• พระสงฆ์เปรียญธรรม ๙ ประโยคองค์แรกของลำพูน - พระเมธีปริยัตยาภรณ์ แห่งวัดพันตาเกิน |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 29 ธ.ค. 64 เวลา 14:44:31 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พ.ต.อ.อนุ เนินหาด รอง ผบก.ภ.จว.ลำพูน เรียบเรียง (ม.ค.65)
ในทางสงฆ์นั้นพระสงฆ์ที่สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยคซึ่งเป็นระดับสูงสุดนั้นหากเปรียบเทียบกับทางโลกน่าจะเทียบเท่ากับระดับปริญญาเอก หรือหากเป็นสายแพทย์ก็ถือว่าจบแพทย์เฉพาะทาง
เปรียญธรรม ๙ ประโยค (ป.ธ.๙) เป็นระดับชั้นสูงสุดของการศึกษาแผนกบาลี ซึ่งเดิมภาษาบาลีคือภาษามคธ สมัยก่อนพระพุทธเจ้าตรัสสอนธรรมด้วยภาษามคธ ซึ่งปรากฏในพระไตรปิฎก การเรียนเปรียญธรรมเป็นการแต่งและแปลข้อความระหว่างภาษาไทยและภาษามคธโดยถือว่าเมื่อมีความรู้ในภาษาบาลีเป็นอย่างดี คือ อ่านออก เขียนได้ แปลได้รู้ความหมายก็จะทำให้เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
พบข่าวจากวารสารสันติสุข ฉบับเดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๔๑ ออกโดยวัดพระธาตุหริภุญชัย ลงข้อมูลว่า “ข่าวการแต่งตั้งรองเจ้าคณะภาค ๖ และภาค ๗
ตามมติมหาเถรสมาคมโดยกฎมหาเถรสมาคมฉบับใหม่กำหนดอายุของเจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาพให้ดำรงตำแหน่งคราวละ ๔ ปี ถ้าอายุครบ ๘๐ ปีบริบูรณ์จะได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นที่ปรึกษา สำหรับภาค ๖ และภาค ๗ มีการเปลี่ยนแปลงปรับตำแหน่งตามกฎมหาเถรสมาคมใหม่ดังนี้
ภาค ๖
- พระธรรมวโรดม กรรมการมหาเถรสมาคม วัดเบญจมบพิตรฯ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะภาค ๖
- พระเทพรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย วัดพระแก้ว ดำรงตำแหน่งเป็นรองเจ้าคณะภาค ๖
- พระเมธีปริยัตยาภรณ์ (บุญชุม อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙) วัดเบญจมบพิตรฯ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะภาค ๖”
น่าปลื้มใจอย่างยิ่งเพราะพระเมธีปริยัตยาภรณ์(บุญชุม อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙) ท่านเป็นพระที่สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยคเป็นองค์แรกของจังหวัดลำพูน
ประวัติของพระเมธีปริยัตยาภรณ์(บุญชุม อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙) เกิดในครอบครัวสกุล “พรหมพีระ” เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๖ โดยเกิดที่บ้านก่อเดื่อ ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยบ้านก่อเดื่อเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองลำพูนไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๕ กิโลเมตร ตั้งอยู่ถัดจากแยกท่าจักรไปทางอำเภอป่าซาง ริมถนนสายลำพูน-ป่าซาง
ด.ช.บุญชุม พรหมพีระ เป็นบุตรของพ่อต๋า พรหมพีระและแม่ผัด พรหมพีระ โดยพ่อต๋าเป็นคนบ้านก่อเดื่อ ส่วนแม่ผัดเป็นคนบ้านสันมะโก๋ ตำบลบ้านแป้น อำเภอเมืองลำพูน ครอบครัวมีอาชีพเกษตรกร ขณะอยู่ในวัยเด็ก แม่ผัดได้เสียชีวิตลง หลังจากนั้นพ่อต๋า โยกย้ายไปอยู่ที่เมืองเชียงใหม่มีอาชีพปั่นรถสามล้อรับจ้างและแต่งงานมีครอบครัวใหม่
ด้าน ด.ช.บุญชุม พรหมพีระ อยู่ในความดูแลของลุง ชื่อลุงใจ พรหมพีระ บ้านอยู่ด้านเหนือวัดพันตาเกินซึ่งเป็นเขตติดต่อกับบ้านก่อเดื่อ ลุงใจมีฐานะดีโดยลงทุนซื้อรถยนต์บรรทุกแบบคอกหมูวิ่งรับส่งคนโดยสารระหว่างเมืองลำพูนกับเมืองเชียงใหม่ โดยจ้างนายชูคนบ้านก่อเดื่อเป็นคนขับ ส่วนภรรยาลุงใจเปิดร้านขายปลาทูอยู่ที่บ้าน นอกจากนี้ยังรับซื้อหมวกสานที่ชาวบ้านพักตาเกินทำในครอบครัว รับซื้อแล้วนำส่งขายที่เมืองเชียงใหม่ โดยสมัยประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๐ ชาวบ้านมีรายได้จากทำหมวกสานด้วยใบตาลนำขายให้ลุงใจ ราคาใบละ ๕๐ สตางค์ คราวหนึ่งได้เงินประมาณ ๑๒ บาทนำเงินซื้อข้าวสารจากร้านของย่าตุ่นนำมาหุงกินในครอบครัว(นายเมฆ พรหมพีระ,สัมภาษณ์)
