หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
|
หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา |
|
|
|
|
| หน้าแรก » เว็บบอร์ด | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ห้องแก๋งโฮ๊ะ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| เว็บบอร์ด »
ห้องแก๋งโฮ๊ะ
รายละเอียดของห้อง : พูดคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป, สัพเพเหระ, อยากถาม อยากตอบ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180 | |||
จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการจัดลำดับเป็นหนึ่งใน 9 จังหวัดทั่วประเทศที่มีผลการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ดีเด่น พร้อมเดินหน้าเร่งฉีดวัคซีนต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ของประชาชนได้กว้างขวางยิ่งขึ้น
บ่ายวันนี้ (31 มี.ค.65) ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุลผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์และมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ โดยในวันนี้จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ติดเชื้อยืนยัน (RT-PCR) เฉลี่ย 14 วัน จำนวน 412 ราย และผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) เฉลี่ย 14 วันจำนวน 4,010 ราย ขณะเดียวกันมีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายสูงถึง 8,260 ในส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว คือเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย และยังคงเป็นการรักษาด้วยระบบ HI และOP-SI เป็นหลัก ในส่วนข้อมูลการฉีดวัคซีนสำหรับประชากรในจังหวัดเชียงใหม่กว่า 1.7 ล้านคน ปัจจุบันมีผู้ได้รับวัคซีน เข็ม 2 แล้วจำนวน 1,562,924 โดส คิดเป็นร้อยละ 90.37 และมีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 3 จำนวน 613,380 โดสคิดเป็นร้อยละ 73.82 ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่มีสถิติการฉีดวีคซีนได้มากของประเทศ คือเป็นหนึ่งใน 9 จังหวัดทั่วประเทศที่มีผลการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่มผู้ป่วย 608 หรือ “Save 608 by booster dose” ดีเด่น โดยมีอัตราการฉีดวัคซีนมากถึงร้อยละ 65.56 (ข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565) และพร้อมเดินหน้าเร่งฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายให้มีผลการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นครอบคลุมประชากรมากกว่า 90 %
ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดเตรียมแนวทางการรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยการรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว สำหรับผู้ที่มีอายุ 12-17 ปี ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็ม 2 แล้ว ต้องเว้นระยะ 4-6 เดือน ถึงจะสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ได้ ส่วนผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็ม 2 แล้ว ต้องเว้นระยะ 3 เดือนขึ้นไป จึงจะสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ได้ และผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็ม 3 แล้ว ต้องเว้นระยะ 4 เดือนขึ้นไป ถึงจะสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็ม 4 ได้ ขณะเดียวกันผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ต้องเว้นระยะหลังจากติดเชื้อ 3 เดือน จึงจะสามารถฉีดวัคซีนตามหลักการเดียวกับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อได้
ด้านนายแพทย์วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคนไข้ที่ติดเชื้อโควิด-19 และเป็นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่เป็นผู้ป่วยหนัก อาการอยู่ในกลุ่มสีเหลืองและสีแดงมีจำนวนไม่มากนัก ขณะที่การระบาดในชุมชนและครอบครัวมีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นทำให้ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวและอยู่ในกลุ่มโรคเรื้อรังที่ต้องการการรักษาในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง อาจได้รับผลกระทบ อาทิ หญิงตั้งครรภ์ที่ต้องการคลอดลูก อาจจะมีความยากลำบากในการรักษามากขึ้น ซึ่งพบว่าอัตราการเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่สูงอายุ มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคเรื้อรัง จึงเน้นย้ำให้ประชาชนที่จะเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระมัดระวังการพบปะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว โดยขอให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามมาตรการของจังหวัดเชียงใหม่
ส่วนการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทางโรงพยาบาลจะต้องคัดกรองผู้ป่วยและแยกผู้ที่ติดเชื้อออกจากกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่ติดเชื้อ ซึ่งต้องมีการขยายพื้นที่การรักษา แยกส่วนจากผู้ป่วยปกติ โดยการดูแลจะเป็นการรักษาตามอาการร่วมกับการรักษาโรคประจำตัวเดิมควบคู่กันไป พร้อมทั้งมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำให้แต่ละอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกพื้นที่ เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทั้งเข็ม 3 และเข็ม 4 ให้กับประชาชนโดยเร็ว พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจในเรื่องการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับการปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อในครอบครัว
ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
