| • ปชป.นัดเติ้ง-สนั่น ยํ้าความสัมพันธ์ |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 05 พ.ย. 50 เวลา 09:54:59 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 พ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคจะแจกเอกสารวาระประชาชนให้กับ 157 สาขาพรรค สาขาละ 120,000 ฉบับ โดยจะให้สาขาพรรค ผู้สมัคร ส.ส.แจกจ่ายให้แก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีวาระประชาชนอะไรบ้าง ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนระบุว่า การนำเสนอนโยบายของพรรค ประชาชนไม่เชื่อว่าจะทำได้จริงนั้น นายองอาจตอบว่า วาระประชาชนทุกเรื่อง พรรคยืนยันว่าทำได้จริง มีการคำนวณตัวเลขงบประมาณไว้แล้ว สามารถนำเงินมาดำเนินการได้ทันทีและในวันที่ 7 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะนำผู้สมัครระบบสัดส่วนไปรับสมัคร เลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม วันที่ 5 พ.ย. กรรมการบริหารพรรคจะประชุมพิจารณาอนุมัติรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ รวมทั้ง ส.ส.ระบบสัดส่วนด้วย โดยเฉพาะรายชื่อสัดส่วนของ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการจะตัดสินวันนั้นเป็นวันสุดท้าย ซึ่งจะมีชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นอันดับที่ 1 ระบบสัดส่วนภาคนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการจะนำไปรณรงค์หาเสียงให้ประชาชนสนับสนุนพรรคเพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ดังนั้น ส.ส.ระบบสัดส่วนจะพิจารณาคนที่มีความเหมาะสม ผูกพันกับพรรคและมีชื่อเสียง
ปชป.นัด “เติ้ง-เสธ.” ย้ำสัมพันธ์เดิม
นายองอาจกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 6 พ.ย. พรรคจะเชิญนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยและ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ มาคุยกันที่ร้านช้อนเงินช้อนทอง โดยจะมีการคุยกันเรื่องการเมือง การรณรงค์หาเสียง รวมถึงข้อห้าม กฎระเบียบและกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า จะคุยกันถึงการร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายองอาจกล่าวว่า เร็วเกินไป เอาไว้ดูว่าประชาชนจะให้การสนับสนุนแต่ละพรรคการเมืองอย่างไร ซึ่งเรากับพรรคชาติไทยก็เคยร่วมงานกันมาทั้งที่เป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการเลือกตั้งจะยังมีความสัมพันธ์กันเหมือนเดิมหรือไม่ นายองอาจตอบว่า ไม่มีสัญญาณอะไรที่จะเปลี่ยนแปลง ใจถึงใจกันอยู่แล้ว
เตรียมเปิดโผ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่ออนุมัติผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเพิ่มเติม 20 คน และผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนทั้ง 8 โซน โดยมีโซนที่น่าสนใจ เช่น โซน 5 อันดับ 1. นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ 2. พ.อ.วินัย สมพงษ์ 3. นายภุชงค์ รุ่งโรจน์ อดีต ผวจ.ปทุมธานี โซน 6 อันดับ 1. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค 2. นายเจริญ คันธวงศ์ 3. นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ 4. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รองเลขาธิการพรรค โซน 7 อันดับ 1. พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา 2. นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค 3. นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ อดีตรองประธานวุฒิสภา 4. นายสุวโรช พะลัง อดีต ส.ส.ชุมพร โซน 8 อันดับ 1. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค 2. