|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จากเหตุการณ์เพลิงนรกสยองกรุง เผาวอดสถานบริการชื่อดังย่านเอกมัย-ทองหล่อ “SANTIKA Pub & Restaurant” ระหว่างจัดงาน “GOODBYE SANTIKA COUNTDOWN TO 2009 31st DECEMBER 2008 BADBOY PARTY” ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และเลี้ยงอำลาร้านที่จะปิดให้บริการ โดยมีคอนเสิร์ตของเจ้าพ่อแร็พเมืองไทยโจอี้ บอย เป็นแรงดึงดูดให้นักเที่ยวหนุ่มสาวทั้งชาวไทยและต่างประเทศแห่ไปร่วมงานกันอย่างแออัดยัดเยียดนับพันคน และระหว่างเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนานได้เกิดเหตุไม่คาดฝัน มีเปลวไฟลุกท่วมบริเวณหน้าเวทีอย่างรวดเร็ว สร้างความแตกตื่นตกใจแก่นักเที่ยวที่อยู่ในอาการมึนเมาวิ่งเบียดเสียดหาทางออกเพื่อหนีตายกันอย่างโกลาหล แต่เนื่องจากประตูทางออกคับแคบและมีเพียงประตูเดียวทำให้นักเที่ยวราตรีเหยียบกันตายและถูกไฟคลอกย่างสดรวมทั้งสิ้น 59 ศพ บาดเจ็บอีกระนาวกว่า 200 คน ในเบื้องต้นเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากการจุดเอฟเฟกต์ประกอบการแสดงดนตรีบนเวที แล้วประกายไฟเกิดลุกไหม้ติดวัสดุตกแต่งที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ภายหลังเกิดเหตุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุและเยี่ยมคนเจ็บ พร้อมกับกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงโดยเร็วนั้น
“จงรัก” เรียกประชุมเครียด
ความคืบหน้า ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ม.ค. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ได้เรียก ผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช. สนว.ตร. พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ. ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.นิธิ บรรฑุวงศ์ ผกก.กองพิสูจน์ เอกลักษณ์บุคคลและการส่งกลับ สนว.ตร. พร้อมพนักงานสอบสวนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง หลังจากนั้น พล.ต.อ.จงรักเปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมเพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตถึงตอนนี้สรุปว่ามีผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ทราบชื่อรวมทั้งสิ้น 21 ราย ในส่วนนี้ขอให้ญาติผู้เสียชีวิตนำหลักฐานเอกสารและข้อมูลมาที่ สน.ทองหล่อ เพราะมีการตั้งศูนย์ตรวจพิสูจน์ เอกลักษณ์ขึ้นที่นี่
พบเด็ก 17 เข้าไปใช้บริการ
พล.ต.อ.จงรักกล่าวต่อว่าจากหลักฐานที่ปรากฏ พบว่าสถานบริการซานติก้าผับ มีความผิดชัดเจนในเรื่องปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 17 ปีเข้าไปใช้บริการ ดังนั้นต้องดำเนินคดีกับผู้จัดการร้านหรือผู้เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับหุ้นส่วนใหญ่เจ้าของร้าน คือนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์หรือเฮียขาว ขณะนี้ได้รับการประสานว่าจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องตรวจสอบในเรื่องเอกสารต่างๆ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้เคยทำเรื่องขอใบอนุญาตเมื่อปี 2546 แต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ จึงไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ทำให้ทางร้านยื่นเรื่องต่อศาลปกครองและศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้เปิดกิจการได้ ในขณะที่การสอบสวนจนถึงตอนนี้คืบหน้าไปมาก สอบปากคำ พยานไปแล้วประมาณ 20 ปาก แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ ในส่วนของดีเจหนุ่ม 2 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็อยากให้มาให้ปากคำกับตำรวจโดยเร็ว
เหลือรถนักเที่ยว 3 คัน
สำหรับในส่วนของรถยนต์ที่พบในที่เกิดเหตุ รวมทั้งสิ้น 27 คันนั้น มีผู้ติดต่อขอรับรถกลับคืนไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียง 3 คันเท่านั้น ได้แก่รถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ศศ 7698 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ฮอนด้า ซีวิคสีเทา ทะเบียน ภว 3077 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีม่วง ทะเบียน สฬ 6274 กรุงเทพมหานคร ยังไม่แน่ใจว่าเป็นรถของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบชื่อเจ้าของรถทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างประสานกับญาตินำหลักฐานมารับรถคืนไป และได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำรถยนต์ทั้ง 3 คันมาเก็บไว้ที่ สน.แล้ว
หาหลักฐานติดต่อเจ้าของรถ
