กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
“สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติ!! อุ้ม "สิงคโปร์" เช่าฐานทัพต่อ 3 ปี
“สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติกลับเซ็นอนุญาตให้กองทัพสิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกทหารอีก 3 ปีที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ลงนามร่วมกับ พลจัตวา เนียวเคียนฮง ผบ. ทบ.สิงคโปร์ เพื่อขยายเวลาทำการฝึกของกองทัพสิงคโปร์ ในราชอาณาจักรไทยต่อไปอีก 3 ปี ทั้งนี้ พล.อ.สนธิได้ให้ความสำคัญกับกำหนดการนี้เป็นอย่างมาก โดยประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แค่เพียง 20 นาที ซึ่งแค่รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์เท่านั้น สำหรับข้อตกลงฉบับดังกล่าวมี 21ข้อ โดยกำหนดรหัสว่า “เครสเซนโด” (Crescendo Ecercise) มีการระบุ ถึงการจัดตั้งค่ายฝึก ชื่อว่า “ค่ายฝึกกาญจนบุรี” ประกอบด้วย ค่ายฝึกไทรโยค ค่ายฝึกวรแก่นทราย ค่ายฝึกเขาเม็ง และค่ายฝึกหลุมหิน นอกจากนี้ ยังได้ระบุประเภท การฝึกไว้ ประกอบด้วย 1.ทหารราบ2.ทหารยานเกราะ 3.ทหารปืนใหญ่ 4.หน่วยคอมมานโด 5.หน่วยข่าวกรองการรบ โดยเป็นการฝึกทั้งระดับกองพันและกองร้อย รวมทั้งเป็นการฝึกของเครื่องบินตรวจการณ์ขนาดเล็กควบคุมระยะไกลไร้นักบิน และการฝึกหน่วยโรงพยาบาลสนามรบ สำหรับจำนวนทหารของ ทบ.สิงคโปร์ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องมียอดกำลังพลไม่เกิน 1,000 นาย ตลอดระยะเวลาตามความตกลงนี้ แต่อาจจะเพิ่มเป็นครั้งคราว โดยการตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุว่า หากมีการถอนกำลังกลับประเทศ ทบ.สิงคโปร์ จะมีการส่งมอบสิ่งก่อสร้าง อาคารที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งปวงในค่ายฝึกกาญจนบุรีและพื้นที่การฝึกให้ ทบ.ไทย รวมทั้งแผนที่ฝึกด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องกระสุนและวัตถุระเบิดที่หมดความจำเป็นหรือ เสื่อมสภาพ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้าย ให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการส่งกลับสิงคโปร์ภายใน 1 ปี ส่วน กระสุนและวัตถุระเบิดที่ ทบ.ไทย และ ทบ.สิงคโปร์ตรวจสอบแล้วเป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้ายให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการทำลายในไทย ณ สถานที่ซึ่ง ทบ.ไทยกำหนด ทั้งนี้ การเซ็นสัญญาดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจาก ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิได้ออกมาวิพากษ์ สิงคโปร์ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขายหุ้นชินคอร์ป ให้เทมาเซก โฮลดิ้ง ของสิงคโปร์ โดย พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ทำให้ความลับทางด้านความมั่นคงรั่วไหลไปที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้น พล.อ.สนธิยังปลุกกระแสทวงคืนสมบัติชาติ โดยเฉพาะดาวเทียม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่กลับมาเซ็นข้อตกลงให้สิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกอาวุธแทน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ค่าเช่าครั้งนี้ทางกองทัพสิงคโปร์จ่ายเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวถือเป็นเงินนอกงบประมาณ ที่ ทบ.