| • เด็ดหัวแกนนำแดง 11มม.ซัด 4นัด-กลางถนน |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 11 มิ.ย. 53 เวลา 09:16:13 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ฆ่า"อ้วน บัวใหญ่" ฮาร์ดคอร์โคราช รัฐยื้อพรก.ฉุกเฉิน มาร์คยังป้องคณิต "ตู่"ย้ำ-คุยกันยาก!
ดับแกนแดง - ภาพนายศักรินทร์ กองแก้ว คนสนิทนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ขณะนำม็อบแดงที่โคราชเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดถูกชายฉกรรจ์ 3 คน นั่งปิกอัพทำทีเข้าไปถามทางแล้วรัวยิงตาย ที่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อกลางดึกวันที่ 9 มิ.ย.
|
อภิสิทธิ์ย้ำไม่เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างกลัวมีชุมนุมอีก ย้ำชัดไม่เปลี่ยนใจตั้งคณิตเป็นปธ.กก.สอบสลายม็อบ แม้ฝ่ายค้านจะไม่เห็นด้วย ขณะที่ศอฉ.ให้คงพ.ร.ก.ต่อไปอ้างยังกลัววินาศกรรม เลี่ยงพูดถึงคดี 6 ศพและกระสุนในศพ"น้องเกด"ที่หายไปลึกลับหลังชันสูตร บช.น.ออกหมายจับล่ามือเผาแบงก์กรุงเทพเพิ่มอีก กก.สิทธิ์สัมมนาปัญหาสลายม็อบ จี้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเสียที จตุพรค้านหัวชนฝาให้คณิตเป็นปธ.กก.สอบ แฉปรองดองยากเพราะรัฐยังไล่ล่าไม่เลิก แฉแกนนำนปช.โดนขู่จนผวาไปหมด "อ้วน บัวใหญ่" แกนนำฮอร์ดคอร์โคราช โดนมือปืนยิงดับต่อหน้าลูกน้อง เผยเป็นรปภ.และคนสนิทแรมโบ้อีสาน เคยยกขบวนฮือไล่"ป๋าเปรม"มาแล้ว เชื่อชนวนจากบัญชีดำ เพราะเป็นแกนนำตัวกลั่นของอีสาน
-มาร์คไม่เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลยังคงพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดว่า จะยังคงประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกระยะหนึ่ง แต่ทั้งนี้ได้ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวแล้วว่า การประกาศพ.ร.ก.ดังกล่าวแม้จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความลังเลใจที่จะเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทย แต่รัฐบาลพยายามชี้แจงและอธิบายในต่างประเทศให้เข้าใจในความจำเป็นที่รัฐบาลจะยังคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ เพราะถ้ามีการยกเลิกพ.ร.ก.ดังกล่าวแล้วรัฐบาลเกรงว่าถ้ามีการชุมนุม ขึ้นมาอีกจะเป็นเรื่องยากมากกว่าการฟื้นฟูเพื่อเรียกความเชื่อมั่นในเรื่องของการท่องเที่ยวกลับคืนมา แต่รัฐบาลจะพยายามค่อยๆ ลดจำนวนพื้นที่ที่มีความเสี่ยงให้น้อยลงตามลำดับ
นายกฯ กล่าวถึงแนวทางขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปหรือการปรองดอง ว่า รัฐบาลจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ แม้จะมีบางกลุ่มไม่ยอมรับกับสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการก็ตาม รัฐบาลจะพยายามเข้าหามวลชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ควบคู่กับการทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนและองค์กรในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นภาพรวมของรัฐบาลที่จะดำเนินการเพื่อให้เกิดรูปธรรมให้เร็วที่สุดต่อไป
-การฟื้นฟูได้ผลน่าพอใจ
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า สำหรับการฟื้นฟูธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จากเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงที่ผ่านมานั้น มาตรการช่วยเหลือในเบื้องต้นจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องของเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการได้มีเงินทุนไปค้าขายต่อ โดยในส่วนของการจัดหาสถานที่สำหรับ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบนั้นลงตัวและมีความชัด เจนแล้ว เหลือแต่เพียงประเด็นของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน สินค้าที่ยังไม่ได้มีการระบาย และการประกันภัย ซึ่งมีความยุ่งยากพอสมควรในแง่ของขั้นตอนและการตรวจสอบของบริษัทประกันภัยในแต่ละแห่ง
-ยันไม่ทบทวนเรื่องคณิต
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของแผนปรองดองแห่งชาติอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมในแผนปรองดองครั้งนี้ ส่วนการแต่งตั้งนายคณิต ณ นคร นายกฯ ระบุว่า "คงไม่มีการทบทวนแล้ว เพราะคุณคณิตเอง ประกาศว่าจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ส่วนการตั้งกรรมการรัฐบาลคงไม่ไปก้าวก่าย ผมคิดว่าไม่ง่ายเลยที่จะหาบุคคล ที่จะมายอมรับทำงานนี้ เพราะเป็นงานที่ถูกกดดันมาก ซึ่งก่อนที่ท่านจะรับทำงาน ท่านทราบอยู่แล้วว่า แรงกดดันจะมหาศาล"
-สุเทพช่วยย้ำ-ยังไม่ถึงเวลา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงงานด้านความมั่นคงโดยเฉพาะเรื่องการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ยังไม่มีการยกเลิกว่า ไม่เคยนิ่งนอนใจ คนไทยทุกคนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราต้องระวัง ไม่ย่อท้อ ทำงานต่อไป พื้นที่กทม. ต้องได้รับการดูแลทุกพื้นที่ ส่วนในต่างจังหวัดเมื่อถึงเวลาสามารถยกเลิกใช้ได้ ก็จะเรียนให้ทราบ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
เมื่อถามว่าที่ยังไม่ประกาศยกเลิกพ.ร.ก.เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวอยู่ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เชื่อว่าพวกคุณถามตัวเองได้ เพราะทุกคนเป็นเจ้าของประเทศเหมือนตน คนไทยทุกคนถามตัวเองได้ว่าต้องการให้ประเทศชาติอยู่รอดปลอด ภัย หรือต้องการแค่ให้เป็นไปตามกระแสเรียกร้องของบางฝ่าย
-คดีฆ่านักข่าวตั้งกก.อีกชุด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่คณะกรรมการปกป้องหนังสือพิมพ์ของต่างประเทศ ทวงถามเรื่องการสอบสาเหตุการตายของสื่อต่างชาติ 2 คน ทั้งญี่ปุ่น และอิตาลี มีข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะไม่มีการเปิดเผยการสอบสาเหตุการตาย นายสุเทพกล่าวว่า "ก็เขากำลังตั้งกรรมการสอบกันอยู่ไงครับ" เมื่อถามว่าทำไมจึงล่าช้า นายสุเทพกล่าวว่า เพราะทำให้เร็วไม่ได้
-ปชป.โต้นพดล-ปมตั้งคณิต
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วิจารณ์การตั้งนายคณิต ณ นคร เป็นประธานกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์เดือนพ.ค.และมิ.ย.ว่าไม่เป็นกลาง และควรเป็นหน้าที่ของรัฐสภาแต่งตั้งจะได้รับการยอมรับมากกว่านั้นว่า เห็นว่าเป็นอีกความพยายามที่จะเบี่ยงประเด็นไม่ยอมรับการตรวจสอบมากกว่า ที่ผ่านมานายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ไม่ยอมรับนายคณิตเช่นกัน โดยระบุนายคณิตมีความสัมพันธ์กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะกรรมการศอฉ. และนายธาริตเป็นลูกน้องเก่า ขณะที่นาย ธาริตรับราชการในสำนักงานอัยการสูงสุดอยู่
-อวย"ธาริต"คนดีที่สุด
นายเทพไทกล่าวว่า อยากถามว่าที่ผ่านมานายธาริตเคยรับราชการในกระทรวงยุติธรรม และเป็นลูกน้องเก่าของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนายพงศ์เทพ เทพ กาญจนา โฆษกประจำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนกัน ดังนั้น การจะกล่าวหาใส่ร้ายบุคคลใดว่ามีความสัมพันธ์เป็นพวกใครหรือมีส่วนได้เสียในกรณีใดๆ ขอให้พิจารณาถึงผลงานการทำหน้าที่เป็นหลักมากกว่าภูมิหลังในอดีต เชื่อว่าไม่ว่านายธาริตจะเป็นคนของใครแต่วันนี้นายธาริตเป็นข้าราชการที่รักษาระบบนิติรัฐและนิติธรรมที่ดีที่สุดคนหนึ่ง
-ศอฉ.ยังกลัววินาศกรรม
ที่บก.ทบ. นายสุเทพ ในฐานะ ผอ.ศอฉ. เป็นประธานในการประชุม ศอฉ. โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ ผช.ผบ.ทบ. พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผช.ผบ.ทบ. พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสธ.ทบ. พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิ การสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะเลขานุการ ศอฉ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