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จงรักได้นำภาพถ่ายของเจ้าของรถยนต์ทั้ง 3 คนมาแสดงให้สื่อมวลชนดู จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจเปิดประตูรถยนต์ทั้ง 3 คันต่อหน้าสื่อมวลชน เพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ศศ 7698 กรุงเทพมหานคร เจ้าของคือนางปรียานุช คงกำเนิด อายุ 46 ปี ภายในรถพบกระเป๋าสะพายหนังสีดำของสตรี 1 ใบ ข้างในมีนามบัตรระบุชื่อ น.ส.สายสุนีย์ มณีศิลป์ เซลส์บริษัทแคลิฟอร์เนียว้าวได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ รพ.จุฬาฯ รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ภว 3077 กรุงเทพมหานคร เจ้าของรถคือนายสมภพ ธุระเสร็จ อายุ 39 ปี และรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีม่วง ทะเบียน สฬ 6274 กรุงเทพมหานคร เจ้าของคือ น.ส.อัญชิษฐา ด้วงสวัสดิ์ อายุ 26 ปี ในรถพบกระเป๋าสะพายสตรี 2 ใบ ข้างในมีสมุดบัญชีธนาคารทหารไทยระบุชื่อ น.ส.ปิยะกมล ศิริเชษฐ์วงศ์ และ น.ส.ปุณย์รฐา ศิริเชษฐ์วงศ์ คาดว่าน่าจะเดินทางมาด้วยกันกับเจ้าของรถ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้
พี่ชายติดต่อรับรถให้น้องสาว
ต่อมา ได้มีนายธนกร ด้วงสวัสดิ์ อายุ 34 ปี พี่ชายของ น.ส.อัญชิษฐา ด้วงสวัสดิ์ เจ้าของรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีม่วง ทะเบียน สฬ 6274 กรุงเทพมหานคร ได้เดินทางไปรับรถและทรัพย์สินของน้องสาวและเพื่อนของน้องสาวคือ น.ส.ปุณย์รฐา ศิริเชษฐ์วงศ์ อายุ 26 ปี นายธนกร กล่าวว่า น้องสาวเรียนอยู่คณะมนุษยศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในวันเกิดเหตุเดินทางไปเที่ยวพร้อมกับเพื่อนๆ เพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่ หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ผับ ตนได้นำตัวน้องสาวส่ง รพ.กรุงเทพ ซึ่งทั้งน้องสาวและเพื่อนอยู่ในอาการสาหัส ขณะนี้ต้องใช้ เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากหลอดลมอักเสบ ไม่สามารถเดินทางมารับรถยนต์และทรัพย์สินได้ ตนจึงมารับแทน เจ้าหน้าที่จึงสอบปากคำและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนมอบรถให้ไป
เผยไม่ยอมต่ออายุประกันภัย
พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสถานบริการซานติก้าผับ พบว่ากรมธรรม์ประกันภัยหมดอายุไปเมื่อ 4 เดือน แล้วไม่ได้ทำประกันภัยต่อ เนื่องจากกำลังจะหมดสัญญาเช่า ดังนั้น ประเด็นเรื่องการวางเพลิงจึงไม่น่าจะเกี่ยวข้อง แต่จะเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ ยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เสียก่อน เพราะเกิดได้ หลายสาเหตุ ในส่วนของนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ เจ้าของสถานที่ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อว่าจะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเมื่อใด ทราบว่ามีอาการสำลักควันไฟ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าเป็นที่ใด
ออกหมายเรียกแล้ว 1 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ออกหมายเรียกนายสุริยา ฤทธิระบือ กรรมการผู้จัดการซานติก้าผับ เพื่อมาสอบปากคำในฐานะพยานในวันที่ 5 ม.ค.นี้
ผบ.ตร.สั่งตั้งทีมตรวจพิสูจน์ศพ
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ตรวจรายละเอียดเกี่ยวกับเอกลักษณ์บุคคลที่ญาติแจ้งความว่าหายตัวไปในช่วงเกิดเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ ในส่วนของตำรวจเกี่ยวข้อง 3 เรื่อง หน้าที่ทางคดีตำรวจต้องตรวจหาสาเหตุเพลิงไหม้ ว่าเกิดจากความประมาท วางเพลิงหรืออุบัติเหตุ ซึ่งต้องเชิญตัวเจ้าของผับและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำ และตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลที่เสียชีวิตจากเพลิงไหม้มีจำนวนเท่าไร ทั้งนี้ ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.ดนัย ธรวงศ์ไทย ผบช.สนว.ตร. จัดตั้งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์และตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลร่วมกับ สน.ทองหล่อ ดังนั้นขอให้ญาติผู้สูญหายนำเอกสารหลักฐานมาแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ เพื่อตรวจสอบบุคคลที่สงสัยว่าอาจจะเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ
ศาล ปค.อนุญาตให้เปิดบริการ
ผบ.ตร.กล่าวว่า ในส่วนใบอนุญาตเปิดสถานบริการ ของผับดังกล่าว ทราบว่าเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 2546 ซึ่ง บช.น.ไม่ได้อนุญาตให้เปิดกิจการ แต่เจ้าของสถานบันเทิงได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองในปี 2547 และศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้เปิดกิจการได้ ดังนั้นในเรื่องใบอนุญาตถือว่าถูกต้อง เพราะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวอยู่ ส่วนประเด็นของสาเหตุเพลิงไหม้ได้กำชับผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ในชั้นนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้
ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ต้นเหตุไฟไหม้
ด้าน พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สนว.ตร. กล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานสำนัก งานนิติวิทยาศาสตร์ ระดมกำลังผู้เชี่ยวชาญหลายชุดเข้า ไปตรวจเก็บวัตถุพยานหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ พร้อมกับแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ บุคคลขึ้นที่ สน.ทองหล่อ เพื่อตรวจสอบบุคคลที่สูญหายในช่วงเกิดเหตุ โดยประชาชนที่สงสัยว่ามีญาติ เพื่อนเข้าไปอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ ให้นำเอกสารรายละเอียดที่เกี่ยวข้องไปติดต่อกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ สำนัก งานตำรวจแห่งชาติดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินการตรวจหาบุคคลที่สูญหายต่อไป ในตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้มาจากอะไร เพราะอยู่ในขั้นตอนของการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ ต้องใช้เวลาในการตรวจพิสูจน์พอสมควร เนื่องจากพยานหลักฐานที่ได้จากจุดเกิดเหตุมีจำนวนมาก
บช.น.แจงเปิดก่อนได้รับอนุญาต
เกี่ยวกับเรื่องใบอนุญาตให้เปิดสถานบริการ พ.ต.ท. กิตติธัช พิมพ์ทนต์ รอง ผกก.ฝอ.6 บก.อก. บช.น. ดูแลรับผิดชอบการอนุญาตเปิดสถานบริการในกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 46 นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเฮียขาว ได้ยื่นขอใบอนุญาตเปิดสถานบริการซานติก้า ผับ กับ สน.ทองหล่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งเรื่องมาที่ บช.น. เพื่อพิจารณา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าสถานบริการอยู่ ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ควบคุมสถานบริการไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ต่อมาวันที่ 13 ม.ค. 47 ทางเจ้าของสถานบริการได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางให้คุ้มครองเปิดเป็นสถานบริการอย่างถูกต้อง และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ทางซานติก้า ผับก็เปิดให้บริการแล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดของร้านอาหาร กฎหมายกำหนดให้มีการแสดงดนตรีได้ไม่เกินเที่ยงคืน ทางร้านก็ยังจัดให้เล่นดนตรีเกินเวลา ซึ่งตำรวจท้องที่ สน.ทองหล่อ ก็ตรวจจับมาโดยตลอด กระทั่งปี 50 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว เปิดสถานบริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทาง บช.น.ได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดให้เพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าว โดยขณะนี้เรื่องยังไม่สิ้นสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
คปภ.ประสานเหยื่อทำประกัน
ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ นายสมชัย รักธรรมกิจ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เขต 1 เดินทางไปที่ สน. ทองหล่อ พร้อมเปิดเผยว่า ต้องการประชาสัมพันธ์ให้ญาติผู้เสียชีวิตทราบว่าผู้ใดทำประกันภัยไว้กับบริษัทใดบ้าง และมีปัญหาอะไรบ้าง นอกจากนี้อยากจะพบตัวนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ เจ้าของซานติก้า ผับ เพื่อสอบถามว่าได้ทำประกันภัยไว้กับที่ใดบ้าง เพื่อจะสามารถดำเนินการช่วยเหลือ ได้อย่างทันท่วงที
เหยื่อตายเพิ่มอีก 1
ส่วนที่โรงพยาบาลรามคำแหง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเหยื่อจากเหตุการณ์ไฟไหม้ซานติก้า ผับ เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ น.ส.เดือนเพ็ญ พรมทอง อายุ 24 ปี หลังจากถูกนำตัวส่ง รพ.รามคำแหง ในสภาพมีบาดแผลถูกไฟลวกพุพองตามร่างกายประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และแพทย์ได้นำเข้าห้องไอซียู แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ ซึ่งญาติได้ติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลแล้ว ขณะนี้เหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.รามคำแหงทั้งสิ้น 9 คน ในจำนวนนี้สาหัส 1 ราย
ตำรวจยืนยันยอดแค่ 59 ราย
เย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 เปิดเผยถึงยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ซานติก้า ผับ ว่าเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้เสนอข่าวถึงยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ซานติก้า ผับ ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 59 รายนั้น เป็นยอดที่คลาดเคลื่อน ความจริงแล้วมียอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดเพียง 58 รายเท่านั้น และในวันนี้ได้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มที่โรงพยาบาลรามคำแหงอีก 1 ราย ดังนั้น รวมยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงของพนักงานสอบสวนจนถึงขณะนี้คือ 59 ราย
