• สธ. เผยสถานการณ์การติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นชัดเจน เน้นให้กลุ่มเสี่ยง 608 ฉีดวัคซีนโควิด 4 เข็ม |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 05 ธ.ค. 65 เวลา 09:06:49 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
(4 ธันวาคม 2565) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรค โควิด 19 ของประเทศไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ช่วงขาขึ้นของการระบาดลักษณะ Small wave โดยเฉพาะกรุงเทพฯปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยวภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ มีการจัดกิจกรรมคนรวมกลุ่มกันจำนวนมาก จึงแนะนำให้ประชาชนเร่งเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยข้อมูลการศึกษาวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นสายพันธุ์เดิมที่ใช้จริงในประเทศไทย (real world data) ในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติInternational Journal of Infectious Diseases พบว่า วัคซีนจะลดความรุนแรงและการเสียชีวิตลงร้อยละ 89 ในผู้ที่รับวัคซีน 3 เข็ม และกลุ่มที่ได้ 4 เข็ม ไม่พบภาวะรุนแรงหรือการเสียชีวิตเลย ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นยี่ห้อใดก็ตาม
“กระทรวงสาธารณสุขจึงแนะนำให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน 4 เข็ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อลดความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต ขณะนี้วัคซีนได้เตรียมพร้อมแล้วในทุกพื้นที่ รวมทั้งท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีข้อสั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดหน่วยบริการให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้ง่าย และรับบริการได้อย่างสะดวก แม้จะไม่ได้ลงทะเบียนนัดล่วงหน้า จึงขอเน้นย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด 19 อยู่ในช่วงขาขึ้น ประชาชนควรเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังจากเข็มสุดท้าย 4 เดือน อย่างไรก็ตามกรมควบคุมโรค อยู่ระหว่างการหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญถึงเรื่องประสิทธิผลของวัคซีนรุ่นใหม่ หรือวัคซีน 2 สายพันธุ์ ซึ่งหากพบว่าผลการศึกษาสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 อย่างชัดเจน ก็จะเร่งดำเนินการจัดหามาให้บริการประชาชนในปีหน้า” นายแพทย์ธเรศ กล่าว
ด้านศาสตราจารย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมว่า การระบาดของโควิด 19 เป็นไปตามฤดูกาล ในรอบของปีในระลอกนี้ การระบาดจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา และจะขึ้นสูงสุดหลังปีใหม่หรือเดือนมกราคมและจะไปเริ่มลดลงตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป จนเหลือน้อยมากในเดือนมีนาคม และจะไปขึ้นการระบาดรอบใหม่ของปีในฤดูฝนหรือเดือน มิถุนายน ถึงเดือนกันยายน เป็นไปตามฤดูกาลของโรคทางเดินหายใจ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นภูมิต้านทานให้สูงขึ้นในขณะนี้ แทนที่จะรอไปถึงเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ ซึ่งอยู่ในช่วงขาลง สำหรับวัคซีนในบ้านเรา ถึงแม้จะเป็นสายพันธุ์เดิม การกระตุ้นในระดับเซลล์ เพื่อลดความรุนแรงของโรค สามารถทำได้ดีมาก และเนื่องจากการลดความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับจำนวนเข็ม ที่ฉีด มากกว่าชนิดของวัคซีนที่ฉีด ดังนั้นขณะนี้อยู่ในขาขึ้นตามฤดูกาล จึงอยากให้ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน เข็มกระตุ้นอย่างน้อย 4 เข็ม โดยเข้ารับการฉีดให้เร็วที่สุดไม่รอจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ หรือรอวัคซีนรุ่นใหม่
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 284 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 05 ธ.ค. 65
เวลา 09:06:49
|