จำลอง บอกสัญณาณดี สมชาย ส่งคนกลางเจรจา แต่ต้องตัดสินใจได้ ขู่จับแกนนำอาจเกิดเหมือนพฤษภา35 สมศักดิ์ ท้าตำรวจสลายชุมนุม พิภพ เน้นดึงกลุ่มวิชาชีพถกการเมืองใหม่ 21 ก.ย.
ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข 3 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แถลงข่าว
พล.ต.จำลอง แถลงถึงความคืบหน้าหลังจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์ประสานกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เพื่อเปิดเจรจาหาทางลงให้กับประเทศว่า ยังไม่มีการกำหนดวันเวลา ยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดว่าจะเจรจาเรื่องอะไรบ้าง
แต่นายกฯ ถามว่าต้องการให้รัฐบาลทำอะไรบ้าง และท่านบอกว่าขอให้รัฐบาลทำงานก่อน ดังนั้น จนถึงตอนนี้จึงยังไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากนี้ เพราะภาระเร่งด่วนของรัฐบาลขณะนี้คือการตั้งรัฐบาล ตั้งรัฐมนตรี ที่ยังแย่งโควต้ากันอยู่จนไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ทางแกนนำก็ให้นายสมชายแก้ไขปัญหาภายในพรรคไปก่อน แต่เราพร้อมที่จะเจรจากับนายสมชาย แต่ยังคงยืนยันในจุดยืนเดิมของเรา
เมื่อถามว่า หากเจรจากับนายสมชายแล้วจะออกจากทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.จำลองตอบว่า เป็นเรื่องของสถานการณ์ หากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรต้องประชุมแกนนำพันธมิตรฯ และสอบถามความเห็นประชาชนที่มาร่วมชุมนุมก่อน เพราะคนพวกนี้เขามาด้วยใจ อยู่ดีๆ จะบอกว่าให้ถอยออกจากทำเนียบ ผู้ชุมนุมก็คงหมดความเชื่อถือพวกเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูท่าทีแกนนำพันธมิตรฯ อ่อนลงจากก่อนหน้านี้ที่ไม่ยอมเปิดเจรจากับรัฐบาล พล.ต.จำลองตอบว่า อย่าใช้คำว่าท่าทีอ่อนลง เพียงแต่นายสมชายโทรศัพท์มาพูดคุย ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เราเป็นคนไทยด้วยกัน หากต้องการมาพูดคุยก็มาได้ตลอดเวลา เพราะเราไม่ใช่พวกใหญ่โตอะไร ใครมาพูดคุยด้วยก็น่ายินดี
แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประสานมา ว่าจะมาเมื่อไหร่ ยังไม่มีการส่งตัวแทนมาเจรจา และทางพันธมิตรฯก็ไม่ได้มอบหมายให้ใครเป็นพิเศษในการเปิดเจรจา แกนนำทุกคนเปิดกว้าง สามารถโทรมาคุยกับทุกคนได้ตลอดเวลา ส่วนเมื่อได้ผลการเจรา ก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมแกนนำอีกครั้ง ขณะเดียวกันพันธมิตรฯไม่ได้ปิดกั้นว่าจะต้องเจรจากับนายกฯเพียงคนเดียว แต่ถ้าจะส่งตัวแทนมาก็ต้องเป็นบุคคลที่มีอำนาจในการตัดสินใจและน่าเชื่อถือ ขอทุกฝ่ายอย่าเพิ่งเร่งรัด ให้นายกฯได้ทำงานก่อน
เมื่อถามว่ากรณีที่นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ออกมาระบุว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯเป็นการช่วยพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นรัฐบาล พล.ต.จำลองตอบว่า นางสุดารัตน์บอกว่าไม่ยุ่งแต่ก็เข้ามาจุ้นจ้าน ถึงถูกศาลพิพากษาไปแล้วก็ยังเข้ามาจัดโควตารัฐมนตรีได้ทุกครั้ง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพันธมิตรฯต้องเรียกร้องให้มีการเมืองใหม่ เพราะการเมืองเก่าแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ต้องแย่งโควต้ารัฐมนตรีกันเพราะซื้อเสียงเข้ามาต้องมาถอนทุน มันเป็นแบบนี้เป็นวงจรอุบาทว์ เราไม่ได้ช่วยพรรคประชาธิปัตย์ แต่เราต่อต้านการซื้อเสียง การทุจริต คอรัปชันเพื่อกลับไปซื้อเสียงเพื่อจะเข้ามาเป็นรัฐบาลให้ได้
