| • กำนันพยานคดี"ยุทธ ตู้เย็น"ร้องตร. ผวาภัยมืดคุกคาม |
|
โพสต์โดย ตนข่าว เชียงใหม่ , วันที่ 13 ม.ค. 51 เวลา 13:52:44 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จัดกำลังคุ้มครอง"ยงยุทธ"ข้องใจวีซีดียกทีมลุย"กกต."อีก
“เจ๊สด” ท้าชายชาติทหารแอ่นอกไขปริศนา ยืมตัวลูกสาวจากผู้พิพากษานั่งหน้าห้อง จี้สื่อตามถาม “พล.อ.สนธิ” ให้ที พร้อมวอนไอซีทีช่วยจัดการเว็บไซต์ให้ด้วย แพล็มเข้าใจ “ทักษิณ”เมื่อครั้งอุ๊งอิ๊งเซ่นการเมือง ลั่นไม่ใช่พระอิฐพระปูนอย่ากดดันมาก ด้าน “บิ๊กบัง” ยังไม่ออกจากถ้ำ กำนันพยานคดี “ยุทธ ตู้เย็น” วิ่งโร่ร้องตร.เชียงราย หวั่นโดนภัยมืดคุกคาม ส่วน “ยงยุทธ” ยกทีมลุย กกต. ข้องใจวีซีดีโผล่เอเอสทีวี ยันรู้ตัวใครเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง จี้คุ้ยประวัติ “กำนันชัยวัฒน์” ขู่เสร็จงานค่อยงัดหลักฐานเช็กบิล รับเหนื่อยใจเกมชิงอำอาจ “สดศรี”ยอมรับคดียงยุทธรูดม่านไม่ได้ ต้องลงพื้นที่เก็บข้อมูลใหม่ พร้อมเผยสอบสำนวนรั่วต้องสอบ “พล.ต.ต.ชัยยะ” ด้วยเพราะมีสำนวนอยู่ในมือเช่นกัน พปช. ล็อกตัว นรต.34 เพื่อนร่วมรุ่นเผย “ชัยยะ” สนิทกับบิ๊กพันธมิตร ขณะที่พรรคเพื่อแผ่นดินยังเชื่อมั่นจุดยืน หลังมีข่าวพรรคปลาไหลส่อโดนคดียุบพรรค ปชป. แนะให้ตาสว่างคนกรุงยี้ หน.พปช.
“ชลิต”สับม็อบมีแต่รับจ้าง
เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ลานจอดอากาศยานคลังสินค้าท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 09.00 น. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกลุ่มม็อบกดดันการทำงานของกกต.ในการแจกใบเหลืองใบแดงว่า ไม่ห่วง กกต. เพราะท่านมีประสบการณ์ ท่านมาทำงานเพื่อชาติ ความกดดันใด ๆ เป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อถามว่าหากมีการแจกใบเหลือง ใบแดงเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ม็อบกดดันเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า กลุ่มม็อบมีการจ้างวาน ทั้งนั้น ด้วยความเป็นญาติหรืออะไรต่าง ๆ เชื่อว่าเป็นการจ้างวานมาทั้งสิ้น ส่วนใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการว่าจ้างม็อบ ตนว่าแต่ละจังหวัดรู้กันอยู่แล้ว
ส่วนสถานการณ์จะบานปลายหรือไม่นั้น พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่น่าจะมี ตนคิดว่าช่วงนี้ใกล้ถึงวันที่จะเปิดสภา ถ้าเรียบร้อยก็สามารถเปิดประชุมได้ ส่วนใครจะเป็นคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องของการเมือง ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่าทาง คมช.ต่อรองตำแหน่ง รมว.กลาโหม พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า คมช.ไม่มีการต่อรองขอตำแหน่งรัฐมนตรี พล.อ.อ. ชลิต กล่าวว่า “ผมไม่ยืนยัน เพราะผมไม่ได้ให้สัญญาอะไรกับใคร ถ้า คมช.อยากเป็นรัฐมนตรีก็เป็นไปนานแล้ว เป็นตั้งแต่ตอนต้นแล้ว”
“บิ๊กป๊อก”แง้มต้องไว้ใจกัน
ที่กองบัญชาการกองทัพบก เวลา 10.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการคมช. กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการเจรจากับ คมช. เพื่อเปิดทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย ว่า เพื่อความสมานฉันท์ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ในสังคมสามารถพูดคุยกันได้ แต่ในสิ่งที่นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ของ คมช. ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า ความไว้ใจซึ่งกันและกันจะทำให้เกิดความสมานฉันท์ในประเทศใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นส่วนที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากไม่มีความอคติส่วนตัวสถานการณ์จะดีขึ้น ตนยังเชื่อมั่นในระบบความยุติธรรมประเทศชาติก็จะมีหนทางที่จะไปในทางที่ดี ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ประสานงานมาบ้างหรือยังเพราะมีข่าวว่าจะกลับไทยก่อนกำหนดเดิม พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีถ้าหากท่านจะได้มาเคลียร์สถานการณ์บ้านเมืองจะได้ดีขึ้นก็น่าจะกลับมา มีแต่กระแสข่าวว่าจะกลับมาแต่ตนยังไม่ทราบว่ามีการติดต่อกับ คมช.มาบ้างหรือไม่
กำนันเชียงรายกลัวถูกอุ้ม
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจ.เชียงราย เวลา 10.30 น. นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนันต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้เข้ายื่นหนังสือกับ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมให้ปากคำกับนางวรรณดี ชลประทิน กกต.จังหวัดเชียงราย โดยนายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ตนเป็น 1 ใน 10 กำนันที่ถูกทาง กกต.กลางส่งเจ้าหน้าที่มาสอบสวน ตนให้การไปว่า ตนรวมทั้งกำนันและนายกเทศมนตรีเทศบาลบางตำบลรวม 11 คน ได้เดินทางไปกรุงเทพฯโดยเครื่องบินไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิจริง ตนเป็นผู้ซื้อตั๋วเครื่องบิน เมื่อมาถึงได้เข้าพักและทำกิจกรรมในกรุงเทพฯ
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า หลังไปให้การแล้วปรากฏว่าเริ่มมีการใส่ร้ายป้ายสีตนจากบาง กลุ่มในพื้นที่ว่าตนขายยาเสพติด เป็นอดีตมือปืนบ้าง มีอิทธิพลบ้าง ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ยอมรับว่าก่อนมาเป็นกำนันมีชีวิตโลดโผนไปบ้าง และการเข้าให้ปากคำของตนก็พูดไปตามความจริงทุกประการ และการที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน มาให้ข่าวว่าการเดินทางไปของกลุ่มพวกตนเป็นการจัดฉากของฝ่ายตรงข้าม และเหมือนพาดพิงมาถึงตนทำให้ตนห่วงเรื่องความไม่ปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว เชื่อว่าคงมีคนไม่ชอบ และก่อนหน้านี้เคยมีตำรวจโทรศัพท์มาข่มขู่ด้วย จึงต้องเข้าขอความเป็นธรรม และจะทำหนังสือร้องทุกข์ไปยังผบ.ตร.ด้วย ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ถึงกับร้องไห้เมื่อเปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
ตร.รับดูแลความปลอดภัย
พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าวว่า หลังจากได้รับการร้องทุกข์จะจัดกำลังตำรวจไปให้ความคุ้มครองนายชัยวัฒน์และครอบครัว ซึ่งเคยมีบ้านอยู่ใน ต.จันจว้า อ.แม่จัน และทำรายงานถึง ผบ.ตร. ด้วย ซึ่งในส่วนของตำรวจที่ถูกพาดพิงว่าโทรฯไปข่มขู่ จะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและย้ายออกนอกพื้นที่แล้ว
