ตำรวจจราจรสน.ทองหล่อคิดสั้นชักปืนระเบิดสมองตัวเองตายคารถทัวร์สายกรุงเทพฯ-โคราชอย่างน่าสยดสยอง เผยลางานผู้บังคับบัญชากลับไปเยี่ยมลูกกับเมียเก่าที่บ้านจ.ชัยภูมิ จึงนั่งรถทัวร์กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ไปยังจุดหมาย ระหว่างทางรถจอดแวะที่ขนส่งปากช่อง จู่ๆ ผู้ตายก็ชักอาวุธปืน 9 ม.ม.ออกมาระเบิดสมองตัวเองทันที เล่นเอาผู้โดยสารในรถสยดสยองไปตามๆ กัน ค้นในตัวพบจ.ม.ขอโทษพ่อแม่ ผู้บังคับบัญชาเผยผู้ตายเป็นคนดี แต่มีปัญหาครอบครัวเพราะมีเมีย 2 คน มีลูกทั้งกับภรรยาเก่าและภรรยาใหม่ แต่ไม่คิดว่าจะมาฆ่าตัวตายแบบนี้

            เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 4 พ.ย. พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ชวนกระโทก สารวัตรเวรสอบสวนสภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รับแจ้งว่ามีผู้โดยสารใช้อาวุธปืนยิงตัวตายบนรถโดยสารปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา หมายเลข 21-39 ซึ่งจอดอยู่ที่สถานีรถทัวร์ปรับอากาศชั้นหนึ่ง ในตลาดปากช่อง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.วิวัฒน์ สีลาเขต ผกก.สภ.ปากช่อง พ.ต.ต.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ สว.สส.สภ.ปากช่อง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน

            ที่เกิดเหตุพบรถบัสโดยสารปรับอากาศคันดังกล่าวจอดอยู่หน้าสถานี ผู้โดยสารที่ร่วมโดยสารยืนอออยู่ข้างรถบัสด้วยอาการตกอกตกใจ โดยที่บริเวณที่นั่งด้านหน้าเบาะตัวที่ 2 พบจ.ส.ต.อาชานัย คุ้มสา อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสน.ทองหล่อ นอนจมกองเลือดยังหายใจรวยริน มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้ายจึงรีบนำร่างจ.ส.ต.อาชานัยส่งโรงพยาบาลปากช่องนานา นอกจากนี้ ยังพบว่าในที่เกิดเหตุมีปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ข้างๆ ตัวจ.ส.ต.อาชานัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังพบจดหมายลาตายของจ.ส.ต.อาชานัยเขียนข้อความลาตายสั้นๆ ว่า ขอโทษพ่อแม่ มอบเงิน 2,860 บาท ซึ่งเป็นเงินติดตัวให้พ่อแม่ด้วย ตกอยู่ 1 ฉบับ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

            จากการสอบสวนนายสร้อย บาตรโพธิ์ อายุ 50 ปี พนักงานขับรถยนต์โดยสารปรับอากาศคันดังกล่าวให้การว่า ขับรถคันดังกล่าวออกจากหมอชิต 2 ตอนบ่าย 2 โมง มีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคันรถและไม่ได้ผิดปกติอะไร ก่อนถึงสถานีขนส่งปากช่องชายคนดังกล่าวได้ลุกมาสอบถามว่าถึงสีคิ้วหรือยัง ซึ่งตนก็บอกไปว่าอีกประมาณ 30 ก.ม. ให้นั่งรอเมื่อถึงแล้วจะเรียก พอรถจอดตนก็ลงไปห้องน้ำ พอลงจากรถครู่เดียวก็ได้ยืนเสียงปืนจึงรู้ว่าชายคนที่สอบถามเมื่อสักครู่ได้ยิงตัวตายแล้ว

            พ.ต.ท.วีระศักดิ์กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นผู้โดยสารและพนักงานประจำรถให้ให้ข้อมูลว่า ครั้งแรกผู้ตายได้นั่งอยู่ที่เบาะหลังอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำภายในรถ เมื่อรถวิ่งผ่านจ.สระบุรีผู้ตายได้ยืมปากกาผู้โดยสารที่นั่งอยู่ติดกัน จากนั้นได้ลุกจากเก้าอี้เพื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำอยู่นานร่วมชั่วโมงก่อนจะออกมานั่งที่เดิม ซึ่งช่วงนั้นยังไม่พบพิรุธอะไร ขณะที่รถวิ่งมาถึงสี่แยกไฟแดง อ.ปากช่อง ผู้ตายลุกเดินไปที่หน้ารถเพื่อสอบถามพนักงานขับรถว่าถึง อ.สีคิ้ว หรือยัง พนักงานได้บอกไปว่าเหลือระยะทางประมาณ 30 ก.ม.จะถึง ทำให้ผู้ตายได้หันกลับไปนั่งที่เบาะด้านหน้าซ้ายแถวที่สอง จากนั้นคนขับได้นำรถเข้าจอดเทียบท่าสถานีรถปรับอากาศอำเภอปากช่อง ระหว่างนั้นผู้ตายก็ชักปืนออกมาจ่อศีรษะตัวเองแล้วลั่นไกทันที เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนขยายผลต่อไป

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังข่าวการตายของจ.ส.ต.อาชานัยแพร่สะพัดออกไปสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับเพื่อนข้าราชการตำรวจและบุคคลใกล้ชิดเป็นอย่างยิ่ง พ.ต.อ.จีรพัฒน์ ภูมิจิตร ผกก.สน.ทองหล่อ ในฐานะผู้บังคับบัญชาจ.ส.ต.อาชานัย กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้สอบถามไปยังพ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ สว.จร.ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของผู้ตายแล้ว ทราบว่าผู้ตายเป็นตำรวจจราจรที่ทำงานดี ไม่มีปัญหาในเรื่องการทำงาน ไม่เครียดกับเรื่องหน้าที่การงาน และไม่มีการร้องเรียนใดๆ แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้บังคับบัญชาเพราะทำงานดี จ.ส.ต.อาชานัยดำรงตำแหน่งผบ.หมู่จร. สน.ทองหล่อ รหัสหมวก 658 ประจำจุดแยกแจ่มจันทร์-เอกมัย ในเวลา 14.00-22.00 น.ของทุกวัน เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเป็นคนเงียบขรึม อย่างไรก็ตาม คงต้องตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

            ด้านพ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ สว.จร.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ปกติจ.ส.ต.อาชานัยเป็นคนที่ขยันในการทำงาน เพื่อนๆ รักใคร่ทุกคน ไม่มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน แต่เป็นที่ทราบกันดีว่ามีปัญหาครอบครัว เนื่องจากมีภรรยา 2 คน มีลูกที่เกิดกับภรรยาเก่า 1 คน อาศัยอยู่กับญาติที่จ.ชัยภูมิ และเกิดกับภรรยาใหม่ 2 คน ส่วนภูมิลำเนาจ.ส.ต.อาชานัย เป็นคนสุโขทัยและเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มาขออนุญาตไปเยี่ยมลูกที่จ.ชัยภูมิ ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมายิงตัวตายดังกล่าว

            วันเดียวกันนางโชติกา แสงกุดเลาะ ภรรยาคนใหม่ของจ.ส.ต.อาชานัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า สามีบอกว่าจะไปเยี่ยมลูกที่เกิดกับภรรยาเก่าที่จ.ชัยภูมิ ซึ่งตนก็ถามว่าลางานแล้วหรือยัง จ.ส.ต.อาชานัยบอกว่าลากับผู้บังคับบัญชาแล้ว ตนยังบอกว่าให้รีบกลับบ้านมาทำงานโดยไม่คิดว่าสามีจะคิดสั้นแบบนั้น ซึ่งจ.ส.ต.อาชานัยอยู่กินกับตนมาแล้ว 5 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน ที่ผ่านมาก็รับผิดชอบครอบครัวดี


ข้อมูลและภาพประกอบจาก

ข่าวจากกระปุกดอทคอม