อง : ข่าวการเมือง ประเด็นร้อนน่าจับตา ตนเหนือเราต้องมีส่วนร่วม
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
เรียกตัวทักษิณกลับ คดีซุกหุ้น ไม่มาออกหมายจับ

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
เรียกตัวทักษิณกลับ คดีซุกหุ้น ไม่มาออกหมายจับ
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 20 มิ.ย. 50 เวลา 11:13:28 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้สั่งอายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาแล้วนั้น ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เปิดแถลงข่าวตั้งข้อหา พ.ต.ท.ทักษิณและภริยาเพิ่มอีกคดีข้อหาซุกหุ้น  ทำนิติกรรมอำพราง  บริษัท เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)


ดีเอสไอฟัน ทักษิณ-อ้อซุกหุ้นเอสซี


เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) เวลา 13.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดแถลงผลสรุปสำนวนคดีปกปิดโครงสร้าง ของผู้ถือหุ้นในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) และผู้ถือหุ้นใหญ่มิได้รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้น โดยให้นิติบุคคลต่างประเทศเป็นผู้ถือหุ้นอำพรางของ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า ผลการสอบสวนสรุปเท็จจริงได้ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กับครอบครัวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเอสซี แอสเสทฯ ต่อมากลางปี 2543 พ.ต.ท.ทักษิณ และภรรยา ได้ขายหุ้น เอสซี แอสเสท และหุ้นบางส่วนของบริษัทในครอบครัวประกอบด้วยบริษัท พีที.คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท เวิร์ธ ซัพพลาย จำกัด บริษัท บี.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทเอสซี เค เอสเทต จำกัด บริษัทเอสซี ออฟฟิส ปาร์ค จำกัด ให้กับบริษัทวินมาร์ค ลิมิเต็ด ที่จดทะเบียนเกาะบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์ รวมมูลค่า 1,527 ล้านบาท


ทำนิติอำพรางหลอกผู้ถือหุ้น


อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 11 ส.ค. 2546 บริษัทวินมาร์ค ลิมิเต็ด ได้โอนขายหุ้นของบริษัท เอสซี แอสเสท ทั้งหมดให้แก่กองทุนแวลู แอสเสทส์ ฟันด์ ต่อมาวันที่ 1 ก.ย. 2546 กองทุนแวลูฯ ได้โอนขายหุ้นทั้งหมดให้กับ กองทุนโอเวอร์ซี โกรว์ธฟันด์ และกองทุนออฟชอร์ ไดนามิคฟันด์ ต่อมาวันที่ 13 พ.ย. 2546 บริษัท เอสซี แอสเสทฯ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ขณะนั้นกองทุนโอเวอร์ซี โกรว์ธฟันด์ และกองทุนออฟชอร์ ไดนามิคฟันด์ ได้ถือหุ้นในบริษัท เอสซี แอสเซทฯ มาโดยตลอด กระทั่งเดือน เม.ย.-ส.ค. 2549 กองทุนโอเวอร์ซี โกรว์ธฟันด์ และกองทุนออฟชอร์ ไดนามิคฟันด์ ได้ทยอยขายหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท ให้กับตลาดหลักทรัพย์จนหมด จากพฤติการณ์ข้างต้นประกอบกับข้อมูลเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2546 กองทุนแวลู แอสเสทส์ ฟันด์ ได้สละสิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัทเอสซี แอสเสท ในราคาพาร์ให้กับบุตรสาวสองคนของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้รับซื้อหุ้นเพิ่มทุน ทั้งที่ในการประชุมครั้งเดียวกัน มีวาระให้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป เพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การสละสิทธิ์ดังกล่าวทำให้กองทุนแวลู แอสเสทส์ ฟันด์ ต้องเสียผลประโยชน์จากส่วนต่างของราคาหุ้น เมื่อบริษัท เอสซี แอสเสท ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประมาณ 71 ล้านบาท ต่อมาในปี 2547 บริษัทวินมาร์ค ลิมิเต็ด ยังได้โอนขายหุ้นบริษัทของครอบครัวชินวัตรทั้ง 5 บริษัท คืน แก่ น.ส.พิณทองทา และบริษัทของครอบครัวชินวัตรอื่นอีก 2 บริษัท


