หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ ผ้าพันคอราคาถูก ราคาส่ง เชียงใหม่ ลำพูน

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวการเมือง
เว็บบอร์ด » ข่าวการเมือง
รายละเอียดของห้อง : ข่าวการเมือง ประเด็นร้อนน่าจับตา ตนเหนือเราต้องมีส่วนร่วม
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
สนธิเข้าบ้านสี่เสา ขอโทษป๋า สั่งฟันผู้ชุมนุมเด็ดขาด

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
สนธิเข้าบ้านสี่เสา ขอโทษป๋า สั่งฟันผู้ชุมนุมเด็ดขาด
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 25 ก.ค. 50 เวลา 00:30:43 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

หลังจากตำรวจระดมกำลังเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยฯ หรือ นปก. ที่ฝ่าด่านเข้าไปปักหลักปราศรัยได้ถึงหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ที่พักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จนทำให้เกิดการปะทะและมีผู้บาดเจ็บ ทั้งตำรวจและผู้ชุมนุมหลายสิบราย ทรัพย์สินเสียหายไปไม่น้อย ก่อนที่แกนนำ นปก.จะนำฝูงชนถอยกลับไปตั้งหลักที่ท้องสนามหลวง เมื่อล่วงเข้าสู่วันใหม่ในวันที่ 23 ก.ค. ขณะเดียวกัน ตำรวจก็เข้าเคลียร์พื้นที่หน้าบ้านสี่เสาฯ และบริเวณใกล้เคียงทันที

สำรวจความเสียหายรอบสี่เสาฯ 

ในช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ค. ที่บริเวณหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารตั้งแถวดูแลความเรียบร้อยอยู่รอบบ้านพัก ส่วนด้านหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดุสิตนำรถบรรทุก รถน้ำเข้ามาฉีดล้างถนนและเก็บเศษกระจก กระถางต้นไม้ และทำความสะอาด ส่วนที่หน้าร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์แม่บ้านทหารบกกระจกด้านหน้าร้านถูกทุบแตกละเอียด โดยเฉพาะตู้โชว์สินค้าที่อยู่ด้านในร้านถูกมือดีทุบแตกเช่นกัน นางปนัดดา สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา เลขานุการนายกสมาคมแม่บ้านทหารบกซึ่งเข้ามาดูแลความเรียบร้อยภายในร้าน กล่าวว่า ตอนนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เก็บกวาดเศษกระจกและสำรวจความเสียหายรวมทั้งมีสินค้าใดที่หายไปบ้าง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ 

“เสรีพิศุทธ์” เรียกประชุมเครียด

จากนั้นในเวลา 08.00 น. ที่ บช.น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. เรียกประชุมตำรวจมี พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. และตำรวจที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงในระดับ ผบก.ขึ้นไป เพื่อประชุมประเมินสถานการณ์เหตุผู้ชุมนุม  นปก.ก่อความวุ่นวายบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ เดินออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยไม่ให้ สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ด้าน พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ กล่าวว่า รักษาการ ผบ.ตร.เรียกประชุมประเมินสถานการณ์ความเสียหาย ตำรวจนครบาลได้รับบาดเจ็บประมาณ 110 นาย ตำรวจภูธร 1 ตชด. บช.ก. รวมแล้วประมาณ 200 นาย ที่บาดเจ็บสาหัสมากเป็นตำรวจกองปราบปราม ถูกผู้ชุมนุมขับรถชนขาหัก ส่วนตำรวจที่เหลือได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลแตกถูกกระจก ขวดที่ขว้างปาใส่ บางรายถูกก้อนอิฐ โดยเฉพาะ ผกก.ของกองปราบฯที่เข้ามาช่วยทำงานฟันหน้าบิ่น 2 ซี่ 

นายสั่งดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

พล.ต.ท.อดิศรกล่าวอีกว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งการดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด เบื้องต้นจับกุมไป 6 คน ยังมีอีกหลายคนที่ต้องถูกสอบสวน สั่งการให้ พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น.  รับผิดชอบด้านงานสอบสวน ตั้งคณะกรรมการสอบสวน เชื่อว่าภายใน 1-2 วัน คงจะสามารถออกรวบรวมเรื่องเสนอศาล พิจารณาออกหมายจับกลุ่มแกนนำ จากบทเรียนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าผู้ชุมนุมเริ่มใช้ความรุนแรง ได้ขับรถชนฝ่าแนวปิดกั้นที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ทุ่มแผงเหล็กใส่ตำรวจ ซึ่งตำรวจได้บันทึกภาพเหล่านี้ไว้อย่างละเอียด กลุ่มผู้ชุมนุมจงใจก่อให้เกิดความวุ่นวาย ยึดรถเมล์ไปขวางถนนบริเวณแยกสี่เสาฯและทำลายรถตำรวจ กระจกรถแตก ถูกเจาะยาง เจ้าหน้าที่ในรถเครื่องขยายเสียงบาดเจ็บ 3 นาย รวมทั้งขว้างปาใส่ ที่ทำการสมาคมแม่บ้านทหารบก กระจกแตก 5 แผ่น รถของ กทม.เสียหายหลายคัน จะเห็นว่าตำรวจไม่มีอาวุธ ใช้แต่โล่ป้องกันตัว พยายามเข้าไปเจรจาใช้สันติวิธี แต่ เมื่อผู้ชุมนุมประกาศว่าจะชุมนุมยืดเยื้อ และเริ่มใช้ความรุนแรง ตำรวจจึงตัดสินใจสลายการชุมนุม และเริ่มดำเนินการเมื่อราว 3 ทุ่ม ขณะที่ผู้ชุมนุมมีประมาณ 3-4 พันคน มีการยั่วยุปลุกระดมอยู่ตลอดเวลา ต้องใช้กำลังเข้าดำเนินการถึง 4 ครั้ง จึงต้องตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตาและกระบอง จึงสามารถสลายกลุ่มผู้ชุมนุมได้

เตรียมเสริมเขี้ยวเล็บ ตร.ปจ. 

ผบช.น.กล่าวว่า สิ่งนี้คงต้องเป็นบทเรียนกับตำรวจเมื่อช่วงเช้า รักษาการ ผบ.ตร. สั่งการให้หน่วย ปจ.ของผบช.น.และหน่วยสนับสนุนให้นำอาวุธ กระบอง โล่ รวมทั้งอุปกรณ์สลายฝูงชน มาดำเนินการอย่างเต็มที่ ต้องจัดระเบียบไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตำรวจต้องเตรียมความพร้อมมากกว่าเดิม ต้องดูแลเรื่องมือที่สาม ซึ่งมีหลายกลุ่มที่สนับสนุนประธานองคมนตรีไม่พอใจกลุ่ม นปก.ขอให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมาย ตำรวจจะเลือกปฏิบัติไม่ได้ ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมจะร้องเรียนเจ้าหน้าตำรวจที่ใช้ความรุนแรงถือเป็นสิทธิของผู้ชุมนุม ทางตำรวจก็มีหลักฐานการทำงาน ต่อข้อถามว่า ระหว่างที่รอหมายศาลจะส่งตำรวจไปประกบแกนนำไว้ก่อนหรือไม่ ผบช.น. ตอบว่า คงยังไม่ถึงขั้นนั้น ตำรวจทราบรายละเอียดของแกนนำอยู่แล้ว เมื่อศาลออกหมายมาก็ดำเนินตาม ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ในช่วงนี้ก็จะจัดกำลังเพิ่มมากขึ้นว่าเดิม เพราะยังมีเรื่องเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระแสเข้มข้นเพิ่มขึ้นทุกวันๆ 

แจ้ง 2 ข้อหาแกนนำที่ถูกรวบ

ส่วนที่ สน.สามเสน สายวันเดียวกัน พ.ต.อ.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผกก.สน.สามเสน เปิดเผยว่า ขณะนี้ พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. ตั้งชุดสืบสวน บช.น.ขึ้นมาดำเนินการจัดการกับกลุ่มก่อความวุ่นวายเมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน และในคืนเกิดเหตุทางตำรวจจับกุมผู้ต้องหาที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่และทำลายทรัพย์สินเสียหายได้ 6 คน ประกอบด้วย นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อายุ 26 ปี แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 นายบรรธง สมคำ อายุ 40 ปี นายวีระยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อายุ 44 ปี นายศราวุธ หลงเส็ง อายุ 26 ปี นายวีระศักดิ์ เหมธุริน อายุ 59 ปี และนายวันชัย นาพุทธา อายุ 40 ปี ดำเนินคดี 2 ข้อหา 1. มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำดังกล่าวแล้วไม่เลิก 2. ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ มีจำนวนกว่า 100 นาย ในขณะนี้มีผู้มาแจ้งความไว้แล้ว 54 นาย ซึ่งในจำนวนนี้มี ส.ต.ท.พันธ์กาญจน์ วัฒนะวรางกูร ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ถูกรถขยายเสียงของแกนนำ พุ่งชนจนขาซ้ายหักบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และถูกนำตัวส่ง รพ.วชิระฯ 

ยันดูแลผู้ต้องหาตามปกติ

ขณะที่ พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยกรณีนำผู้ต้องหาม็อบชุมนุมมาขังที่ สน.ทุ่งสองห้อง ว่า ได้รับตัวผู้ต้องหามาควบคุม 3 คน มีนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 นายบรรชง นพคำ และนายวีระยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ทั้ง 3 คนเป็นผู้ต้องหาที่ทาง สน.สามเสน ได้นำมาฝากขังเพื่อความปลอดภัย ส่วนอำนาจในการสอบสวนและการผลัดฟ้องฝากขัง เป็นหน้าที่ของ สน.สามเสน ที่นี่ดูแลแค่เรื่องการควบคุมตัว เหมือนผู้ต้องหาทั่วไป สามารถเยี่ยมได้ตามเวลาที่กำหนด ในเรื่องนี้ทางผู้บังคับบัญชาไม่ได้สั่งการอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีกลุ่มผู้ชุมนุมมาที่โรงพัก ทางเจ้าหน้าที่มีมาตรการอย่างไร พ.ต.อ.วัชรพงศ์ตอบว่า เบื้องต้นก็จะใช้กำลังของโรงพัก แต่ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมมีมาก ต้องรายงานผู้บังคับบัญชาขอกำลังมาเสริมอีกที ส่วนที่ สน.บางเขน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องหา 3 คนเช่นกัน มีนายวีระศักดิ์  เหมทุริน นายศราวุธ หลงเส็ง และนายวันชัย นาพุทธา โดย พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน กล่าวว่า ที่ สน.บางเขน เป็นสถานที่รับฝากให้ควบคุมตัว ไม่มีอำนาจสอบสวน จึงเพียงดูแลเรื่องความปลอดภัย 

“นพรุจ” โวยถูกหินขว้างใส่ 

จากนั้นได้มีญาติที่มาเยี่ยมผู้ต้องหารายอื่นได้นำจดหมายลายมือของนายนพรุจ เขียนด้วยดินสอมามอบให้กับสื่อมวลชนที่เฝ้าทำข่าวอยู่ โดยเนื้อความในจดหมายมีใจความว่า “เรียนพี่น้องสื่อมวลชนที่นับถือ ผมนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล นักวิจัยอิสระ แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ได้ถูกรุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ในระหว่างที่กำลังยืนปราศรัย ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ขว้างก้อนหินโดนผม 3 ก้อน ที่หน้าขาจนเจ็บ และกระผมพยายามห้ามปราม แต่เจ้าหน้าที่หาได้หยุดการกระทำ เรื่องจึงบานปลายดังกล่าว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเผชิญหน้ากับประชาชนอย่างเมามัน มีการสั่งการที่ผิด จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ” ลงชื่อนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล 23 ก.ค.50