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค 3. นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี 4. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค 5. นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ 6.นายนิพนธ์ บุญญามณี รองเลขาธิการพรรค 7. นายพีรยศ ราฮิมมูลา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 8. นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ อดีต ส.ส.ภูเก็ต 9. นายโกเมศ ขวัญเมือง อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ในแต่ละโซนยังเปลี่ยนลำดับได้อีก เพราะยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะโซน 7 ที่นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ กับนายสุวโรช พะลัง ต่างแสดงความจำนงที่จะลงลำดับที่ 3 ให้ได้ เพราะลำดับ 4 เสี่ยงที่จะสอบตก
“ไกรศักดิ์” เปิดตัวผู้สมัครโคราช
เมื่อเวลา 08.30 น. ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี กลางใจเมือง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีต ส.ว.นครราชสีมา แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ภาคอีสาน ได้นำสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 3 คน ในเขต 1 อ.เมือง และ อ.ขามทะเลสอ ประกอบด้วย นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีต ส.ว.นครราชสีมา นายสันทัด จึงพิชาญวนิช อดีต ส.ท. และนายสมโภช ปราสาทไทย ทีมงานการเมืองของนายพิเชฐ นอกจากนี้ยังเปิดตัวผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 6 ประกอบด้วย นายกฤษฎาง แถวโสภา อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา นายธีระวัฒน์ บุญอยู่
นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ แกนพรรคประชาธิปัตย์ภาคอีสาน กล่าวว่า ตัวผู้สมัครของ จ.นครราชสีมา 6 เขต 16 คน ลงตัวเกือบทุกเขตแล้ว คิดว่าภายในวันที่ 5 พ.ย. จะประกาศพร้อมกันทั่วประเทศได้ทั้งหมด ส่วนภาคอีสาน และ จ.นครราชสีมา ตั้งเป้าหมายว่าพรรค จะส่งลงสนามทุกจังหวัด และหวังได้รับเสียงมากในตัวเมืองใหญ่ๆทุกเมือง โดยเฉพาะเขต 1 ในทุกจังหวัด คราวนี้พรรคไม่ถอยแน่ และขอสู้เต็มที่เลย
เปิดตัว “พิจิตต” ลงสู้สนาม กทม.
ทางด้านพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเขต 8 พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานสภาที่ปรึกษายุทธศาสตร์พรรค ร่วมกันเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเขต 8 (บางนา พระโขนง ประเวศ สวนหลวง) พร้อมกับเปิดตัวผู้สมัครพรรคเขต 8 ประกอบด้วย นายพิจิตต รัตตกุล นายจิรากรณ์ คชเสนี และนายเกษมสันต์ วีระกุล โดย พล.อ.เชษฐากล่าวว่า พรรคมีนโยบายในการหาตัวคนเก่ง คนดีมาร่วมงาน และถ้าได้เป็นรัฐบาลก็จะสรรหาคนเก่ง คนดีมาทำงานให้บ้านเมือง ทั้งนี้ รู้สึกสบายใจและมั่นใจที่พรรคได้เปิดตัวผู้สมัครเขต 8 ซึ่งมีนายพิจิตตเป็นหัวหน้าทีม จะมาช่วยรณรงค์ปัญหาสิ่งแวดล้อมของ กทม. มั่นใจว่า ผู้สมัครทั้ง 3 คนมีคุณภาพคับแก้วในระดับชาติและระดับโลก ส่วนผู้สมัครเขตอื่นๆพรรคจะทยอยเปิดตัวต่อไป
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รองหัวหน้าพรรค รช. กล่าวว่า อยากเรียกทีมผู้สมัครเขต 8 ของพรรคว่า “ทีมอัลโจ” เพราะมีขุนพลด้านสิ่งแวดล้อมที่มีฝีมือระดับโลกอย่างนายพิจิตต และนายจิรากรณ์ และมีขุนพลด้านเศรษฐกิจอย่างนายเกษมสันต์ เทียบได้กับทีมอัลกอร์ของนายอัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้รับรางวัลโนเบลด้านสิ่งแวดล้อม
“ดร.โจ” ยอมรับมดงานซบพรรคอื่น
