หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ห้องแก๋งโฮ๊ะ
เว็บบอร์ด » ห้องแก๋งโฮ๊ะ
รายละเอียดของห้อง : พูดคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป, สัพเพเหระ, อยากถาม อยากตอบ
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
ไทยขึ้นแท่นอันดับ 2 ของโลก “ศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ” กระตุ้นการลงทุน 3.7 หมื่นล้าน

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
ไทยขึ้นแท่นอันดับ 2 ของโลก “ศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ” กระตุ้นการลงทุน 3.7 หมื่นล้าน
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 20 ส.ค. 66 เวลา 13:14:42 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ประกาศขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG Model สนับสนุนเศรษฐกิจฐานชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ความชัดเจนทางนโยบายดังกล่าว ได้เริ่มแสดงผลต่อเศรษฐกิจเป็นรูปธรรม จากการให้ความสนใจลงทุนในอุตสาหกรรม BCG มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้รายงานถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) หนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายตาม BCG Model ของรัฐบาลว่า ด้วยศักยภาพด้านแหล่งวัตถุดิบเช่นอ้อย มันสำปะหลัง ที่แข็งแกร่ง ความพร้อมด้านบุคลากร และมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐที่ชัดเจน ได้ทำให้นักลงทุนไทยและต่างชาติสนใจลงทุนอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพในไทยเพิ่มขึ้น จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพอันดับ 2 ของโลกแล้วในปัจจุบัน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลที่ชัดเจนดึงดูให้บริษัทผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพรายใหญ่ระดับโลกลงทุนในไทยหลายราย ซึ่งข้อมูลของบีโอไอระบุว่า 5 ปีที่ผ่านมา ได้มีให้การส่งเสริมลงทุนในโครงการลงทุนพลาสติกชีวภาพ 24 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 37,000 ล้านบาท

“แม้ยอดการลงทุนนี้จะไม่สูงเท่าอุตสาหกรรมเดิมที่ไทยเป็นฐานผลิตใหญ่มายาวนานอย่างยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ แต่นายกรัฐมนตรีก็พอใจกับการเติบโตดังกล่าว และถือเป็นความสำเร็จทางนโยบายอีกขั้นหนึ่ง เพราะนโยบายรัฐบาลได้กระตุ้นให้ทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชนตื่นตัวกับเศรษฐกิจ BCG Model อย่างมากซึ่งจะเป็นฐานสำคัญดึงดูดให้เห็นเงินการลงทุนที่มากขึ้นอีกในอนาคต” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนที่นายกรัฐมนตรีได้เคยประกาศถึงเป้าหมายว่าประเทศไทยจะไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) ก็นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้ทุกภาคส่วนของไทย ตื่นตัวกำหนดเป้าหมายการทำงานสอดรับไปกับเป้าหมายดังกล่าว ภาคธุรกิจเอกชนให้ความสำคัญกับประเด็นการผลิตเพื่อความยั่งยืน เน้นสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ ย่อยสลายได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดำเนินหลากหลายกิจกรรม เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจก  อนุรักษ์พื้นที่ป่าเพิ่มการผลิตคาร์บอนเครดิต เช่น โครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามความร่วมมือของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เอกชนบริษัทชั้นนำ14 แห่ง และชุมชน เพื่อร่วมกันดูแล บริหารจัดการป่าชุมชนให้ได้คาร์บอนเครดิต และนำรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตนั้นย้อนคืนกลับไปให้ชุมชน ซึ่งโครงการระยะพัฒนาได้เริ่มในปี 2563 และกำลังดำเนินระยะขยายผลในปี 2566 มีป่าชุมชนที่ได้รับการดูแลบริหารจัดการแล้ว 129 แห่งใน 9 จังหวัดครอบคลุมพื้นที่ 194,850 ไร่ ผลิตคาร์บอนเครดิตได้ 500,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และโครงการฯ มีเป้าหมายในการขยายพื้นที่ป่าชุมชนที่เข้าร่วม เพื่อให้ได้เป้าหมายผลิตคาร์บอนเครดิต 1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าภายในปี 2570

“นโยบายเศรษฐกิจ BCG Model เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน การลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ ได้กระตุ้นให้ทุกภาคสวนตระหนักถึงการทำธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นความตั้งใจที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต้องการให้เกิดขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าไปพร้อมกับกระแสโลกที่ให้ความสำคัญกับประเด็นโลกร้อน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ”น.ส.ไตรศุลี กล่าว

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 150

แสดงความคิดเห็น โดย คนข่าว IP: Hide ip , วันที่ 20 ส.ค. 66 เวลา 13:14:42
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี