หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวการเมือง
เว็บบอร์ด » ข่าวการเมือง
รายละเอียดของห้อง : ข่าวการเมือง ประเด็นร้อนน่าจับตา ตนเหนือเราต้องมีส่วนร่วม
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
สมัครยัวะ เอาเครื่องราชฯ มาข่มเติ้ง

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
สมัครยัวะ เอาเครื่องราชฯ มาข่มเติ้ง
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 29 ธ.ค. 50 เวลา 11:25:04 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

หลังจากที่การเจรจาการร่วมจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชาชนกับ 5 พรรคเล็กใกล้จะจบลงด้วยดี แต่เมื่อพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินได้ยื่นเงื่อนไข 5 ข้อก่อนเข้าร่วมรัฐบาล  ทำให้สถานการณ์การเมืองเริ่มตึง เครียดทันที โดยนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ในประเด็นดังกล่าว อย่างดุเดือด 

“สมัคร” ฉุน “เติ้ง” ดูหมิ่นไม่จงรักภักดี

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. เวลา 15.30 น. ที่พรรคพลังประชาชน นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน พร้อมด้วย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีเงื่อนไข 5 ข้อของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยนายสมัครได้นำภาพถ่ายชุดเต็มยศสวมเสื้อคลุมประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ของตนเอง ขนาด 8 x10 นิ้ว มาวางประกอบ การแถลงข่าว

นายสมัครกล่าวว่า “ผมชื่อสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้ง 233 ที่นั่ง เมื่อคืนนี้คุณบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ได้รับเลือกตั้งมา 37 ที่นั่ง ได้มีเอกสารพาดพิง ผมจะพูดถึงเฉพาะข้อที่ 1 เท่านั้น คืออยากบอกให้คุณบรรหารรู้ว่า  ที่คุณบรรหารแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างนั้น ผมแปลความหมายได้ว่า คุณบรรหารดูหมิ่นผม ว่าเป็นคนไม่จงรักภักดีต่อเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เพราะการแสดงความเห็นอย่างนั้นชัดเจนแล้ว  หัวหน้าพรรคพลังประชาชนไม่จงรักภักดีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เพราะฉะนั้น ถ้าจะร่วมกับคุณบรรหารต้องแสดงความจงรักภักดีต่อเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน  คุณบรรหารดูหมิ่นผม  ผมจะบอกให้คุณบรรหารรู้นะว่า  แม้จะรู้จักกันมานาน  แต่คุณบรรหารไม่ศึกษาว่าผมเป็นใครมาจากไหนอย่างไร”

ร่ายยาวตระกูลเป็นข้าราชบริพาร

หัวหน้าพรรคพลังประชาชนกล่าวต่อว่า ตระกูลผมรับราชการสนองพระเดชพระคุณมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คุณตาผมมหาเสวกตรี พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) เป็นพระยาจางวาง เป็นจิตรกรประจำพระราชสำนักรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 คุณลุงผม มหาเสวกตรี พระยาแพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี (สุ่น สุนทรเวช) เป็นแพทย์ประจำพระองค์รัชกาลที่ 6 คุณพ่อผมชื่อพระยาบำรุงราชบริพาร (เสมียน สุนทรเวช) เป็นข้าราชการในรัชกาลที่ 6 คุณลุงผมอีกคน จมื่นเทพดรุณาทร นามสกุล กัลยาณมิตร หรือ เปรื่อง กัลยาณมิตร คุณอาผม จมื่นอมรดรุณรักษ์ (แจ่ม สุนทรเวช)  ตระกูลผมรับสนองพระเดชพระคุณมา  ผมนี่ล่ะไม่ได้รับราชการ แต่เป็นนักการเมืองก็มีโอกาสได้สนองพระเดชพระคุณทุกครั้งที่ผมได้เป็นรัฐมนตรี ผมเป็นมาแล้ว 5 หน รองนายกฯ อีก 2 หน เป็นรัฐบาลมาแล้ว 8 ครั้ง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2545 ผมได้รับพระราชทานตราทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.)  นี่ครั้งหลังสุดเป็นอย่างนี้ ที่พูดก็อยากจะบอกคุณบรรหาร  ศิลปอาชา  ว่าคุณบรรหารนั้น ควรจะแหงนขึ้นมาดูที่หน้าอกผมด้วย ว่าผมนั้นได้ตราจุลจอมเกล้าสูงกว่าคุณบรรหาร เพราะฉะนั้น คนอย่างคุณบรรหาร ไม่ต้องมาอบรมสั่งสอนผม ถึงเรื่องความจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์”