สองพี่น้องรอดตายให้ปากคำ
ขณะเดียวกัน มีนายสกล การพจน์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/288 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี พานายชลสิทธิ์ การพจน์ อายุ 24 ปี บุตรชาย อาจารย์สอนถ่ายภาพและกราฟฟิกดีไซน์ ที่ Art Institute แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน โดยให้การว่าในคืนเกิดเหตุนายชลสิทธิ์ ลูกชายไปเที่ยวฉลองปีใหม่ที่ซานติก้าผับกับนายเมธี การพจน์ อายุ 30 ปี พี่ชาย ครูสอนภาษาอังกฤษ สถาบันภาษาแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า พร้อม กับขอตรวจสอบทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมได้จากสถานที่เกิดเหตุเป็นกล้องถ่ายภาพยี่ห้อแคนนอน EOS รุ่น 10D พร้อมแฟลชในสภาพเสียหายถูกไฟไหม้เกรียม
เผยนาทีวิกฤติไฟลุกท่วม
นายสกลกล่าวว่า ลูกชายเล่าให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุทั้งคู่อยู่หน้าเวทีแสดงคอนเสิร์ต นายชลสิทธิ์กำลังใช้กล้องถ่ายภาพที่ติดตัวไป ถ่ายภาพบรรยากาศภายในผับ และเห็นว่าบนเวทีมีการใช้ไฟเอฟเฟกต์ประกอบการแสดง เป็นลูกไฟพุ่งขึ้นจากพื้นเวที จากนั้นสะเก็ดไฟกระเด็นไปโดนวัสดุห้อยตกแต่งด้านบนเวที ทำให้เกิดประกายไฟลุกท่วม นอกจากนี้ยังมีสะเก็ดไฟจากเอฟเฟกต์บางส่วน กระเด็นไปลุกไหม้ผ้าม่านและของประดับด้านหลังวงดนตรี จนทำให้เกิดไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตา เปลวไฟก็ลุกไปทั่วบริเวณ นักเที่ยวภายในผับต่างก็แตกตื่นตกใจวิ่งหนีกันอลหม่าน นายชลสิทธิ์กับพี่ชายพยายามหาทางหลบหนี แต่ถูกฝูงชนแออัดเบียดเสียดหนีเอาตัวรอดชนกระเด็นไปคนละทิศละทางจนแยกกัน
ระทึกนั่งหลบไฟในห้องน้ำ
นายสกลเล่าอีกว่านายชลสิทธิ์วิ่งหนีลงทางบันไดชั้นใต้ดิน และเห็นผู้หญิงนักเที่ยวหกล้มกองกันอยู่หลายคน จึงทิ้งกล้องแล้วเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ถูกดันลงไปตามบันได ช่วงนั้นก็ได้ยินเสียงดังคล้ายของชิ้นใหญ่หล่นจากเพดานมากระแทกพื้น ลูกชายคิดว่ากลับขึ้นไปไม่ได้แล้วจึงพากลุ่มนักเที่ยวที่ลงมาด้วยกันทั้งหมดเป็นชาย 5 คน และหญิง 15 คน หาทางออกที่ชั้นใต้ดิน แต่ก็ไม่พบ จึงพากันเข้าไปหลบไฟอยู่ในห้องน้ำ โดยปิดประตูล็อกแล้วช่วยกันตักน้ำราดเทพื้นให้เปียกชุ่ม เสร็จแล้วถอดเสื้อชุบน้ำมาปิดปากปิดจมูกไม่ให้หายใจเอาควันเข้าไป โดยนั่งกันอยู่ในห้องน้ำจนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ ดับเพลิงเข้ามาช่วยเหลือออกมาได้ ส่วนนายเมธี การพจน์ บุตรชายคนโต มาทราบภายหลังว่ารอดชีวิตมาได้หวุดหวิดเช่นกัน แต่ถูกไฟลวกตามร่างกายประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ อาการสาหัส ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ชั้น 3 โรงพยาบาลเจ้าพระยา ตนดีใจมากที่ลูกชายทั้งสองคนรอดชีวิตและยังช่วยเหลือให้คนอื่นๆปลอดภัยจากการถูกไฟคลอกครั้งนี้ได้หวุดหวิด
ที่ตั้งผับอัปมงคล-กุโบว์เก่า
สำหรับบรรยากาศบริเวณซานติก้า ผับ เมื่อเวลา 11.00 น. มีนายดำรงชัย แท่นศรีเจริญ ซินแสอิสระ เดินทางไปทำพิธีเผากระดาษส่งวิญญาณผู้เสียชีวิต พร้อมกับเปิดเผยว่า ได้ทำพิธีเผากระดาษส่งวิญญาณให้ผู้ตาย เพราะถือว่าเป็นวิญญาณที่ยังวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ จากการคำนวณตามหลักวิชาฮวงจุ้ย พบว่าสถานที่ตั้งของซานติก้า ผับ เป็นจุดอัปมงคล ทำเลไม่ดี เป็นประตูทางเข้า-ออกของวิญญาณร้าย สาเหตุที่มีคนตายจำนวนมาก คาดว่าน่าจะเป็นวิญญาณเก่ามาเอาตัวตายตัวแทนไปเพื่อให้วิญญาณดวงใหม่มาสิงสถิตแทน ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกช่วงปีใหม่ ขณะที่ชาวบ้านในย่านนั้น ต่างวิพากษ์วิจารณ์ กันว่า สถานที่ตั้งของซานติก้า ผับ ในอดีตเคยเป็นกุโบว์ หรือสุสานของผู้นับถือศาสนาอิสลาม
แม่เหยื่อทำพิธีเรียกวิญญาณ
ต่อมาเวลา 13.00 น. นางอรทัย วิไลลับ อายุ 44 ปี มารดานายมงคล วันบันเทิง อายุ 22 ปี พนักงานบาร์น้ำในซานติก้าผับซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ นำธูปและดอกไม้ไปไหว้เรียกวิญญาณ โดยเชิญพระครูสังฆรักษ์ จากวัดอุทัยธาราม ย่านบางกะปิ มาทำพิธีปั้นหุ้นรูปมนุษย์ทำจากดินน้ำมันสีเขียว พร้อมทั้งแปะกระดาษเขียนชื่อนายมงคล ทำสายสิญจน์คล้องสวดบริกรรมคาถาเพื่อเรียกวิญญาณกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดอุทัยธาราม นอกจากนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางไปไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิตที่หน้าซานติก้าผับเป็นจำนวนมาก รวมทั้งดารานางแบบสาวซินดี้-สิรินยา วินสิริ พร้อมสามีชาวต่างประเทศไปยืนไว้อาลัยให้นักเที่ยวราตรีที่เสียชีวิตประมาณ 10 นาที ก่อนจะเดินทางกลับไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์