ด้านนายพิจิตต รัตตกุล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 กทม. พรรค รช. ในฐานะหัวหน้ากลุ่มมดงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีผู้สมัคร ส.ส.ของกลุ่มมดงานย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดินว่า ยอมรับว่ามีผู้สมัครบางคนของกลุ่มไปอยู่พรรคอื่น ไม่ใช่เรื่องแปลกว่าผู้สมัครของกลุ่มมดงานจะต้องอยู่ที่เดียวกันหมด เพราะให้ความเป็นอิสระกัน เช่น นายอัศวิน อภัยวงศ์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การที่ผู้สมัครของกลุ่มมดงานย้ายไปอยู่พรรคอื่นไม่ใช่เพราะปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับกลุ่มกรุงเทพฯ 50 แต่เนื่องจากผู้สมัครของกลุ่มมีความสนิทส่วนตัวกับทีมงานพรรคอื่นจึงไปร่วมงานกัน
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครช.กล่าวว่า ปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนเป็นเรื่องปกติของการเลือกตั้งทุกสมัย ไม่อยากให้ตื่นเต้นกันมาก เรื่องการส่งตัวผู้สมัครของพรรคนั้น คณะกรรมการคัดเลือกตั้งผู้สมัครของพรรคได้พิจารณาตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตใน กทม.ได้ข้อยุติแล้ว ขณะที่ตัวผู้สมัครแบบสัดส่วนใน กทม.ก็พิจารณาเสร็จเกือบ 100% แล้ว ส่วนพื้นที่จังหวัดอื่นๆนั้นลงตัวแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ พรรคจะส่งตัวผู้สมัครทั้งแบบแบ่งเขต และสัดส่วนครบทุกพื้นที่ ไม่มีการฮั้วเรื่องการส่งตัวผู้สมัครกับพรรคอื่นแน่นอน สำหรับการเป็นพันธมิตรกับพรรคการเมืองอื่นนั้น ไว้รอดูสถานการณ์หลังวันที่ 23 ธ.ค. แล้วค่อยมาพูดคุยกัน
“สุวัจน์” ฟุ้ง รช.กวาด ส.ส.50 ที่นั่ง
ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาสภายุทธศาสตร์พรรค รช. กล่าวว่า จากการประเมินในหลายพื้นที่โดยดูจากนโยบายพรรค ความนิยม และตัวผู้สมัครแล้วเชื่อมั่นว่า พรรค รช.จะมีที่นั่งใน กทม.แน่นอน และหากพิจารณาจากภาพรวมทั้งประเทศจากฐานที่มั่นทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และ กทม.บางส่วนของพรรคแล้ว มั่นใจว่าพรรคจะได้ตัวเลข ส.ส. 50 ที่นั่ง โดยดูจากพื้นฐานจากอดีต ส.ส. นโยบาย ภาพพจน์พรรค ตลอดจนสถานการณ์ ของคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม ยังมีตัวแปรอีกหลายส่วนที่ต้องรอดูจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง เช่น หากดูแลไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง การซื้อเสียง เชื่อว่าพรรคจะได้ ส.ส.มากขึ้น แต่ถ้ามีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พรรคก็อาจเสียเปรียบเพราะพรรคทำงานการเมืองด้วยอุดมการณ์ และนโยบาย ไม่ซื้อเสียง ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้นายกร ทัพพะรังสี ได้ย้ายไปอยู่พรรคชาติไทยเรียบร้อยแล้ว นายสุวัจน์ตอบว่า ผมไม่ได้เจอพี่กรเลย แต่ขอให้พี่โชคดี
ลั่นสนามโคราช รช.แพ้ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่เพราะ กกต.และ ครส.ประเมินว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีเงินสะพัดเป็นแสนล้านบาท นายสุวัจน์ตอบว่า ไม่ทราบตัวเลขดังกล่าว แต่คิดว่าปัญหาการซื้อเสียง ซื้อตัว ส.ส. เป็นมหันตภัยต่อระบบการเมืองของประเทศ ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้ระบบการเมืองไม่ได้รับการยอมรับหรือมีความชอบธรรม ปัญหาของประเทศก็ไม่ยุติ ถ้าอยากให้สถานการณ์ทุกอย่างจบต้องช่วยกันให้การเลือกตั้งมีความชอบธรรม ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความมั่นใจเรื่องจำนวน ส.ส.นครราชสีมาทั้งในระบบเขตและสัดส่วนเพียงใด เพราะจะต้องชนกับหัวหน้าพรรคอื่นๆที่อยู่ในพื้นที่เลือกตั้งเดียวกัน นายสุวัจน์ตอบว่า จ.นครราชสีมา ในทางการเมือง โคราชถือเป็นเมืองหลวงของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ดังนั้นรบที่เมืองหลวงแพ้ไม่ได้ ซึ่งพรรคจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมาในวันที่ 8 พ.ย.นี้
