| • เทือกรับ เซ็นตั้ง"ศอฉ."เอง มาร์ค ไม่เกี่ยว |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 10 ธ.ค. 54 เวลา 11:19:05 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
แต่ก็ยังซัด"ชุดดำ"ยิง10เม.ย. เสื้อแดงชุมนุมโห่หน้าบช.น. "เหลิม"ย้ำอีกตร.ฆ่า"เสธ.แดง"
ให้การ - นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีเจ้าหน้าที่ ฆ่า 16 ศพ โดยอ้างเหมือนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าชายชุดดำเป็นคนยิงในเหตุการณ์ 10 เม.ย. 53 ตามข่าว
|
"มา ร์ค" ตามนัด ให้ การคดี 10 เม.ย. 53 หอบเอกสารชี้แจง อ้างเหตุขอคืนพื้นที่จราจรฝ่ายเจ้าหน้าที่หยุดเคลื่อนไหวแล้วพยายามออกมา แต่ถูกโอบล้อม ใช้อาวุธสงครามยิง ก่อนมี "ชายชุดดำ" ปรากฏตัว ย้ำเป็นคนเซ็นแต่งตั้ง "ศอฉ." ดูแลเชิงนโยบาย "เทือก" เป็นผอ. ทีมสอบพอใจรายละเอียด รูปคดีชัดเจนยิ่งขึ้น คาดส่งครบ 16 สำนวน ทัน 17 ธ.ค. ขณะที่นปช. เยี่ยม "อริสมันต์" กันไม่ขาด ด้านประชาธิปัตย์ขวางย้ายไปอยู่คุกการเมือง โวยกลับทำ 2 มาตร ฐาน ตั้งขอสังเกตใช่ข้อเสนอ "คอป." หรือไม่ ส่วน "เหลิม" ย้ำ "เสธ.แดง" ถูกตำรวจยิง ไม่ใช่ทหาร เป็นตำรวจที่เติบโตเพราะนักการเมืองอุบาทว์ หาก "ลูกเดียร์" ไม่เชื่อก็ไปสืบเอาเอง
"เจ๊ดา"รุดเยี่ยม"อริสมันต์"
เมื่อ เวลา 08.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หนึ่งในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วยนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษกนปช. นางดารุณี กฤตบุญญาลัย แนวร่วมนปช. นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ภรรยานายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำนปช. และนายสิงห์ทอง บัวชุม ที่ปรึกษากฎหมาย เข้าเยี่ยมนายอริสมันต์ ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในแดนแรกรับ หรือแดน 1
นาง ดารุณีกล่าวว่า สาเหตุที่นายอริสมันต์ต้องหลบหนี เพราะไม่ยอมรับข้อหาที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยัดให้ เพราะคนเสื้อแดงชุมนุมด้วยมือเปล่า ปราศจากอาวุธ อยากถามว่าใครเคยเห็นนายอริสมันต์ถืออาวุธบ้าง มาเยี่ยมและพบหน้านายอริสมันต์วันแรก หน้าตาแจ่มใส และฝากให้คนเสื้อแดงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยต้องเจออะไรหลายๆ อย่าง
เมียเผยชีวิตเป็นอยู่ในคุก
แนว ร่วมนปช.กล่าวต่อว่า การต่อสู้ทางการเมืองของเราต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อให้ได้ประชา ธิปไตยที่สมบูรณ์ ขณะนี้เปิดหมู่บ้านเสื้อแดงไปแล้วกว่า 8,400 หมู่บ้าน เพราะต้องการแสดงพลังว่าเป็นหมู่บ้านประชาธิปไตย สมาชิกในแต่ละหมู่บ้านจะใส่เสื้อแดง ชักธงแดงหน้าบ้าน แต่ละหมู่บ้านมีคนเสื้อแดงประมาณ 60 เปอร์ เซ็นต์ ไม่ใช่ทั้งหมู่บ้าน และมีเกือบครบทุกภาคแล้ว กำลังจะเปิดเพิ่มที่ อ.จะนะ จ.สงขลา และ จ.สตูล
ส่วน นางระพิพรรณกล่าวว่า มาเยี่ยมสามีตามปกติ นำรองเท้าผ้าใบมาให้ เพราะสามีต้องการออกกำลังกายให้ร่างกายกลับมาดูดีเหมือนตอนออกเทปใหม่ๆ ขณะนี้ต้องปรับการนอนให้เข้ากับกฎระเบียบที่ทางเรือนจำกำหนด เพราะสามีเป็นคนนอนดึก แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในเรือนจำต้องนอนตั้งแต่เวลา 19.00 น. และต้องการโจ๊กคัพเพิ่มเติม เพราะสามีชอบกินโจ๊กตอนเช้า ส่วนอาหารอื่นๆ สั่งจากสหกรณ์ของเรือนจำเหมือนนักโทษทั่วไป ไม่ได้ซื้ออะไรมาเยี่ยมเป็นพิเศษ
