ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สวัสดีค่ะทุกท่าน สามีของดิฉันเป็นพนักงานในบริษัทหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นคนที่อัธยาศัยดีมาก หน้าตาถือว่าดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ชอบช่วยเหลือคนอื่นเสมอ ๆ เป็นมิตรกับคนทุกคน มีน้ำใจสำหรับบุคคลอื่นมาก ๆ ถึงมากที่สุด ยกเว้นลูกและเมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะตอนนี้มีความเห็นอกเห็นใจคนที่เลิกกับสามี มีลูกสาวชื่อน้องแม่น้ำลำธาร ( คิดเอาเอง ) แล้วก็หลอกลวงคนทั้งโลกโดยใช้คำนำหน้าว่า นางสาว
ทุกวันนี้ดิฉันและลูก ๆ เดือดร้อนมาก อยากให้เขาลาออกจากงานมาเริ่มต้นครอบครัวกันใหม่ แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงว่าที่บริษัทยังหาคนมาทำงานตำแหน่งนี้ไม่ได้บ้าง หัวหน้าและเพื่อน ๆ ขอร้องให้อยู่ช่วยงานกันไปก่อน เห็นมั้ยคะว่าสามีดิฉันมีน้ำใจมากแค่ไหน สุดยอดไปเลย เพื่อน ๆ ถึงได้รักได้ชอบยังงัยล่ะ แต่ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่าลูกเมียที่บ้านต้องทุกข์ทรมานใจแค่ไหน ไปทำงานแต่เช้า กลับบ้านก็ดึก เมามาอีกต่างหาก แถมบางวันก็ไม่กลับเลย ไม่รู้ไปห้องพักใครหรือม่านรูดที่ไหน เงินเดือนเคยหยิบยื่นให้ลูกเมียมั้ย มีค่ะ เดือนนึงให้ค่ารถลูก 2 คน 1,000 บาท ให้แม่บังเกิดเกล้า 1,000 บาท และให้เมียจ่ายค่าไฟฟ้า 1,000 บาท นอกนั้นหาเงินจ่ายเอาเอง ไม่ว่าจะเป็นค่ากับข้าว ค่าน้ำ ค่าขนมลูก ๆ และอื่น ๆ จิปาถะ
เขาชอบพูดบ่อย ๆ ว่าไม่มีใครโง่พอที่จะทิ้งลูกเมียตัวเองไปอยู่กับคนอื่นหรอก ยังงัย ๆ เขาก็เลือกลูกเมียของเขา ก็เลยถามกลับไปว่าแล้วคำว่าครอบครัวกับคำว่าลูกเมียของคุณน่ะมีใครบ้าง มีดิฉันกับเขาและลูกของเรา 2 คนแค่นั้นใช่มั้ย หรือมีใครอีกคนเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือว่ามีเขากับผู้หญิงหน้าด้านคนหนึ่งที่มีชื่อเป็นแมลงปีกบาง ๆ ใส ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าผู้ชายคนนี้มีลูกเมียแล้วแต่ก็ยังอยากได้ไปเป็นสามีของตนเอง บ่อยครั้งที่ดิฉันขอเลิกกับเขา ขอให้ดิฉันได้มีชีวิตอยู่กับลูก ๆ แบบปกติสุข โดยที่ไม่คิดจะกีดกันเขากับลูก ๆ เลย แต่เขาก็ไม่ยอมหย่า จนถึงวันนี้คิดและได้ปรึกษาทางกฎหมายแล้วว่าจะทำการฟ้องหย่า
ทุกท่านเชื่อมั้ยคะว่าดิฉันเคยขอร้องเขาทั้ง 2 คนให้เห็นแก่ลูก ๆ และครอบครัวของทั้งสองฝ่ายหลายครั้งอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็ได้ตกปากรับคำว่าจะเลิกคบ เลิกติดต่อกันแล้ว จนบัดนี้เวลาผ่านมาเป็นปี ๆ ก็ยังมีเรื่องนี้เข้าหูมาอยู่เสมอ ๆ ไม่ใช่หูเบานะคะ มีหลักฐานด้วย และเขาก็ยอมรับแล้วบอกว่า “ขอโทษ และขอเริ่มต้นกันใหม่” ดิฉันคิดเสมอว่าคนเราควรให้โอกาสคนที่สำนึกผิด แต่แบบนี้มันไม่ใช่ มันเป็นสันดานและความเห็นแก่ตัวของไอ้หน้าตัวเมียตัวหนึ่งเท่านั้นเอง อีกอย่าง....การที่เราให้โอกาสใครบ่อย ๆ บางครั้งมันอาจดูไร้ค่าไร้ความหมาย เราควรให้โอกาสกับคนที่เห็นคุณค่าของมันมากกว่า ทุกท่านว่าจริงมั้ยคะ
สุดท้ายนี้ ดิฉันไม่ต้องการอะไรนอกจากขอร้องทุกท่านที่รู้จักบุคคล 2 คนนี้ ว่ากรุณาติดต่อกลับดิฉัน เพื่อนัดเจรจาแบบคนที่มีวุฒิภาวะทางการศึกษา ทางสมอง และทางจิตสำนึกสูง เพราะวันนี้ดิฉันมีทางเลือกที่ดี มีอนาคตที่ดีรออยู่ ไม่อยากให้มีบาดแผลอะไรคั่งค้างอยู่ในใจอีกต่อไป หวังว่าคงเห็นใจนะคะ เนื้อร้ายหรือมะเร็งที่เป็นอยู่รักษาไม่หายวักที เราก็ควรตัดทิ้งไปจะดีกว่า ทุกท่านว่าจริงมั้ยคะ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|