แหล่งข่าว ศอฉ.เผยว่า ในที่ประชุม ศอฉ.หารือถึงการคงไว้ของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุก เฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เพราะด้านการข่าวยังมีข้อมูลความเคลื่อนไหวการก่อเหตุวินาศกรรม การวางเพลิง อาทิ โรงไฟฟ้า โรงน้ำมัน รวมถึงการสร้างสถานการณ์ ทำให้เจ้าหน้า ที่ตำรวจต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสาธารณูปโภคต่างๆ พร้อมทั้งการจัดเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร (สห.) ของ 3 เหล่าทัพ ร่วมกับตำรวจออกลาดตระเวนในเวลากลางคืน
-เลี่ยงคุยคดี6ศพ-น้องเกด
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคเหนือ พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กับ พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 จัดชุดพัฒนาสัมพันธ์ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันอกเฉียงเหนือกับภาคเหนือ และประชาชนที่เข้ามาชุมนุมในกรุงเทพมหานครรวมทั้งประชาชนที่ไม่ได้มาชุมนุม เพื่อสร้างความรักความเข้าใจ สร้างความสามัคคีต่อประเทศชาติ
นอกจากนี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้แจ้งในที่ประชุมว่า ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังพิจารณาคนที่ถูกออกหมายจับในพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีใครบ้างที่จะถูกดำเนินคดีก่อการร้าย โดยจะเริ่มออกหมายจับเป็นกลุ่มที่ 4 ซึ่งจะถูกตั้งข้อหาว่าทำการก่อการร้าย เพราะการวางเพลิงเผาทรัพย์ที่เกิดขึ้น เป็นการดำเนินการเป็นกระบวนการ จึงเข้าข่ายความผิดการก่อการร้าย
"อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมไม่ได้มีการหารือถึงการเสียชีวิตของน.ส.กมนเกด อัคฮาด อาสาพยาบาลร่วมด้วยช่วยกัน ที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณวัดปทุมฯ รวมทั้งประเด็นที่มีหัวกระสุน ปืนอยู่ใต้รักแร้ขวากับหัวกระสุนฝังอยู่ที่หน้าทอง ซึ่งขั้นตอนการชันสูตรศพไม่มีการแถลงผลการตรวจสอบ โดยทางศอฉ.แจ้งว่าจะต้องให้ตำรวจเป็นผู้ชี้แจง" แหล่งข่าวกล่าว
-สั่งจับเพิ่มเผาแบงก์กท.
พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. (ฝ่ายสืบสวน) เปิดเผยว่า กรณีมีคนร้ายวางเพลิงธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานเหลือง ท้องที่ สน.บางรัก ในวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายจับคดีร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์และบุกรุกในเวลากลางคืน เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 347-351 เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ ซึ่งได้ภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือและภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคาร โดยช่วงนั้นเป็นช่วงที่วุ่นวายมีเสียงระเบิดและเสียงปืน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าดับเพลิงได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามตัวอยู่ ส่วนคดีเผาที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ก็อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่
-ประสานซีเอ็นเอ็นขอรูปไอ้ยักษ์
พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวถึงภาพถ่ายจากซีเอ็นเอ็นที่เป็นรูปชายแต่งกายคล้ายทหารอยู่บนรถไฟฟ้า ซึ่งสอบพบว่าคือนายศรชัย ศรีดี หรือยักษ์ ส่วนในเรื่องสถานที่ตรวจสอบแล้วภาพด้านหลังเป็นสถานีรถไฟฟ้าราชดำริ พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือให้สถานีรถไฟฟ้า ให้ตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นสถานที่นี้จริง โดยภาพที่ส่งไปเป็นภาพเคลื่อนไหวจาก ซีเอ็นเอ็น ที่ได้ทางอินเตอร์เน็ต
