(4ต.ค.) นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมนักรบเสื้อแดงที่จ.เชียงใหม่หลายคน และได้รับสารภาพว่าเตรียมแผนฆ่านายเนวิน ว่า เรื่องนี้ตนได้ถูกข่มขู่มาตลอด ตั้งแต่เหตุการณ์ระเบิดที่พรรคภูมิใจไทย ยิงปืนเอ็ม 79 ที่บ้านนายคะแนน สุภา พ่อตาของตนที่จ.เชียงใหม่ 3 ครั้ง ตนได้รับคำขู่ และได้รับการเตือนมาโดยตลอด ผมต้องเรียนตรงๆ ว่า อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน

 “ ถ้าจะทำอะไรก็ทำที่ตัวผม ซึ่งผมคิดว่าสิ่งที่ผมประกาศไปได้ปรากฏชัดแล้วว่าสิ่งที่ผมพูด ไม่ใช่การพูดเพื่อเปิดประเด็นทางการเมือง แต่มีคนที่มีความตั้งใจที่จะลอบสังหาร คนที่มีทัศนคติทางการเมือง หรือมีจุดยืนทางการเมืองที่ไม่เหมือนตัวเอง และสิ่งที่ผมได้รับทราบมา ไม่ใช่แต่ผมคนเดียวที่เป็นเป้าหมาย ยังมีคนอื่น ที่ยังเป็นเป้าหมายของกลุ่มคนเหล่านี้อยู่ ผมคิดว่าบ้านเมืองเจริญแล้วนะครับ ” นายเนวินกล่าว

 นายเนวิน กล่าวอีกว่า เราสู้กันเอาแพ้เอาชนะด้วยเหตุผล ถ้าบอกว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ก็ขอให้ยึดมั่นในการที่จะรับฟังเสียงประชาชน การใช้กำลังการใช้วิธีอย่างที่พยายามจะกระทำกับตน หรือใครก็ตาม แต่ที่มีจุดยืนทางการเมืองที่ต่างกัน มันรังแต่จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย ถ้าตนตายก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เหตุที่จะเกิดขึ้นกับตนหรือครอบครัวตน มันจะยิ่งสะท้อนให้บ้านเมืองเสียหาย บอบช้ำมากไปกว่านี้ และยังมีอีกหลายคนที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มคนเหล่านี้

 “ ซึ่งถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมา ผมคิดว่าบ้านเมืองจะเสียหายมาก เพราะฉะนั้นผมคิดว่าสังคมจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครเป็นฝ่ายถูก ใครเป็นฝ่ายผิด พฤติกรรมของแต่ละคนที่ได้แสดงออก ในการชนะคะคานก็จะเป็นตัวชี้ และประชาชนจะได้เห็นว่า ใครกันแน่ที่ทำลายบ้านเมือง ใครกันแน่ที่ไม่ได้รักบ้านเมือง ใครที่ปากบอกว่ารักบ้านเมือง แต่การกระทำ การสั่งการการบงการ ทำร้ายบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองเราเกือบจะไม่มีใครอยากมาเที่ยวอยากมาลงทุนอีกแล้ว ” นายเนวินกล่าว

 เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ได้บอกหรือไม่ว่าเป็นกลุ่มไหน นายเนวิน กล่าวว่า “วันนี้ความชัดเจนมีอยู่แล้ว สิ่งที่ผมเป็นห่วงก็คือว่า วันนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมได้ 11 คน แต่ในข้อเท็จจริง มีเกิน 20 คน เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง สำหรับเป้าหมายคนอื่นนอกจากตัวผมด้วยเหมือนกัน ”

 เมื่อถามว่า แสดงว่าได้รู้ข่าวว่ากลุ่มนี้ไปฝึกซ้อมกำลังจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า เป็นข้อมูลที่ได้รับทราบมา 2 เดือนเศษแล้ว มีกองกำลังฝึกอาวุธอยู่จริง มีการฝึกสอนโดยทหารรับจ้างมืออาชีพจริง มีผู้เข้ารับการฝึกทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านการฝึกอยู่จริง มีการลักลอบข้ามเข้ามาในประเทศไทยอยู่จริง เมื่อถามว่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกับที่ถูกจับกุมหรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า “ผมคิดว่าข้อเท็จจริงมันประจักษ์ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นที่ใครถูกตำรวจจับแล้วจะมารับสารภาพว่ารับจ้างมาทำร้ายใคร ลอบสังหารใคร เพราะนั่นหมายถึงโทษประหารชีวิต เพราะฉะนั้น ผมต้องเรียนตรงๆ นะครับว่า สิ่งที่ท่านประกาศต่อสังคมแล้วบอกว่าต้องการเห็นการปรองดอง บอกว่า ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข แต่สิ่งที่ท่านและพรรคพวกปฏิบัติอยู่มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ท่านประพฤติประกาศต่อสาธารณชน ”

 นายเนวินกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า “ผมอยากวิงวอนไปอีกครั้งนะครับ ชีวิตผมไม่เป็นไร แต่อยากขอให้เห็นแก่ความสงบสุขของบ้านเมือง ถ้ารักประเทศไทยจริง หยุดเถอะครับ.... หาวิธีอื่น ในการทำให้ประเทศนี้ ได้อยู่กันอย่างสงบ

 " ผมต้องเรียนตรงๆ ว่าชีวิตท่าน ไม่ลำบากหรอกครับ แม้ท่านจะไม่ได้อยู่ประเทศไทย ท่านก็ไม่ลำบาก แต่ตอนนี้พี่น้องประชาชนในประเทศไทย กำลังลำบากจากพฤติกรรมที่ท่านได้ทำ ...ขอเถอะครับ ถ้ารักคนไทยจริง รักประเทศไทยจริง... หยุดสิ่งที่ท่านทำเถอะครับ ” นายเนวิน กล่าว

 เมื่อถามว่า คนที่อยู่ต่างประเทศที่อ้างไว้นั้นหมายถึงใคร นายเนวิน กล่าวว่า “ ก็...คงไม่ต้องอธิบายนะครับ มีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นละครับ ผมเป็นคนกล้าพูดนะครับ เจ้านายเก่าผมเองนี่ละครับ ”

 เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าอดีตเจ้านายยังเคลื่อนไหวอยู่อีก นายเนวิน กล่าวว่า “ วันนี้ ผมคิดว่าคนทั้งประเทศ คงเข้าใจว่า ผมคงไม่สามารถสร้างความเกลียดชัง โกรธแค้น จนกระทั่งต้องหาคนมาทำร้ายผม คนที่จะโกรธผมเกลียดผมขนาดนี้ในประเทศไทย มีไม่กี่คนหรอกครับ แต่คนที่จะมีเงินจ้างคนมาทำร้ายผมมาขนาดนี้ ผมคิดว่ามีคนเดียวครับ ผมคิดว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีไปกว่าผม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีไปกว่าผม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผบ.ทบ. ด้วย ผมว่าพวกเรา 4 - 5 คน มีชีวิต ไม่ต่างกันหรอกครับ เพียงแต่ผมคิดว่าพวกเราอีก 4 - 5 คน จะเป็นอะไร มันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่บ้านเมืองกำลังเสียหายอยู่ บ้านเมืองกำลังบอบช้ำอยู่ เป็นการทำร้ายคนไทย และฆ่าคนไทยทั้งประเทศครับ”

 “ คนที่โกรธผมจนคิดจะทำอย่างนี้ได้มีไม่กี่คน แล้วคนที่มีกำลังเงิน ที่จะจ้างด้วยวงเงินขนาดนี้ ก็คงไม่มีเกิน 1 คนหรอก ขอเถอะ เห็นแก่บ้านเมืองถ้ารักประเทศไทยรักคนไทยจริง ก็หยุดเถอะ ผมว่าสิ่งที่ท่านมี สิ่งที่ท่านเป็น และสิ่งที่ท่านได้รับอยู่ขณะนี้ ตายแล้วเกิดใหม่อีก 3 ชาติ ท่านก็ใช้ไม่หมดหรอกครับ ท่านมีความสุขมากกกว่าคนไทยทั้งประเทศครับ ขอความกรุณา อย่าทำร้ายคนไทยมากไปกว่านี้อีกเลยครับ ”  นายเนวิน กล่าว

 เมื่อถามว่า ได้วางอนาคตไว้อย่างไร นายเนวิน กล่าวว่า อนาคตของตน ก็คือเป็นนายเนวิน ที่เป็นคนไทย และถ้าจะทำอะไรได้เพื่อให้บ้านเมืองนี้ กลับไปเป็นเหมือนเดิม ตนยินดี เมื่อถามว่าต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า ไม่เป็น ตนเรียนเป็นครั้งที่ไม่รู้เท่าไหร่แล้วว่าชีวิตนี้ จะไม่เห็นตนกลับไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกแล้ว ตรงนี้ก็เป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง

 ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าจะให้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. มาเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายเนวิน กล่าวว่า “นี่ก็เกินไปครับ ไม่เคยคุยครับ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชื่อนาย ชวรัตน์ ชาญวีระกุลครับ พรุ่งนี้ ก็ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ไม่รู้ว่า พรุ่งนี้ ผมตื่นมา ผมจะหายใจอยู่หรือเปล่า แต่ยืนยันว่า ตราบใดที่ท่านชวรัตน์ ยังมีความพร้อม มีความแข็งแรง เช่นในปัจจุบัน ท่านก็จะเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าสู่สนามเลือกตั้งครับ ” 

 นายเนวิน กล่าวย้ำว่า ตนจะไม่กลับไปเล่นการเมือง แต่ตนยืนยันว่าอะไรที่เป็นเรื่องของบ้านเมือง ตนจะทำเพื่อบ้านเมือง ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯจะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.สุราษฎร์ธานีในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมตัวเป็นนายกฯสำรอง นายเนวิน กล่าวว่า ตนไม่ได้ชื่อสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่รู้ว่านายสุเทพคิดอะไร เรื่องนี้ คาดเดาลำบาก อย่าไปคิดเรื่องคนอื่นเลย เฉพาะเรื่องตัวเอง ก็จะเอาตัวไม่รอดแล้ว

 เมื่อถามว่า มีการพาดพิงว่าไปแนะนำชักชวนนายสุเทพให้ลงสมัครในครั้งนี้ นายเนวิน กล่าวว่า ไม่บังอาจหรอก ผมว่านายสุเทพ ไม่ได้มาเชื่ออะไรตนมากมายขนาดนั้นหรอก วันนี้เอาแค่ตัวเองก็จะไม่รอดแล้ว

 เมื่อถามว่าจุดยืนของพรรคหลังเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นเช่นใด นายเนวิน กล่าวว่า “ทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำสิ่งที่สังคมและบ้านเมืองต้องการ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยชีวิต เท่านั้นแหละครับการเมือง”

 เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้งจะยังคงเหนียวแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องแล้วแต่สังคม คนส่วนใหญ่ของประเทศจะเป็นคนกำหนด เมื่อถามว่าหากพูดแบบนี้แสดงว่าหลังเลือกตั้งจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่หากประชาชนเรียกร้องต้องการ นายเนวิน กล่าวว่า “ผมคิดว่าสังคมส่วนใหญ่ จุดยืนทางการเมืองของแต่ละพรรคการเมือง วันนี้สังคมได้เห็นแล้วว่าพรรคการเมืองไหนมีแนวทางทางการเมืองอย่างไรและมีจุดยืนอย่างไร ”

 เมื่อถามว่าจะชูเรื่องนิรโทษกรรมจะเป็นยุทธศาสตร์หลัก สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า “เป็นจุดยืนของเราอยู่แล้วนะครับ” เมื่อถามว่า บางฝ่ายมีความเห็นทางกฎหมายว่า ประชาชนนิรโทษกรรมให้ประชาชนไม่ได้ นายเนวิน กล่าวว่า ส.ส. ก็เป็นประชาชน ไม่ใช่ผู้วิเศษเหอะเหินเดินอากาศได้ ไม่มีปีกพ่นไฟได้ ในเมื่อรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า 5 หมื่นชื่อ ถ้าอยากจะช่วยคนที่ตกเป็นแพะก็ทำเถอะครับ อย่าสร้างเงื่อนไข

 เมื่อถามว่าแสดงว่า กฎหมายนิรโทษกรรมจะเดินคู่ไปกับแผนปรองดองของพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ นายเนวิน กล่าวว่า พล.ต.สนั่น พยายามปรองดองนักการเมืองกับแกนนำม็อบอย่างเดียว ส่วนตนคิดเรื่องประชาชน แต่ทำไปเถอะ อะไรที่ทำให้บ้านเมืองสงบได้ ก็พร้อมที่จะสนับสนุน ขอให้ทำมากกว่าพูด อย่าพูดแล้วไม่ทำ

ข่าวจาก คมชัดลึก