กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ตั้งแต่ช่วงปลายปี2564 เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันต่อเนื่องกับกรณีที่ทางญี่ปุ่นให้เปล่ารถไฟดีเซลราง 17 คันแก่ไทยหลายความเห็นแสดงออกถึงขั้นว่า รถไฟมือสองจากญี่ปุ่นเก่าเป็นเศษเหล็กแล้วจะวิ่งให้บริการได้หรือ? รางขนาดต่างกันจะนำมาวิ่งในไทยได้อย่างไร? จะคุ้มค่ากับค่าขนส่ง ค่าซ่อมปรับปรุงหรือไม่ ?
เวลาผ่านไปไม่ถึงปี ปรากฏภาพรถไฟมือสองจากญี่ปุ่นที่ผ่านการปรับปรุงโดยวิศวกรและช่างไทยจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้กลายเป็นรถไฟสภาพใหม่สวยงามขึ้น ทดลองวิ่งในทางรถไฟไทยได้อย่างราบรื่น กระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เคยมีก็ค่อยๆเงียบไป ขณะเดียวกันก็มีมุมมองที่สะท้อนถึงความคุ้มค่าออกมาทดแทนเสียงวิจารณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยลดภาระงบประมาณจัดซื้อรถไฟใหม่ของรัฐบาลได้กว่าหนึ่งพันล้านบาท รวมทั้งรถไฟมือสองจากญี่ปุ่นที่จะนำไปวิ่งให้บริการต่อจากนี้ยังจะช่วยส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวได้อีก
วิศวกร - ช่างไทย ปรับปรุงรถไฟมือสองจากญี่ปุ่น วิ่งในไทยได้ราบรื่น
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟท.รับมอบรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น KIHA (คีฮา) 183 จากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR HOKKAIDO) ประเทศญี่ปุ่นจำนวน17 คัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายยกเว้นค่าขนส่ง 42.5 ล้านบาท เพื่อนำมาดัดแปลงปรับปรุงให้เหมาะสมสำหรับให้บริการแก่ประชาชน และส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ หลังจากนั้นรถไฟ KIHA 183 ทั้ง17 คัน ได้ถูกนำส่งถึงไทยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ด้วยสภาพของขบวนรถที่ตัวถัง เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อนและตู้โดยสารอยู่ในสภาพดี สามารถใช้งานได้ เมื่อนำไปปรับปรุงจะสามารถใช้งานต่อไปได้อีกอย่างน้อย 50 ปี
หลังจากนั้น รฟท.ได้นำรถทั้ง 17 คันเข้าไปยังโรงงานที่มักกะสันเพื่อทยอยปรับปรุง ดัดแปลง ซ่อมแซม ตกแต่งใหม่ทั้งภายนอก ภายใน ส่วนควบคุม ช่วงล่าง เครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า เปลี่ยนอุปกรณ์หลักทุกส่วน พ่นทาสีใหม่ ซักทำความสะอาดเบาะที่นั่งโดยสาร ปรับปรุงระบบปรับอากาศ ฯลฯ จนมาถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2565 รถไฟKIHA 183 สามคันแรกที่ปรับปรุงดัดแปลงเสร็จสมบูรณ์ได้ทำการทดลองวิ่งจากชุมทางมักกะสันไปยัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้อย่างราบรื่น ขณะที่สภาพของรถที่ผ่านการปรับโฉมแล้วก็แลดูสวยงาม ภายในถูกปรับปรุงให้ใหม่ขึ้น เบาะนั่งผ่านการซักจนสะอาด ห้องน้ำ ระบบเครื่องปรับอากาศใช้งานได้ดี ฯ บ่งบอกถึงการปรับปรุงดัดแปลงรถไฟมือสองจากญี่ปุ่นมาใช้ในไทยได้สำเร็จ
ผศ.ดร.ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อ 18 ส.ค.2565 ในลักษณะที่ว่า เหมือนได้รถใหม่ เร็วกว่าซื้อใหม่ ทำออกมาค่าใช้จ่ายไม่เกิน 5 แสนบาทต่อคัน โดยฝีมือช่างและวิศวกรรถไฟไทย
ความสำเร็จของการปรับปรุงดัดแปลงรถไฟ KIHA 183 ถูกตอกย้ำอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2565 ที่ผ่านมา เมื่อมีการนำรถไฟที่ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์ 3 คัน มาวิ่งทดลองอีกครั้งในเส้นทางสถานีมักกะสัน – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพฯ ผลปรากฏว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้หลังจากนี้ทางรฟท. จะเร่งปรับปรุงรถไฟส่วนที่เหลือ เพื่อทยอยนำออกมาวิ่งบริการ โดยมีเป้าหมายเปิดให้บริการเต็มรูปแบบครบทั้ง17 คัน ในช่วงปลายปี 2566
รถไฟ KIHA 183 ช่วยลดภาระงบประมาณจัดซื้อ หนุนการท่องเที่ยว