“กุลธน” โต้กรุงเทพฯ 50 อยู่รวมใจไทย
ด้าน พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ รองเลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) อดีตหัวหน้ากลุ่มกรุงเทพฯ 50 กล่าวถึงกรณีมี ส.ส.กลุ่มกรุงเทพฯ 50 ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดินว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนได้ประกาศจุดยืนในการทำงานการเมืองอย่างชัดเจนไปแล้วว่า ต้องการทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ไม่ใช่เป็นนอมินีใครหรือต้องการย้ายพรรคไปมาเพื่อจะต่อรองใดๆ ดังนั้น อดีตผู้สมัครกลุ่มกรุงเทพฯ 50 จึงมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ในนามพรรค รช. แม้จะไม่มีปัจจัยด้านต่างๆเพียงพอเหมือนกลุ่มอื่น ส่วนปัญหาความขัดแย้งเรื่องการทับซ้อนพื้นที่ผู้สมัคร ส.ส.กับกลุ่มมดงานนั้น ขณะนี้ไม่มีปัญหาใดๆแล้ว จะขอสู้ศึกเลือกตั้งในนามพรรค รช. โดยหวังว่าเมื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พ้นจากการปลดล็อกบ้านเลขที่ 111 แล้ว จะร่วมทำงานกับท่าน เพราะเชื่อมั่นว่าสามารถนำพาประเทศฟันฝ่าวิกฤติต่างๆได้
“เชษฐา-ประดิษฐ์” ลง ส.ส.สัดส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วนของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาที่จะเปิดตัวในวันที่ 5 พ.ย. อาทิ โซนที่ 1 ภาคเหนือ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง มีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นผู้สมัครลำดับที่ 1 โซนที่ 2 ภาคเหนือตอนล่าง อาทิ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ มีนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นผู้สมัครลำดับที่ 1 โซนที่ 3 อาทิ อำนาจเจริญ มุกดาหาร อุดรธานี หนองบัวลำภู มีนายโชคสมาน สีลาวงษ์ เป็นผู้สมัครลำดับที่ 1 โซนที่ 4 อาทิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มีนายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล เป็นผู้สมัครลำดับที่ 1 โซนที่ 5 อาทิ สระแก้ว นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา มี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นผู้สมัครลำดับที่ 1 และ พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ เป็นผู้สมัครลำดับที่ 2 โซนที่ 8 อาทิ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส มีนายพิเชษฐ สถิรชวาล เป็นผู้สมัครลำดับที่ 1
โวยจ้องยึดทรัพย์ “ทักษิณ” คนเดียว
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 12.00 น. ที่โรงแรมเรดิสัน นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชนและที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการสอบสวนกรณีหวยบนดิน ที่มีนายอุดม เฟืองฟุ้ง เป็นประธาน สรุปผลการสอบสวนการออกหวยบนดินโดยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้รัฐเสียหายและสูญรายได้กว่า 37.7 หมื่นล้านบาทว่าผลสรุปของนายอุดมทางเราไม่ยอมรับ เพราะหากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณไม่นำหวยใต้ดินมาไว้บนดิน รายได้ของรัฐบาลก็เท่ากับศูนย์บาท ถึงอย่างไรหน่วยงานของรัฐเหล่านี้ก็ไม่มีรายได้ ในทางตรงกันข้ามการที่รัฐบาลเปิดให้จำหน่ายหวยบนดิน รัฐกลับมีรายได้จากภาษีการพนันเป็นเงินหลายพันล้านบาท และมีส่วนแบ่งร้อยละ 4.5 จากยอดขาย ดังนั้นรัฐจึงไม่ได้รับความเสียหายใดๆจากเรื่องนี้ ยืนยันว่าการจำหน่ายหวยบนดินไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา และเชื่อว่าจะแก้ประเด็นข้อกล่าวหาได้หมด เพราะเงินที่ได้นำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ ทำถูกต้องตามกฎหมายและผ่านประชาพิจารณ์ อีกทั้งรัฐบาลปัจจุบันก็เห็นด้วยกับการออกหวยบนดิน กำลังออกกฎหมายเพื่อจำหน่ายหวยบนดินอีกครั้ง