ลูก 3 คนยังไม่รู้พ่อติดคุก
ภรรยา นายอริสมันต์กล่าวอีกว่า สามีเป็นห่วงลูกทั้ง 3 คน ที่ยังไม่ทราบว่าพ่ออยู่ในเรือนจำ เพราะตลอด 1 ปีที่ผ่านมาสามีไม่เคยเจอลูกเลย และไม่กล้าบอกลูก เพราะกลัวลูกรับไม่ไหว แต่รู้ว่าพ่อกลับมาเมืองไทยแล้ว แต่ไม่ถามอะไร และล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันพ่อ ลูกทั้ง 3 คน สั่งให้ทำอาหารกินกับพ่อ และเตรียมพวงมาลัยไหว้พ่อ แต่ปรากฏว่าไม่เจอกัน เมื่อกลับบ้านมาคนเดียว ลูกก็ถามว่าป๋าไปไหน จึงตอบว่าไปทำงานต่างจังหวัด ไม่ทราบว่าลูกจะรู้ความจริงเมื่อไหร่ และจะมีความรู้สึกอย่างไร ลูกไปโรงเรียนก็ไม่แน่ใจว่าที่โรงเรียนจะพูดถึงพ่ออย่างไรบ้าง เพราะลูกไม่เคยมาเล่าให้ฟังว่าใครที่โรงเรียนว่าอย่างไรกันบ้าง
นาง ระพิพรรณกล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่มี ผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่าสามีป่วยเป็นโรคร้ายนั้น ขอยืนยันว่าสาเหตุที่สามีผอม เพราะต้องการสร้างร่างกายฟิตหุ่นให้เหมือนเดิม ออกกำลังกายวันละ 3-4 ชั่วโมง ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแต่อย่างใด
ทนายยัน"กี้ร์"มุ่งปรองดอง
รายงาน ข่าวแจ้งว่า สำหรับการใช้ชีวิตในเรือนจำของนายอริสมันต์นั้น ต้องตื่นตั้งแต่เวลา 05.00 น. วิ่งออกกำลังกาย ปฏิบัติภารกิจส่วนตัว กินอาหารเช้าเวลา 07.30 น. เข้าแถวเคารพธงชาติเวลา 08.00 น. นายอริสมันต์ยังคงอยู่แดนแรกรับ หรือแดน 1 เพื่อรอการจำแนก ส่วนการทำงานในเรือนจำยังไม่ได้ให้ทำอะไร เพราะยังอยู่แดนแรกรับ และนายอริสมันต์ยังได้พบ และพูดคุยกับนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันด้วย ในช่วงปฏิบัติกิจ วัตรประจำวันรวมกันในตอนเช้า แต่อยู่คนละแดนกัน
ขณะที่ นายสิงห์ทองกล่าวว่า การเข้ามอบ ตัวของนายอริสมันต์ เพราะต้องการปรองดอง และความสมานฉันท์ของคนในชาติ นายอริส มันต์ร่างกายแข็งแรง เข้มแข็งปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ดี การมามอบตัวเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพื่อจะได้พิสูจน์ตัวเอง
ญี่ปุ่นติดใจ"เทือก"โยนชุดดำ
ที่ ปรึกษากฎหมายของนายอริสมันต์กล่าวต่อว่า ทราบมาว่าเมื่อช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย เข้าพบทางการไทย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น เนื่อง จากทางสถานทูตญี่ปุ่นให้ความสนใจ กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐ มนตรี และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถาน การณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) อ้างว่าประชาชนและเจ้าหน้าที่ถูกชายชุดดำฆ่า
"ไม่อยากให้โยงเป็น ประเด็นการเมือง และอย่าบิดเบือนคดี เนื่องจากเหตุการณ์สลายม็อบ ที่ผ่านมามีคนเสียชีวิต 91 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน และถูกไล่ล่ากว่า 300 กว่าคน บางคนยังมีคดีติดอยู่ และถูกจองจำอยู่ในคุก ดังนั้น รัฐบาลต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ รวม ทั้งนักข่าวญี่ปุ่น ตายเพราะคนชุดดำจริงหรือไม่ ตามที่รัฐบาลชุดเดิมอ้างมาตลอด" นายสิงห์ทองกล่าว
"มาร์ค"พร้อมให้การ 10 เม.ย.
เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ความพร้อมเข้าให้การต่อพนักงานสอบสวนในช่วงบ่ายวันนี้ว่า เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงการดำเนินการในภาพรวม ตั้งแต่ตัวเหตุการณ์จนนำมาสู่การประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ว่าความมุ่งหมายในการขอพื้นที่การจราจรคืน และการดำเนินการเป็นอย่างไร นอกจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ว่าจะสอบถามในประเด็นใดบ้าง
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า โครงสร้างการทำงานในช่วงที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายสุเทพ อดีตรองนายกฯ อธิบายไปแล้วส่วนหนึ่ง ว่าตนในฐานะผู้ลงนาม และออกข้อกำหนด จากนั้นเมื่อแต่งตั้ง ศอฉ.แล้วก็มีโครงสร้าง มีตัวกรรม การ มีผอ. มีหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ผู้กำกับการปฏิบัติการขณะนั้นคือนายสุเทพ โดยการปฏิบัติและเรื่องยุทธการ นายสุเทพเป็นผู้ลงนามใน คำสั่ง และตนจะรับทราบรายงานในเรื่องของเหตุการณ์และดูภาพรวมการแก้ปัญหา
ปลื้ม"เทพเทือก"ปกป้อง
"การ ที่คุณสุเทพให้ข้อมูลว่าเป็นผู้รับผิดชอบคนเดียว เป็นการพูดตามโครงสร้าง ที่สำคัญคือคุณสุเทพชี้แจงถึงการปฏิบัติการ และแนวคิดว่าชัดเจน เป็นการขอคืนพื้นที่จราจร ทุกคำสั่งที่ลงนาม คุณสุเทพก็เล่าให้ผมฟัง ย้ำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องปฏิบัติกับประชาชนอย่างไร ต้องมองว่าเป็นประชาชนคนไทย ไม่ใช่ศัตรูและปฏิบัติตามหลักสากล การปฏิบัติทั้งหลายก็อิงกับคำวินิจฉัยของศาล ในเรื่องความไม่ชอบด้วยกฎหมายของการชุมนุม และหลักการในการปฏิบัติเพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหา" นายอภิสิทธิ์กล่าว
อดีต นายกฯ กล่าวต่อว่า นายสุเทพพยายามที่จะแสดงออกถึงความรับผิดชอบในส่วนการทำงานของตัวเอง และทุกคนก็รู้จักนายสุเทพดีว่าเป็นคนพร้อมที่จะรับผิดชอบ ขอขอบคุณถ้ามองว่าเป็นเรื่องปกป้อง ถ้าที่สุดแล้วทุกอย่างต้องเป็นไปตามความจริง มั่นใจว่าสิ่งที่นายสุเทพ พร้อมรับผิดชอบนั้น ได้ใช้ความระมัดระวังโดยยึดหลักสากลชัดเจน ทั้งนี้ยังไม่รู้ว่าการสอบ สวนของพนักงานจะไปยุติที่ตรงไหน แต่การทำงานของรัฐบาลในขณะนั้น ก็อิงอยู่กับคำ พิพากษาของศาล เมื่อมีการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และศาลก็บอกว่าเป็นอำนาจหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ก็ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามหลักสากล มีกฎการใช้กำลัง มีหลักการว่าต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก
ขวางกี้ร์นอนคุกการเมือง
นาย อภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ไม่หนักใจกับการชี้แจง เพราะมั่นใจว่าในที่สุดแล้ว ข้อเท็จจริงจะเป็นที่เข้าใจ และเป็นที่ยอมรับในสังคมนี้ การไปให้ปากคำก็ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนอยากรู้อะไร คงพูดตามใจชอบไม่ได้ ที่พนักงานสอบ สวนอ้างมา ระบุว่ามีพยานอ้างอิงว่าเหตุการณ์เกิดขึ้น เป็นผลปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งการของนายสุเทพ ยืนยันว่าไม่ใช่แน่นอนกับสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากบอก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ที่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้มาโดยตลอดว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ควรให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ เพราะไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องอย่างไร อีกทั้งเนื้อหาที่พูดก็ไม่อยู่ในกรอบของการสอบสวน ดีที่สุดควรจะอยู่เฉยๆ ให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่จะดีกว่า ไม่จำเป็น ต้องให้สัมภาษณ์ เพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่รู้สึกว่า ถูกกดดัน หรือชี้นำได้
หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อถึงกรณีที่กรมราชทัณฑ์จะย้ายนายอริสมันต์ เข้าไปอยู่ที่โรงเรียนพลตำรวจบางเขน สถานที่คุมขังนักโทษ คดีการเมืองว่า กำลังตรวจสอบว่าเป็นมติของใคร เพราะอ้างว่าเป็นข้อเสนอของคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อ เสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เห็นว่าความผิดที่มีเหตุผลในการแยก ผู้ต้องหาออกมาในเรือนจำนี้ คือทำความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่น การชุมนุมทางการเมือง แต่ความผิดประเภทการก่อการร้าย ทำร้ายผู้อื่น ใช้อาวุธสงคราม วางเพลิง เป็นความผิดทางอาญา
เปรียบเทียบยุเผาหนังสือพิมพ์
"ผม ไม่คิดว่าจะเป็นเหตุผล ที่จะบอกว่านี่คือความผิดทางการเมือง ได้เคยอธิบายหลายครั้ง เช่น ยกตัวอย่างว่า ผมมีปัญหากับบางคน เพราะเหตุผลทางการเมือง แล้วผมไปชกกับเค้า และไปฆ่าเค้า แล้วจะมาอ้างว่านี่เป็นความผิดทาง การเมือง มันไม่ได้ เพราะเป็นการทำความผิดตามกฎหมายอาญา มันไม่ใช่ว่าผมแสดงออกทางความคิดทางการเมืองแล้วถูกเล่นงาน นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้มีความพยายามทำให้เกิดความสับสนว่า ถ้าคนๆ นั้นเคลื่อนไหวทาง การเมือง ไม่ต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง ผมว่ามันใช้ไม่ได้ มิฉะนั้น ต่อไปนี้ผมไม่ชอบหนังสือพิมพ์ฉบับไหน ผมก็บอกให้คนไปเผาได้ใช่ไหมครับ เพราะมันเป็นเรื่องการเมือง ผมไม่ได้มีเรื่องส่วนตัวกับหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ถ้าทำกันแบบนี้ แล้วหลักกฎหมายจะอยู่ที่ไหน" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นาย อภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า มีผู้ต้องหาเพียงกลุ่มเดียวที่จะให้ไปอยู่ในสถานที่ ซึ่งจัดเป็นพิเศษนี้ได้คือ กลุ่มคนที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดในการชุมนุมเกิน 10 คน เพราะเห็นได้ชัดเจนแล้วว่า ไม่ใช่การบังคับใช้กฎหมายโดยทั่วไป และสถาน การณ์นี้ก็สิ้นสุดไปแล้ว จึงมีเหตุมีผลที่จะแยก ปฏิบัติ อยากให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ทบทวนเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นต่อไปจะเป็นปัญหามากขึ้น
อ้าง 2 มาตรฐาน-จี้ทบทวน
ผู้ สื่อข่าวถามว่าหากไม่ทบทวน จะกลายเป็นการสร้างคุกการเมืองไว้เพื่อให้คนเสื้อแดง มีอภิสิทธิ์เหนือผู้ต้องหาคนอื่นๆ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าไม่ทบทวนก็จะกลายเป็นสองมาตรฐาน และทาง คอป.ต้องแสดงความเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ใช่เจตนาของ คอป.หรือไม่ เพราะเรื่องนี้มาจาก ปคอป.อีกทีหนึ่ง ดังนั้น คอป. ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่ ใช่แนวปฏิบัติตามที่ คอป.เสนอหรือไม่ เพราะตอนนี้มีการอ้าง คอป. เพราะเห็นว่าเป็นกรรม การอิสระ ไม่เช่นนั้นก็อาจถูกอ้างไปเพื่อเป็นประเด็นทางการเมืองได้
