ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้เข้าร่วมในพิธีแจกวุฒิบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมวิชาพยากรณ์ประจำปี 2550 ของสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ที่หอประชุมหน่วยกำลังสำรอง กรม การรักษาดินแดน กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มพิธี นายพิศิษฎ จิรวาณิชไพศาล อุปนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ได้ดูลายมือให้กับนายอภิสิทธิ์ทั้งสองข้างแล้วทำนายว่า ช่วงอายุย่าง 44-45 ปี นายอภิสิทธิ์จะมีความโดดเด่นด้านการเมือง มีผู้ใหญ่ ผู้ที่มีอำนาจให้การสนับสนุน และน่าจะได้เป็นผู้นำสูงสุด ซึ่งเส้นอาทิตย์ก็แสดงถึงความยิ่งใหญ่มีอำนาจ แต่เส้นวาสนาไม่ค่อยสวย เกี่ยวกับงานจะเหน็ดเหนื่อย แต่ก็จะผ่านไปได้ 

          ทั้งนี้ เมื่อถามว่า สามารถฟันธงได้หรือไม่ว่านายอภิสิทธิ์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี อุปนายกสมาคมโหราศาสตร์ฯ กล่าวว่า ตรวจแค่ลายมือของนายอภิสิทธิ์คนเดียวจึงยืนยันไม่ได้ว่า จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ต้องดูลายมือคนอื่นที่คาดว่า จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยจึงจะบอกได้ว่า ใครจะได้เป็น ดังนั้น จึงฟันธงไม่ได้ แต่ยืนยันได้ว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนมีชื่อเสียงทางการเมืองแน่นอน ส่วนช่วงอายุ 49 ปี จะดีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

          ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมาธิการยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีแนวคิดให้เพิ่มสินบนนำจับการซื้อสิทธิขายเสียงว่า ถ้าพยายามหาวิธีให้คนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อจับการทุจริตเป็นเรื่องที่ดีถ้าไม่รู้จะใช้วิธีอะไรจูงใจ แต่ขอให้ระมัดระวังเรื่องการกลั่นแกล้งกันด้วย พรรคประชาธิปัตย์เคยเสนอไปว่า กรณีที่มีการกลั่นแกล้งกันจะต้องเพิ่มโทษเป็น 2 เท่า คิดว่า แบบนี้ คงไปได้  

          “ส่วนตัวไม่อยากให้ใช้เงิน ควรใช้การรณรงค์ขอความร่วมมือกันดีกว่า แต่เข้าใจว่า เป็นความตั้งใจดีที่ต้องการหาวิธีการในการเอาผิดกับผู้ซื้อสิทธิขายเสียง เพราะต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการพูดกันมาก เกิดขึ้นมาก แต่จับได้น้อย” หัวหน้า ปชป. กล่าว และว่า เห็นว่า กฎหมายลูกในเรื่องของพรรคการเมืองยังมีจุดที่น่าเป็นห่วงในเรื่องการปฏิบัติที่มีรายละเอียดมากเกินไป ส่วนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว.นั้นยังเหมือนเดิม

          เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่รายละเอียดของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ ดูเข้มข้นและรุนแรง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในวันที่ 10 ก.ย. จะไปร่วมงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และในวันที่ 11 ก.ย. จะไปร่วมงานของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคงมีผู้บริหารพรรคฯ ไปร่วมด้วย โดยจะสะท้อนประเด็นปัญหาไม่ว่าเรื่องเงินบริจาค หรือการที่เสนอให้สมาชิกพรรคเพียงนิดเดียวเปิดประชุมวิสามัญเพื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองได้ ซึ่งตรงนี้ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง 

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงเรื่องรายละเอียดต่างๆ ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า ต้องพูดให้เห็นถึงสภาพปฏิบัติ วันนี้ ต้องเอากฎหมายก่อน อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรมคงไม่ใช่อยู่ที่กฎหมาย และเมื่อมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งที่แน่นอน หรือ เปิดรับผู้สมัครแล้ว กกต. ควรเชิญพรรคการเมืองมาหารืออีกครั้งเพื่อซักซ้อมความเข้าใจให้เป็นการเลือกตั้งที่ดีและสร้างสรรค์ 

          หัวหน้า ปชป. กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายต้องการให้ยกเลิกกฎอัยการศึกก่อนวันเลือกตั้งว่า  เป็นการสนับสนุนให้การเลือก ตั้งมีบรรยากาศที่มีเสรีภาพที่ดีที่สุด แต่ถ้ายังมีปัญหาเรื่องความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตรงนี้ พอจะเข้าใจได้ แต่ในพื้นที่ปกติควรเปิดให้มีเสรีภาพมากที่สุด การจะไปใช้อำนาจพิเศษจำกัดอะไรหลายอย่างจะกระทบกับคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดมากกว่าคนที่ทำผิด เพราะคนที่ทำผิดรู้อยู่แล้วว่า ใช้กระบวนการใต้ดินมากกว่า 

          นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรครวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ จะปรึกษาหารือทางการเมืองในวันที่ 11 ก.ย.นี้ ว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่า จะหารือกันเรื่องอะไร ไม่เช่นนั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์เหมือนที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ระบุ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ 3 พรรคแน่นอน ขอให้รอให้ถึงวันนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า คงไม่มีอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคไหนไปรวมกับใคร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ


ข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

ข่าวจากกระปุกดอทคอม