“ส่วนที่มีการระบุว่าจะมีการยึดทรัพย์บางคนโดยไล่เบี้ยกับรัฐมนตรีในสมัยนั้น สมมติว่าถ้าผิดจริงต้องไล่ยึดกับรัฐมนตรีทั้งคณะ ไม่ใช่มายึดทรัพย์แค่ พ.ต.ท. ทักษิณคนเดียว เรื่องนี้ต้องทำให้เสมอภาค ต้องยึดทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯและรัฐมนตรีทุกคนใน ครม.” นายนพดลกล่าว
อดีต ผอ.อสมท ร่วมทีมเศรษฐกิจ
นายนพดลกล่าวว่า ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ พรรคจะเปิดตัวทีมเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อดีตกรรมการผู้อำนวยการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกหลายคนเข้าร่วมงาน ขณะที่ความคืบหน้าการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วน ซึ่งนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ได้แสดงความจำนงขอลงสมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนในกลุ่ม 5 ส่วน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคอาจลงสมัครในระบบสัดส่วน กลุ่ม 4 เพราะเคยทำงานในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ มาก่อน ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยังไม่ทราบ แต่ถ้าท่านมาร่วมงานกับเราจริงก็น่าจะเป็นกลุ่ม 6 พื้นที่ กทม.
เตรียมแจกวีซีดีไลฟ์สไตล์ “ทักษิณ”
นายนพดลกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำวีซีดีบันทึกการใช้ชีวิตประจำวัน พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อนำมาเผยแพร่ในเมืองไทยว่า คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์นี้ ส่วนที่จะนำมาเผยแพร่ช่วงใกล้หาเสียงเลือกตั้ง เพราะว่าทำเสร็จพอดีไม่ได้จงใจนำมาหาเสียง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีพิธีกรชื่อดังของเมืองไทยที่มีชื่อเล่น “ด” ได้ติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์การใช้ชีวิตประจำวัน พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อนำมาออกอากาศปลายเดือน พ.ย.นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้สัมภาษณ์หรือไม่ เพราะเกรงว่าอาจ ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง สำหรับกรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาปรามาสพรรคพลังประชาชนว่าจะไม่ได้เป็นรัฐบาลนั้น อยากฝากถึงนายอลงกรณ์ว่า ไม่ควรมาปรามาสฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้พรรคตัวเองดูดี การประเมินตัวเลขใครก็ทำได้ทั้งนั้น แต่ประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นคนตัดสิน ส่วนกรณีที่ กกต. ออกมาระบุว่าที่ จ.มหาสารคามเริ่มมีการซื้อหัวคะแนนที่เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวละ 5,000 บาทนั้น ยืนยันว่าพรรคพลังประชาชนไม่เกี่ยวข้อง เพราะเรามีงบจำกัดไม่ได้มีเงินมากมายจะไปดำเนินการอย่างนั้นได้ ระดมทุนยังได้น้อยกว่าคนอื่น และอำนาจรัฐไม่ได้อยู่ข้างเรา อยากให้ กกต.ตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพราะเราต่อต้านการทุจริตซื้อเสียง
“ประชัย” เต้นสั่งเช็กสัญญาลูกพรรค
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคมัชฌิมาธิปไตย ภายหลังที่มีกระแสข่าวว่านายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ไม่พอใจที่ถูกอดีต ส.ส.ที่ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นเชิดเงินหนี ซึ่งพรรคทยอยให้ไปใช้ในการหาเสียงตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะอดีต ส.ส.กลุ่มวาดะห์ประมาณ 7-8 คนที่ให้ไปหลายรอบ รวมเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายประชัยได้สั่งให้ทีมงานทำการตรวจเช็กระบบการจัดสรรเงินของ ส.ส.อย่างละเอียด โดย เฉพาะการทำสัญญาเงินกู้ระหว่าง ส.ส.กับพรรค ที่ต้องเป็นไปตามกฎหมายการฟอกเงิน รวมไปถึงการตรวจสอบประวัติทางการเงินจากบุคคลที่สามด้วย แตกต่างจากแต่ก่อนที่ไม่ค่อยได้เข้มงวดอะไรปล่อยๆ กันไปทั้งหมดเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย กลุ่มวาดะห์ และกลุ่มอดีต ส.ส.อีสานที่ย้ายออกไปอีก ส่วนเงินที่เสียไปพรรคต้องทำใจ เพราะพฤติกรรมของนักการเมืองเหล่านี้จะไม่คืนเงินที่ไปรับมาแล้ว
“ชูวิทย์” แฉข้อมูลซื้อเสียงชนชาติไทย
ทางด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีที่จะแถลงถึงการฟอกเงินในวงการเมืองว่า จะเปลี่ยนสถานที่จากเดิมที่นัดสื่อมวลชนแถลงที่สวนชูวิทย์ ถนนสุขุมวิท 10 ในวันที่ 5 พ.ย. มาเป็นลานด้านหน้าอาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน เวลา 11.30 น. แทน เนื่องจากวิเคราะห์แล้วเห็นว่ารัฐสภาถือเป็นจุดเกิดและจุดจบของการเลือกตั้งหรือที่มาของการเลือกตั้ง เพราะไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองหรือผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ต่างก็อยากก้าวสู่สภาอันทรงเกียรตินี้ จึงแถลงให้ประชาชนในสังคมได้รับรู้ขั้นตอน กระบวนการฟอกเงินของวงการเมืองว่าเป็นมาอย่างไร พรรคได้มาอย่างไร ไปสู่นักเลือกตั้งอย่างไร ท้ายที่สุดก็ไปถึงมือชาวบ้านตาดำๆที่หัวคะแนนจ่ายให้หัวละ 200-300 บาท อยากสะกิดให้ กกต.ที่เป็นเหมือนยักษ์มีตะบองตื่นจากหลับแล้วมาแก้ไขปัญหานี้เสียที แต่ก็ไม่รู้ว่า เมื่อตนชี้ช่องต้นเหตุของที่มาของเงินให้แล้วจะกล้าจัดการหรือไม่ เพราะที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นการแก้ไขปัญหาซื้อเสียงที่ปลายเหตุทั้งนั้น
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงนัดแถลงในช่วงเวลาเดียวกับที่พรรคชาติไทยจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครลงเลือกตั้ง นายชูวิทย์ตอบว่า ไม่ทราบว่าพรรคชาติไทยแถลงเปิดตัวผู้สมัครกี่โมง คงเป็นสคริปต์เดิมๆที่เปิดตัวบอกชื่อ สวมเสื้อพรรค มอบดอกไม้ บอกที่มา หากสื่ออยากทำข่าวตามสคริปต์เดิมๆก็ไปพรรคชาติไทย แต่หากอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับการฟอกเงินและอนาคตทางการเมืองของตนก็ให้มาที่หน้ารัฐสภา
ประชามติครวญหมดเงินสู้เลือกตั้ง
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ รร.ชาลีน่า พรรคประชามติได้มีการประชุมสัมมนาและปฐมนิเทศผู้สมัคร ส.ส. โดยนายประมวล รุจนเสรี หัวหน้าพรรคประชามติ กล่าวว่า พรรคมีมติเสนอตัวนายกรัฐมนตรีเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้ตัดสินใจ ตนจึงขอเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ตัดสินใจ พร้อมกับพรรคจะขายนโยบายเรื่องกองทุนพัฒนาจังหวัดละ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งพรรคมั่นใจว่าถ้าประชาชนต้องการกองทุน 1 หมื่นล้านบาท ให้เลือกนายประมวลเป็น นายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามขณะนี้พรรคมีปัญหาด้านค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเลือกตั้ง ทางพรรคจึงมีมติให้ขอกู้เงิน 20 ล้านบาท จากประชาชน ไม่ว่าจะ 50-100 บาทพรรคยินดีที่จะกู้เงินมาทำงานการเมือง รวมถึงบริษัทห้างร้านต่างๆที่จะสนับสนุนพรรคได้ถือว่าเป็นการบอกบุญสำหรับผู้ที่ศรัทธาพรรค
ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1401 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 05 พ.ย. 50
เวลา 09:54:59
|