ลั่นไม่เคยคิดล้างแค้น-เช็กบิลใคร

นายสมัครกล่าวต่อว่า ข้อถัดไปอยากจะแถลงว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ มีข่าวบ้าบออะไรก็ไม่ทราบ จะคิดบัญชี จะปรับบัญชี ใครลาออก อะไรกันนักหนา ตนไม่เคยพูดเลย คนของพรรคพลังประชาชนก็ไม่เคยพูด อยากจะบอกซะวันนี้ว่า ตั้งแต่สิ้นปีมานี่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งแล้ว 3-4 ครั้ง ถึงเรื่องความรักความสมัครสมานสามัคคีที่ได้รับสั่งกับทหาร แต่ได้มาถึงภาคประชาชนด้วย ทหารจะรับใส่เกล้าก็เรื่องของทหาร รับสั่งถึงประชาชนตนก็รับใส่เกล้า ต้องการจะตั้งใจสนองพระเดชพระคุณ ครั้งนี้ก็เป็นโอกาสที่จะได้ทำงานถวาย อะไรกันนักหนา ไปเที่ยวเอาไมโครโฟนจ่อปากถาม ถามรัฐมนตรีคนนั้น คนนี้ ทั้ง ผบ.ทบ. ทั้งรัฐมนตรี ก็ถามเองตอบเอง ทำไมไม่เข้าใจเลยมันเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองนี้ ไม่มีใครพูดเลย ตนไม่ได้พูด คนในพรรคก็ไม่ได้พูด แล้วมันเรื่องอะไรไปเที่ยวถามเอง ตอบเอง แล้วก็แสดงอาการกันเอง ตรง กันข้ามกับ ผบ.ทบ. ตนได้ออกปากชมตั้งแต่วันแรกที่ได้ บอกว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการการเมือง ไม่ใช่ด้วยการปฏิวัติ ก็บอกว่างั้นขอบคุณมาก “แล้วสุดท้ายก็มีนักข่าวบอกว่าถ้าพรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้ง ได้ตั้งรัฐบาล แล้วปลด ผบ.ทบ.ผมก็ไม่ทำปฏิวัติ ผมก็ออกปากว่าพ่อคุณนานๆจะเจอลูกผู้ชายพูดจาอย่างนี้เสียที การพูดของ ผบ.ทบ. ทำให้บรรยากาศมันเย็นขึ้น ดูกรณีเอกสารลับซิ ผมนี่แหละเป็นคนประนีประนอม ที่ช่วยรักษากองทัพบกไม่ต้องกระทบกระเทือนกันต่อไปอีก” 

“หมอเลี้ยบ” ย้ำ พปช.จงรักภักดีสูงสุด

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่พรรคพลังประชาชน นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แถลงถึงกรณีที่พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินเสนอเงื่อนไข 5 ข้อ ในการเข้าร่วมรัฐบาลว่า 1. เรื่องการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องความผูกพันอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกหมู่เหล่าที่จะจงรักภักดีเทิดทูนอยู่เหนือหัว องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย พรรคการเมืองทุกพรรค คนไทยทุกหมู่เหล่ามีหน้าที่ปกป้องสถาบัน ไม่ให้สิ่งใดมากระทบหรือระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท พระองค์ทรงอยู่เหนือทางการเมืองและความขัดแย้งทั้งปวง พรรคพลังประชาชนจะปกป้อง ไม่ยอมให้บุคคลใดหรือพรรคการเมืองใดกระทำการอันแสดงถึงความไม่จงรักภักดี และจะรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ 

ชี้องคมนตรีสถานะสูงกว่าทางการเมือง 

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า 2. เรื่อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นั้น พรรคเห็นว่าบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี พระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย คณะองคมนตรีมีหน้าที่ในการถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่ทรงปรึกษา องคมนตรีทุกท่านจึงต้องอยู่ในสถานะที่สูงกว่าทางการเมือง และจะต้องเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด ทุกพรรคการเมืองจะต้องให้ความเคารพคณะองคมนตรี ไม่แต่เฉพาะ พล.อ.เปรมเท่านั้น ยังรวมไปถึงองคมนตรีทุกท่าน พรรคให้ความเคารพ พล.อ.เปรมและองคมนตรีทุกท่าน และจะไม่ยอมให้ใครนำสถาบันองคมนตรีไปกล่าวอ้างในทางที่มิชอบโดยเด็ดขาด 

ยึดพระราชดำรัสรักสามัคคีปรองดอง 

นพ.สุรพงษ์กล่าวอีกว่า 3. เรื่องที่จะต้องไม่มีการล้างแค้นซึ่งกันและกัน เมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 แล้ว บุคคลทั่วไปย่อมได้รับความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย การใช้ อำนาจที่ล่วงละเมิดกำหนดกฎเกณฑ์กติกาของบ้านเมือง จะต้องถูกตรวจสอบโดยองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญและ ประชาชน ซึ่งนโยบายของพรรคจะยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสร้างความปรองดองกับทุกฝ่าย เพื่อให้ประเทศชาติลุล่วงเจริญก้าวหน้าไปด้วยดี

ระบุ “ทักษิณ” พร้อมต่อสู้ในชั้นศาล 

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า 4. เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของไทย โดยปราศจากการแทรกแซงอำนาจของศาล นั้น พ.ต.ท. ทักษิณก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง สิทธิหน้าที่ความรับผิดชอบจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีบุคคลใดอยู่เหนือกฎหมาย เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวหา ไม่ว่าอยู่ในกระบวนการยุติธรรมขั้นตอนใดเป็นเรื่องอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องพิจารณาโดยอิสระ และให้ความยุติธรรม ไม่ควรจะมีบุคคลใด หรือพรรคการเมืองใดเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าขั้นตอนใด ให้เบี่ยงเบนไปใน ทางที่มิชอบ โดยเฉพาะในชั้นอัยการและศาล ซึ่งมีรัฐธรรมนูญ ประกันความเป็นอิสระในการพิจารณาคดีอยู่แล้ว 

ชี้ คตส.ทำงานเสร็จต้องปิดตัวเองอยู่แล้ว

นพ.สุรพงษ์กล่าวด้วยว่า 5. กรณีต้องไม่ยกเลิก คตส.  นั้น มีความเข้าใจผิดกันว่า เมื่อยกเลิก คตส. แล้วคดีทุก คดีที่ คตส.พิจารณาอยู่จะยุติไป ทำให้พรรคการเมืองบาง พรรคและประชาชนส่วนใหญ่สับสน ความจริงแล้วหาก การกระทำของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณเป็นความผิด คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจดำเนินคดีสอบสวนได้ ดังนั้น คดี ทุกคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ คตส.จะต้องดำเนินการ ต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการยุติธรรม การยกเลิกคตส.จึงไม่เป็นประโยชน์แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พ.ต.ท. ทักษิณมิได้เกี่ยวข้องหรือเป็นสมาชิกของพรรคแต่อย่างใด พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพียงคนไทยคนหนึ่ง ย่อมได้รับความคุ้มครองสิทธิตามรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองทุกพรรคควร จะต้องคุ้มครอง ให้ความเป็นธรรมตามกฎหมายกับ พ.ต.ท. ทักษิณด้วย 

ย้ำ ชท.-พผ.ไม่ควรตั้งเงื่อนไข 

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า นี่คือจุดยืนของพรรคพลังประชาชนที่มีต่อเงื่อนไข 5 ข้อต่อพรรคชาติไทย และเพื่อ แผ่นดิน และไม่มีผลใดๆต่อการจัดตั้งรัฐบาล จุดยืนดังกล่าว ไม่ควรนำมาเป็นเงื่อนไขการต่อรองทางการเมือง โดยเฉพาะ จุดยืนข้อที่ 1 การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่อง ที่พสกนิกรชาวไทยทุกคนเทิดทูนจงรักภักดีอยู่เหนือหัว  การจะจัดตั้งรัฐบาลขึ้นอยู่กับนโยบายของพรรคการเมือง แนวทางการดำเนินงานของพรรคการเมืองว่ามีความสอดคล้องต้องกันหรือไม่ เป็นคนละประเด็นกับ 5 เงื่อนไขที่ได้ยื่น เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า 5 ข้อ ที่พรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดินเสนอมาทางพรรคพลังประชาชนปฏิเสธ นพ.สุรพงษ์ตอบ  ว่า เงื่อนไข 5 ข้อ เป็นคนละประเด็นกันกับเรื่องการจัดตั้ง รัฐบาล การจัดตั้งรัฐบาลขึ้นอยู่กับนโยบายของพรรคและ แนวทางทางการเมือง ไม่ใช่ทั้ง 5 ข้อ เป็นเงื่อนไขว่าจะ ทำงานทางการเมืองในฐานะรัฐบาลร่วมกันได้หรือไม่ 

เงื่อนไขกับการร่วมรัฐบาลคนละประเด็น 

ส่วนหากพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดินยัง ยืนยันเงื่อนไขทั้ง 5 ข้อ ยังมีโอกาสที่จะมาร่วมรัฐบาลกัน มากน้อยขนาดไหน นพ.สุรพงษ์ตอบว่า ประเด็นเรื่องการ จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงื่อนไข 5 ข้อ แต่อยู่ที่เรื่อง นโยบายว่าไปด้วยกันได้หรือไม่ การทำงานทางการเมือง วิธี  การทำงานไปด้วยกันได้หรือไม่ ถ้านโยบายไปด้วยกันได้ วิธีการทำงานไปด้วยกันได้ ก็สามารถที่จะสร้างความเป็น เอกภาพในฐานะรัฐบาลร่วมกันได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้ โอกาสทั้ง 2 พรรค ทบทวนใหม่หรือไม่ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า เชิญพรรคการเมืองเข้ามาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล และการพิจารณาว่าจะร่วมกันทำงานทางการเมืองได้หรือไม่ อยู่ที่ว่านโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่ แนวทางการทำงาน ไปด้วยกันได้หรือไม่ ถ้าหากพรรคการเมืองทั้ง 2 พรรคเห็นว่านโยบายเรื่องแนวทางการทำงานพูดคุยกันได้ ยินดีที่จะมานั่งพูดคุยกัน 

เชื่อได้เสียงสนับสนุน 280 แน่

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคพลังประชาชนจับมือกับพรรคเพื่อแผ่นดินได้ จะปล่อยพรรคชาติไทยหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า เชื่อมั่นว่าเมื่อมีการประกาศอย่างน้อย 4 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว หลังจากนั้นก็เชื่อว่าจะมีพรรคการเมืองที่สนใจเข้ามาทำงานร่วมกัน แน่นอนว่าเราประสงค์ที่จะเห็นเสถียรภาพรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนเรื่องเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ และการแก้ปัญหาของประเทศ อย่างที่เราเคยประกาศว่า ถ้าได้เสียง 280 เสียงขึ้นไป เสถียรภาพของรัฐบาลก็จะพอดี เหมาะสมทำให้นโยบายรัฐบาลเดินหน้าไปได้ ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทาบทามสมาชิกบางส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินเข้ามาโดยตรง นพ.สุรพงษ์ตอบว่า เรื่องนี้ยังไกลที่จะพูดถึง แต่ท่าทีของเราชัดเจนว่าอยากเห็นพรรคการเมืองเป็นสถาบันพรรคการเมือง อยากเห็นว่าการตัดสินใจร่วมงานทางการเมืองควรจะเป็นการตัดสินใจของมติพรรค ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า 3 พรรคการเมืองที่มาร่วมก่อนหน้านี้กับพรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคชาติไทยนั้น เจรจาโดยใช้แนวทางนโยบายเดียวกันหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า สำหรับ 3 พรรคการเมืองที่มีโอกาสพูดคุยยอมรับว่านโยบายสามารถไปในทิศทางประสานสอดคล้องกัน ส่วนอีก 2 พรรค การเมืองมีการประสานเบื้องต้น ยังไม่มีการพูดคุยถึงแนวนโยบาย เรามองว่าการจะทำงานต่อไปเป็นเรื่องของแนวนโยบายมากกว่าเงื่อนไขอื่นๆ