ไม่ต้องส่งคืนคลัง สำหรับความเคลื่อนไหวทางการ เมืองอื่นๆ นั้น นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เขียนบทความเตือน พล.อ.สนธิ เรื่องการลงเล่นการเมืองว่า “อย่าตกหลุมดำ” (black Holes) เพราะจะกลืนกินชื่อเสียงเกียรติยศไปจนหมดสิ้น เหมือนกับที่เคยเตือน พล.อ.สุจินดา คราประยูร มาแล้ว เมื่อปี 2535 ก่อนเกิดเหตุการณ์เดือน พ.ค. 2535 “ประธาน คมช. จึงต้องคิดดูให้ดีๆ และต้องรีบด้วย เพราะต้นไม้แห่งความไม่เชื่อถือไว้วางใจ กำลังโตวันโตคืน คำพูดแบบนักการเมืองที่กำกวม ทำให้ผู้คนเขาตีความกันไปแล้ว ด้วยความห่วงใย คำว่า 50-50 ทางการเมืองเขาแปลว่า 100” น.พ.ประเวศ กล่าว ที่มาจาก “สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติ!! อุ้ม "สิงคโปร์" เช่าฐานทัพต่อ 3 ปี
“สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติกลับเซ็นอนุญาตให้กองทัพสิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกทหารอีก 3 ปีที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ลงนามร่วมกับ พลจัตวา เนียวเคียนฮง ผบ. ทบ.สิงคโปร์ เพื่อขยายเวลาทำการฝึกของกองทัพสิงคโปร์ ในราชอาณาจักรไทยต่อไปอีก 3 ปี ทั้งนี้ พล.อ.สนธิได้ให้ความสำคัญกับกำหนดการนี้เป็นอย่างมาก โดยประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แค่เพียง 20 นาที ซึ่งแค่รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์เท่านั้น สำหรับข้อตกลงฉบับดังกล่าวมี 21ข้อ โดยกำหนดรหัสว่า “เครสเซนโด” (Crescendo Ecercise) มีการระบุ ถึงการจัดตั้งค่ายฝึก ชื่อว่า “ค่ายฝึกกาญจนบุรี” ประกอบด้วย ค่ายฝึกไทรโยค ค่ายฝึกวรแก่นทราย ค่ายฝึกเขาเม็ง และค่ายฝึกหลุมหิน นอกจากนี้ ยังได้ระบุประเภท การฝึกไว้ ประกอบด้วย 1.ทหารราบ2.ทหารยานเกราะ 3.ทหารปืนใหญ่ 4.หน่วยคอมมานโด 5.หน่วยข่าวกรองการรบ โดยเป็นการฝึกทั้งระดับกองพันและกองร้อย รวมทั้งเป็นการฝึกของเครื่องบินตรวจการณ์ขนาดเล็กควบคุมระยะไกลไร้นักบิน และการฝึกหน่วยโรงพยาบาลสนามรบ สำหรับจำนวนทหารของ ทบ.สิงคโปร์ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องมียอดกำลังพลไม่เกิน 1,000 นาย ตลอดระยะเวลาตามความตกลงนี้ แต่อาจจะเพิ่มเป็นครั้งคราว โดยการตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุว่า หากมีการถอนกำลังกลับประเทศ ทบ.สิงคโปร์ จะมีการส่งมอบสิ่งก่อสร้าง อาคารที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งปวงในค่ายฝึกกาญจนบุรีและพื้นที่การฝึกให้ ทบ.ไทย รวมทั้งแผนที่ฝึกด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องกระสุนและวัตถุระเบิดที่หมดความจำเป็นหรือ เสื่อมสภาพ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้าย ให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการส่งกลับสิงคโปร์ภายใน 1 ปี ส่วน กระสุนและวัตถุระเบิดที่ ทบ.ไทย และ ทบ.สิงคโปร์ตรวจสอบแล้วเป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้ายให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการทำลายในไทย ณ สถานที่ซึ่ง ทบ.ไทยกำหนด ทั้งนี้ การเซ็นสัญญาดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจาก ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิได้ออกมาวิพากษ์ สิงคโปร์ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขายหุ้นชินคอร์ป ให้เทมาเซก โฮลดิ้ง ของสิงคโปร์ โดย พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ทำให้ความลับทางด้านความมั่นคงรั่วไหลไปที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้น พล.