หลังจากประชาชนรับทราบแถลงการณ์จากสำนักพระราชวังเมื่อค่ำวันที่13 ตุลาคม ถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระอาการพระวรกายด้านขวาอ่อนแรงคณะแพทย์จึงขอพระราชทานให้ประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ จึงเดินทางไปเฝ้าที่ชั้นล่างของอาคารจำนวนมาก เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้นำแผ่นไม้อัดอย่างหนามาปูทับบริเวณทางระบายน้ำด้านข้างอาคารเฉลิมพระเกียรติเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ประชาชนได้นั่งรอเฝ้ารับเสด็จพระบรมวงศ์ 

          ล่าสุดสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 มีใจความว่า "วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานว่า พระอาการทั่วไปดีขึ้น ความดันพระโลหิตปกติ ระบบการหายใจปรกติ พระวรกายด้านขวาที่อ่อนแรง รวมทั้งพระพาหา (แขนตั้งแต่ไหล่ถึงข้อศอก) ที่อ่อนแรงไปบ้างมีแรงมากขึ้น คณะแพทย์ได้เตรียมถวายการรักษาทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และคาดว่าจะถวายโดยวิธีดังกล่าวนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง  

          จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันสำนักพระราชวัง 14 ตุลาคม พุทธศักราช 2550" 

          ต่อมาเวลา 11.55 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราชโดยมีคณะผู้บริหารโรงพยาบาลมาเฝ้ารับเสด็จ และพสกนิกรพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองเข้าเฝ้าฯ อยู่บริเวณโถงชั้นล่างของอาคารจำนวนมาก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชปฏิสันถารกับประชาชนอย่างใกล้ชิด ทรงขอบใจ พร้อมกับโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวลให้ประชาชน สร้างความปลื้มปีติแก่ประชาชน ซึ่งบางคนถึงกับน้ำตาคลอ กระทั่งเวลา14.34 น. จึงเสด็จฯ ออกจากโรงพยาบาลศิริราช 

          จากนั้นเวลา 18.20 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ กลับมายังอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อเฝ้าพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีคณะแพทย์ พยาบาล ที่ถวายการรักษาพระอาการ และท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล เฝ้ารับเสด็จ ทั้งนี้ มีพระราชปฏิสันถารกับ นางอภินันท์ พรเพชรสุข อายุ 62 ปี พสกนิกรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จ โดยทรงถามว่า บ้านอยู่ที่ไหน ซึ่งนางอภินันท์ ตอบว่า อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ วันนี้เดินทางมาหาลูกชาย ซึ่งทำงานอยู่ที่กรมชลประทาน เมื่อรู้ข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงรีบมาเฝ้ารอรับเสด็จ โดยขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตรัสว่า ขอบใจ ในหลวงทรงสบายดีแล้ว พร้อมทั้งแย้มพระสรวล แล้วเสด็จฯ ขึ้นไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 16 สร้างความปลื้มปีติแก่ผู้ที่มาเฝ้ารอรับเสด็จอย่างยิ่ง บางรายถึงกับน้ำตาไหล พร้อมกับตะโกนขอทรงพระเจริญดังกึกก้อง 

          ต่อมา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้เสด็จมายังอาคารเฉลิมพระเกียรตินายสุวิทย์ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมาเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กล่าวว่า ทรงขอบใจ พร้อมกับมีพระราชดำรัสว่า พระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดีขึ้น 

          น.ส.จุไรเพชรนก อายุ 58 ปีพนักงานบริษัทย่านรังสิต จ.ปทุมธานี ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชปฏิสันถารด้วย เล่าว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชกระแสให้คนไทยร่วมกันถวายกำลังใจแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้รู้สึกซาบซึ้งมาก และก้มลงกราบแทบพระบาทของพระองค์ พร้อมกล่าวทรงพระเจริญ 

          วันเดียวกันสำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. ณบริเวณศาลาศิริราช 100 ปีปรากฏว่ามีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจกันสวมเสื้อเหลืองมารอร่วมลงนามก่อนเวลาอย่างเนืองแน่น 

          ทั้งนี้แจกันดอกไม้และช่อดอกไม้ที่ประชาชนและบุคคลสำคัญนำมาทูลเกล้าฯถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจำนวนมากนั้น ได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวังว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังนำไปมอบแก่ผู้ป่วยอายุรศาสตร์ ที่ตึกอัษฎางค์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ด้านทิศเหนือ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ สร้างความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นแก่ผู้ป่วย โดยนางยุพาวรรณแย้ม ผู้ป่วยโรคต่อมใต้สมองอักเสบ เป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมกล่าวว่า รู้สึกตื้นตันใจและปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ สำหรับดอกไม้พระราชทานจะเป็นกำลังใจในการต่อสู้อาการป่วยของตน และขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว 

