ทั้งนี้ รายละเอียดในใบรับรองแพทย์ตามแบบที่แพทยสภารับรอง แบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 ส่วนของผู้ขอรับใบรับรองแพทย์รับรองตนเอง ประวัติโรคประจำตัว ประวัติอุบัติเหตุและการเข้ารับการผ่าตัดที่สำคัญ โดยผู้ขอรับใบรับรองแพทย์ต้องลงลายมือชื่อในใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าการให้ข้อมูลดังกล่าวของตนถูกต้องตามความเป็นจริง คู่ขนานกับการตรวจรับรองในส่วนที่ 2 ส่วนของแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและรับรองผู้ขอรับใบรับรองแพทย์ว่าไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไม่ปรากฏอาการของโรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน หรือปัญญาอ่อน ไม่ปรากฏอาการของการติดยาเสพติดให้โทษ ไม่ปรากฏอาการของโรคพิษสุราเรื้อรัง และไม่ปรากฏอาการและอาการแสดงของโรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม โดยแพทย์จะสรุปความเห็นและข้อแนะนำของแพทย์เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้ขอรับใบรับรองแพทย์เป็นผู้มีร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ
.
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับใบรับรองแพทย์ตามแบบที่แพทยสภารับรองดังกล่าว(2551) สถานพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว สำหรับสถานพยาบาลที่ยังใช้แบบฟอร์มเดิม ทางแพทยสภาได้ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่แบบฟอร์มดังกล่าวบนเว็บไซต์ โดยสามารถดาวน์โหลดตัวอย่างได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา http://tmc.or.th/detail_news.php?news_id=1029 ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถหรือใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถควรแจ้งวัตถุประสงค์ในการขอรับใบรับรองแพทย์ให้ชัดเจน เพื่อให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้ถูกต้องตรงกับวัตถุประสงค์การนำไปใช้และเป็นไปตามรูปแบบที่กำหนด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการกระบวนการคัดกรองผู้ขับรถและมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สำหรับโรคประจำตัวบางกลุ่ม แม้ตามกฎหมายจะยังไม่กำหนดให้เป็นโรคต้องห้ามที่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถ แต่กรณีผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถไปแล้วอาการของโรคกำเริบ ขณะขับรถจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง กรมการขนส่งทางบกอาจพิจารณา เพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนรวม และป้องกันอุบัติเหตุ