• นศ.ตุ๊ดเฮ มศว ยอม พักหอหญิง |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 12 ส.ค. 50 เวลา 10:54:09 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
บรรดานักศึกษาสาวประเภทสองได้เฮที่จะมีสถาบันการศึกษาของรัฐเปิดใจกว้างยอมรับในตัวตนมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายวิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ในฐานะสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยภายหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับคำนำหน้าเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันและให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม โดยมีการพูดถึงผู้ชายที่ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิงและต้องการใช้คำว่า นางสาว หรือนาง นำหน้าชื่อแทนคำว่านายว่า ในหลายประเทศ กฎหมายการเปลี่ยนชื่อนำหน้าของผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงนั้นมีใช้กันหลายปีแล้ว หากย้อนดูประวัติศาสตร์ในยุคโบราณจะพบว่า แม้แต่นักรบก็ไม่ได้จำกัดเพศเพียงหญิงชาย เรื่องการมีเพศที่ 3 นั้นมีมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไป เราพูดถึงสิทธิเสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มากขึ้น รูปแบบต่างๆ จึงต้องเอื้อถึงคนหลายๆกลุ่ม และมีการเปิดเผยตัวให้สังคมได้เรียนรู้และเข้าใจมากขึ้น นายวิรุณกล่าวว่า โดยส่วนตัวตนเห็นด้วยว่า เมื่อมีการแปลงเพศแล้ว ควรจะได้เปลี่ยนชื่อนำหน้าจากนาย เป็นนางสาว หรือนางก็แล้วแต่ แม้แต่ในมหาวิทยาลัยที่มีระบบหอพัก ขณะนี้อาจจะต้องมีการพิจารณาเรื่องการอนุญาตให้เข้าพักของนักศึกษาเพศที่สาม โดยเฉพาะนิสิตชายที่มีลักษณะเป็นผู้หญิง ที่เคยขอใช้สิทธิพักในหอพักหญิง เพราะไม่ต้องการพักกับนิสิตนักศึกษาชาย เนื่องจากเกรงว่าจะถูกลวนลามทางเพศ แต่ในทางกฎหมาย คนเหล่านี้ยังใช้ชื่อนำหน้าเป็นนายก็ต้องพักในหอพักชาย รวมทั้งกฎหมายต่างๆ ยังไม่ได้ออกมาอย่างชัดเจน ทำให้บางครั้งมหาวิทยาลัยต้องพยายามหาทางออกอื่นๆ ให้ เช่น การจัดกลุ่มให้นิสิตที่เป็นผู้ชายและมีลักษณะเป็นผู้หญิงได้อยู่ในห้องเดียวกัน “ผมคิดว่า ถ้าเมื่อไหร่นิสิตชายที่มีลักษณะและ รสนิยมทางเพศเป็นหญิงได้รับการแปลงเพศ โดยมีเอก- สารการยืนยันจากแพทย์ที่ทำการผ่าตัด มีใบรับรอง มีเอกสารเกี่ยวกับการเพศ หรือข้อมูลเกี่ยวกับฮอร์โมน การเปลี่ยนชื่อนำหน้าจากนายมาเป็นนางหรือนางสาว ก็น่าจะทำได้ รวมถึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบการเข้าพักในหอพักของมหาวิทยาลัย ที่สมควรจะให้บรรดานิสิตชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว พักในหอพักหญิงได้ด้วย” อธิการบดี มศว กล่าวและว่า ที่ผ่านมา แม้จะดูภายนอกว่านิสิตชายบางคนมีลักษณะกระตุ้งกระติ้ง แต่เมื่อไม่มีการเปลี่ยนเพศ มหาวิทยาลัยเองก็ไม่แน่ใจว่า นิสิตคนนั้นจะมีความเป็นผู้หญิงจริงๆ หรือยังมีความเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า หากอนุญาตให้เข้าพักในหอพักหญิงอาจจะเกิดความโกลาหลได้ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเองก็ต้องดูแลในเรื่องความปลอดภัยตรงนี้ด้วย แต่ในคนที่เปลี่ยนเพศแล้วคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ด้าน นายกิตติกร สันคติประภา อาจารย์บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ผู้ทำงานวิจัยเรื่อง “การลวนลามทางเพศกะเทย : นัยสำคัญภายใต้วาทกรรมรักต่างเพศ” กล่าวว่า สังคมส่วนใหญ่มักมองว่า ผู้ที่มีจิตไม่เป็นไปตามเพศสรีระนั้นผิดปกติ จะเห็นได้จากการตัดสินจากผู้มีอำนาจในกรณีการเกณฑ์ ทหารว่า กะเทยไม่ผ่านเกณฑ์เพราะมีจิตผิดปกติ ถือเป็นการตัดสินจากมุมมองของสรีระเพียงอย่างเดียว ดังนั้นผู้ที่มีจิตใจไม่ตรงกับสรีระ จึงต้องหาทางออกด้วยเทคนิค วิทยาการทางการแพทย์นั้น คือต้องพึ่งศัลยกรรมเพื่อสร้างความพึงพอใจให้เกิดขึ้นกับตัวเอง และให้เข้าได้กับเกณฑ์มาตรฐานทางสังคม ที่ผ่านมาแม้แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว กะเทยก็ยังถูกละเลยและถูกละเมิดสิทธิต่างๆ ที่ควรได้ข่าวจาก ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1328 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 12 ส.ค. 50
เวลา 10:54:09
|