ส่วนนางวรรณดี ชลประทิน กกต.เชียง ราย กล่าวว่า กรณีนายชัยวัฒน์ มาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทาง กกต.เชียงรายจะทำบันทึกถึง กกต.กลางด้วย เพราะถือว่านายชัยวัฒน์เคยให้การกับ กกต.ในเรื่องการทุจริตเลือกตั้งและอาจจะมีอันตราย เรื่องนี้จะนำไปประกอบในการพิจารณาสำนวนของ กกต.คงต้องแล้วแต่จะพิจารณา
ชี้คดี“ยงยุทธ”ไม่จบง่ายๆ
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 1 พรรคพลังประชาชน ออกมาระบุว่า กกต.ไม่ได้นัดให้ไปดูวีซีดีที่ขอจากสันติบาลว่า นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานสอบกรณีเชียงราย ได้นั่งรอเป็นชั่วโมงก็ไม่เห็นนายยงยุทธมาเลย กรณีดังกล่าวนี้ก็ต้องไปเริ่มต้นกระบวนการกันใหม่ และหากว่าในการกลับคำให้การก็ต้องมาดูว่าเราโดนอิทธิพลอะไรหรือเปล่า คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยาวแน่วันที่ 20 ม.ค.นี้ กรณีดังกล่าวนี้ตนคิดว่าไม่เสร็จ
เมื่อถามว่า มีกำนันผู้ใหญ่บ้านที่เป็นพยานของผู้ถูกร้องได้ไปถอนคำร้องจะมีผลต่อ ทางคดีหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ตนคิดว่าอาจมีผลเกี่ยวพันต่อคดีด้วย และตนก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงได้ไปถอนคำร้อง แต่ก็มีอยู่รายหนึ่งที่เราได้ให้ใบเหลืองหรือใบแดงก็ไม่รู้ เขามีการถอนคำร้อง ทุกข์ไปแต่เราก็ได้ยืนยันว่าเราได้ทำไปตามที่เขาได้ร้องเรียนมาและทำไปตามพยานหลักฐานที่ กกต. จังหวัดรวบรวมมา มีอยู่รายหนึ่งลักษณะอย่างนี้แต่กกต.ไม่รับฟังคำถอน อย่างไรก็ตาม การประกาศผลรับรองผลการเลือกตั้งเราจะต้องประกาศผลทั้งหมดให้ทันวันที่ 22 ม.ค.
สำนวนรั่วสอบ“ชัยยะ”ด้วย
นางสดศรี ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้กกต.ได้มีมติให้นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต.ไปดำเนินการตั้งเรื่องกรณีที่นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่น ให้กกต. ตรวจสอบกรณีที่มี กกต. 1 คน ไม่คืนสำนวนทุจริตเชียงรายให้กับตำรวจสันติบาล ที่สงสัยว่าจะทำให้เอกสารรั่วไปถึงมือนายยงยุทธ ติยะไพรัช ก่อนที่มารับทราบข้อกล่าวหา โดยกรณีนี้เราก็ต้องเชิญพล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมาชี้แจงในฐานะผู้กล่าวหา ว่าท่านได้รับความเสียหายกรณีนี้อย่างไร สำนวนรั่วไปได้อย่างไร ออกมาอย่างไร เพราะจริง ๆ แล้วสำนวนก็อยู่ที่ พล.ต.ต.ชัยยะด้วยเหมือนกัน
นางสดศรี ระบุว่า หากจะมากล่าวหาว่ารั่วโดยกกต.ก็ต้องพิสูจน์กันว่ารั่วโดย กกต.จริงหรือไม่ หรือว่า พล.ต.ต.ชัยยะเอง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญตรงจุดนี้ว่าในเมื่อ พล.ต.ต.ชัยยะเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมาแล้วท่านก็ต้องพิสูจน์ว่ามีหลักฐานอะไรไหมที่นายสมชัยเอาไปเปิดเผย และรั่วไปอย่างไร เขารู้อะไรอย่างไร เพราะคนที่ตกเป็นจำเลยทั้ง 2 ฝ่าย คือตัว พล.ต.ต.ชัยยะและนายสมชัยเอง ก็ต้องพิสูจน์ว่าออกไปได้โดยฝ่ายไหน ดีไม่ดี นายสมชัยอาจจะต้องฟ้อง พล.ต.ต.ชัยยะกลับไปก็เป็นไปได้