รวมเป็นเงิน 18.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


โดยบริษัทวินมาร์ค ลิมิเต็ดไม่ได้รับประโยชน์ จากการลงทุนและถือครองหุ้นเป็นระยะเวลานาน ทำให้มีข้อสงสัยว่าบริษัทวินมาร์ค ลิมิเต็ด กองทุนแวลู แอสเสทส์ ฟันด์ กองทุนโอเวอร์ซี โกรว์ธฟันด์ และกองทุนออฟชอร์ ไดนามิคฟันด์ เป็นนิติบุคคลอำพรางการถือหุ้น (เป็นนอมินี) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับครอบครัว แสดงว่า พ.ต.ท. ทักษิณ และภรรยา เป็นเจ้าของหุ้นและเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจดำเนินการเกี่ยวกับหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท และหุ้นของบริษัทในครอบครัวชินวัตร อีก 5 แห่ง ที่ถือโดยกลุ่มนิติบุคคลดังกล่าวโดยตลอด


ออกหมายเรียก ทักษิณและคนใกล้ชิด


นายสุนัยกล่าวอีกว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมด สรุปผลการสอบสวนได้ ดังนี้ 1. บริษัท เอสซี แอสเสท เปิดเผยข้อมูล ในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวนที่ยื่นต่อ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2546 ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กล่าวคือเปิดเผยว่า ครอบครัวชินวัตร ถือหุ้นในบริษัทเอสซี แอสเสท 60.82 เปอร์เซ็นต์ โดยมิได้นำหุ้นที่ถือแทนโดยกองทุนโอเวอร์ซี โกรว์ธฟันด์ และกองทุนออฟชอร์ ไดนามิคฟันด์ มานับรวมกับการถือหุ้นของครอบครัว หากนับรวมกันแล้วจะทำให้ครอบครัวชินวัตรถือหุ้น รวมทั้งหมด 79.83 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นข้อมูลที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจว่าครอบครัวชินวัตรสามารถควบคุมได้เฉพาะมติที่ใช้เสียงข้างมาก ทั้งที่ตามข้อเท็จจริง สามารถควบคุมมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ทั้งหมด แม้จะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เสียงถึง 3 ใน 4 ของที่ประชุมผู้ถือหุ้น การกระทำดังกล่าวของบริษัท เอสซี แอสเสท เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 278 แห่ง  พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และนางบุษบา ดามาพงศ์ อดีตผู้บริหารบริษัทเอสซี แอสเสท ที่ร่วมลงนามรับรองความถูกต้องของแบบแสดงรายการข้อมูลดังกล่าว เข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 301 ประกอบ มาตรา 278 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  2. การที่โอเวอร์ซี โกรว์ธฟันด์ และออฟชอร์ ไดนามิคฟันด์  เป็นนิติบุคคลที่อำพรางการถือหุ้น(เป็นนอมินี) ของ พ.ต.ท.ทักษิณและภรรยา ขายหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท ที่ถืออยู่ออกไปในตลาดหลักทรัพย์ ในปี 2549 ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณและภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริง มีหน้าที่ต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นบริษัทเอสซี แอสเสท ตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.หลัก ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ทุกครั้งที่จำหน่ายหุ้นทุกร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วของกิจการนั้นโดยมีหน้าที่ต้องรายงานทั้งหมด 4 ครั้ง การไม่รายงานดังกล่าวทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณและภรรยา เข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 298 ประกอบมาตรา 246 แห่ง  พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอสซี แอสเสท นางบุษบา ดามาพงศ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภรรยา ตามที่อยู่ทะเบียนบ้านเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ในระหว่างวันที่ 26-29 มิ.ย. 2550


ย้ำความผิดส่ง ป.ป.ช.ฟันซ้ำ


นายสุนัยกล่าวอีกว่า การสอบสวน ยังพบว่ามีการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายอื่น อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้แสดงบัญชีทรัพย์สินดังกล่าว จึงอาจเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินอันเป็นเท็จ อาจเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32, 33, 34 และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อาจกระทำการที่มีลักษณะเข้าไปบริหาร ครอบงำ หรือจัดหาผลประโยชน์ ในหุ้นของบริษัทต่างๆที่กล่าวมาแล้ว อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วน และหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2542 ตามมาตรา 11 และ 17 จะได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต่อไป


