(22ต.ค.) เวลา 02.00 น. ขณะพ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม พงส.(สบ3)สน.ตลิ่งชัน ปฏิบัติหน้าที่อยู่นางกมลรัตน์ ฉัตรเรืองกมล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ถ.ท่าดินแดง แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน พร้อมนายรัตติศักดิ์ น้อมแก้ว อายุ 22 ปี ลูกเขย เข้าแจ้งความ กรณีถูกตำรวจในเครื่องแบบ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงใส่รถโตโยต้าวิช สีบรอนซ์ ทะเบียน ฌป 4488 กรุงเทพ กระสุนพุ่งทะลุประตูด้านคนนั่งหน้าฝั่งซ้าย เข้าน่องขาซ้ายนางสาวกนกกาญจน์ เสนาะเกียรติ อายุ 23 ปี ลูกสาว ซึ่งขณะนั้นอุ้มลูกสาวอายุ 8 เดือนไว้ด้วย กระสุนฝังใน ขณะขับรถจะกลับบ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ เหตุเกิดบริเวณถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี ช่องคู่ขนาน เยื้องสมาคมชาวปักษ์ใต้ 200 เมตร แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ

 นายรัตติศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางจากบ้านย่านถนนท่าดินแดงมากินหมูกระทะย่านถนนกาญจนาภิเษก กับนางสาวกนกกาญจน์ ภรรยา พร้อมลูกสาววัย 8 เดือน เพื่อนชายหญิงอีก 2 คนและลูกชายเพื่อนวัย 9 ขวบ หลังกินอาหารเสร็จ เวลา 23.30 น.ก็เดินทาง กลับโดยใช้ถนนกาญจนาภิเษกช่องทางคู่ขนาน มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี โดยขับอยู่เลนส์กลางระหว่างขับผ่านสมาคมชาวปักษ์ใต้ได้ 200 เมตร พบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในชุดเครื่องแบบ 2 คน จอดรถเก๋ง โตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ก 2924 นนทบุรี ริมถนน จากนั้นเห็นใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าใส่รถกระบะเชฟโรเล็ต สีดำ ไม่ทราบทะเบียน 2 นัด โดยพบรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว

 นายรัตติศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนั้นจึงชะลอคันเร่งรถโดยพบว่าข้างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 คน ได้เรียกรถกระบะสีน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อรุ่นและทะเบียน ซึ่งหลังกระบะมีชายและหญิงอยู่ 7-8 คน จอดริมถนน จึงค่อยๆขับผ่าน ช่วงจังหวะนั้นปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกับที่ยิงรถกระบะเชฟโรเล็ต หันปากกระบอกมายิงใส่รถตน 1 นัด ทำให้กระสุนทะลุประตูหน้าซ้าย พุ่งเข้าใส่น่องขาด้านซ้ายนางสาวกนกกาญจน์ ซึ่งขณะนั้นอุ้มลูกสาว“น้องเอย” วัย 8 เดือน ไว้ที่บริเวณตัก เมื่อเห็นภรรยาได้รับบาดเจ็บ จึงขับรถนำภรรยาไปส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยา ย่านปิ่นเกล้า แพทย์นำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เนื่องจากกระสุนฝังใน อยู่ระหว่างการรอแพทย์ผ่าตัดนำหัวกระสุนออกมา ก่อนรีบโทรศัพท์แจ้งแม่ภรรยาเข้าแจ้งความที่โรงพัก

 ด้านนางกมลรัตน์ กล่าวว่า ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด เนื่องจากขณะเกิดเหตุนางสาวกนกกาญจน์ อุ้มลูกสาวไว้บนตักและไม่มีส่วนกับรถกระบะเชฟโรเล็ต ที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ 2 นัด ทั้งนี้หากกระสุนพลาดมาโดนเด็กวัยเพียง 8 เดือน จะสูญเสียขนาดไหน อีกทั้งเป็นถึงข้าราชการตำรวจ แต่กลับมายิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่สนใจผู้บริสุทธิ์ ควรต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางมาแจ้งความผู้เสียหาย ได้สังเกตพบรถคันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบใช้ขณะเกิดเหตุ จอดอยู่บริเวณลานจอดรถโรงพัก จึงรีบเข้าไปตรวจสอบและถ่ายภาพ ปรากฏว่ามี ส.ต.ท.นิพนธ์ อุ่นใจ ผบ.หมู่งานป. สน.ตลิ่งชัน ทำหน้าที่เฝ้าหน้าบ้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯผู้ลงสมัคร ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตถ์ เข้ามาสอบถาม ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่า ส.ต.ท.นิพนธ์ เป็นตำรวจคนที่ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่รถแล้วกระสุนเข้าขานางสาวกนกกาญจน์ เมื่อผู้เสียหายยืนยันจะแจ้งดำเนินคดี ส.ต.ท.นิพนธ์ ก็รีบเดินทางเข้าห้องพักภายในแฟลตตำรวจหลังโรงพักทันที

 พ.ต.ท.ศิริพงษ์ กล่าวว่า ได้เรียก ส.ต.ท.นิพนธ์ มาสอบถามเบื้องต้นให้การปฏิเสธ โดยบอกว่าขณะเกิดเหตุเข้าเวรเฝ้าบ้านนายสุเทพ ระหว่างนั้นได้เกิดปวดท้องเข้าห้องน้ำ จึงขับรถวนมาเข้าห้องน้ำที่ปั้มน้ำมัน ปตท. ถนนกาญจนาภิเษก โดยไม่ได้มีการออกจับรถคันใด และไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ใคร อย่างไรก็ตาม ได้นำชุดเครื่องแบบของ ส.ต.ท.นิพนธ์ พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. เก็บมาตรวจสอบ โดยเตรียมส่งชุดเครื่องแบบ พร้อมตัวส.ต.ท.นิพนธ์ ไปทำการตรวจเขม่าดินปืนที่กองพิสูจน์หลักฐานช่วงเช้า ในส่วนหัวกระสุนที่ฝังในน่องขาด้านซ้ายนางสาวกนกกาญจน์ ต้องรอแพทย์ผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกมา ก่อนทำการส่งหัวกระสุน พร้อมอาวุธปืน 9 มม. ตามไปตรวจสอบภายหลัง ทั้งนี้ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ากมีขั้นตอนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่า ส.ต.ท.นิพนธ์ทำผิด ก็จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นต่อไป

ข่าวจาก คมชัดลึก