อ.สนธิยังปลุกกระแสทวงคืนสมบัติชาติ โดยเฉพาะดาวเทียม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่กลับมาเซ็นข้อตกลงให้สิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกอาวุธแทน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ค่าเช่าครั้งนี้ทางกองทัพสิงคโปร์จ่ายเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวถือเป็นเงินนอกงบประมาณ ที่ ทบ.ไม่ต้องส่งคืนคลัง สำหรับความเคลื่อนไหวทางการ เมืองอื่นๆ นั้น นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เขียนบทความเตือน พล.อ.สนธิ เรื่องการลงเล่นการเมืองว่า “อย่าตกหลุมดำ” (black Holes) เพราะจะกลืนกินชื่อเสียงเกียรติยศไปจนหมดสิ้น เหมือนกับที่เคยเตือน พล.อ.สุจินดา คราประยูร มาแล้ว เมื่อปี 2535 ก่อนเกิดเหตุการณ์เดือน พ.ค. 2535 “ประธาน คมช. จึงต้องคิดดูให้ดีๆ และต้องรีบด้วย เพราะต้นไม้แห่งความไม่เชื่อถือไว้วางใจ กำลังโตวันโตคืน คำพูดแบบนักการเมืองที่กำกวม ทำให้ผู้คนเขาตีความกันไปแล้ว ด้วยความห่วงใย คำว่า 50-50 ทางการเมืองเขาแปลว่า 100” น.พ.ประเวศ กล่าว ที่มาจาก “สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติ!! อุ้ม "สิงคโปร์" เช่าฐานทัพต่อ 3 ปี
“สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติกลับเซ็นอนุญาตให้กองทัพสิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกทหารอีก 3 ปีที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ลงนามร่วมกับ พลจัตวา เนียวเคียนฮง ผบ. ทบ.สิงคโปร์ เพื่อขยายเวลาทำการฝึกของกองทัพสิงคโปร์ ในราชอาณาจักรไทยต่อไปอีก 3 ปี ทั้งนี้ พล.อ.สนธิได้ให้ความสำคัญกับกำหนดการนี้เป็นอย่างมาก โดยประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แค่เพียง 20 นาที ซึ่งแค่รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์เท่านั้น สำหรับข้อตกลงฉบับดังกล่าวมี 21ข้อ โดยกำหนดรหัสว่า “เครสเซนโด” (Crescendo Ecercise) มีการระบุ ถึงการจัดตั้งค่ายฝึก ชื่อว่า “ค่ายฝึกกาญจนบุรี” ประกอบด้วย ค่ายฝึกไทรโยค ค่ายฝึกวรแก่นทราย ค่ายฝึกเขาเม็ง และค่ายฝึกหลุมหิน นอกจากนี้ ยังได้ระบุประเภท การฝึกไว้ ประกอบด้วย 1.ทหารราบ2.ทหารยานเกราะ 3.ทหารปืนใหญ่ 4.หน่วยคอมมานโด 5.หน่วยข่าวกรองการรบ โดยเป็นการฝึกทั้งระดับกองพันและกองร้อย รวมทั้งเป็นการฝึกของเครื่องบินตรวจการณ์ขนาดเล็กควบคุมระยะไกลไร้นักบิน และการฝึกหน่วยโรงพยาบาลสนามรบ สำหรับจำนวนทหารของ ทบ.สิงคโปร์ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องมียอดกำลังพลไม่เกิน 1,000 นาย ตลอดระยะเวลาตามความตกลงนี้ แต่อาจจะเพิ่มเป็นครั้งคราว โดยการตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุว่า หากมีการถอนกำลังกลับประเทศ ทบ.สิงคโปร์ จะมีการส่งมอบสิ่งก่อสร้าง อาคารที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งปวงในค่ายฝึกกาญจนบุรีและพื้นที่การฝึกให้ ทบ.ไทย รวมทั้งแผนที่ฝึกด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องกระสุนและวัตถุระเบิดที่หมดความจำเป็นหรือ เสื่อมสภาพ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้าย ให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการส่งกลับสิงคโปร์ภายใน 1 ปี ส่วน กระสุนและวัตถุระเบิดที่ ทบ.ไทย และ ทบ.