นายสุนัยกล่าวต่อว่า กรณีพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหากับ บริษัทเอสซี แอสเสท, นางบุษบา ดามาพงศ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยานั้น เพื่อให้ทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ทั้งนี้ หากว่าสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ ทางดีเอสไออาจจะสั่งไม่ฟ้องก็ได้ หรือแม้พนักงานสอบสวนจะสั่งฟ้องไปแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของอัยการสูงสุดและในชั้นศาลต่อไป


บีบ ทักษิณกลับไทยรับข้อกล่าวหา


ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ยอมเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาจะทำอย่างไร นายสุนัยตอบว่า ต้องพิจารณาว่าจงใจหลีกเลี่ยงหรือไม่ หากจงใจหลีกเลี่ยงไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ต้องออกหมายเรียกอีกครั้ง หรือออกหมายจับ ตามหลักการ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ผู้ต้องหาจะมอบหมายให้ทนายความมารับทราบข้อกล่าวหาแทนไม่ได้ เพราะโดยทั่วไป ผู้ที่เป็นผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไว้ ยกเว้นว่าจะได้รับอนุญาตให้ประกันตัวออกไป


ขู่ออกหมายจับถ้าดื้อแพ่งไม่มาพบ


ต่อข้อถามว่า หากภายในวันที่ 29 มิ.ย. พ.ต.ท. ทักษิณไม่มารับทราบข้อกล่าวหาจะดำเนินการอย่างไรนายสุนัยตอบว่า ถ้าหากภายในวันที่ 29 มิ.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่มา อาจพิจารณาออกหมายจับ หรือออกหมายเรียกครั้งที่สอง และหากไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกแน่นอน ถือว่าเป็นการหลบหนี ไม่มีปัญหาเราจะออกหมายจับ จากนั้นก็จะสรุปสำนวนส่งไปให้อัยการ โดยอัยการสามารถจะสั่งฟ้องได้ โดยอาจจะสั่งให้ไปจับตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี อาจจะต้องมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพราะต้องได้ตัวจำเลยมายื่นฟ้องต่อศาล ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องปรึกษากับทางรัฐบาลหรือ คมช.หรือไม่กรณีให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ หวั่นเหตุผลด้านความมั่นคงอยู่ด้วยหรือไม่ นายสุนัยตอบว่า ไม่ได้ปรึกษาเพราะว่าเราทำไปทำตามอำนาจหน้าที่ของเรา หากผู้ต้องหามารับตามข้อกล่าวหา จะให้เวลาผู้ต้องหาแก้ข้อกล่าวหา โดยให้เวลาตามสมควร สำหรับลูกสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้


ขีดเส้นไม่เกิน 2 อาทิตย์รู้ผล


ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของคดีที่จะส่งไป ป.ป.ช. สามารถส่งไปได้เลย หรือต้องรอให้สรุปสำนวนคดีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ส่งให้อัยการก่อนหรือไม่ นายสุนัยตอบว่า เมื่อพร้อมสามารถส่งไปให้ ป.ป.ช. พิจารณาได้ทันที ไม่น่าจะช้า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีข้อมูลอยู่แล้ว คาดว่าอาจจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ผู้สื่อข่าวถามว่า ความผิดเกี่ยวกับการปกปิดข้อมูลโครงสร้างการถือหุ้นดังกล่าวมีโทษสูงสุดอย่างไร นายสุนัยตอบว่า มาตรา 278 การแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์นั้น ได้ตั้งข้อหากับบริษัทเอสซีแอสเสท และ นางบุษบา ดามาพงศ์ ตามกฎหมายระบุโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับเงินไม่เกิน 2 เท่าของราคาขายของหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ผู้นั้นเสนอขาย แต่ไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกกล่าวหาตามมาตรา 298 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท


 