เมียโวยสร้อยคอเหยื่อหาย
ส่วนที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ม.ค. ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีบรรดาญาติผู้เสียชีวิตเดินทางไปติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีนางพนิดา โพธิ์ศรี อายุ 28 ปี ไปรับศพนายอาทิตย์เทพ ปฐมานุรักษ์ อายุ 35 ปี สามี พร้อมกับร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่าทรัพย์สินของสามีได้หาย ไป โดยกล่าวว่าเมื่อวานนี้ได้เดินทางไปดูศพสามี พบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้นำทรัพย์สินของสามีซึ่งเก็บรวบรวมไว้ในถุงพาสติกใส ประกอบด้วยกระเป๋าสตางค์ บัตรเครดิต เงินสดจำนวนหนึ่งและสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ไปติดต่อกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ลงบันทึกประจำวันก่อนรับทรัพย์สินของสามีซึ่งจะส่งตามไปภายหลัง แต่ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิแห่งหนึ่งซึ่งช่วยเหลือในเหตุการณ์เพลิงไหม้นำทรัพย์สินไปมอบให้ที่ สน.ทองหล่อ กลับไม่มีสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง เมื่อสอบถามว่าหายไปไหน ไม่มีใครยอมรับ จึงได้แจ้งความไว้แล้วที่ สน.ทองหล่อ จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวให้ติดตามทรัพย์สินดังกล่าวคืนมา
มูลนิธิฯโต้เข้าใจผิด
ต่อมานายสหชาติ ประถิ่น ตัวแทนจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เข้าชี้แจงต่อสื่อมวลชน ในกรณีที่ถูกนางพนิดา โพธิ์ศรี ระบุว่าสร้อยคอทองคำของนายอาทิตย์เทพ ปฐมานุรักษ์ สามี หายไปว่า จากการตรวจสอบภาพถ่ายทรัพย์สินของนายอาทิตย์เทพดูแล้ว ไม่พบว่ามีสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองตามที่นางพนิดากล่าวถึง พร้อมกับนำภาพถ่ายและใบบันทึกทรัพย์สินของผู้ตายมาให้ ผู้สื่อข่าวดูเป็นหลักฐาน โดยกล่าวว่าเรื่องนี้ได้สร้างความเสียหายต่อทางมูลนิธิร่วมกตัญญูเป็นอย่างมาก เพราะเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิทำงานอย่างเป็นระบบทุกครั้ง โดยจะบันทึกทรัพย์สินของผู้ตายแต่ละรายพร้อมถ่ายภาพเป็นหลักฐานเก็บไว้ ทุกครั้งจะกระทำต่อหน้าแพทย์จาก สถาบันนิติเวชผู้ตรวจชันสูตร หลังจากนั้นจะนำทรัพย์สินต่างๆใส่ไว้ในถุงพลาสติกใส พร้อมกับติดหมายเลขตรงกับผู้ตายป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด เหตุการณ์เข้าใจผิดครั้งนี้ อาจเกิดจากผู้เสียหายไปเห็นถึงทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตรายอื่นที่มีสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทและพระเลี่ยมทอง 3 องค์ ที่วางเรียงอยู่ใกล้กันก็เป็นได้ ตนขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญูทุกคนไม่เคยคิดที่จะเอาทรัพย์สินของผู้ตายอย่างแน่นอน เพราะทุกคนเสียสละช่วยเหลือเพื่อสังคมด้วยความเต็มใจ
แม่เศร้าตามหาลูกสาวหายตัว
ต่อมาเวลา 10.00 น. มีนางเอื้อมพร นาสอ้าน อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 6 ต.ฆ้องชัยพัฒนา กิ่ง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เดินทางไปที่สถาบันนิติเวชฯ เพื่อตรวจสอบศพผู้เสียชีวิต เนื่องจาก น.ส.พวงเพชร นาสอ้าน อายุ 24 ปี ลูกสาว ทำงานเป็นพนักงานบัญชีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และทำงานพาร์ตไทม์ตอนกลางคืนที่ซานติก้า ผับ หายตัวไปหลังเกิดเหตุการณ์ไฟนรกคลอกย่างสดนักเที่ยวในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยนำภาพถ่ายของ น.ส.พวงเพชรให้ผู้สื่อข่าวช่วยติดตามตัวด้วย พร้อมกับเปิดเผยว่า เดินทางมาเยี่ยมลูกสาวซึ่งพักอยู่ที่ดรรชนีอพาร์ตเมนต์ในซอยเอกมัย 30 เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ก่อนที่ตอนกลางคืนลูกสาวจะออกไปทำงานพาร์ตไทม์ที่ผับดังกล่าวกระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้ย่างสดนักเที่ยวแล้วหายตัวไป ตนพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับลูกสาว แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ และได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน. ทองหล่อเพื่อขอรายชื่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าลูกสาวได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่ รพ.คามิลเลี่ยน แต่เมื่อไปตรวจสอบที่ รพ.ไม่พบตัวลูกสาวตามที่ตำรวจให้รายชื่อมา และเมื่อมาดูภาพถ่ายของผู้เสียชีวิตไม่ทราบชื่อ ก็ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะถูกไฟคลอกจดจำรูปร่างหน้าตาไม่ได้ จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อกลางประสานให้ลูกสาวติดต่อกลับมาหาด้วย