รอง ผบช.น.กล่าวอีกว่า อีกส่วนได้ทำหนัง สือไปถึงซีเอ็นเอ็น แหล่งต้นภาพที่ซีเอ็นเอ็น สาขาประเทศไทย แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า นโยบายของซีเอ็นเอ็นต้องทำหนังสือส่งไปขออนุญาตข้อมูลจากซีเอ็นเอ็น สำนักงานใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ได้ทำไปแล้ว โดยนายศรชัยไม่ได้ออกหมายเรียก หากพบผิดจริงมีอาวุธสงครามก็ออกหมายจับได้เลย
-กก.สิทธิ์สัมมนาหาความจริง
วันเดียวกัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดสัมมนาเรื่อง "สิทธิหลังไฟมอด" โดยน.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผอ.มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ความเสียหายหลังไฟมอดมหาศาลโดยเฉพาะชีวิตคน แต่มีปัญหาคือสังคมจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร ถ้าจะให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างที่เป็นข้อกังขาเกิดความจริงให้ได้ โดยฟังความจริงทุกฝ่าย พร้อมยอมรับ อย่าอคติว่าคนนี้ต้องไม่เป็นกลาง
น.ส.สารี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ไม่อยากให้มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแค่เรื่องจลาจล รัฐบาลต้องทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็วที่สุด โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งเยียว ยาทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม เช่น ถ้าสืบค้นจนได้ความจริงปรากฏชัด ว่าการเผาที่เกิดขึ้นมีการวางแผนจริง มูลนิธิก็ร่วมกับสภาทนายความฟ้องเหมือนกัน
-จี้เลิกใช้พรก.ฉุกเฉินเสียที
น.ส.สารี กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐ บาลจะออกกฎหมายควบคุมการชุมนุม เพราะไม่เชื่อว่าจะห้ามนปช.หรือพันธมิตรฯ มาชุมนุมได้ สิ่งที่รัฐควรทำคือสร้างบรรทัดฐานการชุมนุม ว่าชุมนุมอย่างไรทำได้ หรือทำไม่ได้และไม่ควรทำ โดยไม่จำเป็นต้องออกเป็นกฎหมาย เช่น กรณีที่เกิดขึ้นกับร.พ.จุฬาฯ หรือการตั้งด่านตรวจค้นตามจุดต่างๆ สังคมต้องช่วยกันบอกว่าทำไม่ได้ รวมถึงสถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลไม่ควรคิดว่านปช.จะกลับมาชุมนุมอีก ดังนั้นจึงควรยกเลิกการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
-เพื่อไทยต้านกม.ห้ามชุมนุม
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไฟมันมอดแล้วก็จริง แต่ในใจผู้ถูกกระทบไม่มอด กลับลุกโพลงขึ้น แต่ในสายตาผู้บริหารประเทศแกล้งมองไม่เห็น ถ้าดูในหลักสากลไทยเป็นภาคีอนุสัญญาเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน 7 ฉบับจาก 9 ฉบับ แต่เชื่อกลไกรัฐไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญาถึงได้มีคนตายในเหตุการณ์พ.ค.เลือดจำนวนมาก การที่คนเป็นหมื่นมาชุมนุมเป็นเดือนผิดตรงไหน จะผิดแค่กีดขวางการจราจร เวลานี้รัฐจะออกกฎหมายห้ามชุมนุม ถ้าเอาตามที่ยกร่างไว้ การชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญไม่มีทางทำได้ เพราะที่สาธารณะที่กำหนดให้ชุมนุมได้ไม่มี
-อ้างจ้างเงินใส่ร้ายเพื่อไทย
นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า เวลานี้ยังมีความพยา ยามไล่ล่าอยู่ รวมทั้งใช้เงินล่อ โดยบอกว่าจะให้เงิน 2 แสน ถ้ายอมบอกว่าใครพามาชุมนุม ตรงนี้มีเจตนาจะเอาคำให้การของคนเหล่านี้โยงให้ถึงพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ที่นายกฯ ไปพูดกับต่างประเทศว่าไทยสงบแล้ว และเสนอแผน ปรองดองแล้ว ใครจะเชื่อ ถ้ามองว่าไฟมอดแล้วอยากฟื้นฟู ก็ต้องยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเสีย เพราะ การยังคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถปฏิบัติตามหมวดสิทธิเสรีภาพในรัฐธรรมนูญได้อย่างเต็มที่ และเฉพาะหน้าต้องรีบทำให้ความจริงปรากฏ คนที่ไม่เกี่ยวก็ต้องรีบปล่อยตัวเขา ใครที่ทำผิดแล้วมีหลักฐานก็ต้องดำเนินคดี แต่ก็ไม่เข้าใจว่าคนที่จะมาทำเรื่องนี้ทำไมรัฐต้องไปพึ่งนายคณิต ณ นคร ตามระบบกรรมการสิทธิฯ ก็มีหน้าที่อยู่ ซึ่งกรรมการสิทธิฯ ก็ควรทำหน้าที่ของตนสอบสวนการละเมิดสิทธิจากการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
-เชื่อปรองดองทำได้ยาก
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราช สีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประกาศนโย บายปรองดองว่า ส่วนตัวไม่แปลกใจที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการปรองดองที่มี นายคณิต ณ นคร เป็นประธาน แต่ควรเอาคนที่เป็นกลาง ที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ ความคิดที่จะปรองดองเป็นแค่ปลายเหตุ ได้ประโยชน์น้อย รัฐบาลควรไปเยียวยากับญาติของผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์สลายชุมนุม กลับไม่เหลียวแล มีแต่โหมกระพือข่าว ไม่ใช่มัวพูดใส่ร้ายป้ายสี ตราบใดที่รัฐบาลยังมีแนวคิดและทำเช่นนี้จะยิ่งไปกันใหญ่และเชื่อว่าไม่มีทางปรองดองได้ ทุกอย่างอยู่ที่รัฐบาล
-จตุพรยังย้ำ-ค้าน"คณิต"
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเสนอแผนปรองดองของรัฐบาล ว่า เป็นการประกาศเพื่อกลบเกลื่อนคดีฆ่าประชาชนในวันที่ 10 เม.ย. ก่อนหน้านี้รู้ว่าสังคมต้องการความสงบจึงได้ยอมรับแผนปรองดองของรัฐบาล แต่คนที่สั่งฆ่าประชาชนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่การที่รัฐบาลตั้งนายคณิต เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์การชุมนุมนั้น ทั้งที่นายคณิต ถูกสังคมตั้งข้อสงสัยว่าไปเกี่ยวพันกับพรรคประชาธิปัตย์กรณีส.ป.ก.4-01 และยังเป็นเจ้านายเก่าของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทุกคนก็รู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน
-ขู่อย่าไล่ล่าให้จนตรอก
นายจตุพร กล่าวว่า กระบวนการทั้งหมดไม่ได้เป็นการปรองดอง เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำไม่เคยหยุดไล่ล่า ตั้งข้อหาคุมขังโดยที่ไม่ได้ประ กาศรายชื่อ ทำการข่มขู่ คุกคาม และยังมีการลอบฆ่า มีการใช้ศาลเตี้ยตัดสินกันเอง อยากบอกนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ถ้าอยากเป็นรัฐบาลต่อก็อยู่กันไป จะยุบหรือไม่ก็แล้วแต่ อยากทำอะไรก็เชิญ แต่อย่าบอกว่ากรณีนี้ เป็นการปรองดอง หากจะปรองดองจริงรัฐบาลต้องยกเลิกประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะนี่เป็นเครื่องมือไล่ล่า อย่าคิดว่าประชาชนจะไม่ลุกขึ้นสู้ เมื่อถึงที่สุดประชาชนก็จะทนไม่ได้ เหมือนสุนัขจนตรอกที่ถูกไล่ล่า สุดท้ายก็ต้องกลับมาสู้
-แฉแกนนำโดนขู่-ลอบฆ่า
"รัฐบาลนี้ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ อยากเตือนนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ พฤติกรรมที่ลุแก่อำนาจอย่างนี้ ต้องหยุดไล่ล่า ใส่ร้าย และสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นและพวกคุณต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้เป็นแบบอย่างในสังคม อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ลองดูไหมถ้าพวกคุณสลับมาเป็นพวกผม แล้วถูกกระทำทุกอย่างอย่างนี้ จะรู้สึกอย่างไร ตอนนี้เข้าใจว่าพวกคุณเป็นผู้ชนะก็ต้องการไล่ล่าแบบผู้ชนะ ถ้าคุณเป็นผมที่ถูกไล่ล่าก็ต้องหันกลับมาต่อสู้เหมือนกัน ถ้าอยากสงบต้องหยุดไล่ล่า จะมา บอกว่า มาปรองดองกับผู้ก่อการร้ายไม่ได้ อย่าพูดอย่างนั้น เพราะผมก็สะอิดสะเอียนเหมือนกันที่จะพูดว่า ปรองดองกับฆาตกรที่สั่งฆ่าประชาชน" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า ทราบว่าขณะนี้มีการขู่ลอบฆ่า เช่น แกนนำเสื้อแดง จ.นครราชสีมา ที่ถูกฆ่า ซึ่งขณะนี้แกนนำในต่างจังหวัดหลายคนออกจากบ้านไม่ได้ เพียงเพราะเขามาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย ทำกันอย่างนี้มันเกินไป
-ปฏิเสธข่าวนัดชุมนุมใหญ่อีก
นายจตุพร กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า กลุ่มนปช. เตรียมเคลื่อนไหวอีกครั้งในช่วง 1-2 เดือนนี้ ว่า ยืนยันว่ายังไม่มีการชุมนุมใหญ่ในช่วง 2 เดือนหลังจากนี้ หรือหลังวันเกิดพ.ต.ท. ทักษิณ ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ อย่างที่ปรากฏเป็นข่าว เนื่องจากเวลานี้ไม่ใช่เวลาของการมาคิดเรื่องการชุมนุม แต่เป็นเวลาที่จะต้องมาติดตามเรื่องผู้เสียชีวิตผู้บาดเจ็บ อีกทั้งแกนนำก็ไม่ได้หารือกัน ต่างคนก็กระจัดกระจายกันอยู่ จะคิดชุมนุมได้อย่างไร
-พร้อมพงศ์ชี้ตั้งกก.ฟอกตัว
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ ทวิตเตอร์ระบุจะไม่ทบทวนการตั้งนายคณิต เป็นประธานกรรมการอิสระฯ ว่า นี่คือสิ่งที่ผู้นำที่ไม่ฟังเสียงเรียกร้องของประชาชน รัฐบาลโดยนายอภิสิทธิ์ กลับรับประกันนายคณิต ทั้งที่ญาติของผู้เสียชีวิตไม่มั่นใจในความเป็นธรรมของนายคณิต ล่าสุดนายคณิต ระบุว่าจะมีทุกสี ยิ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าจะเหมือนกับคณะกรรมการที่เคยตั้งมาสอบเรื่องเหล่านี้มาก่อน ในท้ายสุดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า จึงขอให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปคิดว่าการตั้งกรรมการชุดดังกล่าว ทั้งที่ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้สูญเสียและผู้เกี่ยวข้องแล้วผลออกมา ก็เหมือนมีเจตนาที่รัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ซื้อเวลาในการฟอกตัวเอง จึงอยากให้มีคณะกรรมการ ตัวประธานเป็นองค์กรต่างประเทศหรือในประเทศ ที่มีความเป็นกลางจริงๆ วันนี้ถ้านายอภิสิทธิ์ยังยืนยันแสดงว่าต้องการใช้กรรมการชุดนี้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และต้องการฟอกตัวเองเท่านั้น
-จี้หาหัวกระสุนศพน้องเกด
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงการสังหารประชา ชนในวัดปทุมวนาราม ว่า วันนี้การสังหารหมู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่วัดปทุมฯ อาสาพยาบาลคนหนึ่งถูกยิงหลายนัด เรามีทั้งภาพและคลิปที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พบว่ามีกระสุนเจาะเข้าที่ท้องน.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด แต่วันนี้หัวกระสุนหายไป อดีตผู้เชี่ยวชาญและอดีตแพทย์ก็ยืนยันว่ากระสุนปืนมีความสำคัญและเป็นหลักฐานว่าใครเป็นคนยิง ยิงมาจากปืนกระบอกไหน ซึ่งนี่คือการดำเนินการที่กำลังทำลายหลักฐาน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ล่าสุด ศอฉ.ยืนยันว่ากระสุนปืนของน้องเกด ที่คุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ เอาสก๊อตเทปปิดเอาไว้แต่ได้หายไป ซึ่งเป็นการทำลายหลักฐานเพื่อไม่ได้ดำเนินการเอาผิดกับคนที่ทำผิดกฎหมาย อยากเรียกร้องให้หน่วยงานนิติวิทยาศาสตร์ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา อย่าเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ควรมีจุดยืนที่ยืนข้างประชาชนไม่ใช่ยืนข้างนักการเมือง วันนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยกำลังตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อทำงานควบคู่กับนิติวิทยาศาตร์ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการฟ้องร้อง เพราะเราเห็นว่าหน่วย งานกำลังใช้วิชามารในการปกปิดข้อมูลข่าวสาร ปกปิดอำพรางหลักฐานต่างๆ
-ฆ่าคนสนิทแรมโบ้อีสาน
ส่วนความคืบหน้าคดีมือปืนสังหารนายศักรินทร์ กองแก้ว หรือ "อ้วน บัวใหญ่" อายุ 26 ปี แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช เป็นการ์ดและคนสนิทของนายสุพร อัตถาวงศ์ หรือ "แรม โบ้อีสาน" แกนนำเสื้อแดงในการชุมนุมที่กรุง เทพฯ โดยถูกมือปืนยิงเสียชีวิตเมื่อกลางดึกวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจนำศพนายศักรินทร์ส่งไปที่ร.พ.มหาราช จ.นครราชสีมา เพื่อชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. เข้าที่ศีรษะ และลำตัว อย่างละ 2 นัด จากนั้นได้มอบหมายให้ญาติ พี่น้อง นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดบัว ใหญ่ เทศบาลเมืองบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา
-ตร.ชี้นักฆ่า-มืออาชีพ
พ.ต.อ.สหรัฐ ประสงค์นิจกิจ ผกก.สภ.บัว ใหญ่ ซึ่งพาพล.ต.ต.อำนาจ อันอาตย์งาม รอง ผบช.ภาค 3 ตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานแวดล้อมซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ได้เพียง 1 ปากเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ หาข้อมูลกับญาติ พี่น้อง และบรรดาเพื่อนของผู้เสียชีวิต แต่ก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเท่าไรนัก เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้รถปิกอัพเป็นพาหนะ ส่วนสาเหตุตั้งไว้ 3 ประเด็น คือทะเลาะ วิวาทในกลุ่มวัยรุ่น ชู้สาว และการเมือง ซึ่งยังคงให้ความสำคัญกับทุกประเด็น คดีนี้ผู้บังคับบัญชากำชับให้เร่งติดตามสืบสวนหาหลักฐานเพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้าย เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ
ด้านพ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นมืออาชีพ เชี่ยว ชาญการใช้อาวุธเป็นอย่างดี เนื่องจากวิถีกระสุนเข้าเป้าสำคัญทุกนัด และน่าจะมีการเตรียมแผนมาระยะเวลาหนึ่ง
-พยานแฉ 3 มือปืนสังหาร
นายวีรยุทธ ดีสวน อายุ 18 ปี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก 31 พยานที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า คืนเกิดเหตุนายศักรินทร์มาคุยกับเพื่อนๆ อาสาสมัครกู้ภัยฯ ในตลาดสดเทศบาลเมืองบัวใหญ่ จนเวลาประมาณ 4 ทุ่มก็เดินทางกลับโดยให้ตนไปส่ง แต่นายศักรินทร์เป็นคนขี่ จนมาถึงใกล้แยกเข้าบ้านพักมีรถปิกอัพแบบแค็บ สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและเลขทะเบียน แล่นสวนทางมา คนในรถคันดังกล่าวตะโกนเรียกพร้อมกวักมือส่งสัญญาณ นายศักรินทร์จึงเลี้ยวรถแล่นกลับไปหา
"ในรถปิกอัพมีชายฉกรรจ์อยู่จำนวนทั้งหมด 3 คน คนที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับสวมเสื้อแขนยาวสีดำ ลดกระจกลงมาสอบถามทางไป อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ช่วงที่พี่อ้วนกำลังอธิบายทางอยู่นั้น คนในรถก็ใช้ปืนยิงใส่ 1 นัด ผมรีบกระโดดลงจากรถวิ่งหนีเข้าป่าข้างทาง ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนอีก 4-5 นัด ก่อนที่คนร้ายจะเร่งเครื่องหนีไปทาง อ.คง จ.นครราชสีมา" พยานที่อยู่ในเหตุการณ์สะเทือนขวัญกล่าว และว่า หลังจากคนร้ายหนีไปแล้วจึงวิ่งกลับมาดูก่อนโทรศัพท์เรียกเพื่อนมาช่วยพาส่งร.พ.บัว ใหญ่ แต่ก็ช่วยชีวิตไม่ทัน
-เผยปูมนปช.กลุ่มฮาร์ดคอร์
สำหรับนายศักรินทร์ หรือ "อ้วน บัวใหญ่" เป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช อยู่ในสาย "ฮาร์ดคอร์" ช่วงการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ทำหน้า ที่ รปภ.ให้นายสุพร อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" โดยวันที่ตำรวจบุกจับนายสุพร กับนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค โดยนายอริสมันต์ปีนหน้าต่างหนีได้ทัน แต่นายสุพรถูกควบคุมตัวไว้ในห้องพัก ปรากฏว่านายศักรินทร์นำม็อบเข้าไปแย่งตัวออกมาได้
ส่วนการเคลื่อนไหวในพื้นที่นั้นนายศักรินทร์ เป็นนักพูดบทเวทีด้วยถ้อยคำรุนแรง เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมาเคยก่อเหตุนำม็อบบุกไปที่วัดสุทธจินดา เขตเทศบาลนครนครราช สีมา หลังทราบว่าพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี มาเป็นประธานงานพระราชทานเพลิงศพนายทหารคนหนึ่ง สร้างความวุ่นวายและไม่พอใจให้กับตำรวจและทหารอย่างมาก
-สงสัยโดนขึ้นบัญชีดำ
กระทั่งเมื่อม็อบนปช.ถูกสลาย นายศักรินทร์ เดินทางกลับมา อ.บัวใหญ่ ก่อนถูกเรียกตัวไปพบกองอำนวยการรักษาความสงบ กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ตามอำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังได้รับการปล่อยตัวออกมาก็เก็บตัวเงียบ เน้นทำงานอาสาสมัครกู้ภัย แต่มีผู้ใหญ่เตือนว่ากำลังตกเป็นเป้าหมาย เพราะถูกมองว่าเป็นแกนนำ นปช.กลุ่มนักบู๊ จนมีความระแวงว่าจะก่อเหตุทางใต้ดิน จากเหตุดังกล่าวทำให้เพื่อนๆ และคนใกล้ชิดเชื่อว่าที่นายศักรินทร์ถูกสังหารน่าจะมาจากถูกขึ้นบัญชีดำ
-สอบ 2 มือเผาขอนแก่น
ที่ จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.ธวัชชัย นิลานุช รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เบิกตัวน.ส.ปาริฉัตร ภูนกยูง อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นและโรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และนายไพรวัลย์ แสนสะท้าน อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประ ทุษร้าย ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีก่อความไม่สงบจากการชุมนุมของนปช. มา สอบปากคำเพิ่มเติมก่อนนำตัวส่งไปควบคุมที่เรือนจำกลางขอนแก่น โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายถูกตำรวจตามจับได้เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา
-ตะโกนลั่นรัก"ทักษิณ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายออกมาจากห้องควบคุมตัว สภ.เมืองขอนแก่น น.ส.ปาริฉัตร พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับแกนนำคนเสื้อแดงส่วนกลาง แต่ติดต่อไม่ได้ จึงโทรศัพท์ติดต่อกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยแต่มีคนสนิทรับแทน โดยน.ส.ปาริฉัตร พูดคุยประมาณ 2 นาทีก็ชูโทรศัพท์มือถือที่มีรูปพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่หน้าจอโทรศัพท์ให้สื่อมวลชนดู และบอกว่า "รักทักษิณ รักประชาธิปไตย ไม่กลัวที่ต้องมาถูกจับ ทักษิณจะให้คนมาช่วยประกันตัวออกไปสู้คดี" ส่วนนายไพรวัลย์อยู่ในอาการเศร้าเสียใจเหมือนจะร้องไห้
-ตร.เผยรวบได้แล้ว 26 คน
พ.ต.อ.ธวัชชัย นิลานุช รอง ผบก.ภ.จว. ขอนแก่น เปิดเผยว่า คดีร่วมกันวางเพลิงเผาศาลากลาง เผาเอ็นบีทีขอนแก่น ทุบทำลายธนาคารกรุงเทพ หลายสาขาใน อ.เมือง ขอนแก่น และบุกรุกบ้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแล้ว 26 หมายจับ จากหมายจับ 183 หมายจับ ผู้ต้องหาบางรายจะถูกออกหมายจับ 2 หมายจับ หรือ 3 หมายจับ เพราะมีพยานหลักฐาน และภาพถ่ายยืนยันชัดเจนว่าผู้ต้องหาเข้าไปเผาทำลาย บุกรุก สถานที่ดังกล่าวในช่วงวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนแกนนำที่ชื่อนางซาบีน่า ซาห์ ที่มีหลักฐานชัดเจนในวันที่ 19 พ.ค. เข้ามาร่วมกับกลุ่มผู้ก่อการจลาจลเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ขณะนี้หลบหนีไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวอยู่ ส่วนแกนนำมวลชนคนเสื้อแดงขอนแก่นคนอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ตอนนี้ดีเอสไอกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อมูลอื่นๆ เช่น แกนนำคนเสื้อแดงไปร่วมชุมนุมที่กรุง เทพฯ ด้วยหรือไม่ มีการติดต่อหรือสนับสนุนให้เกิดเหตุจลาจลในบ้านเมืองด้วยหรือไม่
-สารภาพแต่ไม่ยอมซัดทอด
พ.ต.อ.ธวัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตามหมายจับจำนวน 26 ราย ยอมรับสารภาพว่าร่วมกับกลุ่มวางเพลิงเผาทรัพย์ในศาลากลางจริง หรือบุกรุกบ้านนายประจักษ์ ส.ส. ขอนแก่นจริง แต่ไม่ได้ซัดทอดใครเป็นผู้นำ หรือเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาแต่อย่างไร ซึ่งเป็นการยอมรับสารภาพในส่วนที่เข้าไปเกี่ยวข้องจนตกเป็นผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนพนักงานสอบสวนจึงทำงานยากขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่จะต้องหาผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับคดีเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น และคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในวันที่ 19 พ.ค. มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ข่าวจาก ข่าวสด
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1466 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 11 มิ.ย. 53
เวลา 09:16:13
|
