จากกรณีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ได้ทำหนังสือขอความชัดเจนจากกรมบัญชีกลางกรณีคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างบัตรประจำตัวประชาชนเอนกประสงค์ หรือ สมาร์ทการ์ด ล็อต 2 จำนวน 13 ล้านใบ มูลค่า 960 ล้านบาท มีความคิดเห็นไม่ตรงกับ นายไกรสร พรสุธี ปลัดกระทรวงไอซีที ที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการ ในประเด็นการเลือกผู้ชนะการประมูล โดยคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างฯ เลือกกิจการร่วมค้าเอ็มโอซีเอสที่เสนอราคา 540,800,000 บาท ขณะที่หัวหน้าส่วนราชการเลือกบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุด คือ กิจการค้าร่วมเอชเอสทีที่เสนอราคา 486,850,000 บาทนั้น นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางพิจารณาเรื่องดังกล่าว พบว่า มีปัญหาจริงจึงได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงไอซีที โดยยึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดซื้อพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ๊อคชั่น) พ.ศ. 2549 ข้อ 10 วรรค 4 ที่กำหนดไว้ว่า คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องรายงานผลการประมูลต่อหัวหน้าส่วนราชการภายใน 3 วัน แต่หากหัวหน้าส่วนราชการไม่เห็นด้วยให้หัวหน้าส่วนราชการสั่งยกเลิกการประมูลนั้น รวมทั้งแจ้งกลับคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างและผู้ประมูลทราบภายใน 3 วัน อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า กรมบัญชีกลางพิจารณาโครงการจัดซื้อสมาร์ทการ์ด 13 ล้านใบแล้ว พบว่า มีปัญหาจริง ขณะเดียวกันยังได้นำข้อมูลจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ที่มีการอ้างว่า การจัดซื้อสมาร์ทการ์ดมีการทุจริตมาประกอบการพิจารณาด้วยจึงได้ส่งหนังสือตอบกลับไปยังกระทรวงไอซีทีตามที่ได้ขอความชัดเจนมา นอกจากนั้น กรมบัญชีกลางยังจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับ สตง. ตรวจสอบต่อไป ด้านนายไกรสร กล่าวว่า เมื่อกรมบัญชีกลางเห็นชอบให้ยกเลิกการจัดซื้อสมาร์ทการ์ดล็อตที่ 2 กระทรวงไอซีทีก็ต้องยกเลิก และดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ ส่วนจะเป็นเมื่อไรคงจะต้องรอหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีคนใหม่ก่อน แต่แน่นอนเมื่อต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างใหม่การส่งมอบก็ต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมด้วย สำหรับการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างบัตรประจำตัวประชาชนแบบแถบแม่เหล็ก จำนวน 1.5 ล้านใบ ด้วยวิธีพิเศษ เพื่อใช้ทด แทนสมาร์ทการ์ด นายธานี สามารถกิจ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ลงนามจัดซื้อบัตรแถบแม่เหล็กจาก บริษัท ดาต้า โปรดักส์ ทอปปังมัวร์ แล้ว โดยจะได้รับมอบบัตรชุดแรก จำนวน 200,000 ใบ ในอีก 2 สัปดาห์ หลังจากนั้น จะทยอยส่งมอบครั้งละ 500,000 ใบ 2 ครั้ง และ 300,000 ใบ อีก 1 ครั้ง โดยคาดว่า จะเพียงพอต่อการใช้งานจนกว่าจะได้รับมอบสมาร์ทการ์ดล็อตที่ 2 |