ล็อกนรต.34แฉอดีตวันวาน
พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แถลงถึงกรณีความเป็นกลางของ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รอง ผบช.ส. ที่ได้รับการแต่งตั้งให้มาเป็นคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดพิเศษของ กกต. ว่าการเข้ามาเป็นคณะอนุกรรมการฯของ พล.ต.ต.ชัยยะ ต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง แต่จากบันทึกถ้อยคำของ พ.ต.ท.คนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 34 เมื่อปี 2524 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ต.ชัยยะ ซึ่งมาให้ถ้อยคำกับฝ่ายกฎหมายของพรรคพลังประชาชน และพรรคได้ยื่นเป็นหลักฐานให้กับ กกต.แล้ว ได้มีโอกาสติดตามผู้ใหญ่คนหนึ่งไปพบกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่บ้านพักถนนสุโขทัยและสำนักงานถนนพระอาทิตย์บ้างเป็นครั้งคราว และทุกครั้งที่ไปพบนายสนธิ ก็จะได้พบกับพ.ต.ท.ชัยยะ (ยศในขณะนั้น) อยู่บ่อยครั้ง
รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ทราบว่า พล.ต.ต.ชัยยะเป็นตำรวจใกล้ชิดกับนายสนธิและมักอยู่บ้านพร้อมนายสนธิ และในบางครั้ง พล.ต.ต.ชัยยะ ก็ได้พาเพื่อนนักเรียนนาย ร้อยตำรวจรุ่นเดียวกันไปแนะนำตัวกับนายสนธิเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนบางอย่าง นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่เป็นเลขหนังสือเดินทาง นายสนธิและ พล.ต.ต.ชัยยะ ซึ่งมีผู้หวังดีส่งมาให้คณะทำงานของพรรคพลังประชาชน ระบุชัดเจนว่าเลขหนังสือเดินทางของทั้งสองคนเป็นเลขในลำดับต่อกัน แสดงถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่น เบื้องต้นพรรคกำลังพิจารณาเพื่อดำเนินการส่งหลักฐานการแต่งตั้งและการทำงานไม่เป็นกลางให้ศาลปกครองพิจารณา
ข้องใจวีซีดีโผล่เอเอสทีวี
ที่พรรคพลังประชาชน นายยงยุทธ แถลงว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้ปรากฏข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ทำนองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลได้นำวีซีดีซึ่งเป็นภาพเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งที่ตำรวจสันติบาลแอบอ้างมามอบให้กกต.แล้วนั้น แต่ปรากฏว่าตนไม่ได้เดินทางไปขอดูวีซีดีดังกล่าว เมื่อข่าวนี้ออกไปทำให้ประชาชนเข้าใจว่าตนเป็นคนเจ้าเล่ห์ยืนยันว่าตนได้เดินทางไปที่ กกต.เพื่อขอดูวีซีดีแล้ว แต่ในขั้นตอนราย ละเอียดของเทปนั้นยังไม่สามารถรับทราบได้ ซึ่งในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปที่ กกต.อีกครั้งหนึ่งเพื่อพิจารณาว่าวีซีดีดังกล่าวที่มีการแพร่ภาพทางเอเอสทีวีเป็นอันเดียวกับที่ตำรวจสันติบาลมีการแอบอ้างหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ต้องถามต่อว่าใครเป็นคนเอาไปให้เอเอสทีวีแพร่ภาพ
นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ยืนยันว่าโดยส่วนตัวไม่เคยทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ข่าวที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์กกต. สมคบคิดกันวางแผน เพื่อให้ตนได้รับผิด ตนจึงอยากขอท้าให้ฝ่ายสืบสวนลงไปสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านในอ.แม่จัน จ.เชียงราย ทุกคนก็จะทราบความจริงว่าในส่วนกรณีที่ระบุว่ามีการนำรถของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ไปใช้นั้นก็ถือเป็นการเอาเรื่องหนึ่งมาผสมกับอีกเรื่องหนึ่งทั้ง ๆ ที่ไม่เกี่ยวกัน
เหนื่อยใจเกมชิงอำนาจ
“ผมรู้สึกอึดอัดใจและเหนื่อยใจกับเกมเพาเวอร์เพลย์ ที่มีคนพยายามแย่งชิงอำนาจ ถ้า กกต.อยากรู้ว่าเรื่องนี้มีที่มาอย่างไรก็ต้องไปตามดูเทปที่เอเอสทีวี ทั้งนี้ผมมองว่าข่าวที่เกิดขึ้นอาจจะมีการตั้งธงเพื่อฟันตนอยู่แล้วก็เป็นได้ อย่าลืมว่าเรื่องอย่างนี้หลอกชาวบ้านไม่ได้หรอกเพราะเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ แต่ถ้า ผบ.ตร. ที่ก่อนหน้าพยายามจะพูดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลไม่มีความเกี่ยวข้องนั้น ถ้าท่านเห็นหลักฐานก็จะรู้เอง” นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ กกต.จะให้มีการสอบสวนประเด็นในกรณีนี้ใหม่นั้นก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะจะเป็นการพิสูจน์ว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่ถ้าเอาสำนวนเดิมของสันติบาลมาใส่ไว้ ก็จะกลายเป็นปัญหาเหล้าเก่าในขวดใหม่ อย่างไรก็ตามไม่ว่าผลการสอบสวนของ กกต. จะออกมาอย่างไรตนก็ไม่สามารถบอกได้ว่าชาวบ้านจะมีปฏิกิริยาเช่นไร แต่วันนี้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้มีการซ้อมหน่วยคอมมานโดเตรียมไว้แล้ว ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะมีการปราบปรามกันอีกหรือไม่
จี้คุ้ยต้นตอ“กำนันชัยวัฒน์”
นายยงยุทธ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย เข้ายื่นหนังสือขอความคุ้มครอง จาก ผบก.จ.เชียงราย เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยว่า ตนอยากให้ไปสืบดูว่านายชัยวัฒน์เป็นคนของใคร เพราะตามข่าวที่ระบุว่านายชัยวัฒน์เป็นคนไปซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อพากำนันมาพบตนนั้น ในเมื่อข้อเท็จจริงกลับปรากฏ ว่านายชัยวัฒน์เป็นคนที่ซื้อตั๋วเครื่องบิน แล้วก็เป็นคนที่ร้องเรียนตนและจะหวังมาเก็บเงิน ค่าเครื่องบินจากตนจะเป็นไปได้อย่างไร
รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวอีกว่า เรื่องนี้สร้างความสับสันให้กับคนทั้งอำเภอและยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่มีการระบุว่ากำนันกลุ่มดังกล่าวมารอพบตนตั้งแต่บ่ายจนถึงเวลา 20.00 น. ถึงได้พูดคุยกัน ในข้อเท็จจริงตนกลับไม่ทราบเรื่องนี้ คนที่อยู่เบื้องหลังบงการเรื่องนี้ เป็นคนที่ยิ้มฟันขาวและเกี่ยวกับปืนเอ็ม 79 ที่ตนเคยระบุไว้แล้ว การที่ตนบอกว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ไม่ใช่การแก้ตัวหรือโวยวาย แต่เมื่อไม่มีความยุติธรรมก็ต้องสู้ ทางที่ดี กกต.จะต้องไปดูว่าวีซีดีรั่วไปที่เอเอสทีวีได้อย่างไรจะดีกว่า ตนจึงอยากบอกว่ามีความพยายามปรักปรำตน เอาไว้ให้เสร็จงานนี้ก่อนตนจะมีหลักฐานเด็ดมาเปิดเผยว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง
ปชป.แนะพปช.ให้ตาสว่าง
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในกรณีที่กกต.มีมติให้ใบเหลืองนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ว่าที่ ส.ส.นคร นายก พรรคประชาธิปัตย์นั้น ขอยอมรับคำตัดสิน และพรรคได้สนับสนุนนายชาญชัยลงเลือกตั้ง เพื่อขอความไว้วางใจจากประชาชนเอาที่นั่งกลับคืนมาให้ได้ จากการติดตามการทำงานของกกต.พบว่าแจกใบเหลืองใบแดงน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ กกต.ชุดแรกที่แจกเกือบ 100 ใบ
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชาชน และนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้พยายามย้ำให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์กวาดที่นั่ง ส.ส.กรุงเทพฯถล่มทลาย เพราะผลคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านั้น เมื่อเทียบสัดส่วนคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ากับส่วนต่างของคะแนนในเขตเลือกตั้งที่ชนะ ส่วนใหญ่ไม่มีผลเพียงพอ แม้ยกคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าให้ทั้งหมดคะแนนก็ยังไม่สามารถชนะผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ อีกทั้งที่คนกรุงเทพฯ เทคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ถล่มทลาย พรรคพลังประชาชนน่าจะรู้ดีว่าคนกรุงเทพฯกลัวนายสมัครขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
พผ.เชื่อคดียุบชท.ไม่กระทบ
นายวัชระ พรรณเชษฐ์ เลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่พรรคชาติไทยอาจถูก กกต.ยื่นเรื่องให้ศาลธรรมนูญสั่งยุบพรรคเนื่องจากมีกรรมการบริหารพรรคได้รับใบแดง ซึ่งจะกระทบต่อการเป็นพันธมิตรทางการเมืองหรือไม่ว่า ความตั้งใจและหลักการของพรรคเพื่อแผ่นดินยังเหมือนเดิม ไม่อยากให้ทุกคนไปคาดคะเนมากเกินไป เรายังไม่มั่นใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปวันข้างหน้า อยากให้ทุกคนจับตามองในสัปดาห์หน้า ที่จะมีความเคลื่อนไหวในคดีของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ที่ฟ้องร้องให้เลือกตั้งเป็นโมฆะและใบเหลืองใบแดงอีกรอบ ตอนนี้จุดยืนของพรรคเรายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
นายวชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า พรรคเพื่อแผ่นดินยังไม่ได้หารือกันในประเด็นดังกล่าว เรื่องนี้ต้องรอดูการดำเนินการที่ชัดเจนจาก กกต. ก่อน แม้ว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคชาติไทยจะเป็นกรรมการบริหารพรรคที่อาจถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง แต่ตามข้อกฎหมายในการเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคนั้น มีหลายขั้นตอนและต้องใช้เวลานานพอสมควร จึงเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลและเปิดสภาในระยะเวลาอันใกล้นี้แต่อย่างใด ทั้งนี้พรรคจะมีการแถลงความชัดเจนในการแถลงร่วมรัฐบาลในวันที่ 17 ม.ค.นี้
“เจ๊สด”วอนไอซีทีอย่าเพิกเฉย