“อภิรักษ์” สรุป กทม.เสียหายเพียบ  

ต่อมาในเวลา 11.50 น. ที่ศาลาว่าการ กทม. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. เรียกประชุมเจ้าหน้าที่มาหารือเรื่องความเสียหายที่เกิดจากการรวมตัวของม็อบนปก. โดยมีนายนิยม กรรณสูต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายยุทธศักดิ์ ร่มฉัตรทอง ผอ.เขตดุสิต และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม จากนั้นเปิดแถลงข่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้บาดเจ็บ 173 คน แยกเป็นตำรวจ 145 คน ทหาร 1 คน ประชาชน 27 คน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง เช่น รพ.วชิระ รพ.รามา รพ.ศิริราช รพ.ตำรวจ ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ กทม.ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือนายสุรเชษฐ์ ศรีวิไล พนักงานขับรถบรรทุกน้ำ คิ้วแตกเย็บ 5 เข็ม ส่วนทรัพย์สินทางราชการเสียหาย บุบ กระจกแตกจำนวนหนึ่ง แยกเป็นรถบรรทุกน้ำ รถขยะ 6 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 1 คัน และพื้นที่ทางเดินเท้าฝั่งบ้านสี่เสาเทเวศร์และฝั่งตรงข้ามถูกขุดเอาอิฐบล็อกตัวหนอนหายไปจำนวนหนึ่ง ที่เหลือเป็นต้นไม้ เกาะกลางมีทั้งตายและเสียหายจากการถูกย่ำ ซึ่ง กทม.จะรวบรวมรายละเอียดแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่นายยุทธศักดิ์กล่าวเสริมว่า มูลค่าความเสียหายของทรัพย์สินสาธารณะราว 50,000 บาท แยกเป็นบล็อกตัวหนอนริมถนนศรีอยุธยา ฝั่งบ้านสี่เสา-เทเวศร์และฝั่งตรงข้ามราว 50 ตร.ม. ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ที่เหลือเป็นไม้พุ่ม คันหิน และข้อความด่าที่พ่นใส่ผนังกำแพงโดยเจ้าหน้าที่จะได้เร่งซ่อมแซมและลบออก 

ผู้ชุมนุมยังป่วนอาจงดใช้สนามหลวง

นอกจากนี้ นายอภิรักษ์ยังกล่าวถึงการที่กลุ่มผู้ ชุมนุมยังมาปักหลักใช้พื้นที่ท้องสนามหลวงตั้งเวทีปราศรัยด้วยว่า กทม.และตำรวจจะดูสถานการณ์ไปก่อน แต่หลักการของการชุมนุมจะต้องทำอย่างสงบในพื้นที่หนึ่งและไม่มีการเคลื่อนไหว แต่เหตุที่เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพไว้หมดและผู้ที่กระทำผิดจะต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ กทม.จะได้ เชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมมาหารือ โดยจะย้ำในประเด็นการรวมตัวกันอยู่ที่สนามหลวงไม่เคลื่อนไหวไปไหน แต่ ถ้าไม่เป็นที่ตกลงหรือมีแนวโน้มทำไม่ได้ ก็จะไม่พิจารณาให้ใช้สนามหลวงเป็นที่ชุมนุม 

กลุ่มคนรักป๋าจี้รัฐบาลรับผิดชอบ 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดวันมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ตำรวจสลายผู้ชุมนุม นปก.จาก กลุ่มคนต่างๆ โดยที่ทำเนียบรัฐบาล มีกลุ่มคน 8 คน อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนจากกลุ่มเครือข่าย “คนรักสามัคคีถวายชีวีเพื่อในหลวง” “เครือข่ายนักศึกษาประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” และกลุ่ม “ภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย” เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ผ่านทางกองรับเรื่องราวร้องทุกข์ เรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อสถานการณ์ความวุ่นวายในบ้านเมืองจากเหตุการณ์ที่กลุ่มคนรักทักษิณ กลุ่มพีทีวี ได้ชุมนุมบุกรุกแนวกั้นทำลายทรัพย์สินทางราชการและโจมตีประธานองคมนตรี คมช. และ ครม.ด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่ของรัฐปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้น จนเกิดความวุ่นวาย และยังไม่มีบุคคลใดหน่วยงานใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทำให้ประชาชน ที่มาชุมนุมเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จึงเห็นสมควรให้รัฐบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบ และชี้แจงต่อพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความสามัคคีในบ้านเมือง 

ขู่นายกฯดึงพลังเงียบเข้ากรุง 

ทั้งนี้ นายอนุรักษ์ ผ่องเผือก แกนนำกลุ่มคนรักสามัคคีถวายชีวีเพื่อในหลวง ยังกล่าวด้วยว่า ทางกลุ่มสนับสนุนให้มีการจับตัวแทนนำ นปก. รวมถึงนายจักรภพ เพ็ญแข และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เพราะอยู่ในเหตุการณ์ และหากกลุ่ม นปก. ยังเคลื่อนไหวต่อไป โดยที่นายกรัฐมนตรีไม่จัดการให้เด็ดขาด ตนก็จะรวบรวมกลุ่มคนรักป๋าทั้งจากจังหวัดต่างๆ ที่เป็นพลังเงียบกว่า 1 แสนคน เดินทางเข้ามาให้กำลังใจ พล.อ.เปรม ใน กทม. 

“ประสงค์” ฟันธงไม่มีมือที่ 3 

ที่รัฐสภา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเช่นกันว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของขบวนการที่ต้องการโค่นล้มรัฐธรรมนูญ ทำลายความเชื่อถือของรัฐบาล และฝ่ายทหาร จนต้องไปดึงเอา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เข้ามาด้วย หากต้องการให้บ้านเมืองสงบ ให้มีการเลือกตั้งตามที่กำหนดไว้ ก็ควรช่วยกันประคับประคองไปให้ถึงวันเลือกตั้ง จะได้มีการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาแก้ไขปัญหา ส่วนที่จะมาอ้างว่ามีมือที่สามเข้ามาป่วนนั้น คงอ้างไม่ได้ เพราะภาพชัดเจนว่าใครก่อเรื่อง โทรทัศน์ ถ่ายทอดตลอดเวลา ก็เห็นกันอยู่ ภาพที่เห็นคือฝ่ายรัฐพยายามใช้ความอดทนอย่างมากที่จะแก้ปัญหาด้วยความนิ่มนวล อะลุ้มอล่วย แต่ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไปจะเคยตัว และยิ่งทำให้บ้านเมืองสับสนวุ่นวาย ประชาชนจะไม่เชื่อถือในเจ้าหน้าที่รัฐ 