ชท.-พผ.จับมือต่อรอง รมต. 11 ตำแหน่ง 

สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งมีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้ว่าทางพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ออกมายื่นเงื่อนไข 5 ข้อ จนกระทั่งนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชนได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ถึงจุดยืนของพรรคค่อนข้างรุนแรงนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางแกนนำพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินก็ได้มีการต่อสายไปถึงฮ่องกง โดยได้มีการตกลงในหลักการที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกันแล้ว เพียงแต่ได้ขอแสดงออกถึงจุดยืนของทั้งสองพรรค โดยอ้างว่าจำเป็นต้องทำตามคำสั่งจากผู้ใหญ่ โดยทางพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินที่รวมกันมี 61 เสียง ได้เสนอข้อต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีรวมกันจำนวน 11 ตำแหน่ง ในจำนวนนี้มีเก้าอี้ รมว.มหาดไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งติดปัญหาที่เก้าอี้ มท.1 นั้นทาง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ประกาศขอไว้แล้วโดยไม่ยอมหลีกทางให้ใคร 

“มิ่งขวัญ” จ่อรองนายกฯควบท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเจรจาจัดสรรโควตา รัฐมนตรีนั้น ขณะนี้ทางแกนนำพรรคพลังประชาชนยังไม่ได้มีการตัดสินใจ แต่อยู่ในช่วงที่เปิดรับฟังข้อเสนอจากพรรคต่างๆ โดยในการแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 4 ม.ค. นั้น ยังจะคงประกาศตัวพร้อมกันเพียงแค่ 254 เสียง จากพรรคพลังประชาชน รวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคประชาราช มัชฌิมาธิปไตย ก่อนแล้วไปโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาฯ โดยได้มีการประสานกับ ส.ส.ในสังกัดของพรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคชาติไทยไว้แล้วว่าจะสนับสนุนพรรคพลังประชาชน ถ้าที่สุดแล้วทางแกนนำทั้ง 2 พรรคเกิดไม่ยอมก็ต้องเกิดกรณีงูเห่ารอบ 2 ขึ้นในทั้งสองพรรค ทั้งนี้ ได้เตรียมจัดวางตัวรัฐมนตรี ไว้บางส่วนแล้วคร่าวๆ หากทุกอย่างเจรจากันลงตัว โดยคาดว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ จะนั่งรองนายกฯควบ รมว.การท่องเที่ยว เพื่อดูแลงานเศรษฐกิจด้านการสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นการเฉพาะ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยฯ เป็นรองนายกฯ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นรองนายกฯ นายประภัตร โพธสุธน รองหัวหน้าพรรคชาติไทย รองนายกฯ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รมว.กลาโหม ส่วนตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ อาจจะเป็นคนนอก 

“เติ้ง” โผล่ตัวที่เดียวกันงานฉลอง พผ. 

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคชาติไทย ภายหลังจากที่ตั้งเงื่อนไข 5 ข้อ ในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนนั้น วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ห้องอาหารอิตาเลียน (piccolo) โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส ถ.หลานหลวง นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตประธานสภานโยบายและยุทธศาสตร์พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงฉลองให้ ม.ร.ว.กิตติวัฒนา ไชยยันต์ (ปกมนตรี) ว่าที่ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคเพื่อแผ่นดิน โดยมีนายกว้าง รอบคอบ และนายสรจักร เกษมสุวรรณ อดีตผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ ร่วมกินข้าวกลางวันด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินทางมากินข้าวกลางวันที่ห้องอาหารดังกล่าวเช่นกัน แต่อ้างว่ามากินข้าวร่วมกับคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ และนายบรรหารได้เดินทางกลับในเวลา 12.20 น.แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยแสดงสีหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นผู้สื่อข่าว พร้อมปิดประตูรถอย่างแรง 

“กิตติวัฒนา” ยันไม่ร่วมขั้ว พปช.

ม.ร.ว.กิตติวัฒนา กล่าวถึงข้อเสนอ 5 ข้อ ของแกนนำพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ยื่นไปยังพรรคพลังประชาชน ว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอทั้งหมด โดยเฉพาะในข้อ 1, 2 ที่คนไทยทุกคนจะต้องเทิดทูนราชบัลลังก์ รวมทั้งต้องเคารพในองคมนตรี ที่ทำหน้าที่เป็น ที่ปรึกษาให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าหากไม่มีการปฏิบัติตามสิ่งที่เสนอไป ตนพร้อมที่จะคัดค้าน ถ้าหากพรรคมีมติว่าจะไปอยู่ร่วมกับพลังประชาชน ตนจะไม่ไปร่วมอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะมี ส.ส.ในพรรคบางส่วนอยากไปอยู่ร่วมก็ตาม มั่นใจว่าคำสัตย์ที่มีให้กัน และสัญญาสุภาพบุรุษที่ให้กัน ทุกฝ่ายน่าจะเคารพปฏิบัติตาม ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่มีข้อเสนอออกไป ทางพลังประชาชน ได้ออกมากล่าวว่า ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ ที่ผ่านมา พรรคพลังประชาชนปฏิบัติอยู่แล้ว ม.ร.ว.กิตติวัฒนาตอบว่า ที่ผ่านมาเห็นว่าการปฏิบัติของพรรคพลังประชาชนไม่อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ  