อัยการฟ้อง ทักษิณ-พจมานอีกคดี


วันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ผู้ตรวจราชการสำนักงานอัยการสูงสุด หนึ่งในคณะทำงานพิจารณาฟ้องคดีทุจริตที่ดินถนนรัชดาภิเษก ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันพฤหัสฯที่ 21 มิ.ย. นี้ อัยการจะยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมานเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถึงเวลานั้นอัยการจะเปิดเผยคำฟ้องและจะสำเนาให้สื่อมวลชน พร้อมแถลงข่าวให้ทราบ แต่ยังไม่สามารถนำคำฟ้องมาเผยล่วงหน้าได้เพราะฝ่ายผู้ต้องหาจะล่วงรู้รูปคดี ในวันเดียวกัน อัยการจะยื่นบัญชีระบุพยาน เป็นพยานบุคคล พยานเอกสาร ที่มาจาก คตส. พยานบุคคลมีไม่ถึง 80 ปาก ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ เอกชน และคนของ คตส.เอง โดยเราไม่ได้ตัดพยานปากใดออก เมื่ออัยการยื่นฟ้องแล้ว ฝ่ายจำเลยสามารถรับสำเนาคำฟ้องไปได้ ส่วนบัญชีพยานฝ่ายจำเลย ตนคาดว่าจำเลยจะยื่นภายหลังนัดพิจารณานัดแรก เป็นสิทธิของจำเลยที่จะอ้างใครมาเป็นพยานก็ได้ อัยการก็เปิดโอกาสให้เขาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ตอนนี้เราได้ประสานงานกับทางศาลไว้แล้ว และในวันฟ้องไม่ต้องมีตัวจำเลยมาศาลก็ได้


 

เปิดช่อง ทักษิณไม่ต้องมาที่ศาล


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจำเลยทั้งสองคนยังอยู่ต่างประเทศจะมีปัญหาในการดำเนินคดีหรือไม่ นายอรรถพล ตอบว่า ไม่มีปัญหา วันส่งฟ้องจำเลยไม่ต้องมาศาลก็ได้ แต่หากประธานศาลฎีกาเลือกผู้พิพากษาศาลฎีกา จำนวน 9 คน มาเป็นองค์คณะพิจารณา แล้วประทับรับฟ้อง และกำหนดวันพิจารณาคดีแล้ว จำเลยก็จะต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าศาล อย่างไรก็ตาม นายอรรถพลกล่าวว่า เวลานี้ทางกฎหมายยังมีความคิดแยกออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่าย แรกเห็นว่าเป็นคดีอาญา จำเลยต้องมาปรากฏตัว ถ้าไม่ มาต้องออกหมายจับ แล้วพักการดำเนินคดีชั่วคราว โดยมี อายุความ 15 ปี นับอายุความตั้งแต่วันกระทำผิด และใน กรณีเรื่องเกิดตั้งแต่ปี 46 ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าไม่จำเป็น ต้องมาปรากฏตัว เพราะเป็นระบบไต่สวน สามารถพิจารณาคดีลับหลังได้เลย แล้วแต่ศาลจะพิจารณาอย่างไร แต่ในส่วนของอัยการ เมื่อสั่งฟ้องก็ถือว่าพ้นหน้าที่แล้ว ถามว่า มั่นใจหรือไม่ นายอรรถพลตอบว่า ไม่อยากใช้คำนี้ แต่ในฐานะที่ร่วมพิจารณาพยานหลักฐานที่ทางคณะกรรมการ ตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ส่งมาให้ตรวจสอบและพิจารณาตามข้อเท็จจริงสามารถเอาผิดได้ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับศาล


พจมานเลื่อนแจง คตส.รอบ 3


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานการ ตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชนที่มีนายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้ เชิญคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เข้าชี้แจงการทำธุรกรรมซื้อ ขายหุ้นชินคอร์ปฯ  ที่ผ่านมา  คุณหญิงพจมานได้ขอเลื่อน การเข้าชี้แจงมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยบรรยากาศในช่วงเช้า เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากได้มีกลุ่มเครือข่ายประชาชนเพื่อประเทศไทย 15 คน ได้เตรียมดอกไม้มาให้กำลังใจคุณหญิงพจมาน พร้อมถือป้ายข้อความโจมตีการทำงานของ คตส.


สำหรับการรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ นครบาล จาก สน.บางซื่อ ประมาณ 10 นาย มาดูแลความ สงบเรียบร้อย ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลานัด 10.00 น. คุณหญิงพจมาน ไม่ได้เดินทางมา มีเพียงแต่ทีมทนายความคือ นายสมพร พงษ์สุวรรณ และนายธวัชชัย แตงหนู ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากคุณหญิงพจมานให้ดูแลคดีดังกล่าว เดินทางมาแทน โดยขอเข้าพบอนุกรรมการชุดดังกล่าว


ทนายอ้างคุณหญิงป่วยใจสั่น


ด้านนายสมพร พงษ์สุวรรณ ทนายความผู้รับมอบ อำนาจจากคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือขอเลื่อน การชี้แจงข้อมูลของคุณหญิงพจมานในคดีซื้อขายหุ้นชินคอร์ปต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกไปอีก 1 เดือน จากวันที่ 19 มิ.ย. ไปเป็นวันที่ 19 ก.ค. เนื่องจากคุณหญิงพจมานพักรักษาตัวอยู่ที่ต่างประเทศ ด้วยอาการโรคใจสั่น ปวดหัว อาการเต้นผิดปกติของหัวใจ การขอเลื่อนครั้งนี้ ได้ยื่นใบรับรองแพทย์ประกอบการพิจารณาด้วย ส่วน คตส.จะพิจารณาอย่างไรยังไม่ทราบ


เผยใบรับรองจาก รพ.สิงคโปร์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับใบรับรองแพทย์ที่คุณหญิง พจมานส่งให้ คตส.อ้างว่า ขณะนี้กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาล แรฟเฟิล ในสิงคโปร์ โดยมี ดร.อึง ไวลิน เป็นแพทย์ที่ลงนามในใบรับรองแพทย์  ลงวันที่ 15 มิ.ย. มายื่น โดย รายงานผลการตรวจรักษาว่า คุณหญิงพจมานมีอาการโรค โลกหมุน ปวดศีรษะ ใจสั่น อาการเต้นผิดปกติของหัวใจ


 

คตส.ตีกลับให้ส่งใบรับรองใหม่


ทางด้านนายสัก กอแสงเรือง กรรมการ คตส.ในฐานะอนุกรรมการพิจารณาหุ้นชินฯ กล่าวว่า อนุกรรมการพิจารณาแล้ว ยังไม่ได้มีมติว่าจะให้คุณหญิงพจมานเลื่อนชี้แจงออกไป 1 เดือนตามที่ร้องขอหรือไม่ เนื่องจากใบรับรองแพทย์ที่ทนายความยื่นต่อ คตส. มีรูปแบบไม่เป็นทางการ อนุกรรมการจึงให้ทนายความนำเอกสารใบรับรองแพทย์ที่เป็นทางการพร้อมหนังสือมอบอำนาจส่งให้อนุกรรมการพิจารณาอีกครั้งใน 7 วัน


ขู่มีบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคุณหญิงพจมานได้เลื่อนการเข้าชี้แจงเป็นครั้งที่ 3 ทางอนุกรรมการฯได้ออกคำสั่งเรียกให้คุณหญิงพจมานเข้าชี้แจงอีกครั้งโดยมีการระบุถึงอำนาจและบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งเรียกเอาไว้ด้วย ระบุว่า คตส.อาศัยอำนาจประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 ระเบียบ คตส.ข้อ 14 (7) และข้อ 19 รวมทั้งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) พ.ศ. 2542 มาตรา 25 (1) ที่มีอำนาจในการเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำซึ่งมีบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน ต้องจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นัดประชุมตามล่าเส้นทางโยกเงิน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (20 มิ.ย.) คตส.ชุดใหญ่จะมีการประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาอายัดบัญชีเงินฝากเพิ่มเติมนอกจากบัญชีเงินฝากที่ คตส.มีมติให้อายัดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากคณะอนุกรรมการตรวจสอบติดตามทรัพย์สินของบุคคลที่ คตส.มีคำสั่งให้อายัดที่มีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา กรรมการ คตส. เป็นประธาน ได้ตรวจสอบพบว่ายังมีเงินฝากบางส่วนที่ถูกโอนไปยังบัญชีอื่นๆ แต่ยังไม่ได้มีการอายัดไว้ซึ่งเป็นเงินในยอดแรกประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท ที่มีการยักย้ายถ่ายโอนไปช่วงก่อนหน้าวันที่ 4 มิ.ย.