นิติเวชฯพร้อมตรวจฟัน
ทางด้าน พ.ต.อ.พรชัย สุธีรคุณ รอง ผบก. สถาบัน นิติเวชฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้การตรวจพิสูจน์ผู้เสียชีวิตไม่ทราบชื่อว่าเป็นใคร ทั้งของโรงพยาบาลจุฬาฯ และสถาบันนิติเวชฯ มีทั้งหมดรวม 21 ศพ ส่วนใหญ่จะมีสภาพถูกไฟไหม้เกรียมทั้งตัว ไม่สามารถจดจำรูปพรรณภายนอกได้เลย แต่ทางแพทย์ได้ตรวจดีเอ็นเอไว้แล้ว นอกจากนี้ทางสถาบันนิติเวชฯก็จะดำเนินการตรวจประวัติการทำฟันของผู้ตาย ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติงานไม่ยุ่งยาก ทางตำรวจเก็บหลักฐานไว้เกือบครบแล้ว เหลือแต่การเปรียบเทียบข้อมูลกับญาติของผู้เสียชีวิตเท่านั้น ดังนั้น หากญาติรายใดสงสัยก็ให้นำประวัติการทำฟันมาตรวจสอบได้ทันที
เหยื่อไฟที่ รพ.ตำรวจ 1 ราย
ที่ รพ.ตำรวจ พล.ต.ท.นพ.สมยศ ดีมาก พตร. เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ มารักษาตัวที่ รพ.ตร. จำนวน 1 ราย คือ น.ส.นันทพันธ์ เลิศสกุลธรรม ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยชั้น 2 อาคารคุณวิสาร อาการโดยทั่วไปอยู่ในขั้นปลอดภัย แต่ต้องใช้เวลารักษาตัวต่อไปอีกประมาณ 1 เดือน เนื่องจากตามร่างกายถูกไฟไหม้หลายแห่ง
มท.1 เยี่ยมผู้เคราะห์ร้าย
เมื่อเวลา 14.00 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทยพร้อมคณะ เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เพลิงไหม้สถานบริการซานติก้า ผับ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยมี รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูรย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายชวรัตน์ ได้เข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่ยังอยู่ในห้องไอซียูศัลยกรรมจำนวน 2 รายคือ นายสุทธิลักษณ์ สำเร็จประสงค์ และนาย Keichi Wada นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่ถูกไฟไหม้ทั่วร่างกาย พร้อมกับมอบกระเช้าผลไม้ให้กำลังใจ
ยังไม่ฟันธงสาเหตุไหม้สยอง
หลังจากนั้นได้เข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน ตึกมงกุฎเพชรรัตนอีก 6 ราย เสร็จแล้วนายชวรัตน์เปิดแถลงข่าวว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น นับว่าค่อนข้างโชคร้าย เพราะสถานที่เกิดเหตุคับแคบ มีคนแออัดเป็นพัน ส่วนสาเหตุอาจเกิดจากความประมาท หรือความคึกคะนอง ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นต้นเหตุทำให้เพลิงไหม้ แต่คาดว่าต่อไปจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะความเสียหาย ถือว่าไม่สามารถประมาณมูลค่าได้ สำหรับผู้ที่ถูกไฟคลอก เป็นทั้งคนที่ยังเรียนอยู่ และทำงานแล้ว ถือเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ตีค่าไม่ได้ จากนี้ไปจะมีการพูดคุยกับทาง กทม. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในกระทรวงมหาดไทย เพื่อหามาตรการควบคุมเหตุให้รัดกุมกว่านี้
ล้อมคอกสุ่มตรวจสถานบริการ
รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ทั้งนี้ต่อไปอาจมีการสุ่มตรวจสถานบริการจากใบอนุญาตที่ออกไป โดยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบว่า โครงสร้างสถานที่กับที่ขออนุญาตมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ โดยเฉพาะประตูทางออกกรณีฉุกเฉินมีเพียงพอหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบดูแลอย่างใกล้ชิด จะเริ่มต้นตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นต้นไป อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติ เพราะอัคคีภัยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ไหนย่อมได้ เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่อยากให้มีเหตุที่เกิดจากความคะนอง หรือความประมาทเกิดขึ้นอีก ส่วนกรณีที่สถานบริการให้ผู้อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้ บริการนั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะตรวจสอบต่อไป
รพ.จุฬาฯ สรุปผลการช่วยเหลือ
ด้าน รศ.นพ.อดิศรกล่าวว่า ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินรับอุบัติเหตุปีใหม่ทุกปีทำให้เมื่อคืนเกิดเหตุ โรงพยาบาลมีแพทย์และพยาบาลเพียงพอที่จะดูแล ซึ่งจำนวนผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาตัวมีทั้งสิ้น 15 คน ผู้ป่วยที่มีการหนัก มีทั้งหมด 5 คน อยู่ ไอซียู 2 คน ในส่วนของผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นนั้นอาการค่อนข้างหนัก ส่วนผู้เสียชีวิตมีทั้งหมด 30 ราย ญาติติดต่อขอรับศพไปแล้ว 22 ราย อีก 3 รายอยู่ระหว่างญาติเดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศล ที่เหลือ 5 ราย ยังไม่ทราบชื่อ แต่ลักษณะเบื้องต้นน่าจะเป็นคนไทย หลังจากนั้นนายชวรัตน์ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุซานติก้า ผับ โดยมี พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ สรุปผลความคืบหน้าของคดีให้รับทราบ
เผยหนุ่มญี่ปุ่นอาการหนัก
สำหรับผู้ป่วยอาการหนักในห้องไอซียู รพ.จุฬาลงกรณ์ จำนวน 2 ราย คือนายสุทธิรักษ์ สำเร็จประสงค์ อายุ 29 ปี รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูรย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า มีแผลไฟไหม้ตามร่างกายและภายในฟกช้ำ หากอาการดีขึ้น แพทย์จะถอดเครื่องช่วยหายใจและย้ายไปพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยทั่วไป อีกคนคือนายเคอิชิ วาดะ ชาวญี่ปุ่น เมื่อวานนี้แพทย์ได้ผ่าตัดช่องท้องเพื่อดูดน้ำออก พบว่าลำไส้บวม แต่ไม่ บาดเจ็บ ขณะนี้ต้องเปิดช่องท้องทิ้งไว้เพื่อให้ความดันลดลง คาดว่าอีก 3 วันจะผ่าตัดเย็บแผลติดได้ นอกจากนี้ได้เปิดแผลที่ขา เพื่อให้ความดันขยายออกข้างนอก เนื่องจากความดันจะทำให้เส้นเลือดถูกกดทับ ส่วนในปอดซึ่งมีควันเข้าไปมาก พบว่าการทำงานของปอดลดลง รวมถึงทางเดินปัสสาวะ ที่มีของเสียเข้าไปในระบบเลือดทำให้ไตทำงานแย่ลง ต้องล้างไตเพื่อนำของเสียที่คั่งค้างออก ซึ่งผู้ป่วยรายนี้แพทย์จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
เหลือผู้ป่วยที่จุฬาฯ 11 ราย
สำหรับยอดผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯทั้ง 11 คน ประกอบด้วย Mr.KENCHI WADA อายุ 25 ปี ถูกไฟไหม้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ นายสุทธิลักษณ์ สำเร็จประสงค์ อายุ 29 ปี นายนิตย ดำรงค์ประภักดิ์ อายุ 31 ปี น.ส.ศิริลักษณ์ อักษรวรรณ อายุ 20 ปี นายอวิโรจน์ ศิรินทร์วรชัย อายุ 20 ปี ทั้งหมดต้องใส่ท่อหายใจ น.ส.สายสุรีย์ มณีศิลป์ อายุ 28 ปี น.ส.นลินรัตน์ อิฐธนรักษ์ อายุ 20 ปี น.ส.พรทิพย์ ทองดี อายุ 26 ปี นางนภัส ภูมีราม อายุ 32 ปี น.ส.พรมพร เกิดแก้ว อายุ 28 ปี และ น.ส.จุฑาลักษณ์ นิลวิจิตร อายุ 28 ปี
พ่อรับศพเสียดายอนาคตลูกชาย
ส่วนที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ มีญาติ ผู้เสียชีวิตทยอยไปรับศพกันหลายราย นายพลสิทธิ์ วุฒิเลิศ อนันต์ อายุ 53 ปี ไปติดต่อขอรับศพนายชาญวิทย์ วุฒิเลิศอนันต์ อายุ 22 ปี ลูกชาย นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ยานยนต์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยนายพลสิทธิ์กล่าวว่า เสียดายอนาคตของลูกชายซึ่งกำลังจะเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ย 3.5 ปกติแล้วนายชาญวิทย์เป็นเด็กเรียนเก่ง ชอบเล่นกีฬา เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา พยายามชวนลูกไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยแต่เจ้าตัวไม่ยอมไป ขออนุญาตไปเที่ยวฉลองปีใหม่กับเพื่อนๆ แต่ไม่บอกสถานที่ พอมาทราบข่าวไฟไหม้ที่ซานติก้า ผับ จึงลองโทรศัพท์เข้ามือถือของลูกชายปรากฏว่า โทรศัพท์ อยู่ในกระเป๋าของแฟนสาวซึ่งถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บจึงทราบเรื่องดังกล่าว
จีนส่งเวชภัณฑ์ช่วยเหลือ
นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า นายจาง จิ่วหวน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้ส่งสารแสดงความเสียใจต่อ เหตุการณ์เพลิงไหม้ซานติก้า ผับ คลอกนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจำนวนมากมายังกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับประสานส่งเวชภัณฑ์รักษาบาดแผลที่ถูกไฟลวกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยส่งผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง คาดว่าเวชภัณฑ์ดังกล่าวจะมาถึงประเทศไทยในวันที่ 3 ม.ค.นี้ นอกจากนี้ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ยังได้สั่งการไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยทั่วโลก เพื่อประสานไปยังประเทศต่างๆ หากต้องการสอบถามข้อมูลหรือสงสัยว่าจะมีญาติพี่น้องได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย โดยกระทรวงการต่างประเทศจะช่วยประสานไปยังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ สำนักงานเขตวัฒนาต่อไป
นายกฯลอดช่องส่งสาส์นเสียใจ
ในวันเดียวกัน สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่า นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้มีสาส์นถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อัคคีภัยซึ่งเกิดขึ้นที่ซานติก้า ผับ และมีชาวสิงคโปร์ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย โดยนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายกรัฐมนตรีรวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะให้ความช่วยเหลือครอบครัว หรือญาติมิตรของผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นเป็นอย่างดี และรัฐบาลสิงคโปร์ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายมาครั้งนี้ด้วย