"ผมคิด ว่าถ้ารัฐบาลยังทำเช่นนี้ นอกจากจะไม่สามารถนำบ้านเมืองไปสู่ความปรองดองได้แล้ว วันข้างหน้าบ้านเมืองจะมีแต่ความวุ่นวาย ใครอยากได้อะไรทางการเมืองก็ไม่ต้องคำนึงถึงกฎหมาย แล้วอ้างว่าทุกอย่างเป็นความผิดทาง การเมือง ผมเห็นด้วยว่าควรมีอิสระการแสดง ออกทางการเมืองได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งนายกฯ ยังไม่เคยส่งสัญญาณที่ จะให้เกิดความปรองดองในประเทศตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งที่หลายเรื่องสามารถพูดคุยกับผู้ที่สนับสนุนตัวเองได้ และมีหลายเรื่องที่กลายเป็นปมขัดแย้งทางการเมือง ถ้านายกฯ ตัดสินใจแสดงออกส่งสัญญาณตั้งแต่ต้น ปัญหาก็จะไม่เกิด" นายอภิสิทธิ์กล่าว
ซัดเหลิมชี้นำเจ้าพนักงาน
ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม มักระบุถึงข้อมูลเบื้องลึกในคดีต่างๆ ดูเหมือน ร.ต.อ.เฉลิมจะรู้ดีทุกเรื่องว่าใครเป็นผู้กระทำ ใครเป็นผู้เสียหาย รวมถึงชี้นำว่านายอริสมันต์ ไม่น่าจะได้รับแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ไม่ทราบว่าหน้าที่ของคนเป็น รองนายกฯ มีขอบเขตมากน้อยเพียงใด แต่ไม่เห็นด้วยกับการไปชี้นำการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน หรือผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี
นายชวนนท์ กล่าวถึงการแยกคุมขังผู้ต้องหาคดีการเมือง ไปยังโรงเรียนพลตำรวจบางเขน ในวันที่ 21 ธ.ค.ว่า ขอให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจน ว่ามีมาตรการอย่างไร จึงเป็นนักโทษการเมือง และมีความผิดแค่ไหน ถึงจะได้ย้ายไปอยู่คุกการเมือง โดยเฉพาะกรณีนายอริสมันต์ จะโอนไปอยู่คุกการเมืองหรือไม่ และผู้ที่กระทำผิดในข้อหาก่อการร้าย เรียกว่าคดีการเมืองหรือไม่ รัฐบาลอ้างว่าทำตามคำสั่งของ คอป. ดังนั้น ขอเรียก ร้องให้ คอป.แถลงให้ชัดเจนว่ามีข้อเสนอนี้หรือไม่ เพราะรัฐบาลนำมาอ้างว่าข้อเสนอของ คอป. ต้องการให้เกิดความปรองดองในประเทศ และประเทศจะเดินหน้าไปได้ ความจริงเป็นอย่างไร
"ผมได้ข่าวมาว่า คุกการเมืองหรูมาก มีทั้งแอร์ วอลเปเปอร์อย่างดี ไม่ทราบว่าเตรียมไว้ต้อนรับพี่ชายนายกฯ หรือไม่ ทั้งที่คุกไม่จำเป็นจะต้องหรูขนาดนี้ และไม่จำเป็นต้องตั้งแห่งใหม่ เพราะในอดีตการแยกนักโทษการเมืองออกมาอีกห้องหนึ่งเท่านั้น เพราะเป็นพวกที่มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ หากไปรวมกับนักโทษทั่วไป จะเข้าไปยุยงปลุกปั่นให้เกิดจลาจล ในคุกได้ และคุกการเมืองก็ไม่ต้องรับรองใครเป็นพิเศษ" นายชวนนท์กล่าว
ชทพ.เห็นด้วยอริสมันต์มอบตัว
ที่ พรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงว่าในกรณีที่มีความเคลื่อนไหวของ 2 ฝ่าย ทั้งการออกมาให้ปากคำในคดีสั่งสลายการชุมนุมของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ รวมถึงการยอมมอบตัวของนายอริสมันต์ ถือว่าน่าจะเป็นการส่งสัญญาณที่ดี ในการเข้าสู่กระบวนการปรองดองของชาติ ที่ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ดีมากๆ และทำให้กระบวนการยุติธรรมไม่ถูกเคลือบแคลงสงสัย เพราะที่ผ่านมา นายอริส มันต์ถูกมองเป็นสัญลักษณ์ความรุนแรงนอกเหนือกฎหมาย แต่ภายหลังการตัดสินใจเข้ามอบ ตัว เพราะมั่นใจในความปลอดภัย และกระบวน การยุติธรรม ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ถูกต้อง และรับผิดชอบต่อสังคม พรรคชาติไทยขอแสดงความขอบคุณ และชื่นชมในการตัดสินใจ
