อีริค ชมิดท์ ผู้ก่อตั้งกูเกิล ยอมรับข่าวที่แพร่สะพัดออกไปว่ากูเกิลกำลังคิดซื้อกิจการหนังสือพิมพ์นั้นเป็นเรื่องจริง แต่ สุดท้ายก็ไม่ได้เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก แถมยังต้องแบกรับหนี้ที่พ่วงติดมากับสื่อนั้นด้วย
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชี่ยลไทม์รายงานว่า อย่างไรก็ตาม อีริค ชมิดท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทกูเกิล อิงค์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า แต่ก็มีข้อขัดแย้งทันที เนื่องจากกิจการหนังสือพิมพ์ที่จะซื้อมีมูลค่าค่อนข้างสูง และมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก
ชมิดท์กล่าวอีกว่า กูเกิลกำลังพยายามรักษาขอบเขตการทำธุรกิจให้ชัดเจน ไม่ข้ามเส้นระหว่างการเป็นผู้ให้บริการทางเทคโนโลยีและการให้บริการทางข้อมูล (Content) ที่สุดแล้ว แทนที่จะเข้าซื้อกิจการ กูเกิลจึงกำลังยื่นมือเข้าไปช่วยสำนักพิมพ์ที่ประสบปัญหาด้านการเงินและการบริหารจัดการ ให้คำแนะนำปรับปรุงเว็บไซต์ข่าวให้รองรับการโฆษณาออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ชมิดท์ยังเปิดเผยสิ่งที่เขาบอกว่าเป็น "ไอเดียที่ชาญฉลาด" ในการให้ความช่วยเหลือหนังสือพิมพ์ โดยใช้เงื่อนไขขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรผ่านมูลนิธิกูเกิล.ออค (google.org) อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิดขึ้นมีทางเดียว นั่นคือหนังสือพิมพ์ดังกล่าวต้องมีปัญหาทางการเงินถึงขั้นสูงสุด จนต้องขอล้มละลาย
ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวอย่างน้อย 2 ชิ้น ทั้งจากนิตยสารฟอร์จูนและหนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตันโพสต์ ถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันระหว่างหนังสือ�พิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์และหนังสือพิมพ์ วอชิงตันโพสต์ กับ กูเกิล ความร่วมมือดังกล่าวอาจรวมถึงการเข้าไปลงทุนในกิจการหนังสือทั้ง 2 แห่งของกูเกิลด้วย
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของกูเกิลระบุว่า ความร่วมมือต่อกันอาจเกิดขึ้นได้ แต่ยังจะไม่ก้าวหน้าไปถึงขั้นเข้าซื้อกิจการที่ผ่านมา มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างกูเกิลและบรรดาสำนักพิมพ์ เพราะสื่อสิ่งพิมพ์ที่เกิดก่อนไม่นิยมชมชอบไอเดียบนโลกออนไลน์ ที่กูเกิลต้องการทำกำไรจากเนื้อหาในหนังสือพิมพ์โดยไม่ยอมจ่ายแม้สตางค์แดงเดียว
และมองว่าสิ่งที่ทำให้กูเกิลหันมาสนใจฐานะการเงินและความอยู่รอดของสื่อสิ่งพิมพ์ นั่นเป็นเพราะกังวลต่อเนื้อหาที่จะปรากฏบนสื่อออนไลน์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของกูเกิลโดยตรง แต่อย่างว่า ใครจะอยากซื้อวัว ถ้ายังได้กินนมฟรีอยู่.