การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง “ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 15″ ที่สนามกวนเงือ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 5-13 กันยายน 2552 ซึ่งรายการนี้ มี 16 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อหาทีมไปแข่งขันรายการ “เวิลด์ แกรนด์ แชมเปี้ยน คัพ” ที่ประเทศญี่ปุ่น เดือนพฤศจิกายนนี้ และจะคัดอันดับดีที่สุดจากรายการนี้ ยกเว้นจีนและญี่ปุ่น ซึ่งได้สิทธิ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ไปแข่งขัน “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์” ในปีหน้าด้วย ล่าสุดเดินทางมาถึง การแข่งขันวันสุดท้าย รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 52 ที่ผ่านมา

สำหรับทีมนักตบลูกยางสาวไทย ปัจจุบันอยู่อันดับโลกที่ 17 โดยก่อนหน้านี้ทำผลงานดีที่สุดคว้าอันดับ 3 จากรายการนี้เมื่อ 2 ปีก่อนที่จังหวัดนครราชสีมา และเมื่อปี 2548 ครั้งนี้จึงเป็นการผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรก เจอกับ จีน แชมป์ 11 สมัย อันดับ 3 โลก เหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ ที่ปักกิ่งและอันดับ 5 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์

นัดนี้ไทยส่งผู้เล่น 6 คนแรก ได้แก่ กัปตันทีม วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, มือเซต นุศรา ต้อมคำ, อำพร หญ้าผา, มลิกา กันทอง, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์ ส่วนตัวรับอิสระหรือลิเบอโร่ วรรณา บัวแก้ว

เปิดฉากเซตแรก แม้ว่าไทยจะเป็นรองอยู่มาก แต่ก็ทำเกมสู้หมวยจีนได้อย่างสนุก ไล่ตามมาติดๆ สกอร์ 22-19 อย่างไรก็ตาม เกมรุกของสาวไทยยังติดๆ ขัดๆ บล็อกของจีนยังสร้างปัญหาตลอด เสียแต้มให้จีนอีกสองแต้มติด สกอร์ 24-19 ไทยได้อีกแต้มเดียวเท่านั้น จีน ก็ปิดเซตแรกสำเร็จ และตบลงไปสวยงาม สกอร์เซตแรก 25-20 จีนออกนำ 1-0 เซต ใช้เวลาแข่งขันไป 23 นาที

เซตสอง ไทยได้เสิร์ฟก่อน และได้แต้มแรกจากการขึ้นบล็อก และเกมรับที่เหนียวแน่น สลับการตบที่หนักหน่วง ออกนำห่างไปถึง 6-1 จากนั้นสาวไทยยังเดินแต้มได้อีก นำ 9-3 และได้อีกสองแต้มติดจากการตบของ อรอุมา ขยับหนี 11-3 จากนั้นสาวไทยยังประสานกันได้อย่างยอดเยี่ยม เกมรับเหนียวแน่น อรอุมา เล่นได้เฉียบขาด ทั้งตบทั้งหยอดแถมเสิร์ฟดี แต้มไทยไหลไป 16-8

เกมรุกของไทยยังทำได้วูบวาบ มือเซตกับมือตบ ทำได้สัมพันธ์กันดี ปลื้มจิตร์ กระหน่ำตี ให้ไทยหนีไปเป็น 18-10 จากนั้นผลัดกันรุกรับ ทำแต้มอย่างสนุก ก่อนไทยมาพลาดจากตบติดบล็อก และ ปลื้มจิตร์ เสิร์ฟออกทำให้ไทยต้องขอเวลานอก แต่เกมยังไม่ดีขึ้น จีนไล่มา 16-21 กดดันไทยอย่างหนัก

ก่อนที่ นุศรา ต้อมคำ จะตบลงไปหยุดเกมรุกจีนไว้ได้ และต่อมา อรอุมา เสิร์ฟดีได้แต้มอีกไทยนำ 23-16 จากนั้นผลัดกันได้ฝั่งละแต้มไทยขึ้นแท่น 24-17 ช่วงท้าย ท่ามกลางสถานการณ์ที่กดดัน อัมพร หญ้าผา เสิร์ฟออกหลัง ทำให้จีนไล่บี้มา 19-24 ก่อนที่ไทยจะรับบอลแรกไม่ดี งัดไปให้จีนขึ้นตบ แต่ติดบล็อก สาวแดนมังกรแก้ไขงัดขึ้นมาตบโล่งๆ ยังดีที่ ปลื้มจิตร์ วิ่งขึ้นบล็อกลงได้ทัน ปิดเซตให้ไทยชนะ 25-19 ใช้เวลาแข่งขันเซตนี้ 22 นาที สกอร์เสมอ 1-1 เซต

เซตสาม สาวไทย เริ่มต้นดี นำก่อน 2-0 แต่กลับมาเสียห้าแต้มรวด ตาม 2-5 อย่างไรก็ตามสาวไทยพยายามทำแต้มจี้รักษาระยะไว้ โดยได้ลูกหนักจากอรอุมา ที่ขึ้นตีจากแดนหลังและไล่มาเสมอกัน 10-10 ก่อนที่สาวไทยจะพลิกแซง และเริ่มทำแต้มฉีกหนี โดยเฉพาะได้ลูกตบหัวเสา จาก วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ และ มลิกา กันทอง ช่วยให้ไทยทำแต้มหนีห่าง 20-14

