ลิงก์ผู้สนับสนุน

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          หลังจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เรียกระดมพลทั่วประเทศ เพื่อเคลื่อนขบวนเผชิญหน้ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่ากลุ่ม นปช.จะยกขบวนมากดดัน กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาในวันอังคารที่ 21 ตุลาคมนี้ ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยนั้น

          ล่าสุดนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข หนึ่งในแนวร่วม นปช. กล่าวว่า ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ เวลา 11.00 น. กลุ่ม นปช.จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้เป็นกำลังหลักปกป้องรักษารัฐบาลประชาธิปไตย ต่อต้านทหารที่จะออกมาก่อการรัฐประหาร และเร่งดำเนินคดีแกนนำพันธมิตร พร้อมกันนี้จะเดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่

          ทางด้านนายสมชัย ธนะวรรณ์ ผู้ประสานสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า สมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย จะรอดูท่าทีและรอสัญญาณจาก นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช.ว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรเมื่อใด เนื่องจากการเดินทางไปมีค่าใช้จ่าย หากไปต้องมีเป้าหมายชัดเจน มิฉะนั้นจะเสียเวลาและสิ้นเปลืองเงิน เพราะการเดินทางไปกรุงเทพฯ แต่ละครั้งใช้เงินทุนส่วนตัว และช่วยกันแชร์จ่ายค่าน้ำมันหรือค่าเช่ารถเพื่อเดินทาง ซึ่งเป้าหมายการเดินทางไปกรุงเทพฯ ของสมาพันธ์ เพื่อต้องการไปกดดันพันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาล และต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร โดยการกดดันพันธมิตรฯ ให้ออกจากทำเนียบรัฐบาลถือเป็นเป้าหมายสำคัญ

          "ถ้ากลุ่ม นปช.มีกำลังถึง 1 แสนคน เราจะเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมทำเนียบ ไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯ เข้าออก ตัดน้ำ ตัดไฟ และปิดช่องทางส่งเสบียงเข้าไป แต่จะไม่ใช้อาวุธหรือกำลังเข้าไปขับไล่พันธมิตร" นายสมชัย กล่าว

          ขณะที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และ นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า พันธมิตรฯ มีมติที่จะไปแจกแผ่นวีซีดี และเอกสารเกี่ยวกับตำรวจฆ่าประชาชนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคมนี้ เวลา 10.00 น. โดยจะรวมตัวกันที่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นจะเดินไปยังถนนวิทยุ เพราะการไปแจกเอกสารครั้งที่ผ่านมาพบว่าเอกสารที่เตรียมไปจำนวน 1 แสนชุด ไม่เพียงพอ คราวนี้เตรียมไปทั้งสิ้น 2 แสนชุด และได้ปรับปรุงเพิ่มเติมเนื้อหา มีหลักฐานชัดเจนมากขึ้นกว่าที่แจกในชุดที่แล้ว

          ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่มีการเคลื่อนไปปิดล้อมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่จะไปย่านที่มีผู้คนมาก เพื่อให้ประชาชนได้รู้ความจริง และข้อเท็จจริงว่าความโหดเหี้ยมในการใช้อาวุธสงครามเข้าปราบปรามประชาชน เพราะเรื่องนี้ไม่ต้องไปพิสูจน์แล้วว่าเครื่องยิงแก๊สน้ำตาของจีน ของอเมริกา เป็นเรื่องเหลวไหล แต่จากการพิสูจน์ของตำรวจที่ชินสนามในภาคใต้ และแพทย์ก็ยืนยันชัดเจนว่าองค์ประกอบที่เป็นชิ้นเล็กๆ เขี่ยออกมาจากผู้ป่วย 10 กว่าคน คือสะเก็ดระเบิดของปืนเอ็ม 79 แน่นอน

          ส่วนในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีการตัดสินคดีที่ดินรัชดาฯ นั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันว่าจะไม่เดินทางไปที่ศาล เพราะจะต้องเคารพสถาบัน วันนี้เราถือว่ามีเพียงอำนาจตุลาการเท่านั้นที่ประชาชนพึ่งพาได้ คิดว่าการที่รัฐบาลไปเกณฑ์คน หรือจ้าง นปช.ไปกดดันศาล แค่นี้ก็เห็นแล้วว่าเป็นการกระทำที่เถื่อนมากไปแล้ว ยิ่งการที่รัฐบาลไปเกณฑ์คนมา ถ้าเป็นไปตามนั้นจริง ก็ถือว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้เคารพสถาบันตุลาการ ไม่เพียงแต่เป็นการแทรกแซงแต่เป็นการข่มขู่คุกคาม

          อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 09.55 น. วานนี้ (19 ตุลาคม) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อร่วมซ้อมขบวนพระอิสริยยศ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในริ้วขบวนที่ 3 ซึ่งเป็นริ้วเชิญพระโกศเวียนพระเมรุ 3 รอบ เมื่อมาถึง นายสมชาย เข้าไปยังบริเวณพระที่นั่งทรงธรรมด้านหน้าพระเมรุ โดยนายกรัฐมนตรีนั่งรอที่เก้าอี้บริเวณชั้นลด ข้างพระที่นั่งทรงธรรม

          ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งเพิ่งเสร็จจากการซ้อม เดินเข้ามาทำความเคารพ นายสมชาย ซึ่งนายสมชายก็รับไหว้ และเรียกให้ ผบ.ทบ.เข้ามานั่งด้วยกัน และได้เรียก ผบ.ทบ.หลายครั้ง ก่อนที่ ผบ.ทบ.จะเดินเข้าไปนั่งด้านข้าง แต่ได้เว้นช่วงเก้าอี้ห่างจากนายสมชายถึง 3 ตัว กระทั่งนายสมชายต้องเขยิบเข้าไปนั่งติดกับ ผบ.ทบ.เอง โดยมีการพูดคุยกันประมาณ 5 นาที ซึ่งทั้งคู่มีสีหน้าเรียบเฉยเป็นปกติ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดว่าพูดกับ ผบ.ทบ.ด้วยเรื่องอะไร โดยบอกเพียงว่า คุยเรื่องทั่วๆ ไป

          ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่าไม่ได้คุยอะไรเป็นพิเศษกับนายกรัฐมนตรี และไม่ได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องใด พร้อมทั้งย้ำจุดยืนกองทัพว่า ยึดหลักสถาบันพระมหากษัตริย์ และเคียงข้างประชาชนเหมือนเดิม


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
		VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV