| • ศาลฎีกาจำคุก-ข่มขืนเพื่อนสาวเมาหลับ จากปาร์ตี้ ทำทีอาสา พาส่งบ้าน เข้าม่านรูด |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 15 มิ.ย. 54 เวลา 14:51:09 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จำคุก4ปีครึ่งพนักงานโรงแรมข่มขืนเพื่อนตอนเมา-หลับ ศาลฎีกาชี้อ้างฝ่ายหญิงสมยอมฟังไม่ขึ้นระบุชัดเป็นความผิดที่อันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ เหตุจำเลยอาศัยความมึนเมาและความเชื่อใจ ต้องการร่วมประเวณีเพื่อความสุขของตัวเอง อันเป็นความคิดและการกระทำที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว ไม่คำนึงถึงจิตใจของผู้เสียหาย ให้จำคุก 6 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้หนึ่งในสี่ เหลือ 4 ปีครึ่ง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีหมายเลขดำ 506/2548 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายชานนท์ คงรื่นเริง อายุ 26 ปี อดีตพนักงานต้อนรับโรงแรมดังแห่งหนึ่ง เป็นจำเลยในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ กรณีจำเลยลวงเหยื่อ อายุ 22 ปี พนักงานต้อนรับโรงแรมเดียวกัน ไปข่มขืนกระทำชำเรา คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 6 ปี ในทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ในการพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุก 4 ปี 6 เดือน จำเลยยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์ แล้วเห็นว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2548 กลุ่มผู้เสียหายกับจำเลยไปเลี้ยงฉลองปีใหม่ที่ผับแห่งหนึ่งย่านพญาไท ผู้เสียหายดื่มสุราจนเมามายไม่ได้สติ กระทั่งเวลา 01.00 น. วันที่ 8 ม.ค. จำเลยอาสาไปส่งผู้เสียหาย โดยพาขึ้นรถแท็กซี่ไปด้วยความไว้วางใจ เนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมงานกันรู้จักไปมาหาสู่กันได้ราว 3 เดือน ระหว่างเดินทางกลับแฟนหนุ่มของผู้เสียหายพยายามโทรศัพท์สอบถามเป็นระยะ แต่ผู้เสียหายไม่สามารถรับโทรศัพท์เองได้ กระทั่งผู้เสียหายรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อนอนอยู่ในโรงแรมม่านรูดย่านซอยรางน้ำ เมื่อลืมตาขึ้นพบจำเลยพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหายพยายามขัดขืน ร้องขอ แต่จำเลยไม่หยุดการกระทำ หลังจากแยกย้ายกลับบ้าน ผู้เสียหายนำเรื่องไปแจ้งให้แฟนหนุ่มทราบ จึงนำเรื่องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.พญาไท พร้อมส่งตัวไปตรวจร่องรอยข่มขืน
ทั้งนี้ตามที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบา อ้างว่าเป็นการสมยอมนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อพิเคราะห์ตามพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ที่จำเลยอาศัยความมึนเมาของผู้เสียหาย ประกอบกับความไว้เนื้อเชื่อใจ จำเลยปรารถนาร่วมประเวณีเพื่อความสุขของจำเลยเอง อันเป็นความคิดและการกระทำที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว มิได้คำนึงถึงจิตใจของผู้เสียหาย จึงเป็นความผิดที่เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง ที่ศาลชั้นต้น พิพากษามานั้นชอบแล้วศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่าผู้เสียหายยินยอมให้ร่วมประเวณี ขอให้ลงโทษสถานเบานั้น เห็นว่า เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้ชอบแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงผล ฎีกาของจำเลยไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณา ศาลฎีกาไม่รับคดีไว้พิจารณาพิพากษา จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบทความ ลงโทษตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ให้จำคุกเป็นเวลา 4 ปี 6 เดือน
http://www.khaosod.co.th
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2243 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 15 มิ.ย. 54
เวลา 14:51:09
|