ล้อมคอกคุมเข้มสถานบริการ
นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และได้ปรากฏว่ามีสถานบริการบางแห่งดำเนินการฝ่าฝืนกฎหมายสถานบริการ จนทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้นเพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในสถานบริการเป็นไปอย่างเคร่งครัด จึงขอให้ทางจังหวัดและกองบัญชาการตำรวจนครบาลดำเนินการแจ้งให้ผู้ประกอบการ ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการให้มีความเหมาะสมกับสถานที่ อย่าให้แออัด อันจะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการและควบคุมการใช้เทคนิคพิเศษในการจัดการแสดงภายในสถานบริการ มิให้เกิดผลกระทบต่อการเกิดเพลิงไหม้ในสถานบริการซ้ำรอยขึ้นมาอีก
รมช.สาธารณสุขตรวจสถานที่
ในวันเดียวกัน นายมานิตย์ นพอมรบดี รมช. สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ นายมานิตย์กล่าวว่า จากการตรวจสภาพพื้นที่จุดเกิดเหตุ ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ มีหน้าต่างหลายบาน แต่ไม่สามารถเปิดออกได้ เนื่องจากมีลูกกรงเหล็กดัดและประตูเข้าออกเพียงทางเดียว ซึ่งหากสามารถเปิดหน้าต่างให้ใช้การเพิ่มขึ้นอีก คาดว่าจะไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้ และเหตุการณ์ครั้งนี้หากได้มีการซ้อมแผนรับมือเหตุฉุกเฉินให้กับพนักงานประจำผับ จะสามารถให้การช่วยเหลือผู้ใช้บริการได้อย่างทันท่วงทีและเป็นระบบมากขึ้น โดยหากพนักงานทุกคน รู้หลักการช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ โดยใช้เสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ตัวชุบน้ำและปิดปากปิดจมูก จะสามารถป้องกันการสูดควันเข้าได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
จีนเสนอช่วยทั้งยาทั้งแพทย์
รมช.สาธารณสุขกล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ประเทศจีนได้ยื่นมือช่วยเหลือไทยในเรื่องเวชภัณฑ์ยาสมุนไพร รักษาผู้บาดเจ็บจากการถูกไฟคลอกมูลค่าประมาณ 500,000 เหรียญสหรัฐฯ หากไทยตอบรับในเบื้องต้น ทางการจีนจะส่งเวชภัณฑ์ยาและแพทย์ที่มีความชำนาญมารักษาบาดแผลจากไฟไหม้และให้คำปรึกษาทันที ขณะนี้ไทยยังอยู่ระหว่างการหารือกับผู้เชี่ยวชาญของไทย ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ไทยเคยส่งทีมแพทย์ไทยไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน เมื่อปีที่ผ่านมาเช่นกัน เนื่องจากทีมแพทย์ไทยมีความพร้อมในการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บได้อย่างดี
เผยยอดคนเจ็บทั้งสิ้น 229 ราย
ด้าน นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สรุปผลจากเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับเมื่อวันที่ 1 ม.ค. มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 229 ราย ล่าสุดนอนรักษาในโรงพยาบาลต่างๆทั้งหมด 86 ราย เป็นชาย 35 ราย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัสนอนห้องไอซียูต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 38 ราย เป็นชาย 21 ราย หญิง 17 ราย ส่วนใหญ่มีบาดแผลไฟไหม้ตามร่างกาย ซึ่งในการดูแลรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ จะเน้นการป้องกันการติดเชื้อ ในช่วง 72 ชั่วโมงแรก สำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 41 ราย ในจำนวนนี้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 21 ราย คือที่ รพ.จุฬาฯ 1 ราย รพ.รามาธิบดี 1 ราย รพ.คามิลเลียน 1 ราย รพ.ปิยะเวท 1 ราย รพ.กล้วยน้ำไท 1 ราย รพ.บำรุงราษฎร์ 4 ราย รพ.กรุงเทพ 6 ราย รพ.สมิติเวช สุขุมวิท 4 ราย และ รพ.วิภาราม 2 ราย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะนำรายชื่อของผู้บาดเจ็บทั้งหมดและผู้เสียชีวิตทั้ง 59 ราย ซึ่งทราบชื่อแล้ว 23 ราย ขึ้นเว็บไซต์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ที่ http://narendhorn.moph.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ป่อเต็กตึ๊งช่วยค่าทำศพ
ด้านนางวรรณิดา ชุลีคร ผู้จัดการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเปิดเผยว่าทางมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ ซานติก้า ผับ รายละ 5,000 บาท โดยทางเจ้าหน้าที่จะนำเงินไปมอบให้ที่ สน.ทองหล่อ ในวันที่ 6 ม.ค. นี้ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้ ญาติของผู้เสียชีวิตต้องนำหลักฐานใบมรณะบัตร สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน ไปยืนยันกับเจ้าหน้าที่ เพื่อรับเงินช่วยเหลือได้
ระทึกไหม้บาร์เบียร์อีกแห่ง
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
