กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ปดส.สอบแล้วผู้ต้องหาถ่ายคลิป "โฟร์-มด" แต่ยังไม่ตั้งข้อหา ในขณะที่ "พล.ต.ต.วิสุทธิ์" ออกมาแฉพิรุธอื้อ โดยเฉพาะคำให้การที่ไม่ตรงกัน ระบุอาจต้องนำเข้าเครื่องจับเท็จ พร้อมเช็กคลิปว่ามาจากโทรศัพท์หรือกล้องวิดีโอ มั่นใจคดีมีเบื้องหลัง ขณะที่แม่หนุ่มมือถ่ายไม่เชื่อว่าลูกชายจะทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา เผยให้น้าชายโทร.ตามหาทั้งคืนแต่ยังไม่พบตัว
ความคืบหน้าคดีแอบ ถ่ายคลิปโฟร์-มด ภายหลังนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี นำตัว 3 ผู้ร่วมขบวนการแอบถ่ายคลิปพร้อมเจ้าของโรงแรมรื่นรมย์ จ.ขอนแก่น แถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 ก.ย. แต่ทาง ปดส.นำโดย พล.ต.ต. วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. ออกมาโต้ทันควันว่าเป็นการจัดฉากและจับแพะ ไม่ได้เป็นผู้ต้องหาตัวจริง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่บก.ปดส. พ.ต.อ.นวพล กันคล้อย ผกก.ฝป.4 บก.ปดส. หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีคลิปวิดีโอโฟร์-มด เรียกพนักงานสอบ สวนเข้าประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากที่สอบปากคำกลุ่มผู้ร่วมแอบถ่ายคลิปของสองนักร้องไปแล้วทั้ง 3 คน
คือนายธีระชัย หรือ "อู๊ด" มูลรัตน์ อายุ 28 ปี เจ้าของโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น N72 นายวิชาญ หรือ "โด้" ปะกิระนันท์ อายุ 34 ปี พ่อครัวของโรงแรม และนายรุ่งโรจน์ หรือ "ตี๋" ตันศิริ อายุ 32 ปี รปภ.ของโรงแรม นอกจากนี้ยังได้สอบปากคำนายธิติ พูนพินิจพร อายุ 28 ปี เจ้าของโรง แรมอีกด้วย
พ.ต.อ.นวพลกล่าวว่า ขณะนี้สอบปากคำผู้ร่วมรู้เห็นกับการแอบถ่ายคลิปไปแล้วทั้ง 3 คน รวมทั้งสอบปากคำเจ้าของโรงแรม จนเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา และอนุญาตให้ทั้งหมดกลับไปได้ โดยที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ
เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การทั้งหมดก่อน หากพบว่าคำให้การของใครยังไม่สมบูรณ์ก็จะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือกับทางเจ้าของโรงแรมว่าอย่าเพิ่งดัดแปลง แก้ไข ห้องพักที่เกิดเหตุ เพราะพนักงานสอบสวนจะต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง
พ.ต. อ.นวพลกล่าวต่อว่า ส่วนรายละเอียดของคำให้การนั้นคงไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ แต่เท่าที่ตรวจ สอบคำให้การก็มีในหลายประเด็นที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องภาพจากคลิปวิดีโอดังกล่าวว่าเป็นภาพที่ได้จากกล้องของ โทรศัพท์มือถือ หรือว่าเป็นกล้องอะไร
เพราะก็มีข้อสังเกตเหมือนกันว่าภาพที่เห็นนั้นคุณภาพสูง และชัดเจน ไม่เหมือนภาพที่ได้จากการถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตามก็จะมีประชุม เพื่อประมวลข้อมูลกันอีกครั้งในวันที่ 26 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนพยานทั้ง หมดทั้งสามคนได้ให้การไปในทางที่ค่อนข้างจะสอด คล้องกัน ส่วนนายธีระชัย เจ้าของโทรศัพท์มือถือที่ถูกยืมนำไปแอบถ่ายคลิป ให้การว่า โทรศัพท์เครื่องนี้ซื้อมาราคา 14,000 บาท แต่ได้ทำหายไปแล้วตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา
โดยขณะเกิดเหตุเมื่อนายปิยะนัสมายืมโทรศัพท์ไปถ่ายคลิปจนเสร็จแล้ว ต่อมานายปิยะนัสและแฟนสาวก็นำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมา โหลดข้อมูลไปจากมือถือของนายธีระชัยไป กระทั่งมาทราบข่าวว่ามีผู้นำเอาคลิปนี้ออกไปเผยแพร่ดังกล่าว แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลุดไปจากใคร
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการกระทำของพยานทั้งสามคนในคดีดังกล่าว ตามการสอบสวนพบว่าอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 ข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล หรือกระทำการลามกอย่างอื่น โดยคดีนี้มีระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และมาตรา 397
ข้อหากระทำการให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่อย่างไรก็ตามถือว่าทั้งสองข้อหานี้คดีจะมีอายุความแค่ 1 ปี นับจากวันที่เกิดเหตุ จึงถือว่าคดีหมดอายุความไปแล้วตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมา ที่บก.ปดส. พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในคดีดังกล่าว ว่า ตนจะแถลงเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้ทราบว่าไอ้โม่งของคดีนี้คือ ใคร ผู้ที่มามอบตัวเป็นผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่
การสอบปากคำพยานทั้งหมดร่วมไปถึงเจ้าของโรงแรม มีข้อสังเกตดังนี้คือ
1.ผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นผู้กระทำความผิดนั้นให้การไม่สอดคล้องกัน
2. คำให้การของ ผู้ที่รับสมอ้างนั้นให้การผิดปกติจากผู้ต้องหาทั่วไปที่จะปกปิดซ่อนเร้น เพื่อไม่ให้เกิดผลร้ายกับตนเอง แต่กลับกันผู้ที่มาอ้างว่าเป็นผู้กระทำผิดพยายามให้ร้ายตนเอง เป็นเรื่องผิดวิสัยของผู้ต้องหาทั่วไป และเมื่อสอบถามถึงหลักฐานก็ไม่สามารถยืนยันหรือนำมาแสดงได้
3.เรื่อง ความสม่ำเสมอ หมายความว่าโดยวิสัยแล้วนายอู๊ดที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ โนเกีย รุ่น N72 มีราคาประมาณ 14,000-15,000 บาท แต่ตอนนี้นายอู๊ดกลับใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 3310 หรือ 3315 ซึ่งมีราคาเพียงไม่กี่ร้อยบาท
นอกจากนี้ผู้ที่มีความรู้ทางเทคนิคยัง ให้ข้อมูลว่า ภาพจากโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น N72 ไม่น่าจะมีความละเอียดเพียงพอที่จะใช้ถ่ายภาพที่นำมาลงคลิปแล้วยังมีความ ละเอียดสูงเช่นนั้นได้
4.ในขณะสอบปากคำเจ้าของโรงแรมถึงความเกี่ยวพัน กับนายอู๊ด ซึ่งทราบว่าเป็นคนติดตามรับใช้ ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์จากผู้หญิงเรียกให้ไปนอกห้องประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วเมื่อกลับมากลับบอกว่ามีความรู้สึกเครียด มีอาการป่วย ไม่ขอให้การต่อ
5.ตามคำให้การของผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้กระทำความผิด มีข้อเคลือบแคลงสงสัยหลายประเด็นอาจจะต้องนำเข้าสู่กระบวนการเข้าเครื่องจับ เท็จ
6. ต้องมีการพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับเรื่องเทคโน โลยี โดยจะนำโทรศัพท์ยี่ห้อและรุ่นเดียวกับที่อ้างว่าใช้การกระทำความผิดไปตรวจ สอบทางเทคนิคด้านประสิทธิภาพเปรียบเทียบกับคลิปลับที่ปรากฏออกมา
7.พนักงานสอบสวนจะตรวจสอบประวัติของผู้ที่อ้างว่ากระทำความผิดทั้ง 3 คนโดยละเอียด
8. เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางบริษัทอาร์เอสเข้ามาแจ้งความกับตำรวจ ปดส. แต่คืนนั้นนายโด้ พ่อครัวของโรงแรมกลับถูกอุ้มตัวหายไปจากโรงแรม โดยที่ภรรยาไม่ทราบว่าสามีหายไปไหน จนช่วงบ่ายของวันที่ 24 ก.ย.ภรรยาของนายโด้ต้องเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น