สิงคโปร์ตรวจสอบแล้วเป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้ายให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการทำลายในไทย ณ สถานที่ซึ่ง ทบ.ไทยกำหนด ทั้งนี้ การเซ็นสัญญาดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจาก ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิได้ออกมาวิพากษ์ สิงคโปร์ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขายหุ้นชินคอร์ป ให้เทมาเซก โฮลดิ้ง ของสิงคโปร์ โดย พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ทำให้ความลับทางด้านความมั่นคงรั่วไหลไปที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้น พล.อ.สนธิยังปลุกกระแสทวงคืนสมบัติชาติ โดยเฉพาะดาวเทียม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่กลับมาเซ็นข้อตกลงให้สิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกอาวุธแทน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ค่าเช่าครั้งนี้ทางกองทัพสิงคโปร์จ่ายเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวถือเป็นเงินนอกงบประมาณ ที่ ทบ.ไม่ต้องส่งคืนคลัง สำหรับความเคลื่อนไหวทางการ เมืองอื่นๆ นั้น นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เขียนบทความเตือน พล.อ.สนธิ เรื่องการลงเล่นการเมืองว่า “อย่าตกหลุมดำ” (black Holes) เพราะจะกลืนกินชื่อเสียงเกียรติยศไปจนหมดสิ้น เหมือนกับที่เคยเตือน พล.อ.สุจินดา คราประยูร มาแล้ว เมื่อปี 2535 ก่อนเกิดเหตุการณ์เดือน พ.ค. 2535 “ประธาน คมช. จึงต้องคิดดูให้ดีๆ และต้องรีบด้วย เพราะต้นไม้แห่งความไม่เชื่อถือไว้วางใจ กำลังโตวันโตคืน คำพูดแบบนักการเมืองที่กำกวม ทำให้ผู้คนเขาตีความกันไปแล้ว ด้วยความห่วงใย คำว่า 50-50 ทางการเมืองเขาแปลว่า 100” น.พ.ประเวศ กล่าว ที่มาจาก “สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติ!! อุ้ม "สิงคโปร์" เช่าฐานทัพต่อ 3 ปี
“สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติกลับเซ็นอนุญาตให้กองทัพสิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกทหารอีก 3 ปีที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ลงนามร่วมกับ พลจัตวา เนียวเคียนฮง ผบ. ทบ.สิงคโปร์ เพื่อขยายเวลาทำการฝึกของกองทัพสิงคโปร์ ในราชอาณาจักรไทยต่อไปอีก 3 ปี ทั้งนี้ พล.อ.สนธิได้ให้ความสำคัญกับกำหนดการนี้เป็นอย่างมาก โดยประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แค่เพียง 20 นาที ซึ่งแค่รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์เท่านั้น สำหรับข้อตกลงฉบับดังกล่าวมี 21ข้อ โดยกำหนดรหัสว่า “เครสเซนโด” (Crescendo Ecercise) มีการระบุ ถึงการจัดตั้งค่ายฝึก ชื่อว่า “ค่ายฝึกกาญจนบุรี” ประกอบด้วย ค่ายฝึกไทรโยค ค่ายฝึกวรแก่นทราย ค่ายฝึกเขาเม็ง และค่ายฝึกหลุมหิน นอกจากนี้ ยังได้ระบุประเภท การฝึกไว้ ประกอบด้วย 1.ทหารราบ2.ทหารยานเกราะ 3.ทหารปืนใหญ่ 4.หน่วยคอมมานโด 5.หน่วยข่าวกรองการรบ โดยเป็นการฝึกทั้งระดับกองพันและกองร้อย รวมทั้งเป็นการฝึกของเครื่องบินตรวจการณ์ขนาดเล็กควบคุมระยะไกลไร้นักบิน และการฝึกหน่วยโรงพยาบาลสนามรบ สำหรับจำนวนทหารของ ทบ.สิงคโปร์ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องมียอดกำลังพลไม่เกิน 1,000 นาย ตลอดระยะเวลาตามความตกลงนี้ แต่อาจจะเพิ่มเป็นครั้งคราว โดยการตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุว่า หากมีการถอนกำลังกลับประเทศ ทบ.