| • กกต.จัดพิธีสาบานตนที่วัดพระแก้ว |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 16 พ.ย. 50 เวลา 09:32:35 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
|
ทางด้านบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม คณะกรรมการการเลือกตั้งได้เชิญพรรคการเมืองร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณตนตามโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ โดยมี พรรคการเมืองต่างๆเดินทางมาร่วมงานประมาณ 30 คน อาทิ พรรคมัชฌิมาธิปไตยมาเป็นลำดับแรก นำโดยนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรค ตามมาด้วยพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครักเมืองไทย พรรคนำวิถี พรรคความหวังใหม่ พรรคไทเป็นไท เกษตรกรไทย นิติศาสตร์ไทย มหาชนและกฤษไทยมั่นคง ส่วนพรรคพลังประชาชน มีเพียงนายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่มาร่วมงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตัวแทนพรรคการเมืองเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ กกต.ได้นำเอกสารคำกล่าวปฏิญาณตนมาแจกจ่าย บรรดานักการเมืองต่างก็ท้วงติงว่าคำกล่าวปฏิญาณนั้นเบาเกินไป ไม่รุนแรงพอที่จะทำให้ผู้กล่าวคำปฏิญาณตนรู้สึกหวั่นเกรงต่อถ้อยคำ
ฉุกละหุกทำให้คำปฏิญาณเบาหวิว
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวชี้แจงว่า รู้สึกว่าคำปฏิญาณนั้นเบาเกินไป แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเอกสารได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำมาให้ และไม่ได้ตรวจสอบก่อนเพราะมีภารกิจ แต่การปฏิญาณตนครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่มาจะไปทุจริต และยอมรับว่าการจัดงานครั้งนี้ฉุกละหุก ทำให้ภาพออกมาดูไม่ยิ่งใหญ่ จึงอยากจะจัดอีกครั้งหนึ่ง แต่ต้องขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองว่าต้องการให้จัดอีกหรือไม่
จากนั้นนายสุทธิพลได้เชิญผู้สมัครฯมาพร้อมกันที่หน้าพระอุโบสถ เพื่อกล่าวคำปฏิญาณตนว่า “การรณรงค์ หาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ จะปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่กระทำผิดกฎหมาย ไม่ใส่ร้ายป้ายสี ไม่เอา รัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ซื้อเสียงใดๆทั้งสิ้นและพร้อมที่จะปฏิบัติตนให้เป็นไปด้วยความสมานฉันท์ เป็นการเลือกตั้งที่สุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ และข้าพเจ้าจะทำหน้าที่แทนประชาชน และเป็นแบบอย่างที่ดีของการเลือกตั้งระดับชาติ หากกระทำการดังกล่าวโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่ใส่ร้ายป้ายสีซึ่งกันและกัน ไม่ซื้อสิทธิขายเสียงทำให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะได้รับการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม ขอให้ข้าพเจ้าและครอบครัวประสบแต่สิ่งที่ดี งานรุ่งเรือง ทั้งชีวิตหน้าที่การงาน ทรัพย์สิน ต่อตัวข้าพเจ้าเองและครอบครัวตลอดจนวงศาคณาญาติของข้าพเจ้าตลอดไป”
“อภิสิทธิ์” ขอให้ กกต.สาบานด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กลุ่มผู้สมัครได้ปฏิญาณตนเสร็จสิ้นแล้ว เป็นเวลาเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึง ทำให้นายอภิสิทธิ์กล่าวคำปฏิญาณตนเพียงลำพัง เมื่อกล่าวเสร็จนายอภิสิทธิ์ก็ได้ขอให้นายสุทธิพลและเจ้าหน้าที่ กกต.กล่าวคำสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน โดยนายสุทธิพลก็ได้ทำตามคำขอและกล่าวสาบานว่า “จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม จะไม่เลือกปฏิบัติ จะจัดการเลือกตั้งด้วยความโปร่งใส่ และเป็นกลาง หากไม่ปฏิบัติตามนี้ก็ขอให้มีอันเป็นไป”