ทำให้เป็นข้อสงสัยว่าหากจะเข้ามอบตัวสู้คดีหรือไปหามูลนิธิปวีณาฯ ก็ควรจะบอกกับภรรยาเสียก่อน และขอตั้งข้อสังเกตว่าทุกครั้งที่มูลนิธิปวีณาฯ ประสานมาเมื่อได้ช่วยเหลือ
เด็กเยาวชนหรือสตรีครั้งใดก็จะพาผู้เสียหายมาด้วย เพื่อให้ตำรวจได้สอบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิด แต่คดีนี้ปรากฏว่าทางมูลนิธิปวีณาฯ กลับพาผู้กระทำผิดไปดำเนินการเอง
พล. ต.ต.วิสุทธิ์กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำผู้ที่อ้างว่ากระทำความผิดทั้ง 3 สรุปได้ว่าตำรวจยังไม่สามารถแจ้งความได้ แต่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวการที่แท้จริงจากเดิมที่บอกว่ามี 5 คน อาจมีแค่เพียง 1-2 คนเท่านั้นที่รู้เห็นจริงๆ และผู้กระทำความผิดที่แท้จริงไม่ใช่ทั้ง 5 คนนี้
ส่วนตุ๊กตาที่ตั้งกันขึ้นมานี้น่าจะตั้งมาโดยผู้ที่มีความรู้ทางกฎหมาย เพราะการแอบดูถึงจะผิดก็แค่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นความผิดลหุโทษ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ที่สำคัญคดีก็ขาดอายุความไปแล้ว
พล.ต.ต. วิสุทธิ์กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับนายเนม ที่ถูกซัดทอดว่าเป็นคนถ่ายคลิปนั้นก็เอาผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 2550 ไม่ได้อีก เพราะเป็นเรื่องการแอบถ่าย แต่ไม่ได้นำเผยแพร่ออกไป ส่วนแฟนสาวที่ไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนาม ซึ่งเป็นตัวสำคัญเขากลับตัด บทไป
ทั้งๆ ที่อาจจะเข้าข่ายกระทำความผิดในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการแพร่ภาพออกไป ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จกับทั้ง 3 คนหรือไม่นั้นยังแจ้งข้อหาไม่ได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่พิสูจน์ได้ว่าทั้งหมด
ไม่ได้พูดความจริงก็จะแจ้งข้อหาให้ การเท็จต่อเจ้าพนักงาน และหากเป็นการสมอ้างเพื่อปกป้องผู้กระทำความผิดก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาช่วย เหลือผู้อื่นไม่ให้ได้รับโทษทางอาญา
เมื่อถามว่านายเนมมีตัวตนจริง หรือไม่ พล.ต.ต. วิสุทธิ์กล่าวว่า นายเนมก็คือนายปิยะนัส กาบละคร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 20 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น แต่ทำไมต้องไปเกณฑ์ทหารอยู่ที่ จ.ยะลา กำลังตรวจสอบว่าไปรับราชการที่ จ.ยะลา จริงหรือไม่ ถ้าจริงอยู่หน่วยไหน สังกัดใด
แต่ถึงตัวมาก็ยังแจ้งข้อหาไม่ได้ เพราะไม่เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตัวจักรสำคัญคือแฟนของนายเนม ที่ยังไม่รู้ชื่อสกุลหรือข้อมูลที่จะเป็นเบาะแสได้เลย ตำรวจจะไปตามหาที่ไหน
แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างฉากขึ้นมา ทั้ง 3 คนบอกว่าเคยเห็นแฟนนายเนม แต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร ไม่เคยถามชื่อ รู้เพียงว่าเป็นนักเรียนอยู่ที่ จ.ขอนแก่น
"ผมถามนิดหนึ่งว่าเมื่อ อุ้มตัวนายโด้มาแล้วทำไมไม่แจ้ง ปดส.เก็บตัวไว้ 3 วัน ไม่สังเกตกันหรือว่าถ้านายโด้สำนึกผิดแล้วเหตุใดจึงไม่บอกให้ภรรยาทราบ จนต้องไปแจ้งความคนหาย
ผมฟันธงได้เลยว่าเรื่องนี้เป็นการจัดฉาก" พล.ต.ต.วิสุทธิ์กล่าว และว่า แม้ว่าสิ้นเดือนก.ย.นี้ตนจะต้องย้ายไปดำรงตำแหน่ง จ.อ่าง ทอง แต่พนักงานสอบสวน ปดส.จะยังเดินหน้าทำคดีนี้ต่อไปเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด
ผู้ สื่อข่าวถามว่าเหตุใดทางต้นสังกัดของนักร้องสาวทั้ง 2 จึงไม่ค่อยกระตือรือร้นที่จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด พล.ต.ต.วิสุทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็ไม่ทราบ แต่อาจเป็นด้วยเหตุที่นักร้องทั้ง 2 กำลังอยู่ในช่วงขาลง หรือไม่ที่อาจเป็นมูลเหตุอย่างหนึ่ง
ส่วนความจำเป็นที่จะต้องเข้าค้นจุดเกิดเหตุหรือไม่นั้นคงไม่จำเป็นต้อง เข้า ไปค้นแล้ว เพราะหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้มีพอสมควร ถ้าพร้อมเมื่อใดก็จะเข้าไปค้นไปจับเลย ส่วนตัวแล้วคิดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังคดีนี้ต้องเป็นผู้มีอิทธิพลมากและมี ความเกี่ยวพันกับทั้ง 3 แต่ไม่ขอตอบว่าเกี่ยวพันกันในลักษณะไหน
วันเดียวกัน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) มีคำชี้แจงต่อสื่อมวลชนเรื่องศิลปิน "โฟร์-มด" มีใจความว่า นายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ กรรมการและผู้อำนวยการสายงานกฎหมายและปราบปราม
บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้แทนบริษัทดำเนินการด้านคดีของ "คลิปโฟร์-มด" เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวให้ฟังอีกครั้งในวันนี้ว่า
" วันนี้ในนามบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่ดำเนินการสอบสวนขยายผลอย่างเร่งด่วน โดยการนำตัวผู้ต้องสงสัยในคดีนี้มาเปิดเผย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยกระทำผิดตามกฎหมายต่อไป
แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทางบริษัทก็ต้องขอเรียกร้องแทนผู้ เสียหาย ในเรื่องของจริยธรรมและการแสดงความรับผิดชอบจากสถานที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้บริหารโรงแรมออกมายอมรับแล้วว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง และมีพนักงานในโรงแรมร่วมกระทำความผิด
แต่จนถึงปัจจุบันเจ้าของ กิจการโรงแรมรื่นรมย์ยังคงเพิกเฉยต่อการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นกับผู้เสียหายและอาร์เอส และจากเหตุการณ์ครั้งนี้ขอให้เป็นคดีตัวอย่างที่จะช่วยกระตุ้นให้สังคมได้ ตื่นตัวกับภัยใกล้ตัว
และใคร่ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ลดท่าทีในการนำเสนอข่าว ที่ มีการพาดพิงถึงตัวผู้เสียหายให้น้อยลง เพราะจากการนำเสนอข่าวดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้เสียหายอีก ครั้ง หลังจากที่ตอนนี้สภาพจิตใจของทั้งคู่เริ่มดีขึ้นตามลำดับ"
ด้าน นางปวริศา ชัยรัตน์ เปิดเผยถึงสภาพจิตใจของ ""มด-คุณัชญา" บุตรสาวว่า พยายามไม่ให้เขารับรู้อะไรมาก เพราะเป็นช่วงที่น้องกำลังสอบ และวันนี้เป็นการสอบวันสุดท้ายในภาคเรียนที่ 1 ชั้น ม.6 ส่วนตัวเท่าที่เห็นลูกสาวมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นเมื่อได้อยู่กับเพื่อนๆ
เรื่องที่คุยกันเป็นเรื่องเฮฮาตามประสาวัยรุ่น ไม่ได้คุยกันถึงเรื่องข่าว พร้อมกันนี้ลูกสาวยังได้รับกำลังใจที่ดีจากอาจารย์ นักเรียนรุ่นน้อง และเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเป็นอย่างดี มีรุ่นน้องเขียนโปสการ์ดให้กำลังใจ อีกทั้งยังมีช่อดอกไม้จากแฟนเพลงส่งมาให้กำลังใจถึงที่บ้าน
ต่อข้อ ถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี นางปวริศา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องปล่อยให้ทางอาร์เอสเป็นผู้ดำเนินการ เมื่อถามต่อว่ามูลนิธิปวีณาฯ นำตัวผู้ต้อง หามาแถลงข่าวส่วนตัวเชื่อมากน้อยแค่ไหนว่าทั้งหมดเป็นผู้กระทำจริง