“สุรเกียรติ์” ชมเปาะ 5 ข้อเสนอ

ด้านนายสุรเกียรติ์กล่าวว่า ข้อเสนอของทั้ง 2 พรรค ที่ได้เสนอออกไป ไม่มีอะไรสามารถยืนยันได้ ว่า ทางฝ่ายผู้ที่รับจะดำเนินตามที่ได้มีการเสนอไปหรือไม่ เรื่องนี้สาธารณชนและประชาชน จะต้องเป็นคนคอยติดตามตรวจสอบ ส่วนตัวคิดว่าข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ ที่ทั้ง 2 พรรค เสนอไปยังพรรคพลังประชาชนเป็นนิมิตหมายที่ดี และเป็นเรื่องใหม่ทางการเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่เกิดมาในแผ่นดินนี้ โดยเฉพาะหลักการในข้อเสนอสองข้อแรก คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันองคมนตรี เราไม่ควรจะไปก้าวล่วง ก้ำเกินใดๆ ส่วนในข้ออื่นๆ เชื่อมั่นว่า ประชาชนคนไทยทุกคนอยากเห็นอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองในปากีสถาน และไทยอย่างไรบ้าง นายสุรเกียรติ์ตอบว่า หวังว่าความขัดแย้งของเราคงไม่เกิดความรุนแรง อย่าให้ความแตกแยกนำกลับไปสู่ความแตกต่าง อย่าให้ความแตกแยกนอกสภา นำไปสู่ความแตกต่างในระบบสภา เราเป็นคนไทยด้วยกัน มีเรื่องอะไรก็พูดคุยกันได้

“สมศักดิ์” อ้างไม่ใช่เงื่อนไขต่อรอง

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 12.00 น. ที่พรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค ร่วมแถลงถึงกรณีที่พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินได้เสนอ 5 ประเด็นไปถึงพรรคพลังประชาชน โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า ขอทำความเข้าใจว่าข้อเสนอทั้ง 5 ข้อของทั้งสองพรรค ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะขอเข้าร่วมรัฐบาล แต่ทั้ง 5 ประเด็นเป็นแนวทางที่จะนำสังคมไทยกลับคืนสู่สภาวะปกติ ไปสู่ความสมานฉันท์และเป็นการเมืองในระบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใน 5 ประเด็นถ้าเห็นตรงกันพรรคชาติไทยก็ยืนยันที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอที่ยกขึ้นมานี้ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมามีพรรคการเมืองใด ไปล่วงละเมิด

ระบุต้องเจรจาระหว่างหัวหน้า-เลขา 

ด้าน พล.ต.สนั่นกล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลนั้น ถ้าพรรคที่เป็นแกนนำจะเอาใครเข้าไปร่วมด้วย ต้องมาชวน พบปะพูดจากัน จะเป็นหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค ถือเป็นสูงสุดของพรรค ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเลขาธิการพรรคจัดการ เมื่อถามว่า ข้อเสนอทั้งหมดที่ดูแล้วเป็นการเน้นที่ตัวบุคคล ประชาชนดูแล้วจะเห็นว่าไม่ได้เน้นที่การแก้ไขปัญหาของประเทศหรือไม่ พล.ต.สนั่นตอบว่า ปัญหาเรื่ององคมนตรีเป็นเรื่องหนึ่งที่จะทำให้เกิดความสมานฉันท์ และมั่นใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาก็ต้องไปพบกับทุกคนเพื่อทำให้เกิดความสมานฉันท์ เมื่อถามว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการหาทางลงของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินในการร่วมรัฐบาลที่สวยงามหรือไม่ พล.ต.สนั่นตอบว่า ต้องดูว่าวันนี้ ถ้าไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลหรือจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่มั่นคง ก็อยู่ไม่ได้อยู่แล้ว สองฝ่ายนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร 

แกนนำ ชท-พผ.หารือร่วม รบ.อีกรอบ

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 18.00 น. ที่บ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ บรรดาแกนนำของพรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคชาติไทยได้ทยอยเดินทางมาร่วมกินข้าวเย็น อาทิ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานคณะที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน นายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ส่วนทางด้านพรรคชาติไทย นำโดยนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรค นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายนายบรรหาร ทั้งนี้ นายบรรหารได้เดินทางมาถึงที่บ้านก่อนเป็นคนแรก โดยนายสุชาติได้นำเดินดูรอบๆบ้าน ทั้งนี้ นายบรรหารมีสีหน้าแจ่มใส อารมณ์ดี พูดคุยชื่นชมการตกแต่งบ้านของนายสุชาติ 

“บรรหาร” ความดันขึ้นรีบเข้า รพ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายบรรหาร ได้เข้าไปภายในบ้านประมาณ 30 นาที โดยที่แกนนำของทั้งสองพรรคกำลังทยอยเดินทางมานั้น นายบรรหารได้รีบออกมาจากบ้านทันที

ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยเปิดเผยว่า หัวหน้าพรรคชาติไทยรู้สึกเครียดมาก ต้องขอกลับออกจากบ้านนายสุชาติก่อน เพื่อเดินทางมาตรวจสุขภาพที่ รพ.รามาธิบดี เนื่องจากมีอาการเครียด ความดันขึ้นสูง แพทย์เจ้าของไข้จึงได้สั่งให้นอนพักที่ห้อง 803 อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ รพ.รามาธิบดี โดยไม่อนุญาตให้นักข่าวเฝ้าหน้าห้อง แต่ให้รออยู่ด้านนอกของอาคาร 

แกนนำ พปช.รุดพบทาบ “เติ้ง” ร่วม รบ. 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. ที่ รพ. รามาธิบดี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน พร้อมด้วย พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรค ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการป่วยของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย โดยใช้ เวลาเข้าเยี่ยมนานประมาณ 30 นาที

ต่อจากนั้นนายสมชายได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ามาเยี่ยมนายบรรหารในฐานะเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือ และมาในฐานะแกนนำพรรคพลังประชาชน เพื่อขอเชิญนายบรรหารเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อร่วมสร้างรัฐบาลให้มั่นคง แต่ นายบรรหารยังไม่ได้ตอบปากรับคำแต่อย่างใด โดยนายบรรหารกล่าวเพียงว่า พรรคชาติไทยจะแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบในวันที่ 29 ธ.ค. ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่าพรรคชาติไทยจะตอบรับเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดี 

“สมศักดิ์” ชี้คำพูด “สมัคร” ไม่มีผลร่วม รบ.

ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า นายบรรหารรู้สึกไม่สบาย แต่ถ้าพักผ่อนสัก 1 วัน สุขภาพก็จะดีขึ้น จากกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนได้ออกมาแถลงข่าวพาดพิงถึงนายบรรหารนั้น ตนขอยืนยันว่า ไม่เคยมีใครพูดถึงตัวบุคคล และไม่เคยว่าใครไม่มีความจงรักภักดี จึงไม่รู้ว่าทำไมนายสมัครจึงต้องกินปูนร้อนท้อง ทั้งนี้ ไม่อยากให้ประชาชนทั้งประเทศเข้าใจผิด ว่าคนที่มีเครื่องราชฯเท่านั้นที่จงรักภักดี เรื่องแบบนี้ไม่ได้ อยู่ที่ใครจะมาจากตระกูลสูงหรือต่ำ แต่อยู่ที่จิตสำนึกของคนคนนั้นมากกว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของนายสมัครเท่านั้น ไม่ใช่ของพรรคพลังประชาชน เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่บานปลายและคิดว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ออกมาพูดพร้อมปฏิบัติตามแนวทางทั้ง 5 ข้อ และการพูดต่อหน้าสาธารณชนของ นพ.สุรพงษ์ครั้งนี้น่าจะเชื่อถือได้ เพราะเป็นการประกาศพันธะที่พรรคพลังประชาชนจะต้องปฏิบัติตาม 

“สุวิทย์” พูดชัดทุกอย่างจบแบ่งเค้ก รมต.

เมื่อเวลา 19.00 น. นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินแถลงข่าวภายหลังการร่วมกินข้าวของแกนนำทั้งสองพรรคว่า ขั้นตอนต่อไปทุกคนจะกลับไปพูดคุยในรายละเอียดที่ต้องดำเนินการต่อไป เชื่อว่าบ้านเมืองจะกลับสู่ภาวะปกติ หลักการทุกอย่างได้พูดคุยกันแล้วไม่มีปัญหา ปีใหม่นี้ประชาชนจะได้มีความสุขกันสักที ทั้งนี้ ก่อนหน้านายสุวิทย์ได้เปิดเผยในช่วงเย็น ก่อนที่พรรคพลังประชาชนจะแถลงข่าวเรื่องเงื่อนไข 5 ข้อของพรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคชาติไทยว่า มีแกนนำพรรคพลังประชาชนได้ติดต่อประสานงานมาแล้ว ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่มีการตอบรับ พร้อมจะดำเนินการตามแนวทางทั้ง 5 ข้อ จากนี้ไปจะมีการหารือกันถึงเรื่องการจัดสรรตำแหน่งระหว่างพรรคอย่างเป็นทางการมากขึ้น 

“เชษฐา” พร้อมรับทุกตำแหน่ง

ด้านพรรครวมใจไทยชาติพัฒนานั้น วันเดียวกัน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน 100% เพราะต้องรอผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. และรอการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต. ในวันที่ 3 ม.ค. 2551 ก่อน ซึ่งความคืบหน้าในการประสานงานเรื่องการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลนั้น ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ได้รายงานให้ตนทราบเป็นระยะๆ ส่วนกระแสข่าวเรื่องที่พรรคได้โควตารัฐมนตรี 2 ตำแหน่งนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการต่อรองตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น แต่พรรคมีบุคลากรพร้อมทำงานในทุกด้านทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และความสมานฉันท์ จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีใดก็ทำได้ไม่เกี่ยง ตอนนี้เป็นอะไรก็ได้ ถ้าให้เป็น

การันตีแทน พปช.ไม่เช็กบิล คมช. 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่า หากพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล จะมีการเช็กบิล คมช. พล.อ.เชษฐาตอบว่า เอาคอเป็นประกันว่า ถ้าใครคิดเช่นนั้น ก็โง่ที่สุด เรื่องมันจบไปแล้ว ที่บอกว่าหากพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลแล้วจะมาแก้แค้น ยุบ คตส. หรือปลด ผบ.ทบ.นั้น เป็นไปไม่ได้ มั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นแน่ เพราะถ้าทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของประชาชนก็อยู่ไม่ได้ คงเป็นการพูดเล่นกันมากกว่า ใครไปทำเช่นนั้น ถือว่าคิดผิด ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมาสู้คดีที่เมืองไทยนั้น เห็นด้วยที่จะกลับมาต่อสู้คดี โดยให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน เพราะเรามั่นใจในอำนาจตุลาการ เชื่อว่าไม่มีใครเคลื่อน ไหวต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ คนมีสติปัญญาไม่ทำอย่างนั้น เพราะถึงอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมืองได้อยู่แล้ว เพราะอยู่ในกลุ่มอดีตกรรมการบริหารพรรค 111 คน ที่ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง 

ปชป.ไม่สน “บรรหาร” หนีซบ พปช.

ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน เสนอ 5 เงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่หยิบยกเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับปัญหาบ้านเมืองจริงๆ มาพูดกัน จะทำให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าประเด็นปัญหาของบ้านเมืองอยู่ตรงไหน ถือเป็นการหยิบยกปมสำคัญที่อยู่ในใจหลายๆคน ที่มีความห่วงใยต่ออนาคตของการเมืองในปี 2551 เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องการให้รัฐบาลแสดงจุดยืนให้ชัดเจนเพื่อดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่าทีของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พร้อมจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่มีปัญหา เพราะเคยบอกตั้งแต่วันเลือกตั้งว่าขอให้หัวหน้าพรรคทุกพรรคตัดสินใจโดยอิสระบนผลประโยชน์ของประชาชน อย่ามากังวลกับพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูวันที่ 4 ม.ค. ก่อน ถ้าหากวันนั้นพลังประชาชนแถลงไม่ได้ ค่อยมาว่ากันแถลงไม่ได้เพราะอะไร 

ปชป.เริ่มทำใจรับหน้าที่ฝ่ายค้าน 

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ เพื่อเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนว่า รู้สึกว่าใกล้ความเป็นไปได้มากขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อเสนอนี้เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายสุเทพตอบว่า ข้อเสนอนี้พรรคพลังประชาชนคงต้องรีบตอบรับทันที เพราะเป็นข้ออ้างที่มีเหตุผลในการที่จะรับทั้งสองพรรคเข้าไป ส่วนจะทำได้จริงตามข้อเสนอหรือไม่ ต้องติดตามดูต่อไป เช่น ข้อเสนอที่ระบุว่าจะไม่แก้แค้นใคร ยังสงสัยว่าพรรคพลังประชาชนจะรับจริงหรือ เพราะยังไม่ทันรับข้อเสนอ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็จะเล่นงานนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.เสียแล้ว ด้วยข้อสงสัยที่ว่าทำไมคะแนน ส.ส. กทม.ถึงน้อยกว่าโพลที่เขียนเอาไว้ 

แต่ยังไม่ยอมยกธงจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า มีการรับปากว่าจะทำตามเงื่อนไข 5 ข้อ แต่ถึงเวลาไม่ปฏิบัติตามจะเป็นเค้าลางความยุ่งยากการเมืองเกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ถ้ารับปากไปก็ไม่เชื่อหลายข้อ เช่น ที่รับปากว่าไม่แตะต้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพราะบนเวทีปราศรัยที่ผ่านมาทั้งหัวหน้าพรรคและลูกพรรคต่างปราศรัยถึง พล.อ.เปรมดุเดือดกันเหลือเกิน ส่วนเรื่องที่มากกว่านี้ไม่ขอวิจารณ์ เมื่อถามว่า พฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเปลี่ยนหรือไม่ หากกลับมามีอำนาจอีกครั้ง นายสุเทพตอบว่า ยากมาก ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาวันนี้ก็ยิ่งใหญ่ตามเดิม เมื่อถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวจะทำงานลำบากหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า อย่าเพิ่งรีบบอกว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ต้องรอวันที่ 3-4 ม.ค. ยังมีความหวัง ยังไม่ยอมยกธงขาว เนื่องจากเวลาสู้กับคนที่เห็นว่าเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองจะสู้จนนาทีสุดท้าย ตราบใดที่ยังไม่มีประกาศออกมาเป็นทางการว่าคนนั้นคนนี้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงนั้นกระทรวงนี้หรือมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯลงมา ตราบนั้นพรรคประชาธิปัตย์ต้องเตรียมตัวเสมอ 

สะดุ้งโหยง “เฉลิม” เตรียมนั่ง มท.1 

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนฟอร์มเตรียมตัวเป็นรัฐมนตรีแล้ว เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมว.มหาดไทย นายสุเทพตอบว่า พอเห็นหน้า รมว.มหาดไทยแล้วสะดุ้งหลายตลบแทนประชาชน แต่ขอให้เพื่อนโชคดี เมื่อถามว่าสะดุ้งแทนนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ด้วยหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า สะดุ้งแทนทุกคน ใครมีเด็กมีเล็กอย่าไปเที่ยวกลางคืนแล้วกันเกรงใจ รมว.มหาดไทยบ้าง เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ถือว่าล้มเหลวหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายสุเทพตอบว่า ต้องถือว่านายอภิสิทธิ์ประสบความสำเร็จมาก ได้ ส.ส.มากในช่วงเป็นหัวหน้าพรรค เชื่อว่าวันนี้ประชาชนทั้งประเทศยังเอาใจช่วยอยากเห็นนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาแม้ประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นรัฐบาลจะไม่มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค นายสุเทพตอบว่าไม่เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคแน่นอน 

โดดอุ้มโอ๋ “บรรหาร” ทำถูกต้อง 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ตำหนินายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ยื่นเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล 5 ข้อ ด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า ต้องขอแสดงความเห็นใจและขอให้กำลังใจนายบรรหาร เพราะเข้าใจดีว่านายบรรหารพยายามทำให้บรรยากาศราบรื่นเพื่อที่จะดำเนินการทางการเมืองต่อไป แต่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงมาก นายบรรหารคงสะเทือนใจมาก แต่เป็นผู้ใหญ่ต้องอดทนได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนั้นเป็นไปได้หรือที่พรรคพลังประชาชนจะดึงแต่พรรคเพื่อแผ่นดินเข้าร่วมรัฐบาล นายสุเทพตอบว่า เป็นไปได้ในแง่ที่ว่าต้องการจะแยกสลาย ทั้งสองพรรคออกจากกัน แต่คนในพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นคนที่หนักแน่นจะทำอย่างนั้นไม่ได้ง่ายๆบางทีคนที่เป็นแกนตั้งรัฐบาลอาจจะโลภมากไปหน่อยไม่อยากเสียกระทรวงให้พรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล จะต้องหาเหตุว่าเอาเท่านั้นเท่านี้พอ

ข้อเสนอพรรคเล็กแทงใจดำ “สมัคร” 