ทั้งนี้ ระหว่างที่นักการเมืองรวมตัวกันกล่าวคำปฏิญาณตน ปรากฏว่าท้องฟ้าก็ครึ้ม มีฝนประปราย ทำให้ ประชาชนที่อยู่รอบบริเวณที่กำลังรอสักการะพระแก้วมรกต ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นฤกษ์ดี แต่บางคนก็บอกว่าเป็นเพราะมีนักการเมืองมารวมกัน
“ปลอดประสพ” เมินสาบานชี้แก้ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่ผู้สมัครได้กล่าวคำปฏิญาณอยู่นั้น นายปลอดประสพปฏิเสธที่จะไปร่วมทำพิธี แต่หันมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม เป็นการสร้างภาพ ฉาบฉวย เชื่อว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุจริตได้ คำปฏิญาณแบบนี้ไม่ปฏิญาณหรอก หากจะปฏิญาณจะเขียนเอง วัดพระแก้วนี้มามากกว่านักการเมืองทุกคนเสียอีก และการที่นำนักการเมืองมาทำพิธีที่นี่ ทำให้ภาพพุทธศาสนามัวหมอง ที่จริง กกต.เป็นองค์กรทางกฎหมาย น่าจะไปตรวจสอบเกี่ยวกับขั้นตอนทางกฎหมาย ไม่ใช่มาทำหน้าที่ทางศาสนา หากผู้สมัครฯ ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธจะทำอย่างไร มาครั้งนี้มาเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ในนามพรรค และที่มา เพราะเจ้าหน้าที่ กกต.โทร.ให้มา เหมือนกับเป็นการบังคับกัน ซึ่งไม่ถูกต้อง แต่ก็บอกได้เลยว่าจะไม่กล่าวปฏิญาณด้วย เพราะไม่เชื่อว่าจะช่วยให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ได้ หากคนที่คิดชั่วๆ ถึงสาบานไป ก็ไม่กลัวทั้งนั้น
“ประชัย” อัด กกต.เรื่องที่ควรไม่ทำ
นายประชัยกล่าวภายหลังให้คำปฏิญาณว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ กกต.ที่ให้มาสาบานตน เพราะคนคิดชั่วไม่สนใจเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในหลายเรื่องที่ กกต. ควรทำก็ไม่ทำ แต่กลับมาปิดกั้นการหาเสียงของนักการเมือง อย่างตนมาอาสาประชาชนก็ต้องประชาสัมพันธ์นโยบาย ให้ประชาชนได้รู้ว่าตนทำอะไรมาบ้าง ทำอย่างนี้เท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิประชาชน ละเมิดรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่หลายพรรคการเมืองที่มาต่างก็ตอบรับว่าเป็นการดีที่ กกต.ทำแบบนี้ ทำให้นายประชัยให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์และวิทยุ ว่าเห็นด้วยกับแนวทางที่ กกต.ทำ ถือเป็นเจตนาที่ดี ส่วนพรรคการเมืองไหนที่ไม่มาก็เป็นสิทธิที่จะไม่เข้าร่วม แต่เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหาได้จุดหนึ่ง แต่ กกต.ต้องช่วยกันเข้มงวดด้วย
ประชาธิปัตย์ขอให้คนช่วยแจ้งทุจริต
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจของแต่ละคนมากกว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์อยากให้ความร่วมมือกับ กกต. และถือว่าการมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง เป็นสิ่งที่พึงกระทำอยู่แล้ว จากนี้ไปทุกฝ่ายต้องช่วยกัน โดยคนที่ลงแข่งขันต้องยึดความถูกต้อง และ กกต.ต้องทำหน้าที่อย่างจริงจัง ขณะที่ต้องขอความร่วมมือประชาชนช่วยสอดส่องดูแล แจ้งเบาะแสด้วย
“อยากให้ กกต.ทำอะไรอีกมาก เพียงแต่วันนี้ท่านเชิญมาเราก็ให้ความร่วมมือ แต่หลังจากนี้เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน โดยคนที่ลงแข่งขันเลือกตั้งต้องยึดความถูกต้อง และคนที่มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งอย่าง กกต.ก็ต้องจริงจัง ขณะที่ประชาชนก็ต้องช่วยสอดส่องดูแล และแจ้งเบาะแส ส่วนพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ได้มา ก็ถือเป็นสิทธิ์” นายอภิสิทธิ์กล่าว
พยายามหลีกเลี่ยงการโต้คารม พปช.
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตอบโต้กันไปมาระหว่างพลังประชาชนกับประชาธิปัตย์ ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตอบว่า พรรคประชาธิปัตย์หลีกเลี่ยงการตอบโต้ เพราะต้องการพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า แต่การแข่งขันกันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ดังนั้น เราต้องอยู่กับธรรมชาติความเป็นจริง แต่ประชาชนจะเป็นคนตัดสินในวันที่ 23 ธ.ค.เอง ดังนั้น แนวทางดำเนินการทางการเมือง ทุกคนมีสิทธิ์คิด และทำตามแบบฉบับของตัวเอง ขณะที่ประชาชน ก็จับตาดูอยู่ถ้าใครทำอะไรไม่เป็นประโยชน์ ประชาชนก็ไม่สนับสนุน สำหรับผลสำรวจของโพลระบุว่าประชาธิปัตย์ มีคะแนนนำทุกเขตใน กทม. ยกเว้นเขต 5 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตอบว่า ได้กำชับทุกคนว่าโพลเป็นข้อมูลที่พรรครับฟัง แต่ทุกคนจะต้องทำงานหนัก และมุ่งหน้าไม่ว่าคะแนนจะนำหรือจะตาม
ที่โคราชก็มีการสาบานต่อหน้าย่าโม
เช้าวันเดียวกัน ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ได้เชิญผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนในโซน 5 ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา สระแก้ว ปทุมธานี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ร่วมปฏิญาณตนต่อหน้าอนุสาวรีย์ ท้าวสุรนารี ตามโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ว่าจะไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ไม่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยจะรณรงค์หาเสียงด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส ไม่ใส่ร้ายป้ายสี ไม่เอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้ส่ง พ.อ.วินัย สมพงษ์ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาส่งนายประทีป กรีฑาเวช พรรคชาติไทยส่งนายกร ทัพพะรังสีและนายอรรคพล สรสุชาติ พรรคเพื่อแผ่นดินส่งนายประพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ ส่วนพรรคพลังประชาชนและพรรคประชาราชไม่ส่งตัวมาร่วมพิธี
เริ่มมีการร้องเรียนทุจริตในภาคอีสาน
นายประพันธ์กล่าวว่า ภาคอีสานมีการเลือกตั้งที่ดีกว่าครั้งก่อน เท่าที่ดูรู้สึกตัวผู้สมัครเองก็ร่วมโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์เป็นจำนวนมาก คนที่มาก็มาโดยความสมัครใจ เพื่อให้ครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ทุกคนได้พร้อมกันกล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าย่าโม คิดว่าการเลือกตั้ง ส.ส.แบบสัดส่วนในเขตกลุ่มที่ 5 น่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยขึ้น แต่ตอนนี้ก็มีร้องเรียนในภาคอีสานเข้ามาปละปลาย ส่วนมากเป็นเรื่องการฝ่าฝืนกฎระเบียบต่างๆ ข่าวการซื้อเสียงแต่ยังไม่ชัดเจน ต่อข้อถามถึงการใช้ซีเกมส์มาหาเสียงจะดำเนินการอย่างไร นายประพันธ์ตอบว่า คณะกรรมการกำลังพิจารณาอยู่ คิดว่าภายในสัปดาห์หน้าคงจะพิจารณาเสร็จ ว่ากรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจะทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้อะไรบ้าง ส่วนที่มีนักการเมืองขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์ซีเกมส์เต็มเมือง ทำให้พรรคอื่นเสียเปรียบในการหาเสียงนั้น ตรงนี้เราต้องขอดูข้อเท็จจริงก่อน และป้ายเหล่านี้บางคนก็ไม่ได้เกี่ยวกับเป็นผู้สมัครด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นว่า กกต.จะให้ใบเหลืองใบแดงก่อนการเลือกตั้ง นายประพันธ์ตอบว่า ถ้ามีการกระทำอะไรที่ผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน กกต.สามารถเพิกถอนสิทธิหรือให้ใบแดงได้เลย แต่ต้องมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่ามีการกระทำอย่างนั้น
ผู้สมัครไม่กล่าวปฏิญาณแค่ยืนฟัง
ที่บริเวณพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.สมศักดิ์ รักซ้อน ประธาน กกต.สุพรรณบุรี นายอิสระ เสียงเพราะดี ผอ.กกต. สุพรรณบุรี เชิญผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วนจากทุกพรรคในกลุ่มจังหวัดที่ 7 เข้าร่วมในพิธีสาบานตน ต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ตามโครงการ เลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ โดยมีผู้สมัครจาก 7 พรรค ประกอบด้วย ชาติไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชาชน มัชฌิมาธิปไตย เกษตรกรไทย เพื่อแผ่นดินและเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย มาเข้าร่วมในพิธี ขณะที่อีก 7 พรรคได้แก่ รวมใจไทยชาติพัฒนา รักเมืองไทย ความหวังใหม่ ประชามติ ไทยเป็นไท ไทยร่ำรวยและพลังแผ่นดิน ไม่ได้ มาร่วมพิธี โดยมีชาวสุพรรณบุรีมาร่วมเป็นสักขีพยานประมาณ 1,000 คน ทั้งนี้ นายสุเมธได้กล่าวนำปฏิญาณตนว่า จะไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ใส่ร้ายป้ายสี ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง หากทำได้ตามนี้ขอให้มีความเจริญ โดยผู้สมัครส่วนใหญ่กล่าวตาม ขณะที่อีกหลายคนได้แต่ยืนฟังเฉยๆ
|
ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1609 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 16 พ.ย. 50
เวลา 09:32:35
|