จี้ ตร.-ทหารจัดการขั้นเด็ดขาด

น.ต.ประสงค์ยังตอบคำถามถึงการนำมาตรการเด็ดขาดมาใช้กับผู้ก่อเหตุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ต้องระงับยับยั้งไม่ให้เกิดความวุ่นวายที่ไปกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการสัญจร หรือการว่ากล่าวโจมตีอย่างไม่สุภาพ ใช้ถ้อยคำรุนแรงหมิ่นประมาท ต้องจัดการให้เด็ดขาด จะอ่อนแอไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะไปกันใหญ่ พร้อมทั้งมองว่าอาจต้องเตรียม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินไว้บ้าง เพราะประมาทคนมีเงินมหาศาลไม่ได้ ที่ย่อมต่อสู้ทุกรูปแบบ เพื่อคว่ำคู่ต่อสู้ และเชื่อว่าคงไม่หยุดอยู่แค่นี้ คงมีอะไรรุนแรงขึ้นมาอีก แต่การแก้ปัญหาคงไม่ ยุ่งยากหากติดตามความเคลื่อนไหวของพวกแกนนำ หรือดำเนินการกับแกนนำที่กระทำผิด ตำรวจและทหารควรปรึกษาหารือกันว่า มาตรการที่เคยใช้มาใช้ได้ผลมากน้อยแค่ไหน แล้วมองไปข้างหน้าว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งโทษฐานก่อความวุ่นวาย คนเกิน 10 คน มีโทษถึงจำคุก เพราะหากไม่มีแกนนำ คนเหล่านี้ก็คงไม่มา และแกนนำก็เป็นเครื่องมือของคนมีเงินอีกที ใช้กันมาเป็นทอด 

ทรท.ปัดไม่มีเอี่ยว นปก.

ในส่วนของนักการเมือง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง นปก. กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า แม้จะมีอดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยไปร่วมกับ นปก. แต่ถือเป็นเรื่องส่วนตัว และยืนยันว่านโยบายของกลุ่มตอนนี้ ไม่ เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปก.แต่อย่างใด ขณะที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง แกนนำกลุ่มไทยรักไทย ก็กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าความสมานฉันท์ยังไม่เกิดขึ้น ตามข้ออ้างในการยึดอำนาจของ คมช. ที่ต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ 

“อภิสิทธิ์” ไม่หนุนใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า เชื่อว่าคนไทยสวนใหญ่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ และขอเรียกร้องผู้ชุมนุมให้ใช้สิทธิเสรีภาพอย่างมีขอบเขต ไม่นำไปสู่ การเป็นเงื่อนไขของความรุนแรง พร้อมทั้งแนะตำรวจต้องใช้ความอดทนในการระวังไม่ให้เกิดการปะทะ แต่กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย ส่วนจะกระทบถึงภาพลักษณ์ ของประเทศหรือไม่นั้น เชื่อว่าเราจะไปปฏิเสธความจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ต้องอธิบายว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร และคิดว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นเรื่องการประกาศภาวะฉุกเฉิน 

ครป.แนะ นปก.ลดใช้พวกห้าว 

ส่วนนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ไม่น่าจะเกิดเหตุความรุนแรงขึ้น หากทั้ง 2 ฝ่ายยึดแนวทางเจรจาหรือไกล่เกลี่ยกัน โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่หากมุ่งหมายจะจับตัวแกนนำ ควรประกาศออกมาให้ชัดเจนว่ามีความผิดอะไร จำเป็นต้องจับเพราะอะไร เพราะการตั้งแถวใช้กำลังเจ้าหน้าที่เดินเข้าไป แบบนั้น สุ่มเสี่ยงเกินไป แม้จะพยายามไม่ใช้ความรุนแรงใดๆก็ตาม แต่ก็หลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้ ส่วนฝ่ายผู้ ชุมนุม นปก. ก็เห็นชัดเจนถึงการใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ และพยายามทำลายทรัพย์สินทางราชการ ซึ่งเป็นพวกฮาร์ดคอร์อยู่แถวหน้า จนเกิดการปะทะตลอดเวลา ซึ่งผู้ร่วมชุมนุมส่วนใหญ่อาจไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง แต่ยากที่จะห้ามปรามกันได้ จนทำให้การชุมนุมสูญเสียความชอบธรรมได้ ดังนั้น หากกลุ่มผู้ชุมนุมยึดมั่นแนวทางสันติวิธีจริงๆ การ์ดหรือผู้ดูแลความปลอดภัยส่วนหน้า จะต้องมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ และจากเหตุการณ์เมื่อคืน พบว่าแกนนำบนรถไม่สามารถควบคุมมวลชนได้ ซึ่งถ้าปล่อยให้พวกฮาร์ดคอร์อยู่เหนือการควบคุมแบบนี้ แกนนำต้องพร้อมรับผิดชอบหากเกิดความรุนแรงขึ้นอีก พร้อมกันนี้ นายสุริยะใสยังแสดงความแปลกใจที่ นปก.เลือกมาชุมนุมที่บ้านสี่เสาฯเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นจุดที่ล่อแหลมและสุ่มเสี่ยงมากที่สุด 

คนสงขลากร้าวเล่นงาน “วีระ”