มารดาของ "น้องมด" กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "เป็นเรื่องที่พูดยาก เท่าที่ได้คุยรายละเอียดกับทางต้นสังกัด ทางต้นสังกัดบอกว่าได้ประสานงานกับทางพล.ต.ต.วิสุทธิ์ เพราะฉะนั้นเรื่องคงต้องขึ้นอยู่กับทางพล.ต.ต.วิสุทธิ์เป็นผู้ดำเนินการ"
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรพล ทวน ทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่าง บก.ปดส.และมูลนิธิปวีณาฯ ในการสืบสวนสอบสวนว่า การสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในกรณีดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับพยานหลัก ฐานที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีสามารถรวบรวมมาได้จากทุกแหล่ง
ส่วนกรณีที่มีผู้ออกมายอมรับสารภาพว่า มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดในกรณีดังกล่าวด้วยนั้น พนักงานสอบสวนก็จำเป็นที่จะต้องสอบปากคำเอาไว้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ารับฟังได้หรือไม่ ถ้าคำให้การไม่มีน้ำหนักหรือไม่มีความเชื่อมโยงสอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่น
ก็ขึ้นอยู่กับวิจาณญาณของพนักงานสอบสวนว่าจะดำเนินการอย่างไร หากผู้ที่เข้ามายอมรับสารภาพมีเจตนาไม่บริสุทธิ์หรือพยายามตัดตอนกระบวนการ สอบสวนเพื่อปกปิดข้อเท็จจริง ตำรวจก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวออกไปสังเกตบรรยากาศโรงแรมขอนแก่นรื่นรมย์ ต้นเหตุคลิปฉาวสองนักร้องดัง "โฟร์-มด" พบว่าพนักงานเข้มงวดอย่างมากที่จะให้สื่อมวลชนไปถ่ายภาพโรงแรม ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ผับตะวันแดง-โรงเบียร์แสงจันทร์ ตรงข้ามห้างบิ๊กซี สาขาขอนแก่น ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
สถาน ที่ที่นางเกษร กาบละคร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 20 บ้านหนองบัวดีหมี ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น มารดานายปิยะนัส หรือ "เนม" กาบละคร อายุ 22 ปี ที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปนักร้องสาว "โฟร์-มด" โดยนางเกสรทำงานเป็นพนักงานแม่บ้านอยู่
นางเกสรกล่าวว่า ลูกชายเคยทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ในโรงแรมที่เกิดเหตุ สุดท้ายออกจากโรมแรมเพราะสมัครไปเป็นพลทหารเรือ ประจำสัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อประมาณปี 2550 และสมัครใจไปทำงานเพื่อช่วยชาติที่ จ.ยะลา
จากนั้นลูกชายไม่เคยติดต่อมาหาแม่ แต่ติดต่อมากับน้าชายชื่อนายประดิษฐ์ สิงห์สถิต อาชีพขับรถส่งอาหารทะเล เมื่อเห็นข่าวจากโทรทัศน์มีรูปถ่ายของลูกชายว่าเป็นคนใช้มือถือถ่ายคลิปนัก ร้องสาว "โฟร์-มด" ในห้องน้ำของโรงแรม ตนเห็นแล้วเสียใจมาก
ไม่เชื่อว่าลูกชายเป็นผู้กระทำตามที่เขากล่าวหา เมื่อคืนนายประดิษฐ์ น้าชายติดต่อทางโทรศัพท์กับเนมตลอดทั้งคืนก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ เพื่อจะสอบถามความจริงที่เกิดขึ้นว่าลูกชายเป็นคนถ่ายภาพคลิปฉาวหรือไม่ เพราะตนคิดว่าเนมต้องถูกปรักปรำ แล้วโยนความผิดให้กับเนมไปเพียงผู้เดียว
นาง เกสรกล่าวต่อว่า ถ้าลูกชายเป็นคนถ่ายภาพคลิปฉาวจริง และเป็นความผิดที่ตำรวจกล่าวหา ก็ขอให้ลูกชายมามอบตัว ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎ หมาย แต่ถ้าลูกชายไม่ผิดตนเสียใจมากที่มีผู้ใหญ่รังแกเด็ก
โดยนิสัยและพฤติกรรมของลูกชายนั้นเป็นคนที่รักพ่อแม่ อ่อนน้อมถ่อมตน เชื่อว่าไม่เป็นคนถ่ายภาพคลิปฉาวอย่างแน่นอนแต่ตกเป็นแพะรับบาปให้เป็นผู้ ถ่ายคลิปฉาว
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|