สิงคโปร์ จะมีการส่งมอบสิ่งก่อสร้าง อาคารที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งปวงในค่ายฝึกกาญจนบุรีและพื้นที่การฝึกให้ ทบ.ไทย รวมทั้งแผนที่ฝึกด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องกระสุนและวัตถุระเบิดที่หมดความจำเป็นหรือ เสื่อมสภาพ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้าย ให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการส่งกลับสิงคโปร์ภายใน 1 ปี ส่วน กระสุนและวัตถุระเบิดที่ ทบ.ไทย และ ทบ.สิงคโปร์ตรวจสอบแล้วเป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้ายให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการทำลายในไทย ณ สถานที่ซึ่ง ทบ.ไทยกำหนด ทั้งนี้ การเซ็นสัญญาดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจาก ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิได้ออกมาวิพากษ์ สิงคโปร์ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขายหุ้นชินคอร์ป ให้เทมาเซก โฮลดิ้ง ของสิงคโปร์ โดย พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ทำให้ความลับทางด้านความมั่นคงรั่วไหลไปที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้น พล.อ.สนธิยังปลุกกระแสทวงคืนสมบัติชาติ โดยเฉพาะดาวเทียม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่กลับมาเซ็นข้อตกลงให้สิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกอาวุธแทน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ค่าเช่าครั้งนี้ทางกองทัพสิงคโปร์จ่ายเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวถือเป็นเงินนอกงบประมาณ ที่ ทบ.ไม่ต้องส่งคืนคลัง สำหรับความเคลื่อนไหวทางการ เมืองอื่นๆ นั้น นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เขียนบทความเตือน พล.อ.สนธิ เรื่องการลงเล่นการเมืองว่า “อย่าตกหลุมดำ” (black Holes) เพราะจะกลืนกินชื่อเสียงเกียรติยศไปจนหมดสิ้น เหมือนกับที่เคยเตือน พล.อ.สุจินดา คราประยูร มาแล้ว เมื่อปี 2535 ก่อนเกิดเหตุการณ์เดือน พ.ค. 2535 “ประธาน คมช. จึงต้องคิดดูให้ดีๆ และต้องรีบด้วย เพราะต้นไม้แห่งความไม่เชื่อถือไว้วางใจ กำลังโตวันโตคืน คำพูดแบบนักการเมืองที่กำกวม ทำให้ผู้คนเขาตีความกันไปแล้ว ด้วยความห่วงใย คำว่า 50-50 ทางการเมืองเขาแปลว่า 100” น.พ.ประเวศ กล่าว ที่มาจาก “สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติ!! อุ้ม "สิงคโปร์" เช่าฐานทัพต่อ 3 ปี
“สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติกลับเซ็นอนุญาตให้กองทัพสิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกทหารอีก 3 ปีที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ลงนามร่วมกับ พลจัตวา เนียวเคียนฮง ผบ. ทบ.สิงคโปร์ เพื่อขยายเวลาทำการฝึกของกองทัพสิงคโปร์ ในราชอาณาจักรไทยต่อไปอีก 3 ปี ทั้งนี้ พล.อ.สนธิได้ให้ความสำคัญกับกำหนดการนี้เป็นอย่างมาก โดยประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แค่เพียง 20 นาที ซึ่งแค่รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์เท่านั้น สำหรับข้อตกลงฉบับดังกล่าวมี 21ข้อ โดยกำหนดรหัสว่า “เครสเซนโด” (Crescendo Ecercise) มีการระบุ ถึงการจัดตั้งค่ายฝึก ชื่อว่า “ค่ายฝึกกาญจนบุรี” ประกอบด้วย ค่ายฝึกไทรโยค ค่ายฝึกวรแก่นทราย ค่ายฝึกเขาเม็ง และค่ายฝึกหลุมหิน นอกจากนี้ ยังได้ระบุประเภท การฝึกไว้ ประกอบด้วย 1.