ส่วนในหลายจังหวัดภาคใต้ ก็มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่ม  นปก. โดยที่ จ.สงขลา บริเวณบ้านธำมรงค์ สงขลา บ้านเกิดของ พล.อ.เปรม นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศบาลนครสงขลา นายนวพล บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และหลายหน่วยงาน แถลงข่าวต่อต้านการกระทำของนายวีระ มุสิกพงศ์ ที่ออกมาจาบจ้วง พล.อ.เปรม และมีการเปิดเวทีปราศรัยโจมตีนายวีระให้หยุดล่วงเกินพล.อ.เปรม ซึ่งหากยังไม่หยุดก็จะรวมตัวกันเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปเผชิญหน้ากับกลุ่มของนายวีระ และในวันที่ 26 ก.ค.นี้ คนในจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง จะเดินทางไปที่บ้านพ่อแม่ของนายวีระ ที่อำเภอระโนด เพื่อยื่นหนังสือให้พ่อของนายวีระบอกลูกชายว่าให้หยุดการกระทำดังกล่าว แต่ถ้าไม่หยุด ชาวสงขลาจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายวีระด้วย 

เผาพริกเกลือแช่ง 3 นปก.ใต้

ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช นายพิชัย บุญยเกียรติ อดีต ส.ว.นครศรีธรรมราช ในฐานะแกนนำ “กลุ่มรักป๋าเปรมเมืองคอน” เปิดแถลงข่าวที่ศาลาประดู่หก ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่า จากการประชุมแกนนำในกลุ่มรักป๋าเปรมเมืองคอนได้ข้อสรุปว่า จะเคลื่อนไหวเพื่อปกป้อง พล.อ.เปรม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้รักษากติกาบ้านเมือง โดยในวันที่ 24 ก.ค. ทางกลุ่มฯจะนำช่อดอกไม้ไปมอบให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. ผ่านทาง พล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีกับกลุ่ม นปก. จากนั้นในวันที่ 25 ก.ค. จะทำพิธีเผาเกลือตามประเพณีโบราณที่สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อสาปแช่งแกนนำ นปก.ที่เป็นคนใต้คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เชื่อว่าด้วยพลังของความเกลียดชังของชาวใต้จะส่งผลให้คนที่ถูกสาปแช่ง ไม่พบกับความสุขความเจริญอย่างเด็ดขาด จากนั้นก็จะแยกย้ายไปสมทบกับกลุ่มรักป๋าเปรมสุราษฎร์ธานี เพื่อเดินทางไปบ้านเกิดของนายจตุพรที่ อ.นาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ในขณะที่ส่วนหนึ่งจะแยกไปที่บ้านเกิดของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และอีกชุดหนึ่งจะนำสมาชิกไปสมทบกับกลุ่มสงขลาเดินทางไปที่บ้านเกิดของนายวีระใน อ.สทิงพระ จ.สงขลา ไปแจ้งพฤติกรรมของบุคคลเหล่านี้ให้ญาติพี่น้องทราบ เพื่อให้ญาติมิตรช่วยกันตักเตือน และหยุดพฤติกรรมอันไม่สมควรของบุคคลเหล่านี้ 

ห้ามประกันตัวผู้ชุมนุมทั้ง 6 

จากนั้นในช่วงบ่าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ได้สั่งดำเนินคดีตามกฎหมายผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ทั้งหมด หลังทนยอมมาโดยตลอด ดังนั้นได้กำชับพนักงานสอบสวนให้แจ้งความดำเนินคดีทุกข้อหา ใครที่กระทำผิดในภาพเราจะสืบสวนหาตัวมาดำเนินคดี และออกหมายจับให้หมด และยืนยันการที่ไม่สามารถเข้าไปจับกุมแกนนำได้ ไม่ได้ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ที่ผ่านมาเคยเชิญมาพูดคุยกัน แต่กลุ่มแกนนำไม่มา ซึ่งเมื่อไม่ยอมมาพูดคุยกัน ก็ว่าไปตามกฎหมาย พร้อมทั้งย้ำว่าจากนี้ไป ใครอยากจะไปชุมนุมต้องไปชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ห้ามออกจากท้องสนามหลวงเด็ดขาด ถ้าเคลื่อนออกมาจะใช้ กฎหมายและใช้กำลัง ใครอยากจะลองดีกันก็เอา ส่วนคนที่ถูกจับ 6 คนนั้น ยังไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากเมื่อคืนมีทรัพย์สินเสียหาย ตำรวจได้รับบาดเจ็บประมาณเกือบ 200 คน ตนยังโดนที่ศีรษะแต่เป็นเด้ง 2 เพราะโดนคนอื่นมาก่อนแล้วมาโดนตนเอง

ตำรวจเจ็บกว่า 300 สาหัส 2

ด้าน พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลสรุปยอดตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บกรณีผู้ชุมนุมประท้วงทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ารักษาความสงบและอำนวยการจราจร  บริเวณบ้านสี่เสาเทเวศร์ และบริเวณใกล้เคียง เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 17.30 น. จนเสร็จสิ้นภารกิจ ประกอบด้วย บช.น.1 จำนวน 55 นาย อาทิ ตำรวจ 191 จำนวน 108 นาย, น.8 จำนวน 36 นาย, น.2 จำนวน 6 นาย บช.ก.บาดเจ็บ 122 นาย, ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 11 นาย, ภาค 2 จำนวน 8 นาย, ภาค 7 จำนวน 5 นาย และ ตชด. 4 นาย รวม 355 นาย ทั้งนี้มีตำรวจระดับรอง ผบก.ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะดังกล่าวคือ พ.ต.อ.ฉันทวิทย์ รามสูตร รอง ผบก.น.1 ได้รับบาดเจ็บที่ตาและปากแตก รวมทั้ง ผกก.191 ปากแตกฟันหัก ทั้งนี้ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ของกองร้อย ปจ.กองร้อยที่ 2 บก.น.8 คือ ด.ต.นรา วังมะนาว สน.ตลาดพลู (จร.) อาการบาดเจ็บระบบหายใจขัดข้อง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ขณะสลายม็อบ แต่ขณะนี้รู้สึกตัวดี รักษาอาการอยู่ห้องไอซียู รพ. ตำรวจ และ จ.ส.ต.สุเทพ วารีหลั่ง สน.บางยี่เรือ อาการบาดเจ็บตาบวม สมองกระทบกระเทือน แต่รู้สึกตัวดีพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง 601 รพ.ตำรวจ