ขณะที่ สาวจีน กลับเล่นผิดพลาดง่ายๆ หลายครั้ง และตีไม่ผ่านบล็อกไทย จนไทยทำแต้มขึ้นแท่น 24-18 แม้จีนจะมาได้อีกแต้ม แต่สุดท้าย อรอุมา ใช้ลูกหนักตีแฉลบบล็อกออก ทำให้ไทยชนะ 25-19 ขึ้นนำ 2-1 เซต โดยใช้เวลา 23 นาที

เซต 4 เป็นเซตสำคัญของสาวไทย หากเก็บได้อีกจะเป็นฝ่ายชนะ พร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทันที เริ่มต้นสถานการณ์ยังคู่คี่ ผลัดกันทำแต้ม จนไทยนำ 4-2 โค้ชจีนขอเวลานอกทันที เพื่อแก้เกม แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะไทยพยายามใช้การเล่นหลากหลาย ทั้งบอลเร็วของ ปลื้มจิตร์ และบอลหนักของ อรอุมา ขึ้นนำ 9-6 จนจีนต้องขอเวลานอกอีกครั้ง กลับมาเล่นต่อ สาวไทยพยายามเล่นเหนียวแน่น ช่วยกันประคองแต้มทิ้งระยะห่าง แต่ถูกจี้มาเหลือแค่ 16-14

“โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร จึงขอเวลานอก และจีนเหมือนจะกลับมาเข้าฟอร์มอีกครั้ง ทำแต้มจนกลับมาเสมอกัน 19-19 ชนิดบีบหัวใจกองเชียร์ แต่ อรอุมา มาถูกเวลา ทั้งตบและเสิร์ฟ ให้ไทยนำ 21-19 ก่อนที่ มัลลิกา จะบล็อกลงอีกลูกไทยนำ 22-19

ก่อน จีน บีบมาอีกครั้งเหลือช่องว่างแต้มเดียว ไทยนำ 23-22 แต้ม สาวไทยได้ขึ้นแท่น 24-22 จากมัลลิกา ที่ตีแฉลบลง แต่จีนยังตามบล็อกไทยได้ถึง 3 ครั้ง แต้มไล่มาเหลือ 24-23 จนแต้มต่อมาสาวไทยได้โอกาสเซตหน้าเนต ปลื้มจิตร์ ตีหลอก ก่อนที่ วิลาวัลย์ กัปตันทีมไทยจะตบฝังชนิดไม่ต้องงัด ทำให้ไทยชนะ 25-23 ปิดแมตช์ไป 3-1 เซต 20-25, 25-19, 25-19, 25-23 คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ หลังจากทำผลงานดีที่สุดก่อนหน้านี้ คือ การคว้าอันดับที่ 3 ปี 2001, 2003 และ 2007

ส่วนผลการแข่งขันคู่ชิงที่ 3 ญี่ปุ่น ชนะ เกาหลีใต้ 3-0 เซต 25-16, 25-15, 25-18, ชิงอันดับ 5 คาซัคสถาน ชนะ ไต้หวัน 3-0 เซต 25-23, 25-21, 25-15, ชิงอันดับ 7 เวียดนาม ชนะ อิหร่าน 3-0 เซต 25-16, 25-16, 25-22

ขณะที่ผู้เล่นยอดเยี่ยมตำแหน่งต่างๆ มีดังนี้ ตัวตบยอดเยี่ยม ซู หมิง (จีน), บล็อกยอดเยี่ยม ซู หมิง (จีน), เสิร์ฟยอดเยี่ยม ซาโอริ คิมูระ (ญี่ปุ่น), ตัวทำคะแนนยอดเยี่ยม คิม ยอง คอง (เกาหลีใต้), เซตยอดเยี่ยม นุสรา ต้อมคำ (ไทย), ลิเบอโร่ยอดเยี่ยม วรรณา บัวแก้ว (ไทย) และผู้เล่นทรงคุณค่า อรอุมา สิทธิรักษ์ (ไทย)

สำหรับทีมวอลเลย์บอลสาวไทยชุดประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, นุศรา ต้อมคำ, มลิกา กันทอง, อำพร หญ้าผา, กมลพร สุขมาก, อุทัยวรรณ แก่นสิงห์, เอ็มอร พานุสิทธิ์, ฐาปไพพรรณ ไชยศรี, วรรณา บัวแก้ว, ณฤมล ขานอัน, วณิชยา หลวงทองหลาง ส่วนผู้จัดการทีมได้แก่ จริยา อู่สิงห์สวัสดิ์ ผู้ฝึกสอน เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน น.ต.ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค เทรนเนอร์ ดนัย ศรีวัชรเมธากุล

โดยทีมวอลเลย์บอลสาวไทยจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ด้วยเที่ยวบิน ทีจี 683 ออกจากฮานอย เวียดนาม เวลา 10.35 น. ถึงเมืองไทยเวลา 12.25 น. โดยมี นายพงศ์โพยม วาศภูติ นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และ นายสมพร ใช้บางยาง อุปนายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จะเดินทางไปรับที่สนามบิน เวลา 12.30 น.

เครดิต : siamsport