• พี่มอสขอโทษ! แก้ผ้า'แพทริค' |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 29 ธ.ค. 50 เวลา 11:27:10 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หลัง “น้องแพทริค” ดาราเด็กคนดังผู้รับบท “เด็กชายต้นไม้” จากละครเรื่อง แสงดาวแห่งหัวใจ ทาง ช่อง 7 สี ถูกพระเอกหน้าเด็ก “มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์” กับพวก นักแสดงละครเรื่องเดียวกัน จับแก้ผ้ากลางกองถ่าย สร้างความอับอายให้แก่เจ้าตัว จนถึงกับขอถอนตัวออกจากละครกลางคัน เพราะช็อกความรู้สึก ที่ถูกกระทำละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จนมารดาไปแจ้งความตำรวจ สน. ธรรมศาลาให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ท่าม กลางความไม่สบายใจของหลายฝ่าย ในขณะที่มอสพยายามติดต่อพ่อแม่ของน้องแพทริคและตัวน้องแพทริค เพื่อเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทั้งน้องแพทริคและพ่อแม่ไม่ยอมรับการติดต่อนั้น
ต่อมาตอนสายวันที่ 28 ธ.ค. ที่วิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ย่านพุทธมณฑลสาย 3 มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ พระเอกละคร พร้อมด้วยพวกที่ร่วมปฏิบัติการ “แก้ผ้า” น้องแพทริค มี โหน่ง-วีระชัย รุ่งเรือง ผู้กำกับละคร โอ๊ต-สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ ไผ่-พาทิศ พิสิฐกุล เฟิร์ส-สิทธิชัย เหลืองเสรี รวมทั้งนักแสดงอาวุโสจากละครเรื่อง “แสงดาวแห่งหัวใจ” อาทิ รอง เค้ามูลคดี และจุ๋ม-อัญชลี ชัยศิริ รวมตัวกันออกมาชี้แจงกรณี “แก้ผ้า” น้องแพทริค โดยมอสมีสีหน้าเคร่งเครียด สวมเสื้อสีชมพูมีข้อความที่หลังเสื้อว่า ด้วยรักและห่วงใย จากพี่ถึงน้อง
มอสกล่าวว่า ได้เอ่ยปากขอโทษนางอรัญญา มกรมณี มารดาน้องแพทริคแล้ว ที่พวกตนเล่นกับน้อง จนทำให้ น้องรู้สึกไม่ดี ไม่ได้มีเจตนาไปทำแบบนั้นให้น้องรู้สึกไม่ดี ส่วนข่าวที่ว่าน้องแพทริคพยายามดิ้นรนร้องให้ช่วยนั้น ตอนที่เล่นกันตนยังเห็นน้องแพทริคหัวเราะและที่น้องแพทริคขอถอนตัวไม่มาเล่นละครนี้อีกแล้ว ตนเข้าใจว่าเด็กแต่ละคน หลายครอบครัวอาจไม่เหมือนกัน ตนไม่ ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นถึงเป็นแบบนั้น เพราะเล่นกับน้องด้วยความเอ็นดู หลังจากทราบเรื่องได้คุยกับพี่โหน่ง-วีระชัย บอกว่า น้องแพทริคและคุณแม่ไม่ค่อยแฮปปี้ที่พวกเราไปเล่นอย่างนั้น แต่พี่โหน่งบอกว่าไม่เป็นไร พรุ่งนี้ แพทริคจะมาถ่ายละครด้วย แต่พอตนมาถึงกองถ่ายก็พบว่าน้องแพทริคไม่มาแล้ว
พระเอกหน้าเด็กกล่าวอีกว่า ตนจึงพยายามติดต่อคุณแม่น้อง ส่งข้อความไปหาว่ารู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกผิดมาก ที่พวกเราไม่ให้เกียรติน้องแพทริค ตนและผู้อยู่ในเหตุการณ์กราบขอโทษ พวกเราอยากพบคุณแม่และอยากขอโทษน้องแพทริคต่อหน้า แต่ปรากฏว่าไม่มีข้อความตอบกลับมา ผู้จัดการกองถ่ายฯ ก็บอกว่าคุณแม่น้องไม่ ยอมรับโทรศัพท์ ตนจึงบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวจะคุยกับคุณพ่อของน้องและได้ติดต่อไปหา แต่คุณพ่อน้องแพทริค ติดประชุม จนเย็นจึงโทรศัพท์ติดต่อไปยังคุณแม่น้องแพทริคอีกครั้ง เพื่อจะไปขอโทษด้วยตัวเอง แต่คุณแม่ บอกว่ามีอะไรไปพูดกันในศาล เมื่อคุณแม่น้องแพทริค พูดอย่างนั้น ตนก็ไม่ว่าอะไรและไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตนก็ยังรักยังเอ็นดูน้องแพทริค ฝากขอโทษคุณแม่น้องแพทริคด้วย พวกเราทั้งหมดเล่นกับน้องก็อยากขอโทษ อะไรก็ได้ที่ทำให้คุณแม่และน้องสบายใจ กลับมาเล่นได้ เหมือนเดิมกับพวกเรา ไม่อยากให้น้องเจอพวกเราแล้ววิ่งหนี เพราะเราเล่นกับน้องไม่มีเจตนาทำให้น้องไม่สบายใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกเครียดหรือไม่ เพราะข่าวเหมือนมอสเป็นคนทำอนาจารรุนแรง มอสกล่าวว่า ตนยังรู้สึกเล่นกับน้องไม่ซีเรียสอะไร พอเห็นคุณแม่น้องไปลงบันทึกประจำวันและพูดว่ามีอะไรไปคุยกันในศาล ก็อึ้งไปนิดหนึ่ง หลังเกิดเหตุตนพร้อมที่จะขอโทษ ได้โทรศัพท์ ไปหาถึง 3 ครั้ง แต่ทั้งพ่อทั้งแม่ของน้องตอนนั้นคงไม่ อยากคุยด้วย ปกติเวลาเจอกันน้องเค้าจะไม่ค่อยเล่นรุนแรงกับตนเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ตนจะเป็นฝ่ายเข้าไปหามากกว่าและไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตนยังรักน้องแพทริคเหมือนเดิม ถ้าเจอกันก็เหมือนเดิม อยากให้กลับมาแต่ไม่ใช่เรื่องงาน แต่อยากให้กลับมามีความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกัน ถ้าเจอหน้าตนแล้วน้องวิ่งหนีก็ทำให้ตนรู้สึกไม่ดีตนอยากเคลียร์ให้ แม่น้องแพทริคสบายใจ เมื่อถามว่า เมื่อน้องกลับมาแล้วจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก มอสกล่าวยืนยันว่า ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน
ขณะที่โหน่ง-วีระชัย ผู้กำกับฯ ละคร กล่าวว่า วันนั้นตนอยู่ในเหตุการณ์ ขอพูดในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ มองว่าที่เราเล่นกัน เป็นการเล่นกันแบบเด็กกับผู้ใหญ่ หยอกล้อกัน เล่นกันเป็นประจำในกองถ่ายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้เด็กรู้สึกไม่ดี ต้องขอโทษน้องแพทริค ปกติเป็นเด็กน่ารักและเล่นละครเก่งด้วย จริงๆ เราชื่นชมแพทริคมากว่า เป็นเด็กที่มีความสามารถและมีความตั้งใจ ไม่คิดว่าสิ่งที่พี่ๆเล่นกัน จะทำให้น้องรู้สึกไม่ดี ในนามดาราวิดีโอต้องขอโทษน้องแพทริคและพ่อแม่อย่างมาก ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็ยังถ่ายละครอีก 2-3 ชม.จนเสร็จ ก็ไม่ได้มีท่าทางอะไรเลย ตอนนี้ละครกำลังสนุก ถ้าในละครไม่มีบท ด.ช.ต้นไม้อยู่ ตนก็ไม่ทราบจะแก้ ปัญหาอย่างไร ที่พ่อน้องแพทริคบอกว่าเป็นอารมณ์ คึกคะนอง อยากจะบอกว่าเป็นการเล่นกับเด็ก ในเมื่อน้องเล่นเราก็เล่นด้วย ไม่ได้เป็นการเล่นคึกคะนองเพราะตนก็อายุ 46 แล้ว