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. กล่าวถึงกรณีที่ปลัดกระทรวงไอซีที ออกมาระบุว่า ตามขั้นตอนที่จะไปปิดเว็บไซต์ไฮ-ทักษิณ ที่เสนอบทความ ว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกฯ ได้มีหนังสือขอยืมตัว น.ส.กอนณา สัตยธรรม ลูกสาวไปช่วยราชการ จะต้องให้ผู้ที่เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดี และให้เอาหลักฐานมาร้องต่อพนักงาน ว่า ตนขอถามกลับไปว่า และก่อนหน้านี้ที่เขาหมิ่นเบื้องสูง หมิ่น พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นั้นท่านจะต้องไปร้องทุกข์หรือไปแจ้งความหรือไม่ เว็บดังกล่าวนี้ก็ได้มีการด่าตนมาตลอด ว่า “อีนางเห็ดสด” บ้างอะไรบ้าง สมควรหรือไม่ที่ทำเช่นนั้น ทั้งที่เป็นความผิดซึ่งหน้าและเห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วทำไมกระทรวงฯถึงไม่ทำอะไรสักอย่าง ตนไม่เข้าใจ
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวก็มีมานานแล้วทำไมถึงมีข่าวออกมาในช่วงนี้ นางสดศรี กล่าวว่า ตนคิดว่าตอนนี้มันกลายเป็นเกมการเมืองไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าโดนเกมอะไรไปบ้าง บางคนก็พยายามดึงเราไปเป็นพวกบ้าง หรือไม่ก็มีการทำแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนที่ร้ายบ้าง แม้กระทั่งอยากให้เราลาออกจากการเป็น กกต.บ้าง จริง ๆ แล้วขณะนี้ กกต.ส่วนใหญ่ก็ท้อกันมาก และไม่กี่วันมานี้ประธาน กกต.เองก็บ่นว่า ไม่ไหวแล้วตอนนี้ท่านเหนื่อยเหลือเกิน และเครียดในหลาย ๆ เรื่องก็ไม่รู้ว่าเขาเล่นอะไรกัน กกต. ตอนนี้น่วมไปหมดทุกคน โดยเฉพาะตนหนักกว่าเพื่อนที่โดนเอาลูกพ่วงเข้าไปด้วย
ท้าชายชาติทหารโผล่หน้าสู้
“ตอนนี้หากใครมาถามดิฉันเรื่องนี้ เดี๋ยวดิฉันจะบอกให้ทางสำนักนายกรัฐมนตรีทำหนังสือขอยืมตัวดิฉันที่เป็น กกต.ไปนั่ง จะได้หมดปัญหาเสียที” นางสดศรี กล่าว และระบุว่า เหมือนอย่างที่อุ๊งอิ๊งโดน แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร้องไห้บอกว่าอย่าทำลูกเลยให้มาทำพ่อเถอะ ซึ่งก็เหมือนกันกับตนเวลานี้ อยากขอร้องอย่ามาเอาลูกสาวเข้าไปเกี่ยวข้องเลย เพราะว่าดีไม่ดีแล้วหากเขาโดนสอบสวนขึ้นมาทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยซึ่งมันไม่ถูกต้อง
นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนี้ได้เคยไปถาม พล.อ.สนธิหรือยังว่าทำไมถึงได้ขอตัวลูกสาว ต้องไปถามท่านว่ามีเหตุผลอะไร พล.อ. สนธิท่านอย่าหลบ ขอให้ออกมาพูดชี้แจงหน่อยเรื่องเป็นอย่างไร มีอะไรพูดเลย แต่อย่าพยายามดึงตนไปเป็นพวกในลักษณะอย่างนั้น ตนก็เบื่อเหลือเกินเรื่องแบบนี้ และอยากขอร้องเถอะว่า ให้ทำแม่เถอะอย่าไปทำลูกเลย เขาบริสุทธิ์เกิน กว่าจะรับสิ่งชั่วร้าย ที่การเมืองมาโยนให้เขา ตนยอมรับว่าตนผิดพลาดไปแล้วที่ก้าวเข้ามาเป็น กกต.ถ้าย้อนเวลาได้ก็คงไม่มาเป็น ถ้ารู้ว่าเหตุการณ์มันมาเป็นอย่างนี้
เผยยังมีชู้สาวเข้าคิวรอแฉ
