|
|
บันทึก ณ วันที่ 15 ต.ค. 57 เวลา 15:32:25 |
|
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยหนี้ครัวเรือนพุ่งกระฉูด ทะลุ 85% ขยับเพิ่มปีละ 1% แนะ ธปท. คงดอกเบี้ย วอนภาครัฐดูแลหนี้สินของภาคการเกษตร เพราะมีรายได้ไม่สม่ำเสมอและมีหนี้สินจำนวนมาก
วันนี้ (15 ตุลาคม 2557) นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยถึงระดับหนี้ครัวเรือนไทยว่า ขณะนี้ยังไม่ลดลงและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในอัตราระดับทรงตัว หรืออาจจะขยับในอัตราเพิ่มที่ลดลง แต่ทั้งนี้เชื่อว่าอัตราเพิ่มหนี้ครัวเรือนจะขยับขึ้นอย่างต่ำปีละ 1% ส่วนปัจจุบันหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 85% เพิ่มจากเมื่อต้นปีซึ่งอยู่ที่ 83%
สำหรับ ระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นนั้น เป็นปัญหาในเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยที่สะสมมานาน และประชาชนก็ยังมีภาระจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นสินเชื่อสูงระดับ 30-40% ของรายได้ ถือว่าเป็นหนี้ในระดับสูงเลยทีเดียว ถึงแม้จะมีการประมาณการว่าในปีหน้า (2558) เศรษฐกิจไทยจะเริ่มดีขึ้น แต่ประชาชนก็ยังต้องใช้จ่ายตลอดเวลา จึงไม่ควรปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เพราะอัตราดอกเบี้ยทรงตัวระดับ 2% ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด และกรอบเงินเฟ้ออยู่ระดับ 3%
นายเชาว์ กล่าวต่อว่า กลุ่มที่น่าเป็นกังวลที่สุดต่อการก่อหนี้ใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้เก่า ก็คือภาคการเกษตร เพราะมีรายได้ไม่สม่ำเสมอและมีหนี้สินจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ภาครัฐต้องเร่งแก้ไขให้เกษตรกรเข้าถึงสินเชื่อ ได้รวดเร็วและมากขึ้น สำหรับภาระการชำระหนี้ประชาชนอยู่ที่ 30% ตนมองว่า ธนาคารพาณิชย์ควรความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้ภาคครัวเรือนมากขึ้น และอีก 2 ปีข้างหน้า ภาคครัวเรือนจะรับบทหนักในเรื่องหนี้ครัวเรือนมากขึ้นไปอีก หากอัตราดอกเบี้ยมีนโยบายขึ้นไปถึงระดับ 3.5%
ขณะที่ นางอัมพวัน พิชาลัย ที่ปรึกษาการพาณิชย์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายน 2557 มีค่า 45.8 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนสิงหาคม ที่มีค่า 44.0 ซึ่งเป็นการปรับตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และสูงที่สุดในรอบ 115 เดือน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) มีค่า 49.2 ถึงแม้ว่าดัชนีทุกรายการจะมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงดับที่ระดับ 50 ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อ ภาวะเศรษฐกิจ เพราะกังวลต่อปัญหาค่าครองชีพ การชะลอตัวของเศรษฐกิจ ตัวเลขการว่างงานเพิ่มขึ้น ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว รวมถึงสินค้าเกษตรตกต่ำ นอกจากนี้ นางอัมพวา กล่าวว่า ความคาดหวังที่มีต่อรายได้ในอนาคตปรับตัวสูงสุดในรอบ 20 เดือน อยู่ในระดับ 53.3 สูงกว่า แสดงว่าผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อรายได้ในอนาคต และคาดหวังว่าการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใหม่จะช่วยแก้ปัญหาระบบ เศรษฐกิจให้ดีขึ้น ส่วนการวางแผนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงรถยนต์ใน 6 เดือนข้างหน้ายังไม่สูงขึ้นเท่าไร เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอรายจ่ายและปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
|
|
|
|
|
|