อำมหิต! เด็กวัย 16 ถูกนักเรียนกรุงเทพช่างกลกว่า 50 คน รุมทำร้าย เหตุเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กโรงเรียนคู่อริ เผย พฤติกรรมสุดเหี้ยม ใช้มีดแทงทะลุปอด ตัดนิ้วมือจนด้วนทั้ง 10 นิ้ว อาการสาหัส แม่วอนผู้ใหญ่ช่วยเหลือ ชาวเน็ตร่วมแชร์บอกสรยุทธ เจ้าตัวเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง

          ผู้ สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ว่า ขณะนี้ในโลกไซเบอร์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความส่งต่อกันในเฟซบุ๊ก เพื่อขอความช่วยเหลือไปยัง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดังทางช่อง 3 ว่า ขอให้นำเสนอข่าว น้องแบงค์ อายุ 16-17 ปี ถูกนักเรียนอาชีวะกว่า 50 คน รุมทำร้าย โดยใช้มีดแทงทะลุปอด และตัดนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วจนด้วน ขณะนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าสมิงพราย

          ทั้งนี้ ในเฟซบุ๊ก Kawin Tazz Kamonsin ได้โพสต์ภาพนิ้วมือของน้องแบงค์ที่ถูกตัดจนด้วน พร้อมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา โดย น้องแบงค์ ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนศรีวัฒนาบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีนานาชาติ ได้ถูกนักเรียนกรุงเทพช่างกล กว่า 50 คน รุมทำร้าย ด้วยการใช้มีดแทงทั้งตัว และทะลุปอดจนเลือดตกใน จนต้องเย็บกว่า 200 เข็ม ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ น้องแบงค์ ยังถูกตัดนิ้วทั้ง 10 นิ้วทิ้งอย่างโหดเหี้ยม

          จาก การสอบถามเพื่อนของน้องแบงค์ ทราบว่า วันเกิดเหตุ น้องแบงค์ได้ไปแวะคุยกับเพื่อนสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน โดยปัจจุบันเพื่อนคนนั้นเรียนอยู่ที่โรงเรียนชำนิเทคโนโลยี และเป็นที่รู้กันดีว่า นักเรียนโรงเรียนชำนิเทคโนโลยีจะไม่ถูกกับโรงเรียนกรุงเทพช่างกล ดังนั้น เมื่อนักเรียนกรุงเทพช่างกลเห็นน้องแบงค์คุยอยู่กับนักเรียนโรงเรียนชำนิ เทคโนโลยี จึงเข้าใจว่าเป็นพวกเดียวกัน และรุมทำร้ายน้องแบงค์จนบาดเจ็บสาหัส

          สำหรับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สร้างความสะเทือนใจและเสียใจต่อครอบครัวและเพื่อน ๆ ของน้องแบงค์เป็นอย่างมาก เพราะน้องแบงค์เป็นเด็กดี รักแม่และน้องสาว รวมทั้งยังมาคุยกับเพื่อน ๆ เสมอ แต่ตอนนี้ แม่ของน้องแบงค์ไม่อนุญาตให้แบงค์กลับไปเรียนต่อแล้ว และรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก จึงอยากให้ผู้ใหญ่เข้ามาช่วยเหลือเพื่อขอความเป็นธรรมด้วย

          ทั้ง นี้ หลังจากเรื่องราวดังกล่าวปรากฏในเฟซบุ๊กไปได้ไม่นานก็มีคนเข้ามากดแชร์เป็น จำนวนมาก เพื่อส่งเรื่องนี้ไปถึงหูผู้ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือด้วย เพราะเป็นพฤติกรรมที่ทารุณโหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งขณะนี้ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรณีนี้อยู่