สุรยุทธ์ยินดีทักษิณกลับมาสู้คดี


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมรับสถานการณ์กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะออกหมายเรียกให้มารับฟังข้อกล่าวหาในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซี แอสเสทฯ จำกัด ต่อตลาดหลักทรัพย์ ภายในวันที่ 26-29 มิ.ย.นี้ ว่าตนยังไม่ทราบว่าทางดีเอสไอชี้แจงว่าอย่างไร เพราะตนอยู่ในที่ประชุม ครม. อย่างไรก็ตาม หากเป็นการดำเนินการตามกฎหมายทางรัฐบาลก็คงไม่ได้มีข้อยกเว้นอะไร พร้อมดูแลในเรื่องความปลอดภัย ความสงบในบ้านเมืองกันต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า อธิบดีดีเอสไอไม่ได้รายงานในเรื่องจะออกหมายเรียก พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า รายงานแต่ไม่ได้บอกว่าจะออกหมายเรียกเมื่อไร วันนี้ประชุม ครม.อยู่ในช่วงบ่ายก็เลยไม่ทราบว่าได้ออกหมายเรียกในวันไหนอย่างไร


รัฐบาลรับรองความปลอดภัย


ต่อข้อถามว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาประเทศไทยแล้วสามารถมีความเป็นอิสระโดยไม่มีการควบคุมตัวใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ได้ครับ เพราะในขณะนี้ก็ถือว่าท่านยังไม่ได้มีความผิด เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ห่วงในเรื่องความปลอดภัย รัฐบาลจะดูแลความปลอดภัยได้แค่ไหน พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลก็ต้องดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว ต่อกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมา ซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่จะต้องดูแลกันเป็นพิเศษ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯมีความเป็นห่วงหรือไม่ เพราะ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคมช.ออกมาบอกว่าไม่รับรองความปลอดภัย รวมทั้งนพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ก็บอกว่ากลับมาแล้วอาจจะโดนฆ่าตาย พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลรับรองความปลอดภัยก็คงจะต้องใช้ความสามารถในทุกส่วนราชการที่จะดูแลความปลอดภัยให้คุณทักษิณ


ท้าให้กลับมาสู้ในชั้นศาล


เมื่อถามว่า จะคุยกับทาง คมช.หรือไม่ว่าในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาอย่าทำอะไรที่มิดีมิร้ายกับ พ.ต.ท. ทักษิณ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ได้เป็นเรื่องของทาง คมช. ที่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีเจตนาที่จะไปทำอะไร อย่าไปตีความในลักษณะที่ว่าจะเป็นผู้ที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นก็ขอให้เข้าใจกันตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นหมอประเวศเองก็ตาม ก็อยู่ด้วยความปรารถนาดีมากกว่าที่ว่าไม่อยากจะให้เกิดอันตรายอะไรขึ้นมา ในส่วนของรัฐบาลที่มีหน้าที่ต้องดูแลรับผิดชอบเราก็ขอให้ความปลอดภัยกับ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างเต็มที่ ในส่วนนี้ถ้าได้คุยกับ พ.ต.ท. ทักษิณก่อนก็ยิ่งดี เมื่อถามว่า จะเร็วไปหรือไม่ที่รัฐบาลจะเตรียมตัวในการรับสถานการณ์ในการกลับมาของ พ.ต.ท. ทักษิณ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหา อยากให้การดำเนินการของเราอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการกระบวนการยุติธรรมก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม คิดว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะแก้ปัญหาต่างๆ ไม่เช่นนั้นเราก็ไปใช้ วิธีการอื่นนอกกฎเกณฑ์บ้าง นอกกฎหมายบ้าง ซึ่งตนไม่ได้ คิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องก็ควรต้องแก้ไขปัญหาต่างๆในลักษณะนี้เมื่อมีความขัดแย้ง เมื่อมีข้อกล่าวหาเราก็ต้องสู้กันในกระบวนการยุติธรรมคือการพร้อมต่อสู้ในชั้นศาล


ทักษิณดิ้นสู้ร้องถอนอายัดทรัพย์


ทางด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนใกล้ชิด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น วันเดียวกันเมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีที่ คตส.มีมติอายัดทรัพย์ พ.ต.ท. ทักษิณเพิ่มเติมอีก 7 บัญชี มูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท ว่า หลังจากที่ทีมทนายความได้หารือกับ พ.ต.ท. ทักษิณแล้ว มีข้อสรุปว่าจะยื่นถอนการอายัดทรัพย์ต่อนายอำนวย ธันธรา ประธานคณะอนุฯ คตส. ภายในสัปดาห์นี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอหนังสือมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณอีกประมาณ 1-2 วัน ทั้งนี้ จะขอถอนคำสั่งทั้งหมด 21 บัญชี ด้วยการยกเหตุผลและข้อมูลที่มีน้ำหนักในการพิสูจน์ว่าเงินจำนวนประมาณ 45,000 ล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เป็นส่วนที่ได้มาก่อนรับตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะขอกันเงินจำนวนนี้ออกมาก่อน


ระบุ คตส.ขัดประกาศ คปค.ฉบับ 30


นายนพดลกล่าวว่า เราเห็นว่ายังมีช่องทางที่จะต่อสู้คดี เนื่องจากคำสั่งอายัดทรัพย์ของ คตส.ขัดกับประกาศคปค.ฉบับที่ 30 ข้อ 4 ที่ระบุว่า การดำเนินการในเรื่องที่ตรวจสอบมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ และมีพฤติการณ์ว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ หรือร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของผู้นั้น คู่สมรสและบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้นั้นไว้ก่อนได้ แต่มติของ คตส.ที่ออกมานั้น ขัดต่อประกาศดังกล่าวชัดเจน เนื่องจากทำการอายัดทรัพย์สินในหลายโครงการที่ยังไม่มีการตรวจสอบ และไม่มีการพิสูจน์ว่าเงินที่ได้มานั้นผิดจริงหรือไม่


ผิด ก.ม.ชัดเจนอายัดก่อนพิสูจน์ทีหลัง


คตส.อายัดทรัพย์แบบผิดกฎหมายและขัดประกาศคปค. เหมือนกับว่าจงใจอายัดไว้ก่อนแล้วไปพิสูจน์ทีหลัง ทั้งที่การอายัดทรัพย์จะกระทำโดยที่ไม่มีการตรวจสอบไม่ได้ จึงถือได้ว่า คตส.ทำการอายัดแบบไม่แยกแยะทรัพย์สินจงใจสร้างความเดือดร้อนแบบไม่มีเหตุผลให้กับครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ มีความโหดเหี้ยมขาดความเป็นธรรม จงใจไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเหลือเงินไว้ใช้เลย หวังว่าจะได้รับ ความเป็นธรรมจากคณะอนุฯชุดของนายอำนวย ให้มีการถอนอายัด โดยกันเงิน 4.5 หมื่นล้านที่ร่ำรวยอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ก่อนปี 47 ออกมาก่อนนายนพดลกล่าว


ทนายพ้อสิ้นหวังกระบวนการยุติธรรม


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความมั่นใจในการต่อสู้กรณีที่อัยการสูงสุดส่งฟ้องคดีที่ดินรัชดามากน้อยแค่ไหน นายนพดลตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความหวังและมีความมั่นใจว่าจะได้รับความยุติธรรม เพราะการประมูลที่ดินเป็นไปด้วยความโปร่งใส และศาลฎีกาคงมีการพิจารณาคดีในรูปแบบสืบสวน มากกว่ากล่าวหาก่อนอย่าง คตส. ส่วนกรณีที่ประธานศาลฎีกาตั้งคณะตรวจสอบข่าวเสนอเงิน 2,000 ล้านบาทเพื่อล้มคดีนั้น ทราบมาว่ามีการพูดถึงชื่อคุณหญิง แต่ตนไม่เชื่อ เป็นเรื่องที่ คมช. ควรแสดงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ ขอให้ดำเนินการไปตามเนื้อผ้า อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย เพราะสิ่งที่ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ออกมาพูดเมื่อวานนี้ ทำให้รู้สึกว่ากระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง การตัดสินไม่ได้อยู่บนพื้นฐานทางกฎหมาย แต่อยู่บนพื้นฐานทางการเมือง เพราะมีการกำหนดแผนหรือตั้งธงไว้แล้วล่วงหน้าหมดแล้ว ตั้งแต่การยึดอำนาจ ยุบพรรคไทยรักไทย และอายัดทรัพย์


ทักษิณกลับไทยแน่ไม่คิดลี้ภัย


ต่อข้อถามถึงกรณีที่คุณหญิงพจมาน  ชินวัตร เลื่อนเข้าชี้แจงต่อ คตส.โดยอ้างว่าไม่สบาย นายนพดล กล่าวว่า ยืนยันว่าคุณหญิงพจมานป่วยจริง และมีใบรับรองแพทย์ยืนยันแน่นอน เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะบินมาเยี่ยมที่สิงคโปร์หรือไม่ นายนพดลตอบว่า คงไม่ไป สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นพร้อมที่จะเดินทางกลับมาต่อสู้ คดีทันทีที่มีคำสั่งศาลแน่นอน แต่คงกำหนดเวลาไม่ได้ อาจจะเป็นปีนี้หรือปีหน้า แต่ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับประเทศไทยแน่นอน โดยไม่เคยมีความคิดลี้ภัยการเมืองหรือตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น


แบไต๋เลื่อนชี้แจงดีเอสไอปลาย มิ.ย.