การเมืองเป็นอย่างนี้ประเทศชาติไปไม่รอด ทางรอดคือการเมืองใหม่ ยิ่งมีการแย่งตำแหน่งกันมากเท่าไหร่ก็เป็นความชอบธรรมของพันธมิตรฯ ขณะนี้กำลังเป็นประเด็นที่สาธารณชนสนใจ โดยเราจะใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลัก หากประเทศไทยใช้เศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจัง เพราะในหลวงตรัสเรื่องนี้มากว่า 30 ปี ถ้าเรานำมาใช้ทุกระดับของประเทศขณะนี้เราคงไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินของสหรัฐฯ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแกนนำพันธมิตรฯจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นในเรื่องการเมืองใหม่ นายพิภพ ตอบว่าในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นในทำเนียบรัฐบาล เราคงออกไปจัดข้างนอกไม่ได้เพราะอาจจะโดนจับ
โดยมีนักวิชาการและตัวแทนกลุ่มวิชาชีพบางส่วนมาร่วมแสดงความเห็น เมื่อได้โครงร่างจากเวทีนี้ก็จะนำไปสู่ที่ประชุมแกนนำพันธมิตรฯเพื่อมาประกาศเป็นตุ๊กตา ในวันที่ 22 ก.ย. เพื่อให้สาธารณะชนได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น ว่ารูปแบบที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร ในส่วนที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอสัดส่วน ส.ส. เป็น 50 ต่อ 50 ก็จะนำสูตรนี้มาประกอบการเสวนาด้วย
สำหรับการออกหนังสือของนายสนธิ เป็นเรื่องส่วนตัวของนายสนธิ ที่เขียนจากปรัชญาแนวคิดตัวเอง ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของแต่ละสาขาอาชีพที่จะนำไประดมความคิดเห็น ซึ่งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจฯ ก็จะมีการจัดเสวนาเรื่องนี้ ตนอยากให้ชมรมวิชาชีพสื่อสารมวลชน ระดมความคิดเห็นเรื่องนี้ด้วย เพราะขณะนี้เรื่องการเมืองไม่ใช่หน้าที่ของพันธมิตรฯ องค์กรเดียวแล้ว เป็นเรื่องของสาธารณชนที่ต้องช่วยกันหาทางรอดให้กับประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่าสำหรับข่าวที่จะมีการสลายม็อบพันธมิตรฯในวันที่ 22 และ 23 ก.ย. นี้ นายสมศักดิ์กล่าวว่าพันธมิตรฯจังหวัดศรีสะเกษแจ้งข่าวมาว่าในวันที่ 22-23 ก.ย.นี้ ช่วงเช้าจะมีคนน้อยก็จะสลายม็อบหากมีการสลายม็อบจริง สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจหรือ สรส.จะนัดหยุดงานอีกแน่นอน ซึ่งการสลายม็อบครั้งแรก สรส.ก็ได้หยุดงานไปแล้วทั่วประเทศ หากเศรษฐกิจเสียหายก็อย่ามาโทษพันธมิตรฯ อีก เพราะรัฐบาลเป็นผู้สั่งการต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเราไม่ได้ขู่ เพราะเป็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ชุมนุมมาร่วมชุมนุมกันให้มาก ๆ เป็นสิทธิของเราที่จะป้องกันตัวและผู้ชุมนุมก็จะไม่ยินยอมแน่นอน พล.ต.จำลองกล่าวเสริมว่า หากสลายม็อบจริงแล้วมีการจับแกนนำ อาจเกิดเหตุอย่างพฤษภาทมิฬแน่นอน
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก โพสต์ทูเดย์