| • จ่อจับตีนผี'ปอร์เช่' |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 27 มี.ค. 54 เวลา 10:47:19 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พยานมัด ใส่ชุดนศ. แม่เหยื่อ สาวลาว รับศพลูก
สูญเสีย- นางอุไร อินทิลาด มารดา น.ส.ทองใบ อินทิลาด (ภาพเล็ก) สาวลาวที่ถูกรถชนขาด 2 ท่อน มาดูรถปอร์เช่คันที่ชนลูกสาวซึ่งตำรวจยึดไว้ที่ สภ.เมืองปทุมธานี ขณะที่เสี่ยเจ้าของรถติดต่อเลื่อนเข้าให้การ
|
ตร.เตรียมออกหมายจับตีนผีซิ่ง'ปอร์เช่'ชนสยองสาวลาวขาดสองท่อน หลังตรวจพบเอกสารลงทะเบียนของนักศึกษา มหาวิทยาลัยดัง เป็นลูกเสี่ยฝั่งธนฯ หลังเบี้ยวนัดพบ บ.ประกัน อ้างติดเช็งเม้ง ขณะที่พยานเห็นคนขับแต่งตัวคล้ายนักศึกษา แม่เหยื่อสาวเคราะห์ร้ายเผยหลังรู้ข่าวพากันข้ามแดนเข้าพบตร.เพื่อขอรับศพ ระบุลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ม.1 เป็นคนขยัน ข้ามมาหาญาติช่วงปิดเทอมเพื่อหางานทำ
จากกรณีหนุ่มซิ่งรถสปอร์ตหรู "ปอร์เช่" ป้ายแดง ง-1352 กทม. เฉี่ยวชนน.ส.คำใบ อินทิลาด ชาวลาวจนร่างขาดสองท่อนขณะข้ามถนนสาย 345 จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา พบท่อนล่างกระเด็นตกอยู่ในร่องกลางถนน ส่วนท่อนบนตั้งแต่เอวขึ้นไปได้ทะลุกระจกรถตกลงไปกองในรถ ก่อนคนขับซิ่งรถเผ่นหนีไปจอดทิ้งที่ ถ.ราชพฤกษ์ ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตำรวจ พบเอกสารเจ้าของรถระบุชื่อนายศุภชัย ทักษิณทวีทรัพย์ ส่วนคนขับอยู่ระหว่างตรวจสอบ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 มี.ค. นางอุไร อินทิลาด อายุ 35 ปี ชาวบ้านไทรสมบูรณ์ เมืองไทรธานี ประเทศลาว ซึ่งเป็นมารดาของน.ส.ทองใบ อินทิลาด อายุ 17 ปี ผู้เสียชีวิตจากรถปอร์เช่ ป้ายแดงชนแล้วหนี พร้อมนางลัดดาวัลย์ สุนทะวงศ์ และนาง เพชรา บุญพา เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.บัญชา มีเลิศ สวส.สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อติดต่อขอทราบเรื่องคดีความและขอรับใบรับศพจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางอุไร กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวเรื่องลูกสาวที่ถูกรถสปอร์ตปอร์เช่ชนจนเสียชีวิตแล้วรีบเดินทางมาจากบ้านทันที โดยเข้ามาในประเทศไทยทางจ.หนองคาย มาพบญาติๆ ที่ย่านบางบัวทอง เพื่อให้พามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ที่จริงแล้วลูกสาวชื่อ น.ส.คำใบ อินทิลาด ยังเป็นนักเรียนชั้น ม.1 อยู่ที่ประ เทศลาว โดยลูกสาวเป็นคนขยัน และเป็นเสาหลักของครอบครัว อีกทั้งยังเป็นนักกีฬาวิ่งแข่งของโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งก่อนจะเสียชีวิตได้เดินทางมาที่บ้านญาติในเมืองไทยเพื่อมาหางานทำในช่วงปิดเรียนไม่คิดว่าจะต้องมาเสียชีวิตแบบนี้ ทุกคนรู้สึกเสียใจมาก
นางอุไร กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องคดีความยังไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเป็นคนยากจนไม่มีความรู้อะไร คงต้องให้ญาติๆ เป็นผู้ดูแลในเรื่องคดีความ อีกทั้งการเดินทางมาเมืองไทยในครั้งนี้ตนได้รับอนุญาตให้เข้ามาได้พียง 3 วันเท่านั้น แต่ศพของลูกสาวที่อยู่ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์นั้นยังไม่สามารถไปรับศพได้ เพราะต้องใช้เอก สารประกอบหลายอย่าง ซึ่งต้องรอจนถึงวันจันทร์เพื่อให้สถานทูตลาวในประเทศไทยเปิดทำงาน จะได้ไปติด ต่อขอหนังสือรับรองการเดินทางของลูก สาวจากสถานทูต และขออนุญาตต่ออายุพาสปอร์ตของตนที่ให้เข้ามาอยู่เพียง 3 วันด้วย เพื่ออยู่ทำศพลูกสาวในเมืองไทยให้เรียบร้อยก่อนถึงจะเดินทางกลับ ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่
ด้านนางลัดดาวัลย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทำอะไรไม่ถูกแต่คิดกันแล้วว่าจะนำศพของหลานสาวไปตั้งทำบุญที่วัดไทรน้อย ย่านบางบัวทอง โดยจะสวดแค่เพียง 1 คืนแล้วเผาเลย ก่อนจะนำกระดูกให้แม่เขานำกลับไปบ้านที่ประเทศลาว ส่วนเรื่องคดีความนั้นคงต้องปรึกษากันก่อนเพราะยังไม่รู้จะทำอย่างไรเนื่องจากหลานสาวนั้นเป็นคนลาว
