• ล่า3 โจร เรียงคิวสาว15 ขัง ขืนใจ 3 วัน |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 18 เม.ย. 51 เวลา 10:05:55 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ข่าวสด - แจ้งจับ 3 โจ๋ยโสธร จับขังนักเรียนสาววัย 15 ในรีสอร์ต เรียงคิว-ข่มขืนนาน 3 วัน 2 คืน โดยมีนักเรียน สาวรุ่นพี่เป็นนางนกต่อลวงไปจากบ้าน เหยื่อแอบไปโทรศัพท์แจ้งแม่ก่อนนำตร.ไปช่วยออกมาได้ นำความเข้าแจ้งเกือบอาทิตย์แต่คดีไม่ คืบ เผยกลุ่มผู้ต้องหามีญาติเป็นนักการเมือง ช่วงสงกรานต์ยังออกเล่นน้ำอย่างไม่สะทกสะท้าน ส่วนคดีที่ระยอง สาว 15 แจ้งจับผญบ.พยายามข่มขืน และอีกคดีจับไอ้หื่นใช้ปืนจี้บังคับข่มขืนสาววัย 16 ในกระท่อมที่เมืองอุดรฯ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 เม.ย. ผู้ปกครอง ด.ญ.เตย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.3 บ้านอยู่ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.วานิช ไชยงาม พงส.(สบ2) สภ.ไทยเจริญ ให้จับกุมตัวนายอาร์ม ไม่ทราบนามสกุล อายุ 22 ปี, นายใหม่ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 24 ปี และนายเอสโซ่ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 26 ปี ราษฎรบ้านหัวนา ต.ห้วยแก้ง อ.กุดชุม จ.ยโสธร ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวไว้เพื่อข่มขืนรวม 3 วัน 2 คืน
ผู้ปกครอง ด.ญ.เตย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส. มะลิวัลย์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เพื่อนรุ่นพี่ของลูกสาว ซึ่งเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ออกอุบายชักชวนลูกสาวไปจากบ้าน อ้างว่าจะพาไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนในอ.กุดชุม เมื่อช่วงใกล้เที่ยงวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะลูกสาวที่อยู่ในช่วงปิดเทอมอยู่บ้านคนเดียว จากนั้นด.ญ.เตย นั่งซ้อนท้ายรถจยย.ไปกับน.ส.มะลิวัลย์ เมื่อถึงบ้านตามที่น.ส.มะลิวัลย์ บอกว่าเพื่อนเตรียมงานวันเกิดรออยู่ แต่ไม่พบใคร น.ส. มะลิวัลย์จึงทำทีโทรศัพท์สอบถาม ก่อนบอกว่าเพื่อนๆ ย้ายสถานที่ไปจัดที่กุดชุมรีสอร์ต
จากนั้นน.ส.มะลิวัลย์ พาด.ญ.เตย มาที่กุดชุมรีสอร์ต เมื่อไปถึงก็เดินเข้าไปในห้องพักคนเดียว ก่อนจะออกมาเรียกด.ญ.เตย ตามเข้าไป พบมีผู้ชาย 3-4 คน นั่งดื่มเหล้าอยู่ ด.ญ.เตยจึงชวนเพื่อนรุ่นพี่กลับ นายอาร์ม 1 ใน 4 วัยรุ่น จึงพูดขึ้นว่าหากจะกลับให้น.ส.มะลิวัลย์ ไปซื้อโซดาให้ก่อน จากนั้น น.ส.มะลิวัลย์ได้รีบออกไปซื้อโซดาและไม่กลับมาที่รีสอร์ตอีกเลย
ส่วนด.ญ.เตย หลังเพื่อนรุ่นพี่หายไปถูกนายอาร์ม เข้ามาลวนลาม พร้อมทั้งไล่ให้เพื่อนๆ อีก 3 คน ออกไปพักห้องข้างๆ แล้วปิดประตูห้องก่อนจะใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนจนสำเร็จความใคร่หลายครั้ง จนถึงเช้าวันที่ 10 เม.ย. นายอาร์ม กลับออกไป จากนั้นมีนายใหม่ เข้ามาในห้องแล้วใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนสำเร็จความใคร่อีกหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 10 เม.ย. มาถึงช่วงกลางดึกนายเอสโซ่ ก็เข้ามาอีกคน และลงมือข่มขืนด.ญ.เตย จนถึงช่วงบ่ายวันที่ 11 เม.ย.
