• เมียยันโดน"เหลือเฟือ"ตื้บ ขอลูกคืนพร้อมเลิก |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 10 ก.ค. 51 เวลา 20:53:06 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
นางสาวกิตติยา โนจา หรือ แพท ภรรยาของ นายเจมศักดิ์ แจ้งทิพย์นาง หรือ เหลือเฟือ มกจ๊ก ตลกชื่อดังครวญไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่ตลกเหลือเฟือโต้ผ่านสื่อฯ ไม่ได้ทำร้ายตน หากแต่...เหตุเกิดเพราะเธอมึนเมาไปมีเรื่องกับลูกค้าแล้วเซ...ซึ่งเขาได้เข้าไปประคอง ตอกย้ำเสียงเข้ม ถ้าสามีพูดความจริงทุกอย่างจบ แต่นี่ไม่เป็นเช่นนั้น เบื้องต้นขอไกล่เกลี่ยก่อน และประกาศเบรกความสัมพันธ์ฉันสามี-ภรรยา วอนให้ผัวตลกคืนลูกให้ ตนขอเอากลับไปเลี้ยงที่ต่างจังหวัดอย่างสงบๆ โดยจะไม่เข้ามารบกวนอะไรใดๆ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนผวามากพอควรอยู่แล้ว
จากการที่เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 เวลาประมาณ 03.30 น. นายเจมศักดิ์ แจ้งทิพย์นาง หรือ เหลือเฟือ มกจ๊ก ตลกวัย 35 ปี ตกเป็นข่าวร้อนว่า...ก่อเหตุทำร้ายภรรยา นางสาวกิตติยา โนจา หรือ แพท ภรรยาสาววัย 23 ปี ได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลบวมปูดตามใบหน้าและร่างกายจนต้องหามส่งโรงพยาบาลศรีสยาม ถนนสุขาภิบาล 1 เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นที่ฟุตปาทหน้าร้าน ''บ้านเหลือเฟือ'' ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 03.30 น. ซึ่งทางภรรยาได้เปิดเผยว่าสามีได้ลงมือทำร้ายเพราะความหึงหวง แต่ทางตลกชื่อดังได้ออกมาโต้ผ่านสื่อว่าไม่ได้ทำร้ายภรรยา หากแต่ภรรยาเมาแล้วเซไปชนกับโต๊ะ ตนเข้ามาพยุง แล้วมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาจากไหนไม่รู้ มาถึงก็ประคองภรรยาตนไปส่งโรงพยาบาล ...ยันว่าเคลียร์กับภรรยาเข้าใจแล้ว จากนั้นทาง ร.ต.ต. อาณัติ อรรถสาร พงส. (ส.บ.1) สน.โคกคราม ได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ ส่วนนางสาวกิตติยาหลังจากที่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทางผู้สื่อข่าวก็ไม่สามารถติดต่อทางฝ่ายหญิงได้อีก
ดังนั้นในวันรุ่งขึ้น (9 กรกฎาคม 2551) สยามดาราได้เดินทางไปเกาะติดสถานการณ์ยังห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาลศรีสยามเพื่อสังเกตการณ์อาการ และติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการและความเคลื่อนไหวของคู่กรณีที่ชิดใกล้ของนางสาวกิตติยา ภายหลังจากที่เดินเข้าไปยังห้องพักภายในโรงพยาบาลดังกล่าว ผู้สื่อข่าวพบว่าเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจโคกคราม ร.ต.ต.อาณัติ อรรถสาร พงส. (ส.บ.1) กำลังทำการบันทึกคำให้การของคนเจ็บ
จากการสังเกตสภาพโดยทั่วไปของนางสาวกิตติยาที่นอนหยอดน้ำเกลือในวันนี้ดูดีขึ้นกว่าเมื่อวานนิดหนึ่ง แต่ก็ยังมีร่องรอยฟกช้ำตามบริเวณใบหน้า แขนทั้งสองข้าง พร้อมกับเปิดเผยว่ายังมีอาการปวดหัวและเจ็บปวดตามลำตัว เจ็บซี่โครงบ้าง แต่ก็ดีกว่าเมื่อวานมาก
นางสาวกิตติยาเผยต่อไปว่า วันนี้ตนขอพูดนิดหนึ่ง เพราะเมื่ออ่านจากข่าวคราวแล้วรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย เนื่องจากการที่ฝ่ายชายได้ออกมาให้ข่าวว่าตนเป็นคนผิด เมาแล้วไปมีเรื่องกับลูกค้า ซึ่งเรื่องจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย และข่าวคราวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบทำให้เสียไปถึงชื่อเสียงและวงศ์ตระกูลที่ต่างจังหวัด เนื่องจากว่าการที่ตนมาใช้ชีวิตกับเหลือเฟือนั้นยังไม่ได้ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณี ที่ผ่านมาไม่เคยเรียกร้องใดๆ เพราะเห็นแก่ความรักและลูก
สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ร้ายแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา สุดจะทนจนถึงขั้นขอหอบลูกชายวัย 4 เดือน เด็กชายธนโชติ แจ้งทิพย์นาง ไปอยู่ต่างจังหวัดอย่างสงบๆ แต่ติดที่ว่าเด็กน้อยขณะนี้อยู่ในความดูแลของนายเหลือเฟือ ซึ่งเมื่อติดต่อไป ฝ่ายชายบอกว่าอีก 2 วันจะคืนให้ บอกตรงๆ ตอนนี้ทรมานใจอยากพบลูกมาก และห่วงความปลอดภัยในชีวิตของตัวเองด้วย ซึ่งถ้าหากฝ่ายโน้นไม่ยอมคงต้องขอพึ่งกฎหมายต่อไป แต่ในเบื้องต้นอยากเจรจาไกล่เกลี่ยก่อน และจะดำเนินการทันทีเมื่อตนออกจากโรงพยาบาลในช่วงเย็นของวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ หากได้ลูกจะขึ้นเครื่องเหินฟ้ากลับไปอยู่กับครอบครัวที่เมืองเหนือ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเหลือเฟืออีก เพราะที่ผ่านมาตนได้ให้โอกาสทางฝ่ายชายมาหลายครั้ง หลายหนแล้ว ทั้งในเรื่องของการมีปากเสียงเรื่องทั่วๆ ไป เรื่องหึงหวง และเรื่องที่ฝ่ายชายไปมีกิ๊ก
พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาตนไม่เคยมีกิ๊ก ไม่คิดจะมีด้วย
''ตอนนี้ทางบ้านเขาไม่ยอม หนูขอแค่ให้ได้ลูกคืน เมื่อกี้ลูกน้องเขามาพูดเป็นนัยๆ ว่าเขาอยู่แถวนี้ ห่วงแต่ลูก ตัวเองจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เท่าที่อ่านข่าวแล้วรู้สึกว่า เออไม่ได้รับความยุติธรรม ขอเถอะว่าหนูเจ็บ แล้วถ้าเขาไม่ผิดทำไมเขาถึงต้องหนีอ่ะ พอเวลาเขาโทร.มาแล้วให้ฟังเสียงลูก จากนั้นตัดสายทิ้ง เขาโทร.มาบอกว่าไปต่างจังหวัด แต่เมื่อคืนให้หลานไปดู ลูกหนูน่าจะอยู่ที่บ้านเพราะรถจอดอยู่ ลูกหนูเพิ่ง 4 เดือน เขาบอกว่าอีก 2-3 วัน จะเอามาคืน วันนี้หนูคิดถึงลูกมาก (น้ำเสียงสั่นเครือ) อยากบอกว่าคุณทำความผิดคุณยอมรับสิ ทุกอย่างจบแล้ว เขาบอกว่ามาไม่ได้เพราะนักข่าวเฝ้าไว้ พร้อมต่อว่า...หนูไปแจ้งความเขาหรือ? หนูบอกหนูไม่ได้แจ้ง หากแต่คนที่เห็นเหตุการณ์เขาโทร.ไปแจ้งต่างหาก ตอนที่ป่อเต็กตึ๊งมา เห็นอยู่ว่าหนูกำลังตะเกียกตะกายขึ้นรถ เขาเรียกว่าเอา...ลงมาก่อน
ถามว่า...จะไปตายโรงพยาบาลหรือว่าจะตายที่นี่ แต่สภาพไม่ไหวจริงๆ ขนาดแท็กซี่ยังไม่กล้ารับเลย บอกว่าเป็นเรื่องของผัวเมียเค้า วันนั้นหนูไม่ได้กินเหล้าแต่เขากินยาดอง หนูเป็นคนซื้อมาให้กินเพราะว่าเขากลับมาจากต่างจังหวัด ที่จริงไม่เมา ไม่ได้หกล้ม กำลังจะกลับบ้าน หนูเห็นกำลังจะมีเรื่องเลยจะกลับบ้าน หยิบกระเป๋ากำลังจะก้าวขึ้นรถ เขาคงเห็นว่าหนูเฉยชากับเขามั้ง เขาหึงด้วย เพราะได้ข่าวว่ามีคนมาชอบหนูเลยเป็นเรื่อง และเขาเปิดเผยกับสื่อว่า...เราเมาล้ม ถ้าล้มจริงๆ เขาต้องพาไปส่งโรงพยาบาลสิ หนูคิดแค่นี้ล่ะ หนูขอชีวิตเขานะ เท่าที่ผ่านมาทะเลาะกันตลอด พยายามเคลียร์ปัญหา เพราะคิดถึงลูก ตอนที่มีเรื่อง ขนาดลูกร้องขอชีวิตเขาไม่ยอมฟัง วันแรกปวดศีรษะเพราะโดนเยอะ แต่วันนี้ดีขึ้น
เย็นนี้ (วันที่ 9 กรกฎาคม) จะกลับไปขอลูกคืนจากเค้า แล้วจะบินกลับบ้านนอก ส่วนเมื่อวานที่หนูไม่ให้นักข่าวเข้ามาเพราะอยากจะไกล่เกลี่ยทุกอย่างติดที่ลูกค่ะ อยากคุยกับเขาก่อนว่าให้เอาลูกมาคืน หนูจะกลับบ้านนอก หนูห่วงเรื่องความปลอดภัยของหนูกับลูกน้อยมาก และหนูไม่อยากให้ลูกเห็นภาพที่เราสองคนทะเลาะกันด้วย ส่วนถ้าเขาขอโอกาสปรับตัว ตอนนี้ขอให้เค้าเอาลูกมาคืนก่อนเถอะแล้วก็แยกย้ายกันไป ขอกลับบ้านนอก ไม่เอาแล้ว เพราะเท่าที่ผ่านมาอยู่ด้วยความรักจริงๆ เขาบอกว่าสินสอดอะไรไม่ได้เรียกร้อง และจะมาว่าไม่ให้เกียรติไม่ได้นะ ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่เคยเอ่ยคำ...ขอโทษ ผวาไปเลย หนูทำดีตลอดเวลาไม่ใช่ว่ามาให้หนูเป็นคนผิด ว่าเราหกล้มไปตีลูกค้าเขาในร้าน หนูไม่ทำหรอก ตอนนั้นร้านปิดแล้วด้วย'' ภรรยาสาววัยเอ๊าะของตลกคารมดีเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ส่วนทางเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายของสถานีตำรวจโคกครามได้ชี้แจงว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาบันทึกคำให้การของนางสาวกิตติยา โนจา
''เบื้องต้นตอนนี้ให้การตามนี้ก่อน ถ้ามีอะไรให้โทร.บอกตำรวจได้โดยตรง ผมยินดีดำเนินการไปตามระเบียบตอนนี้เป็นผู้ให้ถ้อยคำเพราะว่ายังไม่ดำเนินคดี ถ้าเป็นดำเนินคดีเราจะต้องเป็นผู้กล่าวหา อีกฝ่ายเป็นผู้ต้องหา คำให้การตามนี้ ภายหลังถ้าต้องการดำเนินคดีสามารถใช้คำให้การนี้มาประกอบ หรือจะให้การเพิ่มเติมอีกก็ได้''
จากนั้นให้ลงชื่อ จากนั้นทางร.ต.ต. อาณัติ อรรถสาร พงส. (ส.บ.1) สน.โคกคราม ได้ให้นางสาวกิตติยาเซ็นชื่อลงบนบันทึกคำให้การฉบับดังกล่าว
ด้านนายเจมศักดิ์ หรือ เหลือเฟือนั้น ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเขา แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่รับสาย อย่างไรก็ตาม สยามดารารายงานเพิ่มเติม ณ จุดนี้ว่า ตลอดเวลาที่ได้เข้าสัมภาษณ์นางกิตติยานั้น ทางตลกได้มีการโทร.เข้าไป แต่ไม่ยอมพูดอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
ที่มา สยามดารา
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1723 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 10 ก.ค. 51
เวลา 20:53:06
|