| • ทุจริตคือต้อตอความชั่วร้าย |
|
โพสต์โดย เยาวชนรักเมืองไทย , วันที่ 27 มิ.ย. 50 เวลา 09:20:53 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ผลสำรวจของศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางสังคม มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญหรือเอแบคโพลล์ซึ่งเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสะท้อนให้เห็นความเสื่อมของสังคมไทยโดยผลสำรวจชี้ว่า คนรุ่นใหม่นับวันจะยอมจำนนต่อปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นถึงกับยอมรับผู้นำประเทศหรือนักการเมืองที่เก่งแต่โกง หากสามารถทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วผุ้นำประเทศหรือนักการเมืองที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานทั้งสองประการคือซื่อสัตย์สุจริตและมีความรู้ความสามารถด้วย
ค่านิยมในหมู่ประชาชนที่ยอมรับเหล่านักการธุรกิจการเมืองที่เก่งแต่โกงนับเป็นสัญญาณอันตรายอย่างยิ่งต่อการปฏิรูปสังคมไทยและปฏิรูปการเมืองไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง ทั้งนี้ที่ผ่านมามีความพยายามจากเหล่านักธุรกิจการเมืองที่พยายามเผยแพร่ปลูกฝังแนวคิดให้สังคมซึมซับ เคยชินและยอมรับค่านิยมที่ว่าผู้บริหารประเทศหรือนักการเมืองที่เก่งแต่โกงเป็นเรื่องปกติธรรมดา เช่นเดียวกับค่านิยมที่ว่า ข้าชั่วเองก็เลวเพราะฉะนั้นไม่มีใครเลวกว่ากัน
แต่ที่อันตรายยิ่งกว่าก็คือ นับวันเหล่านักธุรกิจการเมืองจะใช้เล่ห์เหลี่ยมอำพรางปิดบังความชั่วร้ายของตัวเองได้อย่างแนบเนียบมากขึ้น ด้วยการใช้หลักการตลาดสร้างภาพพจน์ที่ดีให้แก่ตัวเองเพื่อบังหน้า โดยอาจจะสร้างภาพลักษณ์ในคราบความเป็นนักประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งทั้งๆที่เป็นเนื้อแท้เป็นเผด็จการทุนนิยมที่มองการเมืองเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนมากที่สุดเพราะลงทุนแล้วสามารถถอนทุนบวกกำไรมหาศาลมากกว่าธุรกิจใดๆ
เพื่อให้สามารถเข้ายึดครองอำนาจรัฐเพื่อกอบโกยรายได้มหาศาล เหล่านักธุรกิจการเมืองนอกจากจะสร้างภาพความเป็นนักประชาธิปไตยแบบจอมปลอมแล้ว ยังสร้างภาพในคราบนักบุญประชานิยมแบบเจ้าเล่ห์แกมโกงด้วยการใช้งบประมาณแผ่นดินอันเป็นภาษีของแผ่นดินนำมาแจกจ่ายมอมเมาประชาชนให้เคลิบเคลิ้มแบบฉาบฉวยเพื่อเป็นเครื่องมือล่อใจสร้างคะแนนนิยมโดยไม่ต้องลงทุนควักกระเป๋าตัวเองเข้าลักษณะใช้ภาษีของประชาชนหาเสียงแบบอัฐยายซื้อขนมยาย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคยมีกระแสพระราชดำรัสว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นเปรียบเสมือนมะเร็งร้ายที่กัดกร่อนสังคมและประเทศชาติและทรงสาปแช่งผู้ที่ทุจริตฉ้อราษฏร์บังหลวงขอให้มีอันเป็นไป ซึ่งคำสาปแช่งอันศักดิ์สิทธิ์จากบารมีประมุขแห่งแผ่นดินพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่า นักธุรกิจการเมืองที่โกงบ้านกินเมืองหลายต่อหลายคนไม่ว่าจะมีตำแหน่งสูงเพียงใดก็ตามต่างชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อขึ้น
ที่ว่าการฉ้อราษฏร์บังหลวงเป็นมะเร็งร้ายและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ เนื่องจากหากผู้นำประเทศหรือนักการเมืองทุจริตคอร์รัปชั่นก็ย่อมสามารถทำสิ่งชั่วร้ายอื่นๆได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเสียงหรือโกงการเลือกตั้งหวังให้ได้มาซึ่งอำนาจเพื่อเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ หรือการปลิ้นปล้อนโกหกหลอกลวงประชาชน หรือแม้แต่การใช้อำนาจเผด็จการกลั่นแกล้งและอาจรวมถึงการสังหารทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองเพื่อคงอำนาจรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จากนี้ไป สังคมและประชาชนทุกคนจะต้องตื่นตัวรู้เท่าทันเล่ห์ของเหล่าโจรการเมืองใส่สูทที่นับวันจะสร้างภาพปิดบังความชั่วร้ายอันเป็นโฉมหน้าที่แท้จริงได้อย่างแนบเนียนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้หากประชาชนไม่ร่วมกันเร่งกำจัดมะเร็งร้ายที่กัดกินสังคมเหล่านี้ ให้หมดไป ในอนาคตเผด็จการทุนนิยมรูปแบบใหม่ในคราบประชาธิปไตยก็จะยึดครองบ้านเมืองไว้ในมือได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจนไม่มีทางที่จะกำจัดได้อีกต่อไป
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3923 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย เยาวชนรักเมืองไทย
IP: Hide ip
, วันที่ 27 มิ.ย. 50
เวลา 09:20:53
|