ผู้ปกครอง ด.ญ.เตยกล่าวว่า ระหว่างที่ลูกหายไป ได้ออกตามหาแทบจะพลิกแผ่นดิน ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 9 เม.ย. หลังกลับจากทำธุระในตัวเมืองยโสธร นอนไม่หลับ 2 วัน 2 คืน ออกสอบถามหาตามบ้านญาติและบ้านเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกันก็ไม่มีใครพบ นึกในใจลูกสาวคงถูกลวงไปแน่เพราะหายไปตั้ง 3 วัน 2 คืน กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 11 เม.ย. ลูกสาวใช้เบอร์โทร.ของกุดชุมรีสอร์ต โทร.เข้ามือถือ บอกให้พ่อกับแม่มาช่วยออกจากกุดชุมรีสอร์ตด้วย เพราะถูกกักขังอยู่ออกไปไม่ได้ จึงขับรถตรงไปกุดชุมรีสอร์ต ระหว่างทางได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจสภ.กุดชุม หลังตำรวจค้นห้องพบเพียงลูกสาวนั่งร้องไห้ตัวสั่นเทาอยู่มุมห้อง ส่วนวัยรุ่นทั้ง 3 หายตัวไป
จากนั้นได้พาลูกสาวไปให้หมอที่ร.พ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร ตรวจร่างกายก่อนจะไปแจ้งความเมื่อ 11 เม.ย. และที่มาแจ้งความซ้ำในวันนี้ เนื่องจากตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหา โดยช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมายังพบวัยรุ่นทั้ง 3 คน เล่นสาดน้ำสงกรานต์ และออกหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ.ยโสธร รายหนึ่งอยู่
ผู้ปกครอง ด.ญ.เตย กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ต้องหาเป็นญาตินักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ จึงมีอิทธิพลในอ.กุดชุม และอ.ไทยเจริญ จนตำรวจไม่กล้าจับ จึงขอวิงวอนผ่านสื่อไปยังมูลนิธิปวีณา โปรดช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังโดนผู้มีอิทธิพลข่มขู่ให้ยอมความ แต่จะไม่ขอยอมความโดยเด็ดขาด เพราะการกระทำเช่นนี้ เหมือนกับฆ่าลูกสาวและครอบครัวทั้งเป็น
ด้านพ.ต.ต.วานิช ไชยงาม พงส.(สบ2) สภ.ไทยเจริญ เจ้าของคดีกล่าวว่า หลังสอบปากคำผู้ปกครองเด็ก ประกอบกับพยานหลักฐานที่ทางแทพย์ ร.พ.ไทยเจริญระบุเบื้องต้น ได้ตั้งข้อหาวัยรุ่นทั้ง 3 คน ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และจะขอหมายศาลดำเนินการจับกุมวัยรุ่นทั้ง 3 คน ส่วนด.ญ.เตย จะนำตัวไปสอบปากคำร่วมกับอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 3 วัน
อีกคดีเมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.ระยอง รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง น.ส.น้ำตาล (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ว่าเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.น้ำตาล ถูกนายสัมฤทธิ์ ชินราช ผญบ.หมู่ 1 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง เข้าปล้ำในห้องน้ำเพื่อจะข่มขืน แต่ดิ้นหลุดออกมาได้และเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ ธรรมสุขสันต์ สว.เวร สภ.ปากน้ำประแสร์ อ.แกลง จ.ระยอง แต่ผ่านมา 5 วัน คดียังไม่คืบ จึงเข้ามาร้องเรียนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
น.ส.น้ำตาล ให้การว่า เมื่อช่วงที่เกิดเหตุ ตนอยู่กับนายสัมฤทธิ์ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าเขย ขณะเตรียมอาบน้ำนายสัมฤทธิ์เดินมาผลักประตูไว้และเข้ามาโอบกอด และดันตนเองเข้าไปในห้องน้ำพยายามลวนลาม จึงหาจังหวะผลักร่างนายสัมฤทธิ์ออก แล้ววิ่งออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยเปล่าก่อนหนีไปบอกแม่ที่อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง
ด้านพล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.ระยอง กล่าวว่า จะเรียกพนักงานสอบสวนเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง ว่าเป็นอย่างไรกับคดีดังกล่าว ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมและตรงไปตรงมา และไม่ต้องกลัวเกี่ยวกับเรื่องอิทธิพลในพื้นที่ หากมีการคุกคามก็สามารถแจ้งได้ที่ตนโดยตรง เพราะคดีดังกล่าวถือเป็นคดีละเอียดอ่อน จะต้องสอบสวนอย่างละเอียด
และเมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.กิตติพงษ์ จิตรคาม สว.สส.สภ.เมือง อุดรธานี พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชลธิชา อักษร รองสว.สส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดพิรุณ เข้าจับกุมนายสรพงษ์ หรือ "ตั๊ก" ทองสีดำ อายุ 21 ปี ที่บ้านพักเลขที่ 190 ม.14 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี ข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, ข่มขืนกระทำชำเราโดยมีหรือใช้อาวุธปืนและมีอาวุธปืนติดตัวไปในสาธารณะ
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ปกครอง น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.มานิตย์ วงษ์เส ร้อยเวร สภ.เมือง อุดรธานี ว่าบุตรสาวถูกนายสรพงษ์ ใช้อาวุธปืนจี้ลากไปข่มขืนที่กระท่อมนา ก่อนเกิดเหตุ น.ส.เอ ขับรถจยย.ไปซื้อกับข้าวที่ตลาดบ้านเชียงยืนแต่หายไปหลายชั่วโมง จึงโทรศัพท์ติดต่อไปทราบว่าถูกนายสรพงษ์กับเพื่อนคือนายกร หรือ "โบ้ย" ไกรยะราช อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 150 หมู่ 1 บ้านเชียงยืน ต.เชียงยืน อ.เมือง อุดรธานี ขับรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามมาประกบรถของ น.ส.เอ ขณะขับขี่อยู่แล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับพาไปข่มขืนที่กระท่อมนา หลังจากนั้นนายสรพงษ์พาน.ส.เอ ไปอยู่ที่บ้านญาติของนายกร ที่บ้านหนองเป็ด
จากนั้นจึงไปแจ้งกำนันเชียงยืน ให้ช่วยนำไปช่วยลูกสาวออกจากบ้านดังกล่าว และเมื่อไปถึงทั้งนายสรพงษ์และนายกรพากันหลบหนี กำนันจึงได้ทำการตรวจยึดรถจยย.พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ของนายสรพงษ์ที่ทิ้งไว้ที่บ้าน แล้วได้นำมามอบให้กับร.ต.อ.มานิตย์ วงษ์เส แล้วนำ น.ส.เอ เข้าแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งตัว น.ส.เอ ไปตรวจร่างกายที่ร.พ.ศูนย์อุดรฯ
พ.ต.ท.กิตติพงษ์ เปิดเผยว่า หลังจากทางศาลจังหวัดอุดรฯ ได้ออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ไปทำการจับกุมตัวนายสรพงษ์ที่บ้านพัก ส่วนนายกร หรือ "โบ้ย" หลบหนีไปต่างจังหวัด จากการสอบสวนนายสรพงษ์ ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้บังคับข่มขืน แต่รู้จักกับน.ส.เอ มาได้ 4 เดือน และเต็มใจไปกับตน
สำหรับนายสรพงษ์ เป็นนักเลงหัวไม้ใน ต.เชียงพิณ ก่อนนี้ก่อคดีร่วมกับเพื่อน 3 คน ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์นายระวี ชัยเลิศ อายุ 28 ปี เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินเงินสด 5,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ถูกตำรวจจับกุมได้และศาลได้ตัดสินควบคุมความประพฤติ 1 ปี รอลงอาญา 1 ปี แต่กลับมาก่อคดีใช้อาวุธปืนจี้ น.ส.เอ ไปทำการข่มขืน.
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2369 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 18 เม.ย. 51
เวลา 10:05:55
|