ทหารราบ2.ทหารยานเกราะ 3.ทหารปืนใหญ่ 4.หน่วยคอมมานโด 5.หน่วยข่าวกรองการรบ โดยเป็นการฝึกทั้งระดับกองพันและกองร้อย รวมทั้งเป็นการฝึกของเครื่องบินตรวจการณ์ขนาดเล็กควบคุมระยะไกลไร้นักบิน และการฝึกหน่วยโรงพยาบาลสนามรบ สำหรับจำนวนทหารของ ทบ.สิงคโปร์ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องมียอดกำลังพลไม่เกิน 1,000 นาย ตลอดระยะเวลาตามความตกลงนี้ แต่อาจจะเพิ่มเป็นครั้งคราว โดยการตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุว่า หากมีการถอนกำลังกลับประเทศ ทบ.สิงคโปร์ จะมีการส่งมอบสิ่งก่อสร้าง อาคารที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งปวงในค่ายฝึกกาญจนบุรีและพื้นที่การฝึกให้ ทบ.ไทย รวมทั้งแผนที่ฝึกด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องกระสุนและวัตถุระเบิดที่หมดความจำเป็นหรือ เสื่อมสภาพ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้าย ให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการส่งกลับสิงคโปร์ภายใน 1 ปี ส่วน กระสุนและวัตถุระเบิดที่ ทบ.ไทย และ ทบ.สิงคโปร์ตรวจสอบแล้วเป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้ายให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการทำลายในไทย ณ สถานที่ซึ่ง ทบ.ไทยกำหนด ทั้งนี้ การเซ็นสัญญาดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจาก ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิได้ออกมาวิพากษ์ สิงคโปร์ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขายหุ้นชินคอร์ป ให้เทมาเซก โฮลดิ้ง ของสิงคโปร์ โดย พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ทำให้ความลับทางด้านความมั่นคงรั่วไหลไปที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้น พล.อ.สนธิยังปลุกกระแสทวงคืนสมบัติชาติ โดยเฉพาะดาวเทียม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่กลับมาเซ็นข้อตกลงให้สิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกอาวุธแทน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ค่าเช่าครั้งนี้ทางกองทัพสิงคโปร์จ่ายเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวถือเป็นเงินนอกงบประมาณ ที่ ทบ.ไม่ต้องส่งคืนคลัง สำหรับความเคลื่อนไหวทางการ เมืองอื่นๆ นั้น นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เขียนบทความเตือน พล.อ.สนธิ เรื่องการลงเล่นการเมืองว่า “อย่าตกหลุมดำ” (black Holes) เพราะจะกลืนกินชื่อเสียงเกียรติยศไปจนหมดสิ้น เหมือนกับที่เคยเตือน พล.อ.สุจินดา คราประยูร มาแล้ว เมื่อปี 2535 ก่อนเกิดเหตุการณ์เดือน พ.ค. 2535 “ประธาน คมช. จึงต้องคิดดูให้ดีๆ และต้องรีบด้วย เพราะต้นไม้แห่งความไม่เชื่อถือไว้วางใจ กำลังโตวันโตคืน คำพูดแบบนักการเมืองที่กำกวม ทำให้ผู้คนเขาตีความกันไปแล้ว ด้วยความห่วงใย คำว่า 50-50 ทางการเมืองเขาแปลว่า 100” น.พ.ประเวศ กล่าว ที่มาจาก “สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติ!! อุ้ม "สิงคโปร์" เช่าฐานทัพต่อ 3 ปี