มีประมาณการออกมาว่ารถไฟที่มีคุณสมบัติหรือลักษณะเดียวกับ KIHA 183 รถใหม่จะมีราคาตกอยู่คันละ 80 ล้านบาท หากรัฐบาลจัดซื้อ 17 คัน จะใช้งบประมาณถึง 1,360 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับรถไฟ KIHA 183 ที่ไทยได้มาจากญี่ปุ่นแบบให้เปล่า มีเพียงค่าใช้จ่ายในส่วนการขนส่ง 42.5 ล้านบาท รวมกับค่าปรับปรุงดัดแปลง คันละประมาณ5 แสนบาท รถไฟKIHA 183 ทั้ง 17 คันจะมีค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 51 ล้านบาท ทำให้มีส่วนต่างจากการซื้อรถใหม่ถึง1,309 ล้านบาท จึงถือได้ว่าช่วยประหยัดงบประมาณของประเทศในการจัดซื้อรถไฟได้อย่างมาก
ที่สำคัญงบประมาณเพียง 51 ล้านบาทดังกล่าว น่าจะเกินคุ้มเมื่อแลกกับการมีรถไฟที่สวยงาม ใช้การได้ดี มาใช้เพิ่มอีก 17 คัน เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 50 ปี และยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศได้ เนื่องจากทาง รฟท.มีแผนจะนำรถไฟ KIHA 183 ที่ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์มาวิ่งบริการในเส้นทางท่องเที่ยวระยะทางไปกลับจากกรุงเทพฯ ไม่เกิน300 กม.เป็นหลัก
รับรถไฟแบบให้เปล่า ช่วยเสริมบริการราคาถูกแก่ประชาชน
แม้การรับรถไฟมือสองจากญี่ปุ่นมาปรับปรุงดัดแปลงใช้ต่อจะเกินความคุ้มค่าดังที่กล่าวมาก็ตาม แต่ก็อาจยังมีเสียงสะท้อนบางเสียงในแง่ที่ว่า ไทยถึงขั้นต้องรับบริจาครถไฟเก่ามาใช้ด้วยหรือ ? ซึ่งในประเด็นนี้ต้องบอกว่า รถไฟของไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีทั้งส่วนของการจัดซื้อรถไฟใหม่มาใช้ต่อเนื่อง มีทั้งการรับรถไฟมือสองมาปรับปรุงใช้บางส่วน ขณะที่ระบบรางอื่นไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า ทั้งใต้ดิน ยกระดับ อุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำ ระดับพื้นดิน มีใช้ตั้งแต่กว่า20ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันที่ยังเดินหน้าพัฒนาก่อสร้างเพิ่มเติมอีกหลายเส้นทาง รวมถึงรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทางและรถไฟทางคู่ครอบคลุมทั้งประเทศที่มีทั้งส่วนสร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้า
สิ่งที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่า ไทยเรามีการพัฒนาระบบรางให้ทันสมัยต่อเนื่อง ไม่ใช่รับบริจาครถไฟมือสองมาปรับปรุงใช้เพียงอย่างเดียว ดังนั้นที่รับบริจาคจึงเป็นเพียงส่วนเสริมให้สามารถบริการประชาชนได้ในราคาถูกและครอบคลุมยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยประหยัดงบประมาณจัดซื้อรถไฟใหม่ได้บางส่วนเท่านั้น
KIHA 183 ไม่ใช่ครั้งแรก รถไฟฟรีมือสองจากญี่ปุ่น
เหตุที่บริษัท JR HOKKAIDO ของญี่ปุ่น ส่งต่อรถไฟ KIHA 183 ให้ไทยแบบให้เปล่า เพราะรถไฟทั้ง 17 คันถูกปลดระวาง มีรถไฟรุ่นใหม่เข้ามาทดแทน แต่การให้เปล่ารถไฟจากญี่ปุ่นไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี 2541 หรือ 24 ปีที่ผ่านมา บริษัท JR-WEST ได้มอบรถไฟโดยสารปรับอากาศ 54 คัน ให้แก่ รฟท. มาแล้ว ซึ่ง รฟท. ได้นำมาปรับปรุงและดัดแปลงเป็นรถโดยสาร และรถจัดเฉพาะ เช่น รถ SRT Prestige รถไฟระดับเฟิร์สคลาส รถประชุมปรับอากาศ วิ่งให้บริการมาจนถึงทุกวันนี้
ทว่าการให้เปล่ารถไฟมือสองจากญี่ปุ่น เมื่อปี 2541 กับการให้เปล่าเมื่อปลายปี 2564 กลับมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยเฉพาะเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เมื่อปี2541 แทบไม่มีเลย แต่กรณีปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 มีการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นมากมายจากบางคนบางกลุ่ม นั่นอาจเป็นเพราะปัจจุบันมีช่องทางการแสดงออกได้หลากหลายทางสังคมออนไลน์ ต่างจากเมื่อ 24 ปีก่อนที่ยังไม่มีสังคมออนไลน์
คนข่าวอย่างไรก็ตามเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ณ พ.ศ.นี้ ดูเหมือนสร่างซาไปมาก เมื่อรถไฟมือสองจากญี่ปุ่น KIHA 183 ถูกปรับปรุงดัดแปลงสำเร็จในโฉมที่สวยงาม วิ่งในไทยได้อย่างราบรื่นดังที่กล่าวมาเบื้องต้น
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|