“บิ๊กบัง” เสียใจทหารถูกตีหัวแตก

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น. ที่หอประชุมกองทัพบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่ม นปก.ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค. ว่า ตอนนี้ประชาชนคงจะได้เห็นแล้วว่ากลุ่มพีทีวีทำถูกมากน้อยแค่ไหน ที่ผ่านมาพยายามอะลุ้มอล่วยตามระบอบประชาธิปไตยบนจิตสำนึกที่ดี แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาควบคุมในการจัดระเบียบสังคม โดยที่ผิดก็ว่ากันไปตามหลักฐานที่มีอยู่ และเชื่อว่าภายในวันสองวันนี้คนทั้งประเทศจะชี้ขาดได้เองว่าอะไรควร อะไรไม่ควร พร้อมกันนี้ก็ยืนยันว่ารู้ล่วงหน้าแล้วว่าม็อบจะมาล้อมบ้านพัก พล.อ.เปรม แต่ไม่คิดว่าจะทำกันถึงขนาดนี้ และรู้สึกเสียใจแทนตำรวจที่ถูกทำร้ายนับร้อยนาย รวมถึง พ.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ รอง ผบ.พล.1 รอ. ที่บาดเจ็บและเย็บไปหลายเข็ม ส่วนการจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่นั้น เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นตัวชี้วัดว่าควรจะมีอะไร

รุดกราบขอโทษป๋าแต่เช้า

นอกจากนี้ พล.อ.สนธิยังกล่าวด้วยว่า เมื่อเช้าได้ เข้าไปขอโทษ พล.อ.เปรม ยอมรับว่าอาจจะดูแลท่านไม่ดี ท่านเองก็ไม่คิดว่าพวกนี้จะทำกับท่านถึงขนาดนี้ เพราะตลอดเวลาท่านได้ดูแลชาติบ้านเมืองผ่านร้อนผ่านหนาวมา ที่สำคัญท่านรักประเทศ และท่านจงรักภักดี อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นท่านคงไม่สบายใจ เพราะท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และรถหลายคันวิ่งไปกล่าวในสิ่งที่ไม่เหมาะควร ซึ่งท่านคงได้ยิน ส่วนเรื่องที่จะให้ท่านลาออก ต้องถามว่าท่านทำอะไรผิด และก็เชื่อว่ากลุ่มที่สนับสนุน พล.อ.เปรม มีจิตสำนึกที่ดี ต้องการเห็นความสงบเรียบร้อยของประเทศ จะไม่มาปะทะกับกลุ่มพีทีวี ดังนั้นการมาให้กำลังใจเป็นการบอกคนทั้งประเทศว่า หลายคนยังจงรักภักดีต่อสถาบันและยังรักท่านอยู่

อย่าดึงลงมาคลุกสิ่งไม่ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากล้ม พล.อ.เปรมได้ ก็สามารถล้ม คมช.ได้ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน อย่าไปพูดอย่างนั้น ไม่ดี เราอย่าไปเอาท่านลงมาข้างล่างกับสิ่งที่ไม่ดี ยกท่านไว้เถอะถือว่าท่านเป็นปูชนียบุคคลที่เราทุกคนต้องช่วยกันดูแล แต่เมื่อถามว่า พล.อ.เปรมน้ำตาคลอหรือร้องไห้ใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า โอ๊ย....ลูก ผู้ชายร้องไห้ได้ยังไง  

การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ที่ คมช.

เมื่อถามถึงมาตรการป้องกัน ยังคงใช้แผนพิทักษ์ 1 หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า เรามีแผนอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อถามว่า หากผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง คมช.จะไม่เปิดพื้นที่ในการชุมนุมอีกใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ถ้าเรายอมรับระบอบประชาธิปไตยแบบของเรา ก็คงทำได้ ส่วนเรื่องการเตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินหรือไม่นั้น พล.อ.สนธิกล่าวว่า สถานการณ์จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าควรจะประกาศหรือไม่ เมื่อคืนนี้ขณะเกิดเหตุได้ติดต่อกับนายกรัฐมนตรีอยู่ตลอด การตัดสินใจอยู่ที่เราว่าจะประกาศหรือไม่ ถ้าเราโอเค ทางนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีปัญหา 

ไม่สบายใจสังคมแตกเป็นชั้นๆ

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า มันแตกต่างกันคนละอย่าง เอามาเทียบกันไม่ได้ ตอนนั้นประชาชนมีความรู้สึกที่ตรงกัน แต่ตอนนี้ประชาชนรู้สึกอีกอย่างที่ไม่ตรงกับกลุ่มพีทีวี ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้กังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าเป็นภาระหน้าที่ที่เราต้องทำ คิดว่าประชาชนเข้าใจปัญหาดี ทุกคนอยากให้มีการเลือกตั้ง กองทัพก็พยายามคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้ประ-ชาชนโดยเร็ว ฉะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องแยกไว้คนละส่วน จริงๆแล้วตนรู้สึกไม่สบายใจมานานแล้ว ไม่ใช่ แค่เรื่องเมื่อคืนนี้ แต่ไม่สบายใจในเรื่องที่เกี่ยวกับสังคมไทยที่กำลังแตกแยก เกิดเป็นชั้นๆ มานานแล้ว กองทัพอยากเห็นความสมัครสมานสามัคคี หากเป็นอย่างนี้ แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง   ไม่ใช่เฉพาะทหาร ก็ต้องรู้สึกไม่สบายใจแน่นอน 