“สนธิ” ลืมทวงสมบัติชาติกลับเซ็นอนุญาตให้กองทัพสิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกทหารอีก 3 ปีที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ลงนามร่วมกับ พลจัตวา เนียวเคียนฮง ผบ. ทบ.สิงคโปร์ เพื่อขยายเวลาทำการฝึกของกองทัพสิงคโปร์ ในราชอาณาจักรไทยต่อไปอีก 3 ปี ทั้งนี้ พล.อ.สนธิได้ให้ความสำคัญกับกำหนดการนี้เป็นอย่างมาก โดยประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แค่เพียง 20 นาที ซึ่งแค่รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์เท่านั้น สำหรับข้อตกลงฉบับดังกล่าวมี 21ข้อ โดยกำหนดรหัสว่า “เครสเซนโด” (Crescendo Ecercise) มีการระบุ ถึงการจัดตั้งค่ายฝึก ชื่อว่า “ค่ายฝึกกาญจนบุรี” ประกอบด้วย ค่ายฝึกไทรโยค ค่ายฝึกวรแก่นทราย ค่ายฝึกเขาเม็ง และค่ายฝึกหลุมหิน นอกจากนี้ ยังได้ระบุประเภท การฝึกไว้ ประกอบด้วย 1.ทหารราบ2.ทหารยานเกราะ 3.ทหารปืนใหญ่ 4.หน่วยคอมมานโด 5.หน่วยข่าวกรองการรบ โดยเป็นการฝึกทั้งระดับกองพันและกองร้อย รวมทั้งเป็นการฝึกของเครื่องบินตรวจการณ์ขนาดเล็กควบคุมระยะไกลไร้นักบิน และการฝึกหน่วยโรงพยาบาลสนามรบ สำหรับจำนวนทหารของ ทบ.สิงคโปร์ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องมียอดกำลังพลไม่เกิน 1,000 นาย ตลอดระยะเวลาตามความตกลงนี้ แต่อาจจะเพิ่มเป็นครั้งคราว โดยการตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุว่า หากมีการถอนกำลังกลับประเทศ ทบ.สิงคโปร์ จะมีการส่งมอบสิ่งก่อสร้าง อาคารที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งปวงในค่ายฝึกกาญจนบุรีและพื้นที่การฝึกให้ ทบ.ไทย รวมทั้งแผนที่ฝึกด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องกระสุนและวัตถุระเบิดที่หมดความจำเป็นหรือ เสื่อมสภาพ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้าย ให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการส่งกลับสิงคโปร์ภายใน 1 ปี ส่วน กระสุนและวัตถุระเบิดที่ ทบ.ไทย และ ทบ.สิงคโปร์ตรวจสอบแล้วเป็นอันตรายต่อการเคลื่อนย้ายให้ ทบ.สิงคโปร์ดำเนินการทำลายในไทย ณ สถานที่ซึ่ง ทบ.ไทยกำหนด ทั้งนี้ การเซ็นสัญญาดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจาก ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิได้ออกมาวิพากษ์ สิงคโปร์ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขายหุ้นชินคอร์ป ให้เทมาเซก โฮลดิ้ง ของสิงคโปร์ โดย พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ทำให้ความลับทางด้านความมั่นคงรั่วไหลไปที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้น พล.อ.สนธิยังปลุกกระแสทวงคืนสมบัติชาติ โดยเฉพาะดาวเทียม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่กลับมาเซ็นข้อตกลงให้สิงคโปร์เช่าพื้นที่ฝึกอาวุธแทน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ค่าเช่าครั้งนี้ทางกองทัพสิงคโปร์จ่ายเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวถือเป็นเงินนอกงบประมาณ ที่ ทบ.ไม่ต้องส่งคืนคลัง สำหรับความเคลื่อนไหวทางการ เมืองอื่นๆ นั้น นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เขียนบทความเตือน พล.อ.สนธิ เรื่องการลงเล่นการเมืองว่า “อย่าตกหลุมดำ” (black Holes) เพราะจะกลืนกินชื่อเสียงเกียรติยศไปจนหมดสิ้น เหมือนกับที่เคยเตือน พล.อ.สุจินดา คราประยูร มาแล้ว เมื่อปี 2535 ก่อนเกิดเหตุการณ์เดือน พ.ค. 2535 “ประธาน คมช. จึงต้องคิดดูให้ดีๆ และต้องรีบด้วย เพราะต้นไม้แห่งความไม่เชื่อถือไว้วางใจ กำลังโตวันโตคืน คำพูดแบบนักการเมืองที่กำกวม ทำให้ผู้คนเขาตีความกันไปแล้ว ด้วยความห่วงใย คำว่า 50-50 ทางการเมืองเขาแปลว่า 100” น.พ.ประเวศ กล่าว ที่มาจาก ข่าวจาก เอมไทยดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|