ด้าน ด.ช.บุญชุม พรหมพีระนั้น เมื่ออายุ ๑๕ ปีในปี พ.ศ.๒๕๐๑ ลุงใจ พรหมพีระได้สนับสนุนให้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดพันตาเกิน วัดใกล้บ้าน ได้ชื่อว่ามีสติปัญญาดีเรียนหนังสือเก่ง ญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้วัดพันตาเกินเล่าว่าสมัยเมื่อประมาณ ๕๐ ปีก่อน โลงศพหาได้ยาก เมื่อมีผู้เสียชีวิตต้องไปยืมโลงศพที่เป็นไม้เนื้อแข็งจากวัดพันตาเกิน หลังจากฌาปนกิจศพแล้วจะต้องทำความสะอาดโลงศพและนำมาคืนที่วัดพันตาเกินเพื่อให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตคนอื่นได้ขอยืมใช้ต่อไป
ชาวบ้านพักพบเห็นสามเณรบุญชุมเข้าไปนอนอ่านหนังสือในโลงศพโดยไม่หวาดกลัวเหมือนคนทั่วไป ด้านบุคลิกนั้นนายดี มาลี อายุ ๙๖ ปี ชาวบ้านพันตาเกินให้ข้อมูลว่า “เปิ้นนิสัยดี เรียบร้อยไม่เกเร ไม่สวก เรียนหนังสือเก่ง” สมัยที่บวชเณรที่วัดพันตาเกิน เจ้าอาวาสชื่อ พระสม เดิมเป็นคนบ้านสบปะ เป็นเจ้าอาวาสอยู่หลายปีต่อมาได้ลาสิกขาไปมีครอบครัว
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๗ สามเณรบุญชุมได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ที่วัดพันตาเกิน ด้านการเรียนนั้นไปเรียนและจำวัดอยู่ที่สำนักวัดพระพุทธบาทตากผ้าอยู่หลายปี หลังจากนั้นได้รับการสนับสนุนให้ไปเรียนต่อที่วัดเบญจมบพิตรฯ ที่กรุงเทพฯ จนสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยคในปี พ.ศ.๒๕๒๐ ขณะอายุ ๓๔ ปี โดยเป็นพระสงฆ์รูปแรกของจังหวัดลำพูนที่สอบเปรียญธรรมได้ ๙ ประโยคซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของการสอบเปรียญธรรม
พระเมธีปริยัตยาภรณ์(บุญชุม อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙) จำวัดอยู่ที่วัดเบญจมพบิตรฯ เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ, เป็นรองเจ้าคณะภาค ๖, เลขานุการประธานคณะพระธรรมจาริก มีความสามารถด้านการเผยแผ่ธรรมแก่เด็กเยาวชนชาวไทยภูเขา
พระเมธีปริยัตยาภรณ์(บุญชุม อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙) เคยนำศรัทธาญาติโยมมาร่วมทำผ้าป่าและทอดกฐินนำปัจจัยมาบูรณะวิหารและเสนาสนะของวัดพันตาเกิน วัดที่บ้านเกิดอยู่เสมอ นอกจากนี้ได้รับภาระดูแลให้ที่พักอาศัยคนจากจังหวัดลำพูนที่ไปธุระหรือเรียนที่กรุงเทพฯ
พระเมธีปริยัตยาภรณ์(บุญชุม อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙)มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๗ สิริอายุ ๖๐ ปี มีพิธีทำบุญรวม ๑๕ วัน ญาติพี่น้องและชาวบ้านก่อเดื่อและบ้านพักตาเกินได้ไปร่วมพิธีงานพระราชทานเพลิงศพที่วัดเบญจมบพิตรเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นพระครูสุวัติถิ์ธรรมกิจ เจ้าอาวาสวัดพันตาเกิน ได้รับอัฐิและสร้างกู่บรรจุอัฐิไว้ที่บริเวณวัดพันตาเกินเพื่อเป็นอนุสรณ์และให้เป็นที่สักการะของชาวบ้านสืบไป(ข้อมูลจากป้ายหน้ากู่บรรจุอัฐิพระเมธีปริยัตยาภรณ์ที่วัดพันตาเกินและสัมภาษณ์พระครูสุวัตถิ์ธรรมกิจ เจ้าอาวาสวัดพันตาเกิน)
หลังจากที่พระเมธีปริยัตยาภรณ์(บุญชุม อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙) สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยคในปี พ.ศ.๒๕๒๐ แล้ว หลังจากนั้น ๒๐ ปี ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๔๐ มีพระสงฆ์จากจังหวัดลำพูนที่มีสติปัญญาดีสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยคองค์ที่ ๒ คือพระศรีธรรมโสภณ(บุญโชติ ปุญญโชติ ป.ธ.๙) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดลำพูน.
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1777 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 29 ธ.ค. 64
เวลา 14:44:31
|