ทางด้าน พ.ต.ท.บัญชา กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้มีตัวแทนของบริษัทกรุงเทพประกันภัยเดินทางมาพบ โดยบอกว่าได้นัดหมายกับทางเจ้าของรถไว้แต่รออยู่นานเจ้าของรถก็ไม่มา ทราบว่ายังไม่สามารถเดินทางมาได้เพราะอยู่ในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง คงเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษที่ต่างจังหวัด ส่วนในเรื่องผู้ขับขี่รถยนต์คันเกิดเหตุนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับรถคันนี้อยู่เพียงไม่กี่คน โดยมีลูกชายเจ้าของรถอยู่ 3 คน อายุระหว่าง 16-20 ปี แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรายละเอียดทั้งลายนิ้วมือแฝง คราบเลือดและดีเอ็นเอในรถไว้หมดแล้ว ซึ่งวันสองวันนี้ถ้ายังไม่มีการมามอบ ตัวตำรวจจะออกหมายจับอย่างแน่นอน
พ.ต.ท.บัญชา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องศพผู้เสียชีวิตนั้นแม้ว่าจะเป็นชาวต่างชาติแต่จะได้รับการชดเชยตามกฎหมาย ทั้งค่าปลงศพ จากพ.ร.บ.จำนวน 2 แสนบาท และเงินจากบริษัทประกันภัยที่เขาประกันชั้น 1 ไว้ คงต้องให้ญาติๆ ได้พูดคุยกัน ซึ่งในวันนี้แม่ของผู้ตายได้มาพบเพื่อรับเอกสารการแจ้งตาย แต่คงยังไปรับศพไม่ได้ เพราะตามระเบียบของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์นั้น ต้องมีเอกสารต่างๆ หลายอย่าง ต้องให้เขาไปติดต่อสถานทูตเสียก่อนก่อนจะไปรับ ศพกลับไปบำเพ็ญ กุศลตามประเพณี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนางอุไร อินทิลาด และญาติๆ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วพากันเดินทางไปดูรถยนต์ปอร์เช่คันที่ชนลูกสาว ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลาง โดยนางอุไรผู้เป็นแม่ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าเมื่อมองเห็นเส้นผมของลูกสาวที่ตกอยู่ในรถคันดังกล่าว อีกทั้งนางลัดดาวัลย์ ได้กล่าวเพิ่มว่า มีญาติฝันว่าน.ส.คำใบผู้ตายมาเข้าฝันบอกว่า เขาเจ็บหัวเข่าและหนาว มาก ซึ่งทางญาติๆ จะได้ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ น.ส.คำใบกลับบ้านเกิดที่เมืองลาวอีกครั้งหลังจากนี้
วันเดียวกัน พ.ต.อ.นิสากร บุญตานนท์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่า เมื่อวานทางบริษัทประกันภัยของรถคันดังกล่าวได้ติดต่อขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของรถแล้ว เบื้องต้นทราบผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวคือ นายศุภชัย ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/61 ถนนบรมราชชนนี แขวง อรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย ได้ทำประ กันภัยชั้น 1 กับบริษัท กรุงเทพประกันภัย โดยพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว ได้นัดสอบสวนผู้ครอบครองรถ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่พบผู้ใดมาแสดงตัว
พ.ต.อ.นิสากร กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ขับขี่รถคันที่ก่อเหตุ ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นใคร แต่เจ้าหน้าที่ได้สอบถามจากพยานผู้พบเห็นบริเวณที่ผู้ก่อเหตุนำรถปอร์เช่ที่ภายในมีร่างท่อนบนของผู้เสียชีวิตมาทิ้งไว้ ทำให้ทราบว่าผู้ขับขี่เป็นชาย อายุประมาณ 20 ปี สวมเสื้อผ้าคล้ายนักศึกษาก่อนจะรีบขึ้นแท็กซี่และหลบหนีไป
พ.ต.อ.นิสากร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบเบาะแสแล้วว่า ผู้ก่อเหตุคือใคร หลังตรวจพบใบเสร็จชำระค่าหน่วยกิตของมหาวิทยาลัยชื่อดังอยู่ภายในรถปอร์เช่คันดังกล่าว แต่ทั้งนี้ได้เตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุภายในวันที่ 28 มี.ค.นี้ หากยังไม่มีผู้ใดมาขอมอบตัว
ข่าวจาก ข่าวสด
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2242 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 27 มี.ค. 54
เวลา 10:47:19
|