"ส่วนที่รอ ประกันตัวกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น อยากขอให้ใจเย็น และอย่าเพิ่งไปกดดัน เพราะเป็นสิ่งสำคัญของจุดเริ่มต้นในการส่งสัญญาณความปรองดองที่ดีในอนาคต รวมถึงนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ก็ให้ปากคำ ไม่มีบิดพลิ้วต่อเจ้าหน้าที่ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน ที่ข้อเท็จจริงและความสงสัยต่อการสลายการชุมนุม จะได้รับการแก้ไขที่ชัดเจนยิ่งขึ้น" โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว
"สุนัย"ถกรองปธ.ศาลอาญาโลก
ด้าน นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิ การการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เกี่ยวกับการยื่นฟ้องคดีสลายชุมนุมต่อศาลอาญาระหว่างประ เทศว่า คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ และ นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตประจำกรุงเฮก จะเข้าพบนายฮันส์ ปีเตอร์ โคล รองประธาน ศาลอาญาระหว่างประเทศ รักษาการประธานศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อหารือถึงการเข้าเป็นภาคีศาลอาญาระหว่างประเทศของประเทศไทย
นาย สุนัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2543 ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยลงนามเข้าร่วมเป็นภาคีศาลอาญาระหว่างประเทศแล้ว แต่ขั้นตอนยังไม่สมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้ลงสัตยาบัน ดังนั้น จะหารือกับรองประธานศาลอาญาระหว่างประเทศ ว่าจะต้อง มีขั้นตอนอย่างไร เพื่อให้ไทยเป็นภาคีศาลอาญาระหว่างประเทศอย่างสมบูรณ์ หลังจากไทยเข้าเป็นภาคีโดยสมบูรณ์แล้ว ก็จะเดินหน้าฟ้องคดีสลายม็อบ 91 ศพ
"เหลิม"ย้ำตร.ยิง"เสธ.แดง"
ขณะ เดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลูกสาว พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ไม่เชื่อว่าคนที่ยิงเสธ.แดงเป็นตำรวจว่า จะเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องของลูกสาวเสธ.แดง ตนชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ลูกสาวเสธ.แดงชื่ออะไร ไม่เชื่อก็ไปสืบเอาเอง ยืนยันว่าเสธ.แดงถูกตำรวจยิง ไม่ใช่ทหาร เป็นตำรวจที่เติบโตมาได้เพราะนักการเมืองอุบาทว์สนับสนุน ยศไหน อยู่ในราชการหรือไม่ ไม่บอก
ที่ศาลอาญา กลุ่มนักรณรงค์ทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 50 คน นำโดย น.ส. จิตรา คชเดช จัดกิจกรรม "เราคืออากง" เพื่อยืนไว้อาลัย และให้กำลังใจนายอำพล ตั้งนพกุล หรืออากง อายุ 61 ปี ที่ศาลพิพากษาจำคุกในคดีหมิ่นสถาบัน ตามมาตรา 112 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมแต่งชุดดำ สวมหน้ากากอากง ถือไฟฉาย ยืนและร่วมร้องเพลงกันเป็นเวลานาน 112 นาที แล้วแยกย้ายกันกลับ
มาร์คควง"ศิริโชค"ให้การ
ส่วน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในเวลา 13.00 น. มีกลุ่มคนเสื้อแดง 15 คน เดินทางมารวมตัวกันที่ด้านหน้า ก่อนที่นางดารุณี จะตามมา สมทบ โดยทั้งหมดแต่งกายชุดสีดำ และบอกว่าไว้ทุกข์ให้แก่ผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม เมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วย นายชวนนท์ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และทีมทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีชันสูตร 16 ศพ ที่คาดว่าเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีตำรวจกว่า 30 นายคอยกันผู้ไม่เกี่ยวข้อง และรักษาความสงบเรียบร้อย ขณะที่นายอภิสิทธิ์มีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา ก่อนเจ้าหน้าที่จะกันตัวขึ้นไปที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1
ซัด"ชายชุดดำ"อาวุธสงคราม
จน กระทั่งเวลา 17.00 น. นายอภิสิทธิ์และ ผู้ติดตามออกจากห้องสอบสวน พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ว่า พนักงานสอบสวนเรียกมาให้ปากคำ ในฐานะพยานกรณีชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.2553 และเดือนพ.ค. 2553 ส่วนใหญ่เป็นการอธิบายถึงบทบาทหน้าที่ในช่วงนั้น ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ เรื่องการเซ็นคำสั่งตั้งศอฉ. และการปฏิบัติการตาม คำสั่งของศอฉ. โดยเฉพาะเรื่องที่ ศอฉ.ดำเนินการ อธิบายเหตุผล การลำดับเหตุการณ์ การเจรจา เหตุการณ์การขอคืนพื้นที่ต่างๆ
ผู้สื่อ ข่าวถามถึงคดีนายฮิโรยูกิ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามเจ้าหน้าที่ว่ามีอะไรคืบหน้าหรือ ไม่ ตนก็มาให้ข้อมูล เอกสารหลักฐานเหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย. รวมถึงเอกสารหลักฐานว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร ผู้ที่ดูแลในภาพรวม และพูดถึงความมุ่งหมายในวันที่ 10 เม.ย. เรื่องขอคืนพื้นที่การจราจร เจ้าหน้าที่ก็หยุด เคลื่อนไหวไปในช่วงก่อนมืด พยายามจะออกมา แต่ก็ถูกโอบล้อม และใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามา ทำให้เกิดเหตุชุลมุน และมีภาพของชายชุดดำปรากฏตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ
เป็นคนตั้งศอฉ.ดูแลนโยบาย
ต่อ ข้อถามว่าพนักงานสอบสวนมีประเด็นใดสงสัย หรือต้องนัดมาสอบปากคำใหม่หรือไม่ อดีตนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เท่าที่ทราบก็บอกว่าจะไม่มีแล้ว เมื่อถามถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่าเจ้าหน้าที่อาจจะมีส่วนร่วมทำให้เสียชีวิต นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำตั้งแต่สมัยรัฐบาลของตนเป็นผู้เสนอมา และทางตำรวจมีหน้าที่สอบสวนเพิ่มเติม และวันนี้มีอัยการรวมอยู่ด้วย ร.ต.อ. เฉลิมจะให้สัมภาษณ์เกินเลยไปในข้อสรุปบางอย่างก็เป็นเรื่องแปลก เพราะว่าเขาก็ยังสอบกันอยู่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสุเทพ บอกว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้ออกคำสั่งศอฉ. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บทบาทคือตนเป็นผู้ตั้งศอฉ. นายสุเทพเป็นผอ.ศอฉ. เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบ และกำกับการ ปฏิบัติงานในช่วงแรก ก่อนที่ ผบ.ทบ.ในขณะนั้นจะเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบคำสั่งในเชิงปฏิบัติ การ จึงเป็นคำสั่งที่ทำโดยศอฉ. ส่วนตนมีหน้าที่ดูแลในเชิงนโยบาย
เหน็บการเมืองแทรกแซง
ผู้ สื่อข่าวถามว่านำเอกสารมาให้พนักงานสอบ สวนหรือไม่ อดีตนายกฯ กล่าวว่า มีหลายส่วน ทั้งที่มายืนยันเรื่องชายชุดดำ ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ แนวคำวินิจฉัยของศาลที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม และการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เมื่อถามว่าหลักฐานที่นำมาเป็นภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อน ไหว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทั้งคู่ เป็นภาพชายชุดดำที่ปรากฏแล้วในสื่อ
ต่อ ข้อถามว่ากังวลใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ทำให้ตรงไปตรง มา ย้ำว่ากระบวนการนี้มีความสำคัญต่อการเดินหน้าของประเทศ เพราะเราต้องค้นหาความจริง และให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย ฝ่ายการเมือง ที่มีความพยายามที่จะเข้ามาแทรกแซง อย่าไปทำ เพราะทำแล้วความน่าเชื่อถือในกระบวนการทั้งหมดจะมีผลกระทบ จะไม่เป็นผลดีกับประ เทศในการเดินหน้าเข้าสู่การปรองดอง
ทีมสอบพอใจรูปคดีชัดขึ้น
"ผม ให้เกียรติคนทำงาน แต่ผมก็ย้ำหลายครั้ง ต่อสาธารณะว่า ฝ่ายการเมืองที่ไม่มีหน้าที่ให้ความ เห็นในการชี้นำ ควรจะหยุด เจ้าหน้าที่ทำงาน ต้องทำตรงไปตรงมา หากไม่ทำตรงไปตรงมาต้องรับผิดชอบ ไอ้คนที่มาชี้นำนี่จะไม่รับผิดชอบอะไรหรือครับ" นายอภิสิทธิ์กล่าว ก่อนจะเดินทางกลับ
ด้าน พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ภาพรวมในคดีถือว่าเรียบร้อยดี เป็นการให้รายละเอียดบางเรื่อง ทำให้รูปคดีชัดเจนยิ่งขึ้น ในชั้นนี้คงไม่เรียกสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนนายสุเทพ นัดวันที่ 14 ธ.ค. เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 เนื่องจากนายสุเทพไม่ได้เตรียมเอกสารในวัน อื่นๆ มา เตรียมเฉพาะแค่เรื่องวันที่ 10 เม.ย. 2553 จึงขอมาให้ปากคำเพิ่มเติมภายหลัง สำหรับ รายละเอียดในสำนวนอื่นๆ จาก 16 สำนวน เสร็จแล้ว 5 สำนวน ในส่วนที่เหลือใกล้จะเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะเสร็จสิ้นทันกำหนดในวันที่ 17 ธ.ค.
เทือกฉะแดงป่วนมาร์คให้การ
ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพกล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ ไปให้ปากคำว่า ไม่กังวลหรือเป็นห่วงอะไร นายอภิสิทธิ์คงไปชี้แจงตามปกติ เคยยืนยันไปแล้วว่าเป็นผู้สั่งการทั้งหมด ในฐานะผอ.ศอฉ. และดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ทราบว่าระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ไปชี้แจง มีกลุ่มคนเสื้อแดงนำโดยนางดารุณี แสดงอาการก่อกวน โห่ไล่ เห็นแล้วน่าอนาถใจ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดกลุ่มคนเหล่านี้ถึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น ทั้งที่พรรคเพื่อไทยที่พวกเขาสนับสนุนได้เป็นรัฐบาลแล้ว และคนเสื้อแดง ก็ได้ตำแหน่งทางการเมือง การมีพฤติกรรมเช่นนี้ จึงไม่แน่ใจว่ามีเป้าหมายอย่างไร
"ผมรู้สึกอเนจอนาถใจ เหมือนไม่เลิกสักที สมัยที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เวลาไปปฏิบัติหน้าที่ก็จะมีคนพวกนี้ไปขัดขวางก่อกวน เอาตีนตบไปไล่ ไปโห่ พวกผมก็อดทนมาตลอด คิดว่าถ้ามีเลือกตั้งแล้ว ตั้งรัฐบาลใหม่ เขาเป็นรัฐบาลแล้วจะเรียบร้อย วันนี้ต้องให้คนเหล่านั้นไปถามพวกเดียวกันเองว่าจะเอาอะไรกับคนไทยอีก ได้อำนาจรัฐอยู่ในมือแล้ว พรรคพวกตัวเองเป็นรัฐบาล บางคนเป็นรัฐมนตรี เป็นเลขาฯ เป็นที่ปรึกษา ไปมีอำนาจมีอิทธิพลอยู่ในรัฐบาล ทั้งๆ ที่เป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายตั้งเยอะแยะ มันก็เป็นความเจ็บปวดของคนไทยอยู่แล้ว คนอื่นก็ยอมทุกอย่าง ทำไมฝ่ายผู้ชนะยังวุ่นวายไม่เลิกสักที เขาควรถามพรรคพวกตัวเองว่า เขาต้องการให้บ้านเมืองเป็นอย่างไรกันแน่ ผมรู้สึกเหมือนกับพวกเขาปากว่าตาขยิบเพราะนายกฯ พูดทุกวันว่าจะสมานฉันท์ แต่บรรดาลิ่วล้อบริวารกลับเกะกะระรานหาเรื่องคนเรื่อยๆ แล้วแบบนี้จะสมานฉันท์ได้อย่างไร" นายสุเทพกล่าว
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakV3TVRJMU5BPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHhNaTB4TUE9PQ==
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3253 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 10 ธ.ค. 54
เวลา 11:19:05
|
