หมอตาเตือนวัยรุ่นไทยเห่อใส่คอนแทคเลนส์ “บิ๊กอายส์” ตามแฟชั่นดาราเกาหลี-ญี่ปุ่น เสี่ยงติดเชื้อทำให้ตาบอดภายใน 2 วัน มีสิทธิ์ติอเชื้อเอดส์หากนำไปแลกกับเพื่อนใส่ ระบุก่อนตัดสินใจใส่ ต้องปรึกษาจักษุแพทย์ อย่าซื้อใส่เองโดยพลการ อย.เตรียมชงร่างประกาศกำหนด คอนแทกเลนส์เสริมสวยเป็นเครื่องมือแพทย์ต้องควบคุม ผู้ผลิต-ผู้นำเข้าต้องขออนุญาต หลังพบลักลอบนำเข้าวางขายเกลื่อน ขณะที่ วธ.แฉเพิ่มระวังอายไลเนอร์ผสมน้ำมันเครื่อง
นพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปัจจุบันดารานักร้องจากเกาหลี ญี่ปุ่น กำลังอยู่ในกระแสนิยมของเมืองไทยอย่างมาก ส่งผลให้กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่ชอบแสวงหาต้นแบบ อยากแสดงออก และต้องการการยอมรับ มีการลอกเลียนแบบดารานักร้องเกาหลี ทั้งกิริยาท่าทาง การแต่งหน้า แต่งตัว ทรงผม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เป็นไปตามวัย ล่าสุดพบว่าวัยรุ่นไทยกำลังนิยมใส่คอนแทกเลนส์ตาโต หรือบิ๊กอายส์ ที่มีหลายสี หลายขนาด และหลายรูปแบบ เพื่อให้ดวงตาดูกลมโตขึ้นกว่าปกติ สามารถเปลี่ยนสีตาได้ตามใจชอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะการทำสิ่งใดๆ กับดวงตานั้น ถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตราย เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญและบอบบางที่สุด หากเกิดปัญหาขึ้นกับดวงตาและไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง ก็อาจถึงขั้นตาบอด ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต จึงอยากให้วัยรุ่นตามกระแสแฟชั่นต่างๆ อย่างมีสติ รู้จักระมัดระวัง และชั่งน้ำหนักผลดีผลเสียที่จะตามมาด้วย
นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า คอนแทกเลนส์ถือเป็นวัสดุทางการแพทย์ ที่เป็นทางเลือกสำหรับบุคคลที่มีปัญหาทางด้านสายตาแต่ไม่สามารถใช้แว่นสายตาได้ การตัดสินใจใช้คอนแทกเลนส์จึงควรปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตาโดยเฉพาะ สำหรับคอนแทกเลนส์ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น เปลี่ยนสีตา ขยายขนาดของตาดำ มักจะใช้ในกลุ่มผู้ที่ต้องอาศัยรูปร่างหน้าตาในการประกอบอาชีพ เช่น ดารา นักร้อง นางแบบ เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคอนแทกเลนส์ชนิดใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการระมัดระวังเรื่องความสะอาด เนื่องจากคอนแทกเลนส์ต้องสัมผัสกับกระจกตาโดยตรงและเป็นระยะเวลานาน หากคอนแทกเลนส์สกปรก จะทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระจกตา และอาจลุกลามถึงขั้นตาบอดได้ภายใน 2 วัน
นพ.ฐาปนวงศ์กล่าวต่อว่า การใช้คอนแทกเลนส์ ควรศึกษาและปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด ต้องเก็บรักษาในน้ำยาแช่คอนแทกเลนส์โดยเฉพาะและปิดฝาให้สนิท เปลี่ยนน้ำยาแช่เลนส์ทุกครั้งที่ใช้ ไม่ใช้น้ำยาแช่เลนส์ซ้ำๆ ห้ามล้างคอนแทกเลนส์ด้วยน้ำประปา เนื่องจากสารคลอรีนที่อยู่ในน้ำประปาอาจกัดกร่อนเลนส์ ทำให้เลนส์เสื่อมสภาพ ขุ่นมัว หรืออาจมีสิ่งเจือปนทำให้เลนส์สกปรกได้ และต้องล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสคอนแทกเลนส์ทุกครั้ง
“วัยรุ่นที่นิยมใส่คอนแทกเลนส์ตามแฟชั่น ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยให้มากๆ เพราะนอกจากเสี่ยงตาบอดแล้ว ยังพบว่ามีวัยรุ่นบางกลุ่มแยกกันซื้อคอนแทกเลนส์คนละแบบ แล้วนำมาแลกเปลี่ยนกันใส่ ซึ่งสามารถทำให้ติดเชื้อเอดส์ได้” นพ.ฐาปนวงศ์กล่าว
นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ภายในเดือนธันวาคมนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะนำเรื่องคอนแทกเลนส์ที่ไม่มีกำลังสายตาแต่ใช้ในลักษณะเสริมความงาม เช่น คอนแทกเลนส์ที่เป็นสีต่างๆ หรือบิ๊กอายส์ที่ใช้ใส่เพิ่มขนาดตาดำให้ดูใหญ่ขึ้น เข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการเครื่องมือแพทย์ เพื่อพิจารณาเห็นชอบให้เป็นเครื่องมือแพทย์ที่ต้องได้รับการควบคุมเช่นเดียวกับคอนแทกเลนส์ที่มีกำลังวัดสายตา ซึ่งใช้ในการรักษาสายตาสั้น ยาว หรือเอียง หากคณะกรรมการให้ความเห็นชอบก็จะจัดทำร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาลงนามประกาศใช้ต่อไป
รองเลขาฯ อย.กล่าวอีกว่า หากประกาศให้คอนแทกเลนส์ที่ใช้ในการเสริมความงามเป็นเครื่องมือแพทย์ จะทำให้ อย.เข้าไปควบคุมได้อย่างเข้มข้นขึ้น โดยตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 ผู้ผลิตและผู้นำเข้าจะต้องขออนุญาตจาก อย. รวมทั้ง ต้องแสดงอายุการใช้ คำเตือน ข้อห้ามใช้ หรือข้อควรระวังในการใช้ไว้ในฉลากหรือเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ และในการโฆษณาต้องได้รับการอนุญาตจาก อย. ผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ผู้ผลิต ผู้นำเข้าหรือผู้ขายเครื่องมือแพทย์ต้องรับผิดชอบทางแพ่งในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้เครื่องมือแพทย์ ทั้งความเสียหายต่อจิตใจ ร่างกายและอนามัยของผู้เสียหาย
"ปัจจุบันคอนแทกเลนส์ที่ใช้ในการเสริมความงามไม่ได้เข้าข่ายเป็นเครื่องมือแพทย์ แต่ อย.เห็นว่าลักษณะการใช้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้เช่นเดียวหรือมากกว่าคอนแทกเลนส์ที่มีกำลังวัดสายตาที่ใช้สำหรับคนสายตาผิดปกติ จึงควรประกาศให้เป็นเครื่องมือแพทย์เพื่อให้ อย.เข้าไปควบคุมดูแลได้อย่างเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นสีที่นำมาผสมในคอนแทกเลนส์เป็นสีชนิดใด อันตรายแค่ไหนอย่างไร และผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานหรือไม่ เพราะขณะนี้มีการลักลอบนำเข้ามาขายจำนวนมากและเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มวัยรุ่น การใช้คอนแทกเลนส์ควรใส่ตามที่แพทย์สั่ง เนื่องจากต้องคำนึงถึงความโค้งของคอนแทกเลนส์และดวงตาด้วย หากความโค้งไม่เหมาะสมจะทำให้บีบตา นานๆ ไปอาจทำให้ตาเป็นแผลได้" นพ.พงศ์พันธ์กล่าว
ด้าน น.ส. ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กวัยรุ่นไทย ตามแฟชั่นต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ที่ผ่านมาทราบว่าเครื่องสำอางบางชนิดที่นำมาขายในราคาถูก ใช้วัสดุส่วนผสมที่ไม่มีมาตรฐาน เช่น อายไลเนอร์ที่ใช้เขียนขอบตา มีส่วนผสมมาจากน้ำมันเครื่อง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสายตา อาจทำให้ตาบอดได้เช่นกัน ดังนั้น ถ้าวัยรุ่นไทยอยากจะเลียนแบบแฟชั่นและวัฒนธรรมต่างชาติ สามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ขอให้มีสติ รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ และอยากขอให้ผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานก่อนออกจากบ้าน และช่วยแนะนำสิ่งที่ถูกที่ควรให้แก่บุตรหลาน
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก คมชัดลึก