"กสทฯ" เล็งยกเครื่องระบบไอทีหลังบ้าน และทบทวนระบบบริหารความเสี่ยงใหม่ หลังโดนมือมืดบุกทำลายระบบไฟฟ้าหลักและสำรอง เชิญผู้เชี่ยวชาญด้าน "ซีเคียวริตี้" หาปิดจุดอ่อนเน็ตเวิร์กรับมือภัยวินาศกรรมโครงข่าย พร้อมเปิดรับ "MVNO" บริการ 3G รายใหม่ หลังเซ็นสัญญากับ 365 คอมมูนิเคชั่นไปแล้ว

นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องร้องผู้ที่บุกรุกเข้าไปทำลายระบบไฟฟ้าหลักและระบบ ไฟฟ้าสำรองที่ตึก กสทฯ บางรัก เมื่อ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้งานเกตเวย์อินเทอร์เน็ต ดาต้าเซ็นเตอร์ (IDC) ชุมสายไฟเบอร์ออปติกสำหรับบริการอินเทอร์เน็ต และทรานส์มิสชั่นของโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 850 MHz สร้างความเสียหายให้บริษัทและลูกค้ากว่า 92,000 ราย เบื้องต้นต้องชดเชยค่าเสียหายให้ลูกค้า 200-300 ล้านบาท

"วันเกิด เหตุมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ทั้งหมด เห็นได้ชัดเจนว่า มีการวางแผนอย่างชัดเจน หลังเกิดเหตุได้ให้ตำรวจเข้ามาเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้ว ยืนยันว่าระบบของ กสทฯ ออกแบบมาอย่างซับซ้อนให้สามารถทำงานต่อเนื่องได้ แต่ที่ล่มเพราะโดนโจมตีในลักษณะที่เป็นการก่อวินาศกรรม ไม่ใช่กรณีไฟฟ้าดับปกติ"

หลังจากนี้บริษัทเตรียมลงทุนสร้างระบบสำรอง เพิ่ม โดยจะกระจายไปให้พื้นที่ต่างจังหวัด แยกเป็นแต่ละภูมิภาค พร้อมออกแบบระบบให้สามารถทำงานทดแทนกันได้ทันที โดยในปีหน้าจะเปิดให้บริการที่ศูนย์ กสทฯ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี สำหรับความเสี่ยงกับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 850 MHz ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ได้มีการออกแบบระบบให้แต่ละชุมสายทำงานทดแทนกันได้อยู่แล้ว

"เรื่อง นี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกัน กสทฯจะทบทวนเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยทั้งการเข้าถึงตึกและการออกแบบ เน็ตเวิร์ก ซึ่งไม่ใช่แค่ กสทฯ แต่หมายถึงโครงข่ายในระดับประเทศอื่น ๆ ด้วย จริง ๆ เรื่องการออกแบบและตั้งงบฯลงทุนสำหรับระบบสำรองเพิ่มเป็นแผนที่ได้วางไว้ ตั้งแต่ปีที่แล้ว บทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องไปตรวจระบบทุกศูนย์เพื่อปิดจุดอ่อน โดยจะให้หน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านซีเคียวริตี้เข้ามาสำรวจระบบอย่างจริงจัง ด้วย เพราะอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก กำลังให้คณะทำงานดูว่าต้องมีการตั้งงบฯเพิ่มหรือไม่"

นอกจากนี้ ในปีหน้าจะมีการทบทวนระบบไอทีที่รองรับการปฏิบัติงานของ กสทฯทั้งหมด เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและการให้บริการของบริษัท เนื่องจากธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์ไร้สายบนโครงข่าย HSPA บนคลื่น 850 MHz จะเป็นรายได้หลัก คาดว่าจะมีการทำสัญญาขายส่งขายต่อบริการกับบริษัทที่ต้องการเป็นผู้ให้ บริการบนโครงข่ายเสมือน (MVNO) มากกว่า 3 ราย หลังจากเมื่อเดือน พ.ย.

ที่ ผ่านมาทำสัญญากับบริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด ไปแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเชื่อมต่อระบบไอทีเข้าด้วยกัน คาดว่าอีก 2 เดือนจะให้บริการได้

"มีบริษัทอื่นที่สนใจเข้ามาเจรจาเป็น MVNO มากกว่า 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่มีฐานลูกค้าเดิมเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว รายได้จากธุรกิจไร้สายของ กสทฯจะทำธุรกิจแบบแซนด์วิช คือ ขายส่งความจุโครงข่าย HSPA ให้ MVNO พร้อม ๆ กับทำให้ กสทฯมีฐานลูกค้ารายย่อยบนโครงข่ายที่มากพอสร้างรายได้จากการให้บริการเสริม Top Up บนโครงข่ายนี้ด้วย อย่างคอนเทนต์ เกม หรือบริการอื่น ๆ ซึ่งจะร่วมกับพันธมิตรนำมาให้บริการ เช่น ตอนนี้ร่วมมือกับซีทีเอช และเอสเคเทเลคอมจากเกาหลีใต้ โดยกำลังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปในการทำธุรกิจร่วมกัน อาทิ การทำแอปพลิเคชั่นเสริมบนโครงข่าย HSPA"