เมื่อถามว่าท่าทีของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินจะไปทางไหน นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่านายบรรหารเสนอเงื่อนไขต่อพรรคพลังประชาชนในหลักการว่า พรรคการเมืองต้องเน้นเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และนักการเมืองไม่ควรก้าวก่ายละเมิดประธานองคมนตรีสิ่งเหล่านี้เป็นข้อเสนอกลาง แต่บังเอิญไปกระทบจุดของพรรคพลังประชาชนเขาก็คงโกรธ และตามประสาหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้วเป็นคนเก็บอาการไม่ได้อยู่แล้ว เปิดมาก็เลยใส่ไม่ยั้งอย่างนี้ นายบรรหารก็โชคร้ายหน่อยเท่านั้นเอง เมื่อถามว่าจากนี้ไปจะต่อสายถึงนายบรรหารหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ยังไม่ต่อสายเดี๋ยวจะหาว่าไปจัดตั้งรัฐบาลแข่ง ตนขอกราบเรียนด้วยความเคารพและเห็นใจนายบรรหาร ท่านเจ็บนิดหน่อยก็อดทนเอาก็แล้วกัน 

“ธนพร” บุกป่วนประชุมมัชฌิมาฯ

ส่วนทางด้านพรรคมัชฌิมาธิปไตย วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.00 น. ที่อาคารทีพีไอ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคทั้ง 29 คน เพื่อขอมติปลดนายธนพร ศรียากูล รองหัวหน้าพรรคและนายทะเบียนสมาชิกพรรค ออกจากตำแหน่งนายทะเบียนสมาชิกพรรค และหารือในการเจรจาจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล โดยนายประชัยเดินเข้าห้องประชุมด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ทั้งนี้ ได้มีผู้บริหารพรรคหลายคนยืนจับกลุ่มหารือกันว่าจะเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ อาทิ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรค นายสุนทร วิลาวัลย์ รองหัวหน้าพรรค นายกฤษฎา สัจจกุล กรรมการบริหารพรรค นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รองโฆษกพรรค จนกระทั่ง พล.อ.อารักษ์ได้เข้ามาเชิญ ทั้งหมดจึงตัดสินใจเข้าร่วมหารือเบื้องต้นก่อน โดยไม่ต้องลงนามใดๆ จนกระทั่งเวลา 11.45 น. นายธนพร ศรียากูร รองหัวหน้าพรรคและนายทะเบียนพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เดินทางมาพร้อมเจ้าหน้าที่คุ้มกันในชุดซาฟารีถึง 20 คน เดินเข้าไปในห้องประชุม โดยนายธนพรได้ยืนประจันหน้ากับนายประชัยพร้อมกล่าวว่า ท่านไม่ใช่หัวหน้าพรรคแล้ว เพราะได้ลาออกไปตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้นายประชัยมีสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับยืนยันว่า ตนเองยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ และตอบโต้นายธนพรว่าเป็นคนเชื่อถือไม่ได้ พร้อมไล่นายธนพรออกไปจากห้องแต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ตาม มีกรรมการบริหารพรรคบางคนได้ช่วยยืนยันว่า วันนี้นายประชัยยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ เมื่อนายธนพรยื่นเรื่องไปก็ขอให้รอ กกต.ตอบกลับมาก่อน ทำให้มีการโต้ตอบกันไปมา จนกระทั่งกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งเสนอให้พักการประชุม 

“อนงค์วรรณ” ยื่นสอบสถานภาพ “ประชัย”

ภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค ต้องยุติลงเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. นายประชัยได้เดินหนีผู้สื่อข่าวขึ้นไปยังห้องทำงานชั้น 29 ทันที โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ ขณะที่กลุ่มนางอนวงค์วรรณ และนายสุนทรได้หารือข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเรียกประชุมผู้บริหารพรรค ภายในห้องทำงานชั้น 10 ของนางอนงค์วรรณ โดยนายสุนทรกล่าวว่าได้พูดกับนายประชัยตรงๆว่า น่าจะถอยออกไปก่อน แล้วให้นายประมวล น้องชายขึ้นมารักษาการแทน  นายประชัยได้ตอบกลับว่านายประมวลก็น้องชาย ทำไมจะให้ไม่ได้ แต่ยังไม่อยากให้ตอนนี้ เมื่อนายประชัยยืนยันอย่างนั้น เพื่อความชัดเจนและทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตนเอง นางอนงค์วรรณ จึงร่วมกันทำหนังสือถึงนายประมวล เพื่อขอให้ตรวจสอบสถานภาพของนายประชัย ว่ายังเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ จากนี้พรรคจะต้องเรียกประชุมใหญ่เพื่อรับรองกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายในวันที่ 3 ม.ค.นี้ ตามกฎหมายพรรคการเมืองควบคู่กันไป เท่าที่ตรวจสอบข้อมูลจากนายธนพรที่ระบุว่า หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดนี้มีสถานะเพียงรักษาการหลังจากที่นายประชัยได้ประกาศลาออก ทำให้กรรมการบริหารพรรคไม่สามารถดำเนินการเรียกประชุมเพื่อออกมติใดๆได้

ด้าน พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า การยื่นหนังสือให้ตรวจสอบสถานภาพนายประชัย เพื่อป้องกันความผิดที่จะเกิดตามมา หากพบว่านายประชัยสิ้นสุดสถานภาพสมาชิกพรรคและหัวหน้าพรรคจริงตามที่นายธนพร นายทะเบียนสมาชิกพรรคคัดค้าน 

ข่าวจาก ไทยรัฐ

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1424

แสดงความคิดเห็น โดย กรรมกรข่าว IP: Hide ip , วันที่ 29 ธ.ค. 50 เวลา 11:25:04
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี