นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าววานนี้ (7 ธ.ค.) กรณี "หมอลักษณ์" นายลักษณ์ เลขานิเทศ โหรชื่อดังฟันธงว่า พรรคพลังประชาชนจะได้จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว แต่จะเกิดการนองเลือด ว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ติดตามหมอดู แต่หากอยู่ในกติกากระบวนการประชาธิปไตย ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่จะมีข้อขัดแย้งกันบ้าง ความเห็นที่แตกต่างก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อมีกรอบปฏิบัติอยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากประสบการณ์ทางการเมือง คิดว่าจะเกิดเหตุนองเลือดขึ้นหลังการเลือกตั้งจริงหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่า น่าจะเป็นไปโดยสอดคล้องกับแนวปฏิบัติของกฎเกณฑ์ และข้อกฎหมาย เพราะหากใครออกนอกกฎหมายทำความวุ่นวายก็จะมีปัญหาเอง
วันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การซื้อเสียงขายเสียงทำลายประเทศจริงหรือ" จัดโดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ยอมรับว่าน่าเป็นห่วง เพราะมีระยะเวลาอันสั้น ทำให้นักการเมืองมีเวลาจำกัดในการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้น นักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศส่วนใหญ่จึงเป็นคนหน้าเก่า
พล.อ.สนธิ กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีการแข่งขันกันสูงมากระหว่าง 2 ฝ่ายที่ต่างต้องการเข้าไปบริหารประเทศ จึงต้องทำทุกวิถีทาง ดังนั้น การซื้อสิทธิขายเสียงจึงมีสูง รัฐบาลจึงตั้ง ครส.มารณรงค์ให้ประชาชนไม่ขายเสียงและออกไปเลือกตั้งให้มาก หลายคนบอกว่า การซื้อสิทธิขายเสียงมีหลายรูปแบบ บางพรรคจ่ายเงินซื้อตัว ส.ส.เข้าสังกัดถึง 30 ล้านบาท เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลและถอนทุนคืน สิ่งเหล่านี้จึงหมิ่นเหม่ต่อการไม่เป็นประชาธิปไตย สิ่งที่ต้องทำ คือ ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุดไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 โดยรัฐบาลได้ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องสื่อสารข้อมูลไปยังประชาชนรากแก้ว ถึงโทษและพิษภัยของการซื้อสิทธิขายเสียง รวมถึงรณรงค์ผ่านสื่อต่างๆ และ กกต.ก็พยายามที่จะออกกฎหมาย ทำความเข้าใจกับนักการเมืองถึงเรื่องดังกล่าว
ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเตรียมตัวก่อนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ว่าประชาชนควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติ ผลงาน แนวคิด นโยบาย ของผู้สมัครและพรรคการเมือง มุ่งเน้นเลือกคนดี ไม่ซื้อเสียง รวมทั้งตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สถานที่ใช้สิทธิ เลือกได้กี่หมายเลข นอกจากนี้ ควรเตรียมหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือจะใช้หลักฐานอื่นที่ทางราชการออกให้ที่มีรูปถ่าย และมีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
เลขาธิการ กกต. กล่าวต่อว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 23 ธ.ค. มีความสำคัญอย่างมากต่อทิศทางของประเทศชาติ และอนาคตของชาวไทยทุกคน หากประชาชนเลือกคนดี ไม่ซื้อเสียง พิจารณาจากประวัติการทำงานหรือผลงานที่ผ่านมา เป็นผู้ที่มีคุณธรรมและรู้จักเสียสละ เข้าถึงประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและนำมาแก้ไข เสนอเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เป็นแบบอย่างของการรู้จักรักษาประโยชน์ของส่วนรวม
และที่สำคัญคือ จะต้องไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง เช่น การแจกเงิน สิ่งของ เพื่อให้ลงคะแนนให้กับตนเองและพรรคการเมืองของตนเอง ส่วนกรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งตรวจพบรายชื่อผู้ใช้สิทธิตกหล่น หรือมีชื่อบุคคลอื่นเกินมาในบัญชีรายชื่อ ให้รีบดำเนินการแจ้งเพิ่มชื่อตนเอง หรือถอนชื่อบุคคลอื่นออกจากบัญชีรายชื่อต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันที่ 12 ธ.ค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โหรฟันธง สมัคร ได้เป็นนายกฯ แต่ต้องระวังปาก
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม