| • จนมุมแล้ว มือยิงกัปตันบินไทย |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 22 ม.ค. 54 เวลา 09:57:07 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ยิงกัปตัน - ตำรวจนครบาลคุมตัวนายพริสร หรือณัฐพงษ์ ห้วยหงษ์ทอง ผู้ต้องหายิงกัปตันการบินไทย เข้ากทม. หลังติดตามไปจับกุมได้ที่รีสอร์ต ในอ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เมื่อวันที่ 21 ม.ค.
|
จับแล้วมือยิงกัปตันการบินไทย หนี ไกลไปกบดานถึงพังงาตร.นับร้อยล้อมจับได้คารีสอร์ต พร้อมปืน 11 ม.ม. 3 กระบอก คุมตัวบินเข้ากรุงด่วน เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพลงมือยิงสนั่นมอเตอร์เวย์จริง โกรธที่ถูกกะพริบไฟรถใส่ ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ อ้างโยนทิ้งไปแล้ว เผยเบื้องหลังการพิชิตคดี ตร.สืบการใช้โทรศัพท์ผู้ต้องหากับบรรดาญาติๆ จนรู้ว่าดอดกบดานพังงา มีญาติๆ คอยช่วยเหลือ
จากกรณีร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันสายการบินไทย ถูกคนร้ายขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ไล่ยิงเป็นระยะทางร่วม 7 ก.ม. จนได้รับบาดเจ็บบริเวณสะบักด้านซ้าย บนทางพิเศษมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี เพียงเพราะสาเหตุเปิดไฟกะพริบ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 ม.ค. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ม.ค. พ.ต.ท. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน สว. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสส.บช.ภาค 8 และตำรวจสภ.ท้าย เหมือง จ.พังงา รวมเกือบ 100 นาย นำกำลังเข้าจับกุมนายพริสร หรือณัฐพงษ์ หรืออ๊อฟ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุยิงกัปตันการบินไทย ได้ที่ศรีวรารีสอร์ตวอเตอร์เจต หมู่ที่ 7 บ้านบ่อดาน อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. จำ นวน 3 กระบอก โดยมีคนในครอบครัวของนายพริสรรวมอยู่ด้วย ขณะขับรถกระบะเชฟโรเลต สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้าพักในรีสอร์ตดังกล่าว โดยนายพริสร หรือณัฐ พงษ์ ถูกศาลจังหวัดพระโขนงอนุมัติหมายจับในข้อหาพยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ หลังก่อเหตุยิงไล่ยิงร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันสายการบินไทย เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา บนทางด่วนมอเตอร์เวย์ จนร.ท.พูลวิทย์ได้รับบาดเจ็บ
หลังจับกุม เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวน และลงบันทึกประจำวันที่สภ. ท้ายเหมือง เบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่กัปตันการ บินไทยจริง เพราะอารมณ์โกรธชั่ววูบที่ผู้เสียหายกะพริบไฟรถใส่ ส่วนปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุนั้นทิ้งไปแล้ว
ข่าวแจ้งว่า สำหรับเบื้องหลังการสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวนายพริสรได้นั้น เจ้าหน้าที่ตามสืบการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้อง หาและบรรดาญาติๆ จนทราบว่ามีคนใน จ.พังงา ช่วยเหลือให้นายพริสรมากบดานในพื้นที่ ตั้งแต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียด แจ้งให้ทราบว่าจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้ กลับเข้ากทม. ไปแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เวลา 17.00 น.
ต่อมาเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายพริสรถึงศูนย์สืบสวน บช.น. โดยมีพล.ต.ต. สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช เจ้าทุกข์ และญาติผู้ต้องหารออยู่เป็นจำนวนมาก ทันทีที่เห็นหน้าเจ้าทุกข์ นายพริสรก้มลงกราบเท้าทันที พร้อมกล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป
นายพริสร ให้การว่า หลังก่อเหตุหลบหนีไปอยู่ที่จ.ชลบุรี ระยอง จากนั้นหนีลงภาคใต้ กระทั่งถูกจับกุมที่จ.พังงา ขณะที่กำลังกินข้าวอยู่ ปกติเป็นคนโมโหร้าย และที่ต้องมีปืนพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากภรรยาทำฟาร์มกุ้ง จึงเกรงว่าจะมีขโมยเข้าไปขโมยกุ้งในฟาร์ม เหตุที่กระทำไปเพียงเพราะความโกรธเท่านั้น ไม่ต้องการยิงให้ถึงชีวิตแต่อย่างใด หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด และปืนที่ก่อเหตุนั้น โยนทิ้งลงแม่น้ำบางปะกงไปแล้ว ปกติมีปืนอยู่ 3-4 กระบอก โดยซื้อมาจากเพื่อนและไม่มีทะเบียน
นายพริสรยังกล่าวว่า ก่อนหน้าที่ก่อเหตุดังกล่าว ยังมีคดีค้างเก่าที่หลบหนีคดีอยู่ 3 คดี คือ ข้อหาร่วมกันใช้อาวุธปืนพยายามฆ่า ในพื้น ที่จ.นครปฐม โดยเกิดขึ้นขณะแข่งรถจักรยานยนต์บนท้องถนน คดีที่สอง ถูกจับข้อหาพกพาอาวุธปืนขนาด .38 ในท้องที่จ.ราชบุรี ส่วนคดีสุดท้าย คือข้อหาครอบครองยาบ้า 14 เม็ด ในเขตร่มเกล้า โดยทั้งสามคดี หลบหนีระหว่างการประกันตัว
พล.ต.ต.สุเมธกล่าวว่า ในเรื่องคดีคงไม่ มีปัญหา เนื่องจากได้หลักฐานครบถ้วน และยังมีคำสารภาพของผู้ต้องหา เบื้องต้นผู้เสียหายอาการปลอดภัย และอโหสิกรรมให้ โดยจะปล่อยให้กฎหมายและหลักธรรม รวมถึงเวรกรรมติดตามไปลงโทษ ขอเตือนสติประชาชนทั่วไป หวังให้เรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนสติตัวเอง เวลามีการขัดใจ หรือกระทบกระทั่งกัน ควรให้อภัยกัน
ขณะที่ร.ท.พูลวิทย์ กล่าวกับผู้ต้องหาว่า ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร นับตั้งแต่วันที่ถูกยิงถึงวันนี้ และหลังจากเห็นอายุของผู้ต้องหาเท่ากับลูกสาว ยิ่งมาทราบว่ากระทำลงไปเพราะความโมโหร้าย ยิ่งรู้สึกสงสาร ไม่โกรธและให้อภัยตลอดเวลา เนื่องจากไม่เคยโกรธแค้นอะไรกันมาก่อน และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือทุกเรื่อง
ข่าวจาก ข่าวสด
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1285 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 22 ม.ค. 54
เวลา 09:57:07
|
