|
หันมาฝึกสมองกับเทรนด์เกมใหม่ที่ อาจช่วยคนสูงวัยพ้นอัลไซเมอร์
 จากกระแสความนิยมที่ฮิตติดลมบนกันไปทั่วโลก ของเครื่องเกมมือถือแบบพกพา นินเทนโด ดีเอส (Nintendo DS) ที่เป็นเครื่องเกมขายดีขณะนี้ เป็นอันดับที่ 1 ในประเทศญี่ปุ่น (16-22 ต.ค. 2549) จากการสำรวจของมีเดีย ครีเอท ในส่วนของซอฟต์แวร์เกมที่ใช้เล่นกับเครื่อง DS นั้น ก็มีให้เลือกเล่นมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งเกมยิง เกมภาษา เกมกีฬา และเกมวางแผนการรบ รวมทั้งเกมที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ชนิดที่ต้องมีไว้เล่นกัน คือ เกมแนวฝึกสมอง อาทิ Brain Age Train Your Brain in Minutes a Day!, Big Brain Academy และ Nintendogs - Dachshund & Friends ที่เป็นเกมแบบง่ายๆ แต่แฝงไปด้วยแบบทดสอบการใช้สมอง จึงทำให้ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ สามารถเล่นเกมเหล่านี้ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเซียนเกม ขอเพียงแค่ใช้ปากกาสไตลัส ขีด หรือ แตะบนจอทัชสกรีนตามคำสั่งเท่านั้น นายวรวุฒิ วรวิทยานนท์ บรรณาธิการ นิตยสารเมก้า ผู้คร่ำหวอดในวงการวีดิโอเกม ให้ความเห็นว่า เกมฝึกสมองบนเครื่องนินเทนโด DS จะจับเอาเกมปริศนาต่างๆ อาทิ ซูโดกุ เกมจับคู่ เกมออกเสียง มาเป็นแกนหลักแล้วใส่รายละเอียดปลีกย่อยเพิ่ม เป็นเกมง่ายๆ ไม่เน้นกราฟฟิค หรือความซับซ้อนทำเพื่อเล่นให้เกิดความบันเทิงที่เล่นแล้วสนุกต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถเอามาตรวจสอบสมรรถนะของตัวผู้เล่นเองได้ โดยผู้เล่นจะถูกวัดผลทุกครั้งที่เล่นเกมจบ จากที่เมื่อก่อนเกมแบบนี้อยู่บนพีดีเอ เมื่อถูกนำมาทำลงบนเครื่อง DS ทำให้ได้รับความนิยม  บรรณาธิการ นิตยสารเมก้า ให้ความเห็นต่อว่า ด้วยการที่เครื่องนินเทนโด DS มีจอภาพแบบทัชสกรีน และตัวเกมก็ไม่ใช้แนวฮาร์ดคอร์มาก มีภาษาให้เลือกทั้งญี่ปุ่น และอังกฤษ จึงเข้ากับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และทวีปยุโรป ไม่ว่าจะเล่นซูโดกุที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทย เกมบอกชื่อสี ที่ผู้เล่นต้องอ่านออกเสียงชื่อสีที่ปรากฏบนจอภาพใส่ไมโครโฟนบนเครื่อง ในเวลาที่กำหนดเมื่อจบเกมก็จะมีการประเมินผลให้ผู้เล่นทราบ ทั้งนี้อารมณ์ในการเล่นจะคล้ายกับเกมทามาก็อตจิ เนื่องจากใช้เวลาเล่นไม่นานทำให้กลายเป็นกิจวัตรของผู้เล่นทุกคนไปโดยปริยาย นายวรวุฒิ ให้ความเห็นอีกว่า สำหรับผู้เล่นคนไทยเท่าที่สังเกตถ้ามีเครื่องนินเทนโด DS ก็มักจะมีเกมเหล่านี้ไว้เล่นเองทุกคน อีกทั้งผู้ผลิตเกมในต่างประเทศก็มีแนวโน้ม ที่จะหันมาผลิตเกมแนวฝึกสมองมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่กว้างคนทั่วไปเล่นได้หมด เข้าใจรูปแบบการเล่นได้ไม่ยาก และยังช่วยเสริมทักษะการใช้สมองด้วยจากที่กล่าวมานี้ จึงสอดคล้องกับแนวคิดของนินเทนโดที่นำไปใช้ในการผลิตเครื่องเกม จนได้การยอมรับและเป็นที่นิยมจากผู้เล่นเกมนั่นเอง  ด้าน นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอ็คทีฟ จำกัด ให้ความเห็นในฐานะผู้เล่นและผู้พัฒนาเกมว่า ในอันดับเกมขายดีของเครื่องเกมนินเทนโด DS ทั่วโลก จะต้องมีเกมฝึกสมองติดอันดับด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็น Brain Age Train Your Brain in Minutes a Day!, Big Brain Academy หรือเกมอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน ที่นำเอาแบบทดสอบทั้งความจำ การวิเคราะห์ การสังเกต การคิดคำนวณ และการใช้ตรรกวิทยา มาให้ผู้เล่นได้ตรวจสอบใถึงจุดเด่นและจุดด้อยในเรื่องต่างๆ ผอ.ฝ่ายการตลาด บ.ไซเบอร์แพลนเน็ตฯ ให้ความเห็นเสริมว่า จากที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนที่เล่นเกมบ่อย พอมาจับเครื่อง DS แล้วเล่นเกมนี้ ก็รู้สึกว่าเกมมีประโยชน์ เล่นแล้วเพลิน อีกทั้งยังสามารถทดสอบตัวเองได้ ทำให้เห็นแนวโน้มของเกมประเภทนี้ว่ากำลังมาแรง เมื่อก่อนหากพูดถึงวีดีโอเกม เครื่องเกมพกพา มักจะถูกมองเป็นของเล่น หรือของเด็กๆ แต่ในประเทศญี่ปุ่น มีคนเล่นทุกเพศทุกวัย คนทำงานนั่งอยู่บนรถไฟก็งัดเอา DS ออกมาเล่นเกมแบบนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้เกมแบบนี้เล่นกันได้ทั้งครอบครัว  “คนทำงานวัยหนุ่มสาวที่ใช้สมองคิดตลอดเวลา เมื่อต้องมีการคิดวิเคราะห์อะไรก็มักจะคิดออก เพราะได้ฝึกฝนสมองให้คิดอยู่เสมอ แต่ถ้าเป็นคนสูงอายุ วัยเกษียนที่วางมือจากการทำงานไปแล้ว ไม่ได้คิดไม่ได้ใช้สมองนาน เมื่อต้องมาคิดหรือนั่งทำงานก็อาจจะคิดไม่ออก หลงๆ ลืมๆ การที่ได้เล่นเกมฝึกสมองที่เป็นแนวแคชชวลเกม ทำให้ได้ผ่อนคลายความเครียด ได้ฝึกสมอง จึงเหมาะกับคนทำงาน และผู้สูงอายุมาก เพราะได้ผ่อนคลายจริงๆ มากกว่าเกมแบบฮาร์ดคอร์ที่ยิงกันเลือดสาด ที่เล่นแล้วอาจเครียดหนักกว่าเดิม” นายชนินทร์ กล่าว ผอ.ฝ่ายการตลาด บ.ไซเบอร์แพลนเน็ตฯ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สำหรับโอกาสแจ้งเกิดของเกมฝึกสมองในประเทศไทยนั้น ต้องเข้าใจว่าตลาดเกมเป็นตลาดใต้ดินมาตลอด จึงอยู่ในวงแคบมากและรู้จักกันแค่ในหมู่นักเล่นเกม ที่รู้ว่าไปหาซื้อเครื่องนินเทนโด DS และตลับเกมได้ที่ไหน แต่ถ้าวันใดที่ธุรกิจนี้ขึ้นมาบนดิน มีการโปรโมทแบบถูกต้องตามกฎหมายในราคาที่เหมาะสม ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เห็นและรู้จักเกมแบบนี้คงดี รวมทั้งการแนะนำขายให้ผู้สูงอายุได้เล่นเพื่อฝึกสมอง ทำให้เล่นเข้าขากับลูกหลาน กลายเป็นการลดช่องว่างระหว่างวัยไปในตัว เพราะคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกันนั่นเอง  ทั้งนี้ IT Digest พบข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ http://www.thaihealth.or.th/news.php?id=1563&PHPSESSID=a375f5af6a28785a46cf9f484493f684 ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่า จากปี 2550 ที่จะถึงนี้ นับเป็นปีที่ครบรอบ 100 ปีของการค้นพบผู้ป่วย “โรคอัลไซเมอร์” โรคที่พบบ่อยว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สมองเสื่อม โดยในประเทศแถบตะวันตกพบว่า โรคอัลไซเมอร์เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมสูงถึง 50-60% และข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.thaihealth.or.th/news.php?id=816&PHPSESSID=a375f5af6a28785a46cf9f484493f684 ที่ระบุอีกว่า ขณะนี้ ในประเทศไทยมีผู้สูงอายุที่มีภาวะสุขภาพดีมีไม่ถึง 50% พบปานกลาง 30% และอีก 20% มีสุขภาพไม่ดี มีโรคประจำตัวอย่างน้อยคนละ 1 โรค โดยโรคของผู้สูงอายุที่เป็นโรคไม่ติดต่อ อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง สมองเสื่อม มีมากขึ้นถึง 85.2%อาการที่พบบ่อย ได้แก่ การปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดหลัง ปวดข้อ ข้อเสื่อม นอนไม่หลับ โรคเกี่ยวกับตา ความจำเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์  จากที่กล่าวมา จึงมีความจำเป็นที่จะต้องออกกำลังสมอง โดยการทำในสิ่งใหม่ ๆ คิดอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ เช่น การฟังเพลง การร้องเพลงแนวใหม่แตกต่างจากที่เคยทำ การหัดใช้คอมพิวเตอร์ หัดเล่นโปรแกรมต่าง ๆ ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเป็นการพัฒนาหน่วยความจำในสมอง โดยในปัจจุบันใช้สมองกันไม่ถึง10% ในขณะที่สมองสามารถพัฒนาได้อีก 90% เป็นเรื่องดีถ้าหากผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านเฉยๆ จะมีอุปกรณ์อะไรที่มาช่วยฝึกสมองให้ได้ใช้งาน เพื่อไม่ให้สมองฝ่อเพราะไม่ได้ถูกใช้งาน และบางทีเครื่องนินเทนโด DS ที่เห็นว่าเป็นของเด็กเล่น ก็อาจเป็นเครื่องป้องกันโรคอัลไซแมอร์ในผู้สูงอายุก็ได้ เพราะเกมฝึกสมองสามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย ติดอยู่แค่ราคาเครื่องที่ยังแพงอยู่ แต่ถ้าลงทุนประมาณ 6,000 บาทแล้ว ปู่ ย่า ตา ยาย มีสุขภาพแข็งแรง ก็อาจจะคุ้มค่ากับการลงทุน... จุลดิส รัตนคำแปง itdigest@thairath.co.th
บทความจาก : ไทยรัฐ
|
|
