ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ก.พ. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา หลังได้ รับแจ้งว่ามีหญิงสาวทำแปรงสีฟันหลุดลงไปในท้อง จนต้องให้แพทย์ช่วยนำออกมาอย่างทุลักทุเล ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมหญิง ชั้น 2 เมื่อไปถึงพบ น.ส.ปรียาทิพย์ สกุลรัตน์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/17 หมู่ 6 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ จ.ปทุมธานี คณะเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ ชั้นปีที่ 2 นอนรักษาตัวอยู่บนเตียงคนไข้ หลังจากแพทย์ได้นำแปรงสีฟันขนาดใหญ่ยาวประมาณ 7 นิ้ว ออกจากหลอดอาหารได้สำเร็จ
น.ส.ปรียาทิพย์กล่าวว่า วันเกิดเหตุวันเสาร์ที่ 7 ก.พ. เวลาประมาณบ่าย 3 โมง เข้าห้องน้ำอาบน้ำแปรงฟันตามปกติ แต่วันนั้นได้บีบยาสีฟันจำนวนมาก เวลาแปรงฟันจะมีฟองมากล้นมาถึงด้ามแปรง ทำให้แปรงลื่น และขณะแปรงฟันอยู่นั้นก็เกิดอาการขย้อนและสำลัก มือจึงดันแปรงเข้าไปในคอและจับด้ามแปรงไว้ไม่ทัน ลื่นหลุดและไหลลงคอ ตนตกใจกลัวมากรีบวิ่งไปบอกแม่ให้ช่วยนำส่ง รพ.บางปะอิน หลังตรวจอาการเบื้องต้นโรงพยาบาลส่งต่อไปยัง รพ.พระนครศรีอยุธยา พบ นพ.วุฒิศักดิ์ วิบูลย์ศิริกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่องกล้อง และ นพ.ณัฐพล วรรณาวาท ผู้เชี่ยวชาญด้าน หู คอ จมูก เอกซเรย์ดูอย่างละเอียดพบว่า แปรงสีฟันมีขนาดใหญ่และหัวแปรงทิ่มลง แต่ไม่ทราบว่าด้ามหักหรือไม่ จึงต้องนอนรอดูอาการ งดน้ำและอาหาร กระทั่งแพทย์นำแปรงออกมาได้ในที่สุด ตอนนี้มีอาการเจ็บคอเล็กน้อย
นพ. สหภูมิ ศรีสุมะ แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า คนไข้ รายนี้ ถือว่าโชคดีมากที่แปรงสีฟันขนาดใหญ่หลุดลงไปค้างอยู่ในหลอดอาหาร แต่ถ้าหลุดลงไปอุดหลอดลมปิดทางเดินอากาศอาจจะเสียชีวิตได้ สำหรับการช่วยเหลือได้ระดมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเข้าประชุมหารือว่า จะผ่าตัดหรือส่องกล้องดึงออก เพราะไม่เคยพบเหตุการณ์ ลักษณะนี้มาก่อน ในที่สุดแพทย์ตัดสินใจใช้วิธีดึงขึ้นมา โดยให้คนไข้ดมยาสลบแล้วใช้ท่อกล้องชนิดพิเศษสอดลงไป มีลวดสลิงขนาดเล็กคล้องด้ามแปรงดึงขึ้นมาได้สำเร็จ เหตุทำนองนี้ส่วนใหญ่จะพบในเด็กและนำออกมาได้อย่างปลอดภัย สำหรับคนไข้รายนี้ให้นอนพักฟื้นดูอาการข้างเคียงแล้วไม่มี วันนี้จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
นพ.สหภูมิกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีคนไข้อีกราย มีลักษณะคล้ายกันคือ นางสิริรัตน์ โลหิตไทย อายุ 48 ปี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 8 ต.นครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกก้างปลาขนาดใหญ่ชนิดอย่างแข็ง ลักษณะเป็นฟันเลื่อยยาวประมาณ 1 นิ้ว ตำขวางลำคอลึก ต้องใช้กล้องส่องลงไปและใช้ลวดสลิงขนาดเล็กคล้องดึงขึ้นมาเช่นเดียวกับคนไข้ รายแรก ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้วเช่นกัน จึงฝากเตือนไปยังประชาชนทั่วไปให้ระมัดระวังเวลาแปรงฟันหรือกลืนกินอาหาร ต้องมีสติอย่าประมาทเพราะอาจเกิดเหตุลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นได้
ที่มา ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|