          ในส่วนของพล.ต.ท.อัศวินขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ซึ่งเดินทางมาดูแลความปลอดภัยตั้งแต่เวลา 05.00 น.กล่าวว่า ได้จัดกำลังโดยรอบโรงพยาบาลและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อถวายอารักขา พร้อมกันนี้ได้ประสานกับโรงพยาบาลในการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับประชาชนที่เดินทางมาร่วมลงนามในสมุดถวายพระพร 

          ด้านนายอภิรักษ์ กล่าวว่า กทม.เปิดท้องสนามหลวงตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ประชาชนจอดรถตั้งแต่เวลา08.00-24.00 น. พร้อมจัดรถรางรับส่งจากลานจอดรถมายังท่าพระจันทร์เพื่อข้ามมายังท่าวังหลังไปยังโรงพยาบาลศิริราช และสั่งเจ้าหน้าที่เทศกิจกระจายกำลังอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนบริเวณท่าเรือ และถนนสายต่างๆ เพื่อเดินทางมายังโรงพยาบาลด้วย

          ขณะที่พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าคณะพราหมณ์ สำนักพระราชวัง ที่มาร่วมลงนามถวายพระพร กล่าวว่า ตามปกติแล้วคณะพราหมณ์มีการสวดตั้งจิตอธิษฐานเพื่อถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการภายในอยู่แล้ว เพื่อให้ทรงมีพระพลามัยแข็งแรง ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมตั้งจิตอธิษฐานในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกแห่งเพื่อถวายพระพร 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชนยังทยอยมาร่วมลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง นายปิยธวัชตุ่มมะ ผู้อำนวยการกองศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หนึ่งในพสกนิกรที่มารอเข้าเฝ้าฯ กล่าวว่า เมื่อทราบว่าในหลวงทรงพระประชวร ก็เดินทางมาพร้อมกับภรรยาและลูกสาว 2 คน เพื่อลงนามถวายพระพร 

          "ทันทีที่รู้ข่าว ความรู้สึกมันอัดแน่น น้ำตามันไหลออกมาเอง เป็นความรู้สึกที่ผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ที่ผ่านมาผมมักจะสอนลูกสาวทั้งสองคนให้ยึดแนวพระราชดำริของในหลวง และพระองค์ท่านปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อคนไทยโดยไม่หยุดพัก เราเป็นคนไทยจะต้องเห็นบุญคุณของท่าน รวมถึงให้ยึดแนวทางการดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง อนุรักษ์ความเป็นไทยไว้" นายปิยธวัช กล่าวพร้อมน้ำตา 

          นางอุบลชนะกุล อายุ 68 ปี อดีตอาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนทวีธาภิเศก กล่าวว่า ทราบข่าวว่าในหลวงประชวรถึงกับน้ำตาซึมออกมาทันที ไม่อยากให้พระองค์เจ็บปวด ทั้งนี้ ในช่วงที่พระองค์ประชวรครั้งที่แล้ว ก็เดินทางมาเฝ้า 15 วันเต็มๆ ส่วนครั้งนี้ก็เช่นกันและต้องใส่เสื้อเหลืองมาแสดงความจงรักภักดีทุกวัน จนกว่าพระองค์จะเสด็จออกจากโรงพยาบาล 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร มอบหมายให้นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ เป็นตัวแทนร่วมลงนามถวายพระพร โดยมีข้อความในสมุดลงนามถวายพระพรว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ในนามของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขอกราบถวายบังคมแทบเบื้องพระยุคลบาท ขอให้ทรงหายพระประชวร และขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม" ทั้งนี้ นายบรรณพจน์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวฝากทางโทรศัพท์ให้ตนมาลงนามถวายพระพร 

          กระทั่งเย็นวันเดียวกันประชาชนจำนวนมากยังคงกางร่มปักหลักอยู่บริเวณหน้าพระราชานุสาวรีย์พระบรมราชชนก พร้อมเฝ้ามองไปยังชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงทยอยเดินทางมาลงนามถวายพระพรเป็นระยะๆ เช่น ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล นายอานันท์ ปันยารชุน และวันที่ 15 ตุลาคม สำนักพระราชวังจะเปิดให้ลงนามถวายพระพรตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่สำนักพระราชวังได้จัดตั้งโต๊ะลงนามถวายพระพร ซึ่งในวันนี้มีประชาชนเดินทางมาลงนามถวายพระพรตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. รวมทั้งสิ้น 8,873 คน อย่างไรก็ตาม หลังการปิดโต๊ะลงนาม ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งพระภิกษุสงฆ์เดินทางมาร่วมลงนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจะได้บันทึกเพื่อตรวจนับจำนวนผู้ลงนามรวมในวันที่ 15 ตุลาคมต่อไป ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. 

          ทั้งนี้ เวลา 19.28 น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.อ.หญิงคุณหญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยา เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- "ในหลวง" ประทับโรงพยาบาลศิริราช ตรวจพระสมอง


ข้อมูลจาก

ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก และทางอินเทอร์เน็ต

ข่าวจาก กระปุกดอทคอม