ชี้ยังไม่ถึงเวลาทหารออกลุย 

จากนั้น พล.อ.สนธิยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้สั่งให้กองทัพภาคต่างๆ จับตาดูกลุ่มผู้ชุมนุมที่อาจขยายตัวไปตามภาคต่างๆแล้ว ส่วนเรื่องการจับกุมแกนนำพีทีวีนั้น เป็นเรื่องของตำรวจ ซึ่งได้คุยกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แล้วและรับปากว่าจะเร่งดำเนินการ การจะจับกุมแกนนำ เพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับศาลออกหมาย ส่วนการใช้ อำนาจทางทหารนั้น ยอมรับว่าทำได้ง่ายก็จริง แต่ยังไม่ ถึงเวลา ขณะนี้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน แต่สำคัญที่ ว่าเวลาที่จะทำมาถึงหรือยัง ประชาชนจะเป็นผู้ชี้ว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง เพราะทหารมีความอดทนก็จริง แต่ถ้าประชาชนบอกว่าไม่พอใจ นั่นคือถึงเวลาสิ้นสุดความอดทน ซึ่งดูสถานการณ์ข้างหน้าก่อน แล้วค่อยว่ากัน  

“สุรยุทธ์” รับห่วงฝูงชนปะทะตำรวจ

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีม็อบ นปก.ปะทะกับตำรวจที่เข้าสลายการชุมนุมที่หน้าบ้านสี่เสา-เทเวศร์ ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. มารอพบเพื่อรายงานเหตุการณ์กับตนอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ที่ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งที่มีความเห็นที่แตกต่างและทำให้เกิดความรุนแรง พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ก็มีความเป็นห่วง แต่ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ คงเข้าใจ ทางเจ้าหน้าที่และรัฐบาลก็พยายามที่จะดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่เมื่อผู้ที่แสดงออกด้วยความรุนแรง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนและไม่ยอมรับเป็นเรื่องที่ตนคิดว่าเราพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างเต็มที่ด้วยวิธีการที่นุ่มนวลคงไม่ใช่เฉพาะกรณี แต่ในหลายๆเรื่องที่รัฐบาลได้ดำเนินการมา

ขอเจรจาให้อยู่ในที่จำกัด

เมื่อถามว่า ดูเหมือนเจตนาของผู้ชุมนุมต้องการให้เกิดความรุนแรงรัฐบาลจะใช้วิธีใดเข้าไปจัดการกับผู้ชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อไป พล.อ.สุรยุทธ์ตอบ ว่า ก็คงต้องใช้หลายๆวิธี และทำอย่างไรที่จะทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ด้วยว่าเราต้องแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่จะก่อความยุ่งยากก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา และอย่างที่สองก็คงจะต้องพูดจาทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการว่าควรจะจำกัดอยู่ในบริเวณซึ่งได้ตกลงกันไว้ก็น่าจะพอเพียง ไม่ควรจะไปแสดงความคิดเห็นไปแสดงออกในลักษณะที่เกินกว่าที่ได้ตกลงกันไว้ ต่อข้อถามว่า ขณะนี้อารมณ์ของม็อบ นปก.ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า คิดว่าอยู่การดูแล ถ้าเผื่อว่าฝ่ายมีอารมณ์แต่อีกฝ่ายไม่มีก็คงไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก ถ้ามีอารมณ์อยู่ฝ่ายเดียวก็ให้เขาระบายออกได้บ้าง แต่ก็ควรอยู่ในเฉพาะที่ไม่ควรจะระบายออกทั่วๆไป 

ให้สำนึกในความเป็นคนไทย

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา นปก.ไม่ยอมเจรจาในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องการเจรจาด้วย แต่มีการเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้ชุมนุมและพยายามมุ่งจะให้เกิดความรุนแรงตลอดเวลาภาพข่าวก็ถูกแต่แผ่ไปทั่วโลก รัฐบาลจะเข้าไปแก้ปัญหาอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ก็จะต้องหารือกันเป็นเรื่องๆไป คงไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าจะทำอะไรในแต่ละขั้นตอนอย่างไร แต่ในหลักการก็คือเราต้องทำความเข้าใจและคิดว่าอย่างที่เรียนแล้วสื่อมวลชนเองก็ควรจะช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนคนไทยด้วยว่าเราไม่อยากเห็นสิ่งที่เป็นความรุนแรงในสังคมของเรา บ้านเมืองของเราก็บอบช้ำมาพอสมควร ถ้าหากว่าใช้ความรุนแรงเข้าไปทำให้เกิดความบอบช้ำมากขึ้นอีก มันไม่ได้ เป็นสิ่งดี เราพูดกันถึงว่าเราเป็นคนไทยแต่เราไม่เคยนึกว่าเราจะช่วยกันแก้ไขปัญหาในบ้านเมืองของเราอย่างไรเรามีแต่ทำให้เกิดปัญหา มีแต่ทำให้เกิดความบอบช้ำตนคิดว่ามันไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นคนไทยที่อยากจะทำให้บ้านเมืองของเราดีขึ้น 

เมื่อถามว่า เป็นเพราะเรานุ่มนวลเกินไปหรือไม่ จึงทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความฮึกเหิม พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า อย่างที่ได้เรียนแล้วว่าการที่จะแก้ไขปัญหาควรต้องใช้วิธีการเจรจามากกว่า ถ้าใช้ความรุนแรงเข้าไป ไม่ได้ช่วยให้การแก้ไขปัญหานั้นสำเร็จลงไปได้ เพราะอีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องตอบมาด้วยความรุนแรงเช่นกัน และยืนยันว่ายังไม่ทราบว่าจะรุนแรงหรือไม่ แต่พยายามที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆไม่ให้เกิดความรุนแรง  
เชื่อ “ป๋าเปรม” หนักแน่นพอ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว. กลาโหม ระบุว่า อาจจะต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนั้น และหลังเหตุเมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค. ยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับ พล.อ.เปรม คิดว่าคงจะมีโอกาสได้เรียนหารือกับท่านในโอกาสข้างหน้าต่อไป และคิดว่าท่านมีความหนักแน่น ท่านเป็นผู้ใหญ่ เห็นอะไรมามากพอสมควร 

นปก.เชื่อทหารร่วมวงตี

ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปก.ที่เริ่มคึกคักขึ้นในช่วงเย็น เมื่อแกนนำบางส่วนเปิดแถลงข่าวถึงเหตุสลายการชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค. โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศให้ความสนใจมาทำข่าวเป็นจำนวนมาก โดย นปก.ได้นำภาพนิ่งและภาพจากวีดิโอเทป บันทึกเหตุการณ์การสลายการชุมนุม ซึ่งเป็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำร้ายผู้ชุมนุมมาเปิด รวมทั้งนำพยานบุคคลเป็นหญิงวัยกลางคนมาเล่าเหตุการณ์ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เท้ากระทืบกลางหลัง ทั้งนี้ นายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวว่า นปก.เชื่อว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุ คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. เพราะมีการนำทหารมาแต่งตัวเหมือนตำรวจทำร้ายประชาชน ซึ่ง นปก.กำลังหาทางดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลทั้งสาม 

เตรียมนำภาพไปประจานที่ยูเอ็น 

นายจักรภพกล่าวอีกว่า การเคลื่อนขบวนไปบ้าน พล.อ.เปรม ไม่มีอะไรที่ผิดแปลก จากการเคลื่อนขบวนของ นปก.ในทุกๆครั้ง การฝ่าด่านตำรวจก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความรุนแรง เมื่อถึงบ้านสี่เสาฯ ก็ปราศรัยกันอยู่หลายชั่วโมง   ไม่ได้มีการทำลายสถานที่ราชการ แต่อยู่ๆตำรวจกลับมาทำร้ายประชาชนก่อน จึงต้องปกป้องตัวเอง ขอยืนยันว่าแกนนำ  นปก.ทุกคนพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเผด็จการ ทั้งยังเตรียมนำวีดิโอบันทึกภาพเหตุการณ์ไปฟ้องกับองค์การสหประชาชาติ เพราะมีภาพชัดเจนว่าตำรวจปิดประตูตีแมว พยายามทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดมีตัวเลขผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลวชิระ 47 คน และมีการมาแสดงตัวหลังเวทีอีกราว  43  คน  รวมแล้วน่าจะเป็นร้อยคนขึ้นไป ทั้งยืนยันว่าฝ่าย นปก.ไม่ได้เริ่มก่อน และคนที่นำอาวุธมาก็ไม่ใช่คนของ  นปก.  

ไม่ปักหลักสู้แค่สนามหลวง  

ด้าน นพ.เหวง  โตจิราการ แกนนำ  นปก.  กล่าวว่า แผนการต่อไปของ นปก.หลังจากนี้ คือจะปักหลักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไปจนถึงที่สุด ยืนยันว่าตอนนี้จะต้องมีเวทีปราศรัยของ นปก.อยู่ที่สนามหลวงต่อไปทุกคืน รวมทั้งจะต้องมียุทธการดาวกระจายออกไปในต่างจังหวัดในรูปแบบเมืองประสานชนบท ส่วนการเคลื่อนไหวในรูปแบบอื่นๆ ใน กทม. เช่น การเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมนั้น ยืนยันว่าต้องมีอีกแน่ๆ แต่ไปทำอะไรที่ไหนอย่างไร แกนนำทั้ง 8 คน จะหารือและตัดสินใจกันอีกครั้ง สำหรับเรื่องที่ตำรวจจะออกหมายจับแกนนำ   นปก.จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะยอมไปมอบตัวหรือไม่ แต่เบื้องต้นต้องการให้มาจับที่เวทีสนามหลวงมากกว่าไม่ได้ต้องการใช้ประชาชนเป็นเกราะ   แต่ไม่อยากเดินแบบหนูเข้าไปในกรง

รวมคนเจ็บเข้าแจ้งความกองปราบ

ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.สถานีโทรทัศน์พีทีวี กล่าวเสริมว่า การที่ พล.อ.สนธิออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะเข้าพบ พล.อ.เปรม เพื่อขอโทษ เพราะดูแลสถานการณ์ได้ไม่ดีพอ ตนอยากให้ประธาน คมช.สำนึกบุญคุณภาษีประชาชนที่ส่งเสียท่านตั้งแต่ร้อยเอกถึงพลเอก ไม่มีเหตุผลอะไรที่ประธาน  คมช.ต้องไปกราบขอโทษป๋าเปรม ถ้าท่านมีใจเป็นประชาธิปไตย  ควรออกมาขอโทษประชาชนที่ถูกตำรวจทำร้ายมากกว่า และในบ่ายวันที่ 24 ก.ค.นี้จะรวบรวมประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บเข้าแจ้งความที่กองปราบฯ และขอประกาศว่า หากมีการออกหมายจับ ก็จะเดินทางไปมอบตัวที่กองปราบฯ และจะไม่ขอประกันตัวอย่างเด็ดขาด จะขออยู่ในคุก เพื่อให้เห็นว่าไม่ยอมศิโรราบกับเผด็จการ  

หลังจากนั้น บรรดาแกนนำ นปก.ได้ขึ้นเวทีเปิดการปราศรัย ทำให้บรรยากาศที่สนามหลวงกลับมาคึกคัก แม้เพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ถูกสลายการชุมนุม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหัวร้างข้างแตกไปจำนวนไม่น้อย แต่ไม่อาจทำให้กลุ่มแฟนพันธุ์แท้ย่นย่อ เพราะยิ่งฟ้ามืดก็มีคนเดินทางมาฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น โดยหลายคนยังพกพาความโกรธแค้นที่ถูกตำรวจทำร้าย พากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ด่าทออย่างดุเดือด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ฝังตัวดูสถานการณ์ในสนามหลวงราย งานว่า มีประชาชนเดินทางมาชุมนุมในช่วงค่ำกว่า 4.5 พันคน เช่นเดียวกับกำลังตำรวจนครบาลนับร้อยนาย ยังคงมาทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยรอบสนามหลวงตามปกติ ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ยังได้ขึ้นกล่าวเปิดเวทีปราศรัยด้วยถ้อยคำและลีลาดุดัน ระบุตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าถูกหมายจับ จะไม่ขอประกันตัว และตอนนี้ลาภรรยาพ่อแม่ไว้เรียบร้อยแล้ว

ข่าวจากไทยรัฐ

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1410

แสดงความคิดเห็น โดย กรรมกรข่าว IP: Hide ip , วันที่ 25 ก.ค. 50 เวลา 00:30:43
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี