|
|
|
|
 ผ่านไปได้ 4 วันแล้วกับ งานบางกอก ไอซีที เอ็กซ์โป 2007 ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 16-20 พ.ย.2550 ที่อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 16-17 พ.ย.ที่ผ่านมาเป็นวันเจรจาธุรกิจ ส่วนประชาชนทั่วไปจริงๆ จะอยู่ในวันที่ 18-20 พ.ย.โดยในรอบสื่อมวลชน คือ วันที่ 15 พ.ย.ภาพข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆ อาจจะมองดูว่างานไอซีทีฯ ปีนี้กร่อย เงียบเหงา ไม่น่าเดินทางไปดู หรือชมเหมือนกับการจัดงานครั้งที่ผ่านๆ มา แต่เท่าที่ดูรอบๆ งานหลายๆ บูธยังจัดไม่เรียบร้อย ทั้งในส่วนของไอซีที เอ็กซ์โป และงาน ไทยแลนด์ แอนิเมชั่น แอนด์มัลติมีเดีย 2007 หรือ TAM 2007 ที่ปีนี้รัฐบาลตัดสินใจนำมาจัดรวมกันที่เดียว เท่าที่ดูจากตารางการจัดงานไฮไลท์สำหรับคนไอที น่าจะอยู่ที่งานสัมมนาที่ผ่านไปไม่กี่วันที่ผ่านมา เพราะ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ลงทุนดึงเอาบุคคลที่มีอิทธิพลต่อโลกอินเทอร์เน็ตยุค 2.0 อย่าง นายจิมมี่ ดอนัล จิมโบเวลล์ ผู้ก่อตั้งสารานุกรมออนไลน์ชื่อดัง ที่คนทั่วโลกสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างเนื้อหา วิกิพีเดีย (Wikipedia) รวมไปถึงวิทยากรจากบริษัทด้านระบบสื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงเครือข่ายไอทีชั้นนำเช่น ควอลคอมม์ โมโตโรล่า และ ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ที่เข้ามาแบ่งปันทิศทางของเทคโนโลยีที่คนกำลังจะมุ่งไปในอนาคตอันใกล้ รูปแบบการจัดงานในปีนี้อาจจะไม่ถูกใจประชาชนทั่วไปนัก ในเรื่องของการขายสินค้าไอที เพราะทางนายสือ ล้ออุทัย รองปลัดกระทรวงไอซีที ก็ได้ระบุไว้ตั้งแต่เริ่มงานแล้วว่า งานในปีนี้มุ่งไปทางด้านการ Trade มากกว่า Consumer คือ เน้นไปที่การจัดสัมมนา ICT Forum ที่มีวิทยากรจากต่างประเทศถ่ายทอดประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความรู้ให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง และนำไปสู่การพัฒนาที่ยังยืนแก่อุตสาหกรรมไอซีทีของประเทศไทย  อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจสำหรับประชาชนทั่วไป คงจะไปอยู่ที่บูธของบริษัทเอกชนต่างๆ ที่ร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีในงานครั้งนี้ ก็แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นบริษัท ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม คือ ทีโอที กสท เอไอเอส ดีแทค ทีทีแอนด์ที ฮัทช์ และกลุ่มทรู แต่ที่ขาดไม่ได้ก็ คือ การจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพในด้านการสื่อสาร ที่คนไทยทุกคนต้องไม่พลาดที่จะแวะชม ในส่วนของการจัดงานหน่วยงานอย่าง ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กำลังสำคัญในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ได้ร่วมจัดแสดงผลงานที่พัฒนาขึ้นหลายตัวที่น่าสนใจ ได้แก่ การพัฒนา รถสื่อสารฉุกเฉินเพื่อสังคมไทย รุ่นที่ 2 ให้รองรับการเคลื่อนย้ายทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์ชินุค (CH-47D) เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ในการเคลื่อนย้ายรถสื่อสารฉุกเฉินฯ เข้าไปในพื้นที่ที่การคมนาคมทางพื้นดินถูกตัดขาด และผ่านการทดสอบด้วยเฮลิคอปเตอร์จริงแล้ว โปรแกรม DentiPlan ซอฟต์แวร์ช่วยวางแผนการผ่าตัดรากฟันเทียม ด้วยภาพที่ได้จากเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ และมีความถูกต้องมากกว่าเครื่อง X-Ray แบบธรรมดา โปรแกรมรู้จำป้ายทะเบียนรถ ที่นำมาช่วยในการจัดการรถเข้าออกสถานที่ ทำให้การตรวจสอบรถ และการควบคุมการเข้าออกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบTraffic information Services: TISเป็นการส่งเสริมการให้ข้อมูลแก่ผู้เดินทาง ได้แก่ การให้ข้อมูลก่อนการเดินทาง การให้ข้อมูลระหว่างการขับขี่ การให้ข้อมูลระหว่างการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ การบริการข้อมูลส่วนบุคคล การแนะนำเส้นทางและระบบนำทาง และ การสนับสนุนการวางแผนการขนส่ง  โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการทดสอบและตรวจวัดคุณภาพซอฟต์แวร์ เพื่อให้เหมาะสมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรืองานวิจัย เหมาะแก่ผู้พัฒนานำกลับไปปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานก่อนออกสู่สาธารณะ โปรแกรม เล็กซ์ซิตรอน พจนานุกรมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไทย-อังกฤษ บนเครือข่ายภายในสำนักงาน การนำเทคโนโลยี RFID มาประยุกต์ใช้งาน โดยออกแบบสถาปัตยกรรมระบบข้อมูลพื้นฐานการปศุสัตว์ เพื่อการตรวจสอบย้อนกลับ และบริการบูรณาการเทคโนโลยีภาษา (HLT Total Service) เทคโนโลยีภาษา ที่เนคเทควิจัยและพัฒนามานาน และมีผลผลิตจำนวนไม่น้อยที่นำมาประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ด้าน บริษัท ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ก็ได้เปิดตัว Cisco Express-Network on Wheels (NoW) รถสาธิตเทคโนโลยีระบบเครือข่ายเคลื่อนที่ของซิสโก้ ที่มีต้นแบบจากประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ภายในตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุตที่จัดทำขึ้นด้วยเงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาท ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการจากซิสโก้และคู่ค้า ที่เป็นพันธมิตรระดับภูมิภาค เช่น CNA, EMC, Emerson Network Power, Linksys, Panduit และ SingTel โดยรถคันนี้จะเริ่มออกเดินทางจากสิงคโปร์ไปสู่ 30 เมืองใหญ่ใน 6 ประเทศ ได้แก่ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และไต้หวัน Cisco Express-NoW ถูกออกแบบเป็นพิเศษเพื่อขยายขีดความสามารถของซิสโก้ เพื่อสะท้อนแนวทางของ “Cisco Connected Life – เชื่อมทุกจังหวะชีวิต” โดยนำเสนอโซลูชั่นส์ต่างๆ ให้กับธุรกิจเพื่อให้สามารถสะท้อนภาพการนำเทคโนโลยีมาใช้ประยุกต์ธุรกิจอย่างชาญฉลาด เพียงเดินเข้าไปชมก็จะพบกับการสาธิตเทคโนโลยี ระบบสื่อสารแบบครบวงจร หรือ Unified Communications ที่ย่อโลกให้คนที่อยู่ต่างทวีปได้พูดคุยกัน หรือจะลองใช้โซลูชั่นการทำงานร่วมกันผ่านเครือข่ายไอพีก็ย่อมได้ ทั้งนี้ซิสโก้ได้ หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ พิธีกรไอทีอารมณ์ดี มาอธิบายเรื่องยากให้กลายเป็นของใกล้ตัว  ขณะที่ เมื่อหันไปดูค่ายมือถือ เอไอเอส ก็ขนเอานวัตกรรมและบริการพิเศษมาแนะนำให้ลองใช้ทั้งเสียง และดาต้า ในรูปแบบของการเป็นผู้ให้บริการระบบสื่อสารครบวงจร ดีแทค ก็นำเสนอบริการสื่อสารในรูปแบบที่ง่ายๆ เหมือนเลือกซื้อไอศกรีม ที่ช่วยให้ลูกค้าและผู้เข้าชมงานรู้สึกดีกับประสบการณ์ใหม่ๆ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) ก็เปิดบูธศักยภาพด้าน IPTV บริการ Maxnet อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่ให้ความเร็วสูง กับระบบเครือข่ายที่มีความทันสมัยFTTX รวมถึงเปิดให้ลองใช้บริการโทรศัพท์ฟรีทั่วโลกผ่านบริการ Call Café บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ก็มาแนะนำบริการบรอดแบนด์ โทรศัพท์พื้นฐาน และเกมออนไลน์สุดฮิต เทลส์ รันเนอร์ ด้าน CAT Telecom หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ก็นำเอาบริการเทคโนโลยีการสื่อสารมาจัดแสดงในแนวคิด “The Circle of Life” บริการธุรกิจอินเทอร์เน็ต มือถือระบบ CAT CDMA, CAT Telecom R&D Zone ที่นำเสนอ 2 นวัตกรรมที่จะตอบความต้องการของคนรุ่นใหม่ในอนาคต เช่น i-Taxi ที่สามารถค้นหาแท็กซี่ และแสดงตำแหน่งผู้เรียกมากที่สุด รวมถึง CAT Buzz TV ที่เป็นระบบสื่อมัลติมีเดียบนรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ที่ได้นำมาให้บริการ รับ-ส่งผู้เข้าชมงานที่หน้าอาคารชาแลนเจอร์ 3 ด้วย ขณะที่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เจ้าแห่งการสื่อสารแบบคอนเวอร์เจนซ์ ที่มาแนะนำบริการที่ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ บนแนวคิด Eco-Chic ที่เน้นการใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้ มาตกแต่งบูธเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน โดยจะมีการสาธิตการนำเอาเทคโนโลยีไวไฟ ผสานกับไวแม็กซ์ กับ 3G ร่วมกับทางอินเทลในการเชื่อต่อบรอดแบนด์ไร้สายกับโน้ตบุ๊ค 100 เหรียญหรือ OLPC การนำเสนออินเทอร์เน็ตคาเฟ่รูปแบบใหม่ การสร้างสรรค์ชุมชนออนไลน์ และ E-commerce Life ที่มีการนแนะนำนวัตกรรม RFID SIM สำหรับการชำระเงินผ่านมือถือ รวทมถึงการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น  จะว่าไปเท่าที่เล่ามายังถือว่าเดินไม่หมดทั้งงาน เพราะยังมีส่วนการสัมมนาและงานแทม 2007 ที่ยังน่าสนใจมาก เพราะคราวนี้มีบริษัทด้านแอนิเมชันและมัลติมีเดียจากต่างประเทศเข้าร่วมด้วย รวมไปถึงมุมสัมมนา ที่มีวิยากรมืออาชีพมาถ่ายทอดประสบการณ์ มีตัวอย่างแอนิเมชันที่คนไทยกำลังพัฒนาใหม่ๆ มากมาย และยังได้มีโอกาสพบกับตัวละครต่างๆ มากมายภายในส่วนขิงงาน TAM 2007 อีกด้วย ดังนั้นถ้ามีเวลาใน 2 วันสุดท้ายนี้อยากให้ลองไปเดินดูงานไอซีที เอ็กซ์โป 2007 ดูบ้าง ครั้งนี้จะต่างจากครั้งก่อนที่เทคโนโลยีที่เคยเป็นแนวคิด หรือต้นแบบ ในคราวนี้ถูกทำเป็นตัวอย่างบริการที่คนทั่วไปสามารถเข้าไปสัมผัส หรือ ลองหาประสบการณ์จากการใช้งานได้แบบถึงเนื้อ ถึงตัว ไม่ซื้อไม่ใช้ก็ไม่ว่า ขอให้ไปลองดูเพราะทุกบูธเปิดโอกาสให้ลองกันเต็มที่ ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยกันก่อนที่จะได้ใช้จริงในปีหน้า งานนี้มนต์เสน่ห์ยังคงมีอยู่ ไม่ต้องคิดมาก หรือลังเลถ้าจะไปดูในเทคโนโลยีที่สนใจ เพราะถ้าไม่มีในงานนี้จริงๆ คนที่ยืนคุยกับคุณก็ตัวจริงในวงการทั้งนั้น ติดต่อขอข้อมูลเพิ่ม หรือนัดไปดูงานภายหลังก็ได้... จุลดิส รัตนคำแปง itdigest@thairath.co.th
|
|
| |
|
|
|