นายนพดลยังกล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายเรียกให้ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานมาชี้แจงข้อมูลหุ้นเอสซี แอสเสท ในวันที่ 26-29 มิ.ย.นี้ ว่าตามกระบวนการกฎหมายผู้ที่ถูกออกหมายเรียกต้องไปรายงานตัว แต่ในกรณีนี้ก็มีเหตุผลที่อาจขอให้อะลุ้มอล่วย เนื่องจากไม่สบายหรือติดภารกิจในต่างประเทศ หรือดีเอสไออาจจะผ่อนปรนให้บุคคลอื่นที่ได้รับมอบอำนาจชี้แจงแทนได้ พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยาพร้อมจะให้ความร่วมมือเพราะไม่ว่าช้าหรือเร็วก็ต้องเข้าชี้แจงอยู่แล้ว


 

กลต.เด้งรับรอฟันผู้บริหารเอสซี


วันเดียวกัน นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า กรณีของบริษัท เอสซี แอสเสท (SC) ก.ล.ต.ได้ดำเนินการตรวจสอบมาตั้งแต่ปี 2549 ในการหาข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ โดยพบข้อมูลที่น่าสงสัยว่ามีการกระทำผิด แต่ด้วยอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่จำกัด ก.ล.ต.จึงส่งข้อมูลต่อให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อให้สอบสวนในเชิงลึกต่อ และดีเอสไอใช้เวลา 3-4 เดือนในการสรุปผลดังกล่าว ซึ่งถือว่าใช้เวลารวดเร็วในการตรวจสอบ ก.ล.ต.มั่นใจว่าทำงานอย่างเต็มที่ แต่ด้วยอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่จำกัด จึงส่งเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินการต่อ ซึ่ง ก.ล.ต.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาในการทำงานด้วย หลังจากนี้ ก.ล.ต.จะประสานงานไปยังดีเอสไอ เพื่อขอรายชื่อผู้กระทำผิดว่ายังคงเป็นผู้บริหาร SC ในปัจจุบันหรือไม่ เพราะผู้ที่ถูกดีเอสไอกล่าวโทษถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนทันที และต้องลาออกจากการเป็นผู้บริหาร หากพบว่าผู้บริหาร SC ทั้งในอดีตและปัจจุบันมีส่วนเกี่ยวข้องตามการแถลงข่าวและเป็นบุคคลที่ถูกดีเอสไอกล่าวโทษ ผู้บริหารรายนั้นจะขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน


นายประสงค์ยังกล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้ บริษัท SC อยู่ระหว่างขออนุมัติการเพิ่มทุนกับ ก.ล.ต.ว่า หากบริษัทยังไม่ถอนแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) หรือคำขออนุญาต ก.ล.ต.ก็จะพิจารณาตามขั้นตอนปกติ แต่หากพบว่า มีผู้บริหารบริษัทเข้าข่ายมีคุณสมบัติต้องห้าม อาจทำให้มีผลกระทบต่อการอนุมัติแผนเพิ่มทุนของ SC


ผู้บริหารเอสซีโต้บริษัทถูกต้อง


ทางด้านนายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานสนับสนุน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ โดยชี้แจงว่า บริษัทได้รับหมายเรียกจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อกล่าวหาต่อบริษัท ว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 65 และ 278 นั้น บริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลโดยถูกต้องตามข้อมูลที่บริษัทมีอยู่ทุกประการ และบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อชี้แจงและต่อสู้คดีต่อข้อกล่าวหาดังกล่าวตามกระบวนการของกฎหมายทุกประการ

ข่าวจาก ไทยรัฐ

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1537

แสดงความคิดเห็น โดย กรรมกรข่าว IP: Hide ip , วันที่ 20 มิ.ย. 50 เวลา 11:13:28
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี