ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ข่าว สลด สาวท้อง 5 เดือน เร่ ขายตัว ขาย เซ็กส์ sex ริมถนน เจ้าตัวเผยสามีทิ้ง ไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน ค่านมเลี้ยงลูกและแม่ จึงตัดสินใจไปยืน ขายตัว ขาย เซ็กส์ sex ที่หน้า โรงแรมสยาม ก่อนถูกตำรวจจับ
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 25 พ.ย. พ.ต.ท.ฐาปกรณ์ อินทะชัย รอง ผกก.ป. สน.มักกะสัน พ.ต.ต.บุญโรจน์ โลจายะ สว.สส. ร.ต.อ.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ รอง สว.สส. พร้อมกำลัง ปิดล้อมบริเวณหลังโรงแรมสยาม ถนนกำแพงเพชร 7 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. เพื่อจับกุมหญิงสาวที่มายืนเตร็ดเตร่ขายบริการทางเพศ กับนักเที่ยวยามราตรี ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง พบกลุ่มหญิงสาวหลายสิบคนกำลังรอหาลูกค้าอยู่ริมถนน
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงจากรถสายตรวจเพื่อเข้าจับกุม บรรดาผีเสื้อราตรีต่างพากันวิ่งหนีเป็นผึ้งแตกรังไปคนละทิศละทาง บางคนวิ่งหนีข้ามถนนไปอีกฝั่งอย่างไม่คิดชีวิต หวิดถูกรถที่วิ่งสวนไปมาพุ่งชน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมหญิงสาวอายุระหว่าง 20-30 ปี ได้จำนวน 16 คน แจ้งข้อหาติดต่อชักชวน เตร็ดเตร่ ก่อความเดือดร้อนรำคาญ นำตัวไปปรับที่สถานีตำรวจ พร้อมทำประวัติบันทึกภาพ และว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป
ขณะเจ้าหน้าที่จดบันทึกประวัติหญิงสาวที่ถูกจับกุม ปรากฏว่าพบหญิงสาว 1 ในจำนวนที่ถูกจับกุม สวมชุดเสื้อกระโปรงยาวคลุมเข่าสีชมพู ถือกระเป๋าสะพายใบใหญ่ปกปิดหน้าท้องที่ยื่นโย้ออกมาอย่างมีพิรุธ สอบสวนทราบชื่อ น.ส.มลิวัลย์ หรือเก๋ มุขสุข อายุ 24 ปี ให้การว่า กำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนครึ่ง สร้างความหดหู่ใจแก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้น น.ส.มลิวัลย์ได้เล่าเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังด้วยน้ำตานองหน้าว่า พักอาศัยอยู่กับแม่และลูกสาววัย 3 ขวบครึ่ง ที่บ้านเช่า ในซอยปรีดีพนมยงค์ 34 แม่แยกทางกับพ่อ ตนเรียนจบแค่ชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านพระโขนง ตนถูกสามีทิ้งไปขณะกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 ได้เพียงเดือนเศษ หลังทราบความจริงว่าสามีมีเมียและลูกอยู่แล้ว แถมยังไม่ได้เป็นเสี่ยร่ำรวยอย่างใด แต่เป็นนักเล่นการพนันตัวยง หลอกเอาทรัพย์สินของตนที่เก็บออมไว้ไปขายเล่นการพนันในบ่อนจนเกลี้ยง
น.ส.มลิวัลย์เล่าชีวิตอันขื่นขมของตัวเองอีกว่า เมื่อสามีทิ้งไปไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน ค่านมเลี้ยงลูกและแม่ จึงตัดสินใจไปยืนขายบริการทางเพศที่หน้าโรงแรมสยาม โดยที่ไม่ทราบว่าตั้งท้องอ่อนๆ อยู่ คิดค่าบริการกับนักเที่ยวครั้งละ 1,300-1,500 บาท และเคยถูกตำรวจ สน.มักกะสันจับไปปรับมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าตั้งท้อง จนกระทั่งไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ขณะที่ท้องก็ใหญ่ จึงเอ่ยปาก บอกแม่ว่าจะออกไปขายตัวอีกครั้ง เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว แล้วตัดสินใจนั่งรถประจำทางมายืนเรียกลูกค้าที่ริมถนนข้างโรงแรมสยาม โดยใช้กระเป๋าสะพายใบใหญ่ ปิดบังหน้าท้องเอาไว้ รอบแรกมีวัยรุ่นเรียกใช้บริการ หลังตกลงราคากันเรียบร้อย พากันไปเปิดโรงแรม พอเข้าไปในห้อง ลูกค้าเห็นว่าตนท้องจึงไม่ใช้บริการและมอบเงินให้มา 300 บาท
น.ส.มลิวัลย์สะอื้นร่ำไห้เล่าต่ออีกว่า ตอนแรกจะกลับบ้านแล้ว แต่เงินไม่พอซื้อนมและข้าวของเครื่องใช้ สำหรับลูก จึงกลับไปยืนรอหาลูกค้าอีก แต่มาถูกตำรวจจับ ทั้งๆที่พยายามวิ่งหลบหนี เพราะคิดในใจว่าถ้าไม่หนี คงไม่มีเงินเสียค่าปรับแน่นอน แต่ก็หนีไม่พ้นเพราะตนท้องโย้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฟังเรื่องราวชีวิตแสนเศร้าของ น.ส.มลิวัลย์ และทำประวัติเสร็จสิ้น ด้วยความสงสาร จึงพากันเรี่ยไรได้เงินจำนวนหนึ่งมอบให้ น.ส.มลิวัลย์ไปเป็นค่าใช้จ่าย
พ.ต.ท.ฐาปกรณ์ อินทะชัย รอง ผกก.ป. เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจและหดหู่ใจที่ในสังคมยังมีปัญหาอย่างนี้ เรื่องการจับกุมก็ต้องดำเนินการตามหน้าที่ ส่วนด้านการสงเคราะห์ก็ช่วยเหลือกันตามศรัทธา ได้ซักถามถึงเรื่องการฝากท้องจาก น.ส.มลิวัลย์แล้ว บอกว่าฝากท้องไว้ที่โรงพยาบาลตำรวจ จึงได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ รอง สว.สส. ไปประสานเป็นธุระให้อีกทางหนึ่ง ด้านการดำเนินการกับหญิงที่มาเดินเตร็ดเตร่ในเวลากลางคืนนั้น ทาง สน.มีมาตรการจับปรับอย่างต่อเนื่องทุกวัน แต่เท่าที่ดูประวัติหญิงแต่ละคนนั้นเคยถูกจับคนละหลายครั้ง เป็นความสมัครใจเพื่อมาขายบริการ สอบถามแต่ละรายอ้างว่าขัดสนเรื่องเงินทอง แต่จริงๆแล้วส่วนใหญ่หาเงินเที่ยวเตร่ บางรายติดยาเสพติด แต่ในรายของ น.ส.มลิวัลย์ เป็นความจำเป็นที่เธอไม่อยากทำแต่ไม่มีทางออก เพราะความรู้น้อย
ด้าน พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้กำกับ สน.มักกะสัน ได้ออกมาตรการระดมกวาดจับนำตัวมาทำประวัติ และขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหญิงขายบริการเหล่านี้ จนสามารถควบคุมได้ในส่วนหนึ่ง แต่การแก้ไขต้องดำเนินการระยะยาวและจริงจัง ดูจากประวัติที่เคยทำเอาไว้พบว่ามีหญิงขายบริการอยู่ 2 ประเภท 1. เป็นพวกสมัครใจ หรือยึดเป็นอาชีพ กับ 2. พวกสมัครเล่นที่ต้องการหาเงินไปแต่งตัว เที่ยวเตร่ หญิงบริการประเภทหลังนี้น่ากลัว เคยได้กำชับตำรวจที่จับกุมว่าหากพบต้องรีบให้การช่วยเหลือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|