 ถ้าจะว่าถึงการจัดนิทรรศการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและการโทรคมนาคมที่ยิ่งใหญ่ในระดับโลกแล้ว คงหนีไม่พ้นที่จะต้องนึกถึงงาน “ซิบิท” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี และเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เพราะจัดแสดงต่อเนื่องมาแล้วมากกว่า 20 ปี และเป็นงานที่ผู้ผลิตจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกนำเอาอุปกรณ์สื่อสารชั้นนำมาจัดแสดงควบคู่ไปกับการประชุมทางวิชาการในหัวข้อต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ถ้าตีวงให้แคบลงมาเฉพาะในทวีปเอเชียเท่านั้น หลักๆ จะมีอยู่ 2 งาน คือ “คอมมูนิค เอเชีย” ณ ประเทศสิงคโปร์ ที่จัดต่อเนื่องมาแล้วมากกว่า 18 ปี และงาน “ไอทียู เทเลคอม” โดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ไอทียู ที่มีการสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดงานอยู่เพียงไม่กี่ประเทศด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ ขณะที่ประเทศไทย โดยหลายๆ รัฐบาลที่ผ่านมา ก็เคยเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดงานมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จ จนเมื่อกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ไอทียูได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้จัดงาน “ไอทียู เทเลคอม เอเชีย 2008” ระหว่างวันที่ 2-5 ก.ย. 2551 ต่อเนื่องกับในประเทศไทยที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. และสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเป็นเจ้าภาพจัดงานในอีก 1 ปีข้างหน้าอย่างเป็นทางการ  ในวันนั้น นายสิทธิชัย โภไคยอุดม อดีต รมว.ไอซีที ที่ปฏิบัติหน้าที่ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 2-5 ก.ย. 2551 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน “ไอทียู เทเลคอม เอเชีย 2008” งานแสดงนิทรรศการและการประชุมสัมมนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ณ อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ โดยงานครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศไทย เพราะจะมีผู้นำและบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกเข้าร่วม
“นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานไอทียู เทเลคอม เอเชีย 2008 ยังถือเป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้แลก เปลี่ยนมุมมอง รวมทั้งความคิดและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โดยเชื่อว่า งานครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่จะกระตุ้นให้วงการโทรคมนาคมไทยเกิดความคึกคักและตื่นตัว แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก เพราะเชื่อว่า ปัจจัยหลักน่าจะอยู่ที่การออกใบอนุญาต 3 จี ให้กับผู้ประกอบการมากกว่า” อดีต รมว.ไอซีที กล่าวเอาไว้ ด้าน ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. กล่าวว่า ประเทศไทยต้องแข่งขันกับประเทศเกาหลีใต้ ที่เคยเป็นเจ้าภาพจัดงานไอทียู เทเลคอม เอเชีย 2004 เพื่อแย่งชิงการเป็นเจ้าภาพจัดงานไอทียู เทเลคอม เอเชีย 2008 อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นทั้งต่อประเทศไทย รัฐบาลและภาคธุรกิจต่างๆ ประธาน สสปน. กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ ว่า คาดว่า ตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 5 วัน จะมีผู้จัดงานจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมงานประมาณ 500-600 คน และน่าจะมีผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน ไม่รวมคนไทย โดยคาดว่า จะสามารถสร้างรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท เพราะผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศเหล่านี้ เป็นชาวต่างชาติที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูง  ส่วนข้อเสนอในการสนับสนุนงานจากไอทียู ม.ร.ว.ดิศนัดดา ให้ข้อมูลว่า ประกันค่าเช่าพื้นที่ 8,000 ตารางเมตร เพื่อจัดไทยแลนด์พาวิลเลี่ยม โดยทางไอทียูจะให้ส่วนลด 30% ของค่าเช่าพื้นที่ นอกจากนี้ ยังให้เงินสนับสนุนเช่าสถานที่ 600,000 เหรียญสหรัฐฯ เงินประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศและภูมิภาค 300,000 เหรียญสหรัฐฯ เงินประชาสัมพันธ์ภายในประเทศ 500,000 เหรียญสหรัฐฯ และบัตรโดยสารเครื่องบินชั้นประหยัดสูงสุด 40 ใบ ในฐานะเจ้าภาพ
“ยังไม่หมดแค่นี้ ในฐานะเจ้าภาพจัดงานไอทียูยังจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามจริงในการเลี้ยงต้อนรับคณะวีไอพี สื่อมวลชน ผู้ร่วมงาน รวมถึงการสนับสนุนการจัดพิธีเปิด ส่วน สสปน. จะสนับสนุนพื้นที่ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชัลแนล ไอซีที เอ็กซ์โป 2007 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 16-20 พ.ย.นี้ แก่ไอทียูเพื่อทำบูธประชาสัมพันธ์ และค่าใช้จ่ายที่ไทยต้องรับผิดชอบประมาณ 50-60 ล้านบาท” ประธาน สสปน. ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ทางด้าน นายไกรสร พรสุธี ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายกสมาคมโทรคมนาคมฯ เล่าว่า ในสมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัยและรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประเทศไทยมีความพยายามขอเป็นเจ้าภาพในงานไอทียู แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยไอทียูได้ไปจัดงานไอทียู เทเลคอม เอเชีย 2004 ที่เกาหลีใต้ และจัดงานไอทียู เทเลคอม เวิร์ล 2006 ดังนั้น จึงต้องชมเชย สสปน. อย่างยิ่งที่ทำให้ไอทียูเลือกประเทศไทยจัดงานไอทียู เทเลคอม เอเชีย 2008 “ปี 2004 ไทยได้ไปแข่งขันกับ 5 ประเทศ เพื่อจัดเทเลคอม เอเชีย จนเหลือ 2 ประเทศ คือ เกาหลีใต้กับไทย จนไปคุยกันรอบสุดท้ายและมั่นใจว่า ไทยได้จัดแน่ แต่ด้วยเหตุผลต่างๆ ทำให้เกาหลีใต้โน้มน้าวใจไอทียูเลือกเกาหลีใต้ได้ โดยเกาหลีใต้พูดว่า สู้แบบเลือกโชก อันเป็นสาเหตุให้ไทยต้องกลับมาจัดงานไอซีที เอ็กซ์โปเป็นครั้งแรกเพื่อประกาศศักยภาพ ที่ประสบความสำเร็จและจัดต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้” นายกฯ ส.โทรคมนาคมฯ เล่าเพิ่มเติม  สำหรับความคืบหน้าการจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชัลแนล ไอซีที เอ็กซ์โป 2007” นายสือ ล้ออุทัย รองปลัดกระทรวงไอซีที รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงไอซีที ระบุว่า มีความคืบหน้าโดยรวมมากกว่า 80% โดยจะจัดร่วมกับงาน “ไทยแลนด์ แอนิเมชั่น แอนด์ มัลติมีเดีย” หรือ แทม เพื่อให้งานดูยิ่งใหญ่และคึกคักมากขึ้นบนพื้นที่จัดงานที่ลดลง รวมทั้งเพื่อช่วยเหลือบริษทซอฟต์แวร์ให้มีโอกาสได้แสดงผลงาน
รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงไอซีที ยังระบุอีกว่า งานไอซีที เอ็กซ์โป 2007 กำหนดจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Towards a Sustainable ICT Ecosystem: ICT เชื่อมโยงชีวิตและชุมชน...บนวิถีแห่งความพอเพียง” ณ ห้องจูปิเตอร์ 11-13 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 15-20 พ.ย.2550 โดยงาน 2 วันแรกจะเป็นการเจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการต่างๆ ส่วนอีก 3 วันที่เหลือจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงาน ทั้งหมดนี้ เป็นข่าวดีที่ประเทศไทยได้รับเลือกจากไอทียูให้เป็นเจ้าภาพจัดงานไอทียู เทเลคอม เอเชีย 2008 ระหว่างวันที่ 2-5 ก.ย. 2551 ขณะเดียวกันก็ต้องรอลุ้นและเป็นกำลังใจให้ สสปน. และกระทรวงไอซีทีว่า จะสามารถจัดงานให้เทียบชั้นประเทศเจ้าภาพอื่นๆ และได้รับการยอมรับจากนานาชาติหรือไม่ เพราะจะว่าไปแล้วนอกจากในวันแถลงข่าวการได้รับเป็นเจ้าภาพจัดงานอย่างเป็นทางการข่าวคราวเกี่ยวกับงานครั้งนี้ ก็ดูจะเงียบหายไปไปกับสายลมทันที... ณัฐพล ทองใบใหญ่
itdigest@thairath.co.th | 