นางสดศรี ยังกล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีการดึงตนให้เกิดในทำนองชู้สาวอีก ตนก็บอกว่าดีใจเหมือนกันที่มีคนเขียนเรื่องชู้สาวกับตนเอง เพราะตนเองแก่ขนาดนี้แล้วยังมีการเขียนทำนองนี้ก็ถือว่าวิเศษ ตนก็ไม่ว่าอะไรความจริงก็คือความจริงเราไม่มีอะไร ถ้าประชาชนลงชื่อให้ตนออกตนก็พร้อมที่จะลาออกคราวนี้ ตนก็เบื่อแล้วจะเอาไงก็เอากัน
นางสดศรี ยังได้ตั้งคำถามกลับมาว่า การทำเช่นนี้เพื่อต้องการให้พรรคพลังประชาชนได้ใบแดงมาก ๆ ใช่หรือไม่ เพราะถ้าเล่นข่าวมาก ๆ การอคติก็ต้องมีกันบ้าง พร้อมย้ำว่า “อย่า มากดดันกันมาก คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูน เพราะมนุษย์ก็มีลิมิตของตัวเองทั้งนั้นมันไม่ไหวแล้ว” อย่างไรก็ตามขณะนี้ลูกสาวของตนก็ยังสบายดี เขาก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาอะไรเขาจะไม่ให้สัมภาษณ์อะไรทั้งสิ้น
“บิ๊กบัง”ยังไม่ขยับออกจากถ้ำ
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่มีการเผยแพร่ข่าวการทำหนังสือยืมตัว น.ส.กอนณา สัตยธรรม ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระโขนง บุตรสาวนางสดศรี มาช่วยราชการ พล.อ.สนธิ แต่ได้มีการยกเลิกเรื่องดังกล่าวไปในภายหลังแล้วนั้น พล.อ.สนธิ ยังคงเก็บตัวเงียบไม่ให้สัมภาษณ์ แม้ว่าผู้สื่อข่าวจะพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ แต่ พล.อ.สนธิก็ไม่ยอมรับสาย บางช่วงพบว่ามีการปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ ส่วนทีมงานหน้าห้องที่ติดตาม พล.อ.สนธิ ต่างปฏิเสธที่จะแสดงความ คิดเห็นต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.สนธิ คนหนึ่ง เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีความพยายามที่จะดิสเครดิต พล.อ.สนธิ ตอนนี้ก็มีการกันคนนั้นคนนี้ออกจาก คมช.เพื่อให้ดูว่าที่ผ่านมาเป็นการกระทำของ พล.อ.สนธิ คนเดียว ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ว่าเกมการเมืองที่เขาเดินมีจุดหมายอย่างไร และตอนนี้ทาง กกต.มีบทบาทสำคัญในการให้ใบเหลือง ใบแดง คนที่คิดไม่ดีก็จับเรื่องนี้โยงเข้ากับเรื่องนั้น ดูให้เป็นเรื่องเดียวกัน อะไรที่คิดว่าทำให้ พล.อ.สนธิ เสียชื่อเสียง เสียเครดิตความน่าเชื่อถือได้ เขาก็ทำทุกวิถีทาง
คน14ตุลาให้กำลังใจ“ทักษิณ”
ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นายปทุม เกิดศรี ผู้พิการจากเหตุการณ์ 14 ตุลา ได้นั่งรถเข็นนำเป็ดพะโล้ และขนมปังสังขยามามอบให้ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยมี น.ส.ธนิดา ณ นคร เลขาส่วนตัวคุณหญิงพจมาน เป็นผู้รับแทน เนื่องจากคุณหญิงพจมานได้ออกไปธุระส่วนตัวกับครอบครัว โดยนายปทุม กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ได้รับเงินค่าชดเชยช่วยเหลือจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ 1.4 ล้านบาท และได้รับเงินเดือนอีก 9,900 บาทต่อเดือน ตนจึงอยากมาให้กำลังใจและขอให้ พ.ต.ท. ทักษิณ และคุณหญิงพจมานพ้นมลทิน อะไรที่หนักก็ให้เป็นเบา และที่นำอาหารไทยมาให้เพราะไม่อยากให้ลืมประเทศไทย.
ที่มา เดลินิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1297 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว เชียงใหม่
IP: Hide ip
, วันที่ 13 ม.ค. 51
เวลา 13:52:44
|