ส่วนเรื่องการถอดกางเกงน้องแพทริค จนเห็น “จำปีน้อย” นั้น เฟิร์ท-สิทธิชัย กล่าวยอมรับว่าตนเป็นคนเริ่ม หลังจากอ่านข่าวรู้สึกไม่แฮปปี้ เพราะข่าวออกมาเหมือนพี่มอสเป็นคนทำเป็นส่วนใหญ่ ทุกคนอยู่ตรงนั้นหมด โดยเฉพาะตนเองและที่บอกว่าได้ช่วยกันจับขึงพืดโดยมีพี่โอ๊ตหรือใครๆร่วมด้วย หลังจากที่เล่นน้องยังหัวเราะ ไม่ได้มีท่าทางซึมเศร้า ส่วนเรื่องที่พูดแซวว่า จำปีน้อยหรือเนื้องอก จริงๆคนที่เห็น มีตนเพียงคนเดียว ได้เอ่ยปากแหย่เล่นๆว่า เฮ้ย เนื้องอกหรือเปล่า และน้องไม่ได้มีอาการซึม ก็ยังเข้าฉากแสดงต่อ
ขณะที่หลุยส์-สยาม สังวริบุตร ผู้จัดละคร ได้ กล่าวว่า เท่าที่ฟังจากทุกคนในกองถ่ายรับทราบว่าเล่นกัน เรื่องเจตนาทำร้ายเด็กไม่ใช่ กรณีนี้ตนขอรับผิดชอบในฐานะพี่ใหญ่ ขอโทษน้องและคุณพ่อ คุณแม่ด้วย ขณะเดียวกันก็เห็นใจมอส เค้าเป็นเด็กดี ไม่เคยมีเรื่องไม่ดี ค่อนข้างเป็นคนรักเด็กด้วยซ้ำไป ส่วนเรื่องน้องแพทริคถอนตัวก็เป็นปัญหาใหญ่ ที่ตนต้องแก้ไขมีการเปลี่ยนตัวดาราเด็กเพราะละครต้องถ่ายไปออกไป ต้องมีการปรับบท ต้องหานักแสดงเด็กมาแทน ตนไม่ห่วงเรื่องละคร แต่เป็นห่วงจิตใจของน้องมากกว่า สำหรับดาราเด็กที่จะมาแทนน้องแพทริค คือ น้องฟลุ๊ท-ด.ช.รจนกร อยู่หน้า อายุ 7 ขวบ ก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกับมอส-ปฏิภาณ และดาราวิดีโอ จากละครเรื่องด้วยแรงแห่งรัก มาก่อน
ต่อมาผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปถึงนางอรัญญา มกรมณี แม่น้องแพทริค ว่าทางกองละครแสงดาวฯ ยืนยันว่า เป็นการเล่นกัน และน้องแพทริคยังหัวเราะขณะถูกแกล้ง นางอรัญญากล่าวว่า ตนยอมรับว่าเล่นกันอย่างที่อีกฝ่ายบอก แต่รู้สึกว่าเล่นแรงเกินไป ที่น้องยังหัวเราะได้ตอนนั้น ก็เพื่อกลบเกลื่อนไม่ให้ใครรู้ว่ารู้สึกแย่ เพราะทุกคนยิ้ม หัวเราะกับเหตุการณ์ และยังต้องถ่ายละครต่อ เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่มอสออกมาขอโทษ นางอรัญญากล่าวว่า ก็โอเคดีที่ได้รู้ว่าทางทีมงานรู้ว่าตนและลูกชายเสียใจ ต่อจากนี้คงไม่มีอะไรแล้ว เมื่อถามถึงสภาพจิตใจน้องแพทริค นางอรัญญาตอบว่า ตอนนี้ไม่ซึมเศร้าแล้ว แต่ต้องอยู่ติดกับตนตลอด
ด้านนายพรเลิศ มกรมณี พ่อน้องแพทริคกล่าวว่า ดีใจที่มอสยอมทำในจุดนี้ เข้าใจว่ามอสเองก็อึดอัด การออกมาขอโทษนั้น เป็นสุภาพบุรุษดี คิดว่าทางเราคงจบและคงไม่ดำเนินคดีใดๆ ที่ไปลงบันทึกประจำวันนั้นก็ทำตามคำแนะนำของฝ่ายกฎหมายบริษัท ที่ตนทำงานอยู่ ซึ่งก่อนตนไปลงบันทึกประจำวันนั้น ตนพยายามทุกทางที่จะชักจูงโน้มน้าวจิตใจลูกชายว่า จะเกิดผลกระทบมากมาย หากเรื่องถึงตำรวจและเป็นข่าว แต่น้องแพทไม่ยอม บอกว่าครั้งนี้ทนไม่ไหว อย่าให้แพทกลับไปกองถ่ายนี้อีก สาเหตุหลักที่ไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อป้องกันตัวเอง หากเกิดการฟ้องร้องจากค่ายละคร ตอนแรกคิดว่าอาจต้องถึงขั้นฟ้อง ร้องดำเนินคดี แต่เมื่อทางทีมงานน้อมรับก็ถือว่าเรื่องจบลง น้องแพทเองอาจไปขอโทษพี่ๆในกองถ่าย ที่ไม่เปิดใจรับในการเล่นของพี่ๆ จนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้
|
ข่าวจาก ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2949 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 29 ธ.ค. 50
เวลา 11:27:10
|