ราคาน้ำมันดิบ ปรับขึ้นราว 4 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับสถิติ เหนือระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปัจจัยค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง รวมถึงปัจจัยที่นักลงลงทุนในตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับกำลังการผลิต ในอิหร่านและไนจีเรีย 2 ประเทศที่เป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเป็นสินค้าออกหรือโอเปค

โดยในช่วงปิดตลาด ราคาน้ำมันดิบนิวยอร์ค สหรัฐ ปรับสูงขึ้น 3.65 ดอลลาร์ มาปิดที่ระดับ 119.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังช่วงซื้อขายระหว่างวัน ทะยานขึ้นที่ระดับ 120.36 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ที่ตลาดลอนดอนของอังกฤษ ปรับขึ้น 3.43 ดอลลาร์ มาปิดที่ระดับ 117.99
ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ส่วนตลาดหุ้นวอลสตรีทวันนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง หลังบริษัทไมโครซอฟต์ คอร์ป ตัดสินใจถอนประมูลหุ้นของบริษัทยาฮู ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยจากราคาน้ำมันดิบ ที่ปรับตัวสูงขึ้นในระดับสถิติใหม่โดยอยู่เหนือระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

โดยในช่วงปิดตลาด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 88.66 จุด หรือ 0.68 เปอร์เซ็นต์มาปิดที่ระดับ 12,969.54 จุด ขณะที่ ดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ลดลง 6.41 จุด หรือ 0.45 เปอร์เซ็นต์มาปิดที่ระดับ 1,407.49 จุด และดัชนีแนสแดค ลดลง 12.87 จุด หรือ 0.52 เปอร์เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ2,464.12 จุด

ข่าวจาก ไอเอนๆ นิวส์