จากคดีสะเทือนขวัญ น.ส.หัสยา หรือ นาง เพ็ชรหิน อายุ 18 ปี โดนนายอดิศร แก้วอุดร อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 37 ม.5 ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มหึงหวง ใช้น้ำมันก๊าดราดทั้งตัวแล้วจุดไฟเผาจนไหม้ไปทั้งตัว
ญาติต้องนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลบางกอก 9 อินเตอร์ฯ ย่านพระราม 2 กทม. เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยน.ส.หัสยาอาการโคม่า ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ส่วนนายอดิศรก็หนีไม่รอดโดนตำรวจจับได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 พ.ย. พ.ต.ท.โกมินทร์ อ่อนเพชร พงส.สบ.3 สน. บางขุนเทียน นำตัวนายอดิศร แก้วอุดร ผู้ต้องหาราดน้ำมันเผาน.ส.หัสยา มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งนายอดิศรให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือใช้น้ำมันก๊าดราดตัวแฟนสาว ก่อนจุดไฟเผาทั้งตัวเป็นจริง
ก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเหล้ากับเพื่อน 4-5 คน ที่ห้องพักคนงานชั้น 2 ของโรงงาน แอ๊คคิวเรท เพรส จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 66/151 ถ.เอกชัย 80 แขวงและเขตบางบอน กทม.
โดยตนได้ซื้อน้ำมันก๊าดมาเตรียมไว้เพื่อข่มขู่แฟนสาวในการง้อขอให้คืนดี กับตนเท่านั้น ซึ่งตนรู้ว่าน.ส.หัสยากำลังตีตัวออกห่างไปคบกับชายคนใหม่ที่เป็นคนงานชาว พม่าที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน
นายอดิศรให้การต่อไปว่า ตนพยายามง้องอนขอคืนดีหลายครั้งก็ไม่เป็นผล จึงได้ออกอุบายนัดให้ น.ส.หัสยามาพบที่ห้องเพื่อจะขอพูดคุยเป็นครั้งสุดท้าย พอมาถึงก็ได้ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 30 นาที แต่น.ส.หัสยาพูดจากับตนไม่ดี ประกอบกับตนอยู่ในอาการมึนเมา ทำให้ตนโมโหมาก
จึงใช้น้ำมันก๊าดราดบนที่นอนและราดใส่ตัวแฟนจนเปียกชุ่ม ก่อนจะจุดไฟแช็กโยนใส่จนไฟลุกท่วม ทำให้ผู้เสียหายกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หลังก่อเหตุตนกลัวความผิด
จึงเรียกเพื่อนๆ มาช่วยกันแบกร่างน.ส.หัสยาที่ไฟกำลังลุกไหม้ท่วมตัวอยู่ไปที่ห้องน้ำ และช่วยกันใช้น้ำราดจนไฟดับ ก่อนที่จะหลบหนีไป ส่วนน.ส.หัสยาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
"ผมไม่คิดจะทำอย่างนี้เลย เพียงแต่อ่านข่าวราดเบนซินแล้วจุดไฟเผาน.ร.สาว ม.6 ที่จ.พิจิตร ในหน้าหนังสือพิมพ์และจะนำมาขู่แฟนเฉยๆ เพื่อเป็นข้อต่อรองขอคืนดีเท่านั้น เพราะผมรักแฟนคนนี้มาก จึงเกิดความแค้นมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น" นายอดิศรกล่าว
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หลังจากสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายอดิศรไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัวเพราะเกรงว่าจะหลบหนี
ต่อมาเวลา 13.00 น. นางสมถวิล เพ็ชรหิน อายุ 44 ปี มารดาน.ส.หัสยา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยกล่าวทั้งน้ำตาว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นลูกคนเล็ก ทำงานในโรงงานดังกล่าวมา 2 ปีแล้ว ซึ่งตนก็รับรู้มาตลอดว่าได้คบหากับผู้ต้องหามาปีกว่าแล้ว
โดยเรื่องส่วนตัวลูกสาวจะไม่เล่าให้ตนฟัง แต่จะพูดคุยกับพี่ชายคนโตเท่านั้น ซึ่งช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา น.ส.หัสยาได้โทรศัพท์มาบอกพี่ชายว่าให้มารับไปอยู่ด้วย เพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของนายอดิศรที่ชอบกินเหล้าเมามาแล้วทุบตีทำร้าย ร่างกายอยู่บ่อยครั้ง ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
นาง สมถวิลกล่าวด้วยว่า ส่วนอาการของลูกสาวนั้นยังไม่ได้สติเลย อาการยังน่าเป็นห่วง แพทย์ได้บอกว่าผิวหนังชั้นนอกถูกทำลายทั้งหมด อาจทำให้ติดเชื้อได้ ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดที่ห้องปลอดเชื้อ
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก