กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สำนักงานชลประทานที่ 1 เผย ล่าสุด สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งของจังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณมากกว่าปี2564 เตรียมพร้อมระบายน้ำภายในเขื่อน เพิ่มพื้นที่รองรับน้ำ หากมีฝนตกหนักลงมาเพิ่มอีก
วันนี้ (16 ส.ค. 65) นายจิรชัย พัฒนพงศา หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 1 เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้ที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีปริมาณน้ำ 209.201 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 78.94 , เขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีปริมาณน้ำ 119.705 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 45.52 , อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 13 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 74.351 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 72.26 , อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก จำนวน 117 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม40.310 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60.88 ทำให้ภาพรวมของปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งหมดของจังหวัดเชียงใหม่ มีมากกว่าปี 2564 ที่ผ่านมา โดยได้มีการคาดการณ์ว่า ภายหลังสิ้นสุดฤดูฝนในปีนี้แล้ว จะทำให้เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีปริมาณน้ำประมาณอยู่ที่ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 99 ของความจุ ส่วนที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จะมีปริมาณน้ำ 132 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 50
ทั้งนี้ จากสถานการณ์พายุ “มู่หลาน” ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ทำให้ปริมาณน้ำปิงไหลเข้าสู่เขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ในปริมาณมาก ซึ่งระดับน้ำสูงขึ้นตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 13 สิงหาคม 2565 และมีระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีระดับสูงสุดเมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 14 สิงหาคม 2565 วัดระดับได้ 3.47 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 0.23 เมตร ดังนั้น สำนักงานชลประทานที่ 1 จึงได้ยกบานประตูของประตูระบายน้ำท่าวังตาล ทั้งหมด 6 ช่อง ให้พ้นน้ำ เพื่อระบายน้ำไปด้านท้ายน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฝ้าระวังปริมาณน้ำหลากที่เคลื่อนตัวผ่านในพื้นที่ พร้อมทั้งให้เปิดช่องทางระบายน้ำศักยภาพสูงสุดทุกแห่ง จนทำให้ปริมาณน้ำหลากที่ไหลผ่านเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ สามารถระบายไปตอนล่างได้อย่างรวดเร็ว ทำให้แม่น้ำปิงไม่เอ่อท่วมถึงระดับวิกฤติที่ 3.70 เมตร อย่างไรก็ตาม หากระดับน้ำปิงที่สถานี P.67 บ้านแม่แต อำเภอสันทราย เพิ่มสูงขึ้นจนถึงจุดวิกฤติที่ 3.80 เมตร จะส่งผลให้ที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ถึงจุดวิกฤติที่ 3.70 เมตร และจะเริ่มมีน้ำท่วมในอีก 7 ชั่วโมง
โดยขณะนี้ปริมาณน้ำได้ไหลลงไปยังพื้นที่ท้ายน้ำทั้งหมดแล้ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้พื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำปิง ในช่วงที่ระบายน้ำหลากผ่าน อาจได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าพื้นที่ ซึ่งทางสำนักงานชลประทานที่ 1 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจตามเส้นทางน้ำ พร้อมประสานให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่บริเวณบ้านเกาะกลาง ชุมชนวัดเกตการาม และบ้านริมปิง ในเขตจังหวัดลำพูน อย่างไรก็ตาม นายจิรชัย พัฒนพงศาหัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 1 ยืนยันว่า หากมีฝนตกหนักลงมาเพิ่มอีก สำนักงานชลประทานที่ 1 สามารถรับมือสถานการณ์ได้ โดยจะได้มีการระบายน้ำในภายในเขื่อนในอัตราที่ไม่ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำอื่นเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการรองรับน้ำ
ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ / ข่าว-ภาพ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|