นายบรรเจิด สิงคะเนติ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม กรณีพรรคพลังประชาชน (พปช.) ได้รับเลือกตั้งส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง และนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้า พปช. ที่เป็น 1 ในผู้ถูกกล่าวหาในคดีมีสิทธิขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ฟ้าจะถล่มดินจะทลาย การทำงานของ คตส.ในการไต่สวนคดีรถดับเพลิง ก็จะยังคงเดินหน้าต่อไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คณะกรรมการตรวจสอบคดีนี้ไม่มีความหวั่นไหวหรือหนักใจอะไร

              นายบรรเจิดกล่าวว่า วันที่ 27 ธันวาคม คณะอนุกรรมการไต่สวนได้นัดทีมทนายความของนายสมัคร ให้นำรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบปากคำพยานทั้ง 20 ปากที่อ้างมาให้คณะอนุกรรมการพิจารณาจัดแบ่งกลุ่ม เพื่อหาข้อยุติว่าจะอนุญาตให้พยานปากใดที่จะนำมาให้การ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความซ้ำซ้อน

              นายบรรเจิดกล่าวว่า วันที่ 25 ธันวาคม คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ในการเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจตนเองและพวกพ้องที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส.เป็นประธาน จะส่งหนังสือแจ้งไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 4 มกราคม 2551

              "คดีนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.คดีการซุกหุ้นภาคสอง 2.คดีการได้ทรัพย์สินมาโดยมิชอบจากการดำรงตำแหน่งในหน้าที่ (ยึดทรัพย์) 3.คดีการออกพระราชกำหนดภาษีสรรพสามิตในกิจการโทรคมนาคม" นายบรรเจิดกล่าว และว่า คณะอนุกรรมการได้ดำเนินการจัดทำเรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่อยากส่งเรื่องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มารับทราบข้อกล่าวหา เพราะเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งอาจมีผู้นำไปตั้งเป็นประเด็นทางการเมืองว่า มีการกลั่นแกล้งกัน แต่ขณะนี้การเลือกตั้งเสร็จแล้วก็น่าจะสามารถส่งได้

              ด้านนายสัก กอแสงเรือง กรรมการและโฆษก คตส.กล่าวว่า คตส.ไม่ได้หวั่นไหวกับผลเลือกตั้ง ส.ส. ยังคงทำงานตามหน้าที่ต่อไปปกติ เพราะเป็นงานที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม จะนำเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องไม่ได้

              "หลังจากนี้ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น คตส.คงไม่หวั่นไหวแน่นอน ยังทำหน้าที่ในการตรวจสอบคดีต่างๆ อยู่ มันไม่ใช่แค่ว่าคนที่เคยถูกตรวจสอบแล้วต่อมาจะกลับขึ้นมาเป็นใหญ่ แล้วเราจะต้องไปกังวล เพราะทุกคดีในท้ายที่สุดจะต้องไปจบลงที่ศาลอยู่แล้ว และ คตส.ก็ต้องมีความหนักแน่นอยู่เสมอ" นายสักกล่าว

              ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิ และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา กรรมการ คตส ก็ยืนยันว่า คตส.คงจะยังทำหน้าที่ต่อไปตามปกติ และคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

ข่